ครึ่งปียอดจดทะเบียน 1.8 ล้านคัน เท่ากับของเรา 3-4 ปี(ได้มั่ง) ประชากรก็น่าจะน้อยกว่าเรา
หมายความว่าเขาเปลี่ยนรถกันได้บ่อยๆ ดังนั้นคงไม่ซีเรียสเรื่องความทนทาน ความจุกจิกงอแงในรถที่ซื้อมามากนัก ถ้ารถมีปัญหาจุกจิกมากหรือพังเร็ว ไม่ถูกใจใช้ไม่ดีก็เปลี่ยนใหม่ บริษัทรถก็ลดต้นทุนใช้วัสดุที่อาจจะไม่ต้องทนทานมากแบบสมัยก่อน รถยี่ห้อหรือรุ่นที่มีปัญหามากๆก็ยังพอขายได้ และเผลอขายดีด้วย
แต่ ผลกรรมก็ตกมาอยู่กับผู้ใช้รถในบ้านเรา เพราะราคารถใหม่แพงมาก รถแต่ละคันต้องใช้กัน 10 ปีถึงจะคุ้ม แต่ตัวรถเอย วัสดุภายในห้องโดยสารเอย มันไม่ทนเหมือนรถรุ่นเก่า เสื่อมสภาพง่าย ก็ต้องทนใช้กันไป
เจอกับตัวเอง ซื้อรถเยอรมันมาคันละ 4 ล้านกว่า ผ่านมาเพิ่งครบ 4 ปี ภายในลอกหลุดร่อนหมดแล้ว มาคิดได้วันนี้ว่ามันน่าจะเป็นด้วยเหตุผลตามข้างบนนั้นนั่นเอง