Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: KAKASHII ที่ ธันวาคม 30, 2014, 18:48:59
-
ตามหัวข้อเลยครับผมว่าตอนนี้ เครื่อง N/A มันโบราณมากไปแล้วนะครับ
ต้องเหยียบไปที่รอบสูงๆเพื่อที่จะเค้นแรงม้ากัน หลังๆขับ D-Segment เริ่มไม่สนุกแล้วครับ เวลาเร่งแซง
อย่างน้อยถ้าไม่ Turbo ฉีดตรงในรุ่น 2.5 ก็ยังดี ดู Mazda CX 5 สิครับ อัตราเร่ง 0-100 กิน D-segment เรียบ
-
ใช่ครับเหยียบไม่มันส์เลยครับต้องลากรอบไปสูง ๆ ถึงจะมีแรง แซงทีมีเสียว
-
D-Segment ต้องไฮบริตคับ แรงรู้เรื่อง ;D ;D ;D
-
ทำก็ทำได้ แต่เค้าไม่ทำ เฮ้ออออ
-
Benz BMW Audi Volkswagen
มีตั้งหลายรุ่นที่ขายในไทย จัดไปสิครับ แรงรู้เรื่อง
-
ตราบใดก็ตามที่ Camry 2.0 Accord 2.0 ยังขายได้
ก็จะไม่มีค่ายไหนเอารถ Turbo เข้ามาเพิ่ม Cost ตัวเองแน่ๆครับ
ว่ากันตามตรงเลยนะ ถ้าพูดถึง Top of the line ใน D-Segment รุ่นสูงสุด
Camry มีเครื่อง 2.5+ไฮบริด
Accord มีเครื่อง 2.0+ไฮบริด
เทียน่า มีเครื่อง 2.5 หกสูบ
อัตราเร่งรถ 3 คันนี้ ว่ากันที่ 0-180 มันก็สูสีกับรถยุโรปเครื่อง 1.8-2.0 พ่วงหอยนะ
1. ถ้าผมเอา D-Segment มาซักรุ่น ยัดเครื่อง 2.0+หอย
แล้วดันทำอัตราเร่งสู้ Camry Hybrid ไม่ได้หรือทำได้แค่สูสี ผมว่าลงทุนไปก็เสียเปล่า
2. ถ้าเอาเครื่องพิกัด 2.5 ขึ้นไป มาเซตโบให้แรงกว่า ขับมันส์กว่า ชนะในเกมส์จับเวลา
กลายเป็นว่าอัตราสิ้นเปลืองก็สู้รถไฮบริดไม่ได้ เพราะความจุเท่ากัน ไฮบริดมันได้เปรียบกว่าแน่ๆ
3. ถ้าทุกอย่างดีหมด จะมีซักกี่คนที่ต้องการรถแรง ขับมันส์ แค่ชาวเราหรือเปล่า??
ทุกวันนี้ แคมรี่ไฮบริดขับช้าแช่ขวา แอคคอร์ด2.4 แช่ขวา เทียน่า 2.5 ขับเหมือนเต่า
พละกำลังมากมาย แต่ผู้ซื้อเค้าไม่ได้ต้องการ
กลายเป็นว่า จะแรงก็แรงกว่าไม่มาก ประหยัดก็สู้ไม่ได้ ค่าซ่อมบำรุงอีก แบรนด์อีก
เอาแค่ C-Segment+หัวฉีดตรง ก่อนดีกว่าครับ Step by Step กันไป
ไม่นับพวก 525i 250cgi นะ ถ้าเอาเครื่องพวกนี้มาลงได้ อัตราเร่ง ความประหยัด ชนะแน่ๆ
แต่ราคาขายจะดีดไปขนาดไหน?? จะทำตลาดจริงๆเหรอ??
-
Benz BMW Audi Volkswagen
มีตั้งหลายรุ่นที่ขายในไทย จัดไปสิครับ แรงรู้เรื่อง
มีกำลังซื้อแค่นี้ครับ
-
จขกท ลองไปดูข้อมูลของกระทู้ที่ร่วมอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองโดยเน้นไปที่
Camry hybrid Accord Hybrid BenzE300 BMW520d 525d
Camry และ Accord hybrid เร็วกว่า E300 ทั้ง 0-100 และ 80-120 นะครับ อัตราสิ้นเปลือง camry hybrid กับ E300 พอๆ กันส่วน Accord แซงไปอีกช่วงตัวที่ 20 km/l ส่วน BMW ถ้าไม่ใช่ตัวท๊อปก็สูสี ดังนั้นผมขอมองว่าการพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าก็เหมือนพ่วงหอยนั้นแหละแถมได้เรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าด้วย
-
ญี่ปุ่นทำไฮบริดมาให้แรงและประหยัด
เยอรมันพ่วงโบให้แรงและประหยัด (ใส่ไฮบริดให้แรงขึ้นอีก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประหยัด)
2ประเทศนี้ เก่งเรื่องความคิดสร้างสรรค์
ประเทศไทยอยากได้รถไฟความเร็วสูงก็ไปซื้อเค้ามา
ญี่ปุ่นอยากได้รถไฟความเร็วสูง เลยส่งคนไปเยอรมันเพื่อจะเรียนและศึกษา แล้วกลับมาประดิษฐ์เอง
-
เกือบล่ะครับ MG6 ไงครับ.....C เกือบ D segment ล่ะครับ ฮ๋าๆๆๆ ;D ;D
-
น่าจะไปลอง subaru legacy gt ได้ ม้า265 ตัว กับแรงบิด 350 nm ผมว่า ผมว่าไฮบริดที่มีในตลาดก็เถอะ แต่ว่าแพงนะ
-
ผมกลับอยากได้เครื่องเบนซินธรรมดา เทคโนไม่ล้ำ ขอทนทาน ติดแก๊สง่าย ไม่จุกจิก
แบบแคมรี่ 2.0-2.5 นี่ล่ะครับ
-
เท่าที่ดูโฆษณา ของรถ D ญี่ปุ่น เขาจะมาแนวประหยัดน้ำมันซะหมด หรือไม่ก้อพวกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถ้าพ่วงหอยมามันก้อไม่ตรงคอนเซ็ปเขามั๊ง
-
ตามหัวข้อเลยครับผมว่าตอนนี้ เครื่อง N/A มันโบราณมากไปแล้วนะครับ
ต้องเหยียบไปที่รอบสูงๆเพื่อที่จะเค้นแรงม้ากัน หลังๆขับ D-Segment เริ่มไม่สนุกแล้วครับ เวลาเร่งแซง
อย่างน้อยถ้าไม่ Turbo ฉีดตรงในรุ่น 2.5 ก็ยังดี ดู Mazda CX 5 สิครับ อัตราเร่ง 0-100 กิน D-segment เรียบ
จริงๆแล้วในตลาดก็มีนิครับ BENZ w211 ก็มีโบมาให้ นิครับ แล้ว volvo 2.3 โบ ก็มีนิครับ แต่ถ้ารถญี่ปุ่นไม่แน่ใจ แต่ถ้าอยากแรง แนะนำ หกสูบ ครับรับรองแรงถึงใจน้ำมันก็ต้องถึงเช่นกัน เครื่องN/A ไม่โบราญนะครับ มีการพัฒนาต่อเนื่อง นะครับ เครื่องโบก็เช่นกัน ตอนนี้ เครื่องโบ ไปเป็นสามสะกอแล้วมั่ง จากสะกอเดี่ยวกันเป้นสองสะกอ แนะนำ ลองศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ดูครับ เว็บต่างชาติมีเยอะแยะ
แต่จะบอกว่า พวกรถ ญี่ปุ่น ไม่ค่อยเอาเครื่อง ดีๆบ้านเขา มาให้คนไทยใช้ รถบอดี้เหมือนกัน แต่คนละเครื่องยนต์ ชอบอ้างว่า แรงม้าเยอะเสียภาษีแพง CCเกินบ้างละ
บอกว่านั้นเครื่องเมืองหนาวบ้านเราเมืองร้อนเครื่องไม่เหมือนกัน (ผมว่ามีแต่คนโง่+ควายเท่านั้นละครับที่เชื่อ) ถ้าคุณเคยไปอยู่ญี่ปุ่นแล้วใช้รถบ้านเข้าแทบไม่อยาก จะกลับมาใช้รถ บ้านเราเลยละ
ถ้าพูดถึงตอนนี้ ว่า รถที่มี ศักดิ์ศรี พอจะเทียบกับ ได้ก็คือรถ ไฮบริด แต่ก็อย่างว่าละ ยังไงOptionก็ไม่เท่า เขาอยู่ ดี เช่น camry บ้านเรา แอร์แบค 6ใบ แต่ ญี่ปุ่น 10ใบ
เรื่องรถพูดยากครับ เหมือนกินน้ำใต้ศอกเขา มานานแล้วนานโดยคนไทยไม่รู้เรื่อง ส่วน ไอ้พวกรู้เรื่องก็ทำอะไรไม่ได้
-
ถ้างบคือปัญหา ผมว่าคงต้องซื้อมือสองมาจัดโบเองน่าจะดีกว่ารอทางญี่ปุ่นทำนะครับ
เพราะมันยากที่จะเข้าไทย ทั้งกำแพงภาษี ม้าเกิน 230 ก็คนละเรทแล้ว
ยิ่งฐานลูกค้าอีก ดูยอดรวมทุกยี่ห้อสิครับ ถ้าจัดโบมาคงไม่คุ้ม ดูได้จากยอดวีออสเทอร์โบ พันซ่าเทอร์โบ
-
เกือบล่ะครับ MG6 ไงครับ.....C เกือบ D segment ล่ะครับ ฮ๋าๆๆๆ ;D ;D
กำลังจิบชาไล่อ่านทีละเม้น มาถึงเม้นนี้ถึงกับสำลักน่้ำเลยทีเดียว :D :D :D โบระดับตำนานเลยนะครับนั่น
-
ตราบใดก็ตามที่ Camry 2.0 Accord 2.0 ยังขายได้
ก็จะไม่มีค่ายไหนเอารถ Turbo เข้ามาเพิ่ม Cost ตัวเองแน่ๆครับ
ว่ากันตามตรงเลยนะ ถ้าพูดถึง Top of the line ใน D-Segment รุ่นสูงสุด
Camry มีเครื่อง 2.5+ไฮบริด
Accord มีเครื่อง 2.0+ไฮบริด
เทียน่า มีเครื่อง 2.5 หกสูบ
อัตราเร่งรถ 3 คันนี้ ว่ากันที่ 0-180 มันก็สูสีกับรถยุโรปเครื่อง 1.8-2.0 พ่วงหอยนะ
1. ถ้าผมเอา D-Segment มาซักรุ่น ยัดเครื่อง 2.0+หอย
แล้วดันทำอัตราเร่งสู้ Camry Hybrid ไม่ได้หรือทำได้แค่สูสี ผมว่าลงทุนไปก็เสียเปล่า
2. ถ้าเอาเครื่องพิกัด 2.5 ขึ้นไป มาเซตโบให้แรงกว่า ขับมันส์กว่า ชนะในเกมส์จับเวลา
กลายเป็นว่าอัตราสิ้นเปลืองก็สู้รถไฮบริดไม่ได้ เพราะความจุเท่ากัน ไฮบริดมันได้เปรียบกว่าแน่ๆ
3. ถ้าทุกอย่างดีหมด จะมีซักกี่คนที่ต้องการรถแรง ขับมันส์ แค่ชาวเราหรือเปล่า??
ทุกวันนี้ แคมรี่ไฮบริดขับช้าแช่ขวา แอคคอร์ด2.4 แช่ขวา เทียน่า 2.5 ขับเหมือนเต่า
พละกำลังมากมาย แต่ผู้ซื้อเค้าไม่ได้ต้องการ
กลายเป็นว่า จะแรงก็แรงกว่าไม่มาก ประหยัดก็สู้ไม่ได้ ค่าซ่อมบำรุงอีก แบรนด์อีก
เอาแค่ C-Segment+หัวฉีดตรง ก่อนดีกว่าครับ Step by Step กันไป
ไม่นับพวก 525i 250cgi นะ ถ้าเอาเครื่องพวกนี้มาลงได้ อัตราเร่ง ความประหยัด ชนะแน่ๆ
แต่ราคาขายจะดีดไปขนาดไหน?? จะทำตลาดจริงๆเหรอ??
ผมก็คิดงี้เด๊ะเลยครับ เหตุผลการซื้อรถของคนไทยส่วนใหญ่คือเน้นถูกที่สุดไม่ได้ต้องการเครื่องยนต์ที่ดีแต่ขอให้จ่ายถูกที่สุด การเอาเทคโนโลยีเทอร์โบฉีดตรงมารังแต่จะทำให้ต้องเพิ่มภาระการฝึกอบรมช่างและการจัดเก็บอะไหล่มากว่าเดิม ในเมื่อคนไทยไม่ต้องการเค้าก็เน้นกำไรมากกว่าคุณภาพเป็นธรรมดา :-\ น่าเสียดายมากทั้งที่ค่ายอย่างโตโยต้ามีเทคโนโลยีดีๆในมือมากมายถ้าจะเอาของที่เน้นคุณภาพก็มีพร้อมถ้าอยากจะทำซะอย่าง แต่ก็ติดอยู่อย่างเดียวคือคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการ กลุ่มที่อยากได้ของดีสมกับยุคสมัยอบ่างเราๆเลยต้องหันไปพึ่งค่ายรองๆที่กล้าเอามาขายเพื่อแย่งส่วนแบ่งยอดขายแทน :'(
-
ไม่จำเป็นครับ คงไม่ได้เห็นง่ายๆ ถ้า DI พอเป็นไปได้เพราะ Accord camry us ก้ di แล้ว ในความเป็นจริงแล้วไม่มีความจำเป็นใดๆให้แรงกว่านี้เลยครับ แรงไปกว่านี้ก้จะพอๆกับ 525d 528i ราคาก้สูงขึ้นไปด้วยคงไม่ทำอะครับ
-
คงอีกนานแสนนานกว่าจะมีในบ้านเรา
หรือถ้ามาจริงๆ เหลือเครื่องไม่เกิน 1600 + Turbo ก็ทำตลาดยากอีก คนไทยจะบอก D-Segment อะไร เครื่องแค่ 1600 อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดคนก่อนนะครับ
ทั้งๆที่ Benz เอาเครื่อง 1800 มาขายนานแล้ว ทั้งตัว C และ E
-
nissan teana 1.6T 190 HP ผมว่าน่าสนนะครับ ^^
เพราะจริงๆมีเครื่องอยู่แล้วด้วยครับ
-
ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องเป็นเครื่องเล็ก+โบ คนไทยจะซื้อมั้ย ตอบเลย ไม่!!!
เมื่อ2.0 ยังขายดี แล้วถ้าตัวท๊อปได้เครื่องเล็ก+โบ รับรองไม่มีคนซื้อตัวเทอโบแน่
ยากที่จะเปลี่ยนความคิดคนที่ว่าเครื่องเล็กไม่ดี ถ้ามีมารับรองได้เจอคำนี้แน่ๆ "รถราคาเป็นล้านเครื่องเล็กแค่เนี้ย!!"
ไปถามแอคคอร์ด hv เฟียสต้าอีโค่บูส ได้ ;D ;D
-
Skoda Superb :'( :'(
-
ถ้ามันไม่ได้ช่วยให้ประหยัด แรงอีกแค่นิดเดียวผมว่าเดิมๆ แบบนี้ดีแล้วครับ
-
ยอดขายหลัก D-segment อยู่ที่เครือง 2.0 ลิตรครับ (เกือบๆ 70%)
-
ตราบใดก็ตามที่ Camry 2.0 Accord 2.0 ยังขายได้
ก็จะไม่มีค่ายไหนเอารถ Turbo เข้ามาเพิ่ม Cost ตัวเองแน่ๆครับ
ว่ากันตามตรงเลยนะ ถ้าพูดถึง Top of the line ใน D-Segment รุ่นสูงสุด
Camry มีเครื่อง 2.5+ไฮบริด
Accord มีเครื่อง 2.0+ไฮบริด
เทียน่า มีเครื่อง 2.5 หกสูบ
อัตราเร่งรถ 3 คันนี้ ว่ากันที่ 0-180 มันก็สูสีกับรถยุโรปเครื่อง 1.8-2.0 พ่วงหอยนะ
1. ถ้าผมเอา D-Segment มาซักรุ่น ยัดเครื่อง 2.0+หอย
แล้วดันทำอัตราเร่งสู้ Camry Hybrid ไม่ได้หรือทำได้แค่สูสี ผมว่าลงทุนไปก็เสียเปล่า
2. ถ้าเอาเครื่องพิกัด 2.5 ขึ้นไป มาเซตโบให้แรงกว่า ขับมันส์กว่า ชนะในเกมส์จับเวลา
กลายเป็นว่าอัตราสิ้นเปลืองก็สู้รถไฮบริดไม่ได้ เพราะความจุเท่ากัน ไฮบริดมันได้เปรียบกว่าแน่ๆ
3. ถ้าทุกอย่างดีหมด จะมีซักกี่คนที่ต้องการรถแรง ขับมันส์ แค่ชาวเราหรือเปล่า??
ทุกวันนี้ แคมรี่ไฮบริดขับช้าแช่ขวา แอคคอร์ด2.4 แช่ขวา เทียน่า 2.5 ขับเหมือนเต่า
พละกำลังมากมาย แต่ผู้ซื้อเค้าไม่ได้ต้องการ
กลายเป็นว่า จะแรงก็แรงกว่าไม่มาก ประหยัดก็สู้ไม่ได้ ค่าซ่อมบำรุงอีก แบรนด์อีก
เอาแค่ C-Segment+หัวฉีดตรง ก่อนดีกว่าครับ Step by Step กันไป
ไม่นับพวก 525i 250cgi นะ ถ้าเอาเครื่องพวกนี้มาลงได้ อัตราเร่ง ความประหยัด ชนะแน่ๆ
แต่ราคาขายจะดีดไปขนาดไหน?? จะทำตลาดจริงๆเหรอ??
ผมก็คิดงี้เด๊ะเลยครับ เหตุผลการซื้อรถของคนไทยส่วนใหญ่คือเน้นถูกที่สุดไม่ได้ต้องการเครื่องยนต์ที่ดีแต่ขอให้จ่ายถูกที่สุด การเอาเทคโนโลยีเทอร์โบฉีดตรงมารังแต่จะทำให้ต้องเพิ่มภาระการฝึกอบรมช่างและการจัดเก็บอะไหล่มากว่าเดิม ในเมื่อคนไทยไม่ต้องการเค้าก็เน้นกำไรมากกว่าคุณภาพเป็นธรรมดา :-\ น่าเสียดายมากทั้งที่ค่ายอย่างโตโยต้ามีเทคโนโลยีดีๆในมือมากมายถ้าจะเอาของที่เน้นคุณภาพก็มีพร้อมถ้าอยากจะทำซะอย่าง แต่ก็ติดอยู่อย่างเดียวคือคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการ กลุ่มที่อยากได้ของดีสมกับยุคสมัยอบ่างเราๆเลยต้องหันไปพึ่งค่ายรองๆที่กล้าเอามาขายเพื่อแย่งส่วนแบ่งยอดขายแทน :'(
+1 อ่านแล้วโดนครับ
-
เช่น camry บ้านเรา แอร์แบค 6ใบ แต่ ญี่ปุ่น 10ใบ
Camry บ้านเราตัวไฮบริดให้แค่ 4 ใบ
ตัวธรรมดาให้แค่ 2 ใบครับ
ที่ให้ 6 ใบคือ Jazz, City, Civic ตัวท๊อป, Accord 2.4 ขึ้นไป, CRV
-
ผมว่า ถ้าผูกโบ ราคาทะลุ2ล้านแน่ๆ แล้วคนไทยก็ไม่ซื้อ บอก ราคานี้ซื้อยุโรปดีกว่า
แล้วเขาจะผูกโบมาทำไม
-
รถมี Turbo ราคาถูก อย่าง Preve ก็ไม่มีใครกล้าใช้อีก ฮาๆ ถ้า 0 ดีๆแจ่มกว่านี้แน่ๆครับ