Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tnp_super ที่ กันยายน 18, 2016, 14:01:26

หัวข้อ: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ กันยายน 18, 2016, 14:01:26
กรณีคือเวลาซื้อรถเขาจะคิดดอกแบบคงที่คือเราจะเสียดอกเท่ากันทุกปี แต่เวลาเราจะปิดยอดเหมือนกับว่าจะคิดส่วนลดดอกเบี้ยโดยอิงแบบลดต้นลดดอกทำให้เราได้ส่วนลดน้อยกว่าความเป็นจริง คือสงสัยเลยจะถามสมาชิกว่าไฟแนนซ์เขาคิดแบบนี้เหมือนกันทุกเจ้าหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กันยายน 18, 2016, 14:10:46
ไม่น่าจะทุกเจ้านะครับ :o :o :o :o :o
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กันยายน 18, 2016, 14:43:59
เคยปิดกับฮอนด้าลิสซิ่ง
ตอนซื้อ คิดดอกเพื่อคำนวณยอดผ่อน คิดแบบ flat rate
ตอนปิด คิดดอกเพื่อลดดอก คิดแบบ effective rate
เป็นแบบนี้จริงๆ ครับ

เคยเช่าซื้อกับสหกรณ์ที่ทำงาน
จ่ายแบบลดต้นลดดอก ปิดก็แบบลดต้นลดดอก
แต่ตอนโอน โดนค่าธรรมเนียมแพงกว่าไฟแนนซ์

หนีเสือ ปะจรเข้
วุ่นวาย
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ กันยายน 18, 2016, 14:50:39
เคยปิดกับฮอนด้าลิสซิ่ง
ตอนซื้อ คิดดอกเพื่อคำนวณยอดผ่อน คิดแบบ flat rate
ตอนปิด คิดดอกเพื่อลดดอก คิดแบบ effective rate
เป็นแบบนี้จริงๆ ครับ

เคยเช่าซื้อกับสหกรณ์ที่ทำงาน
จ่ายแบบลดต้นลดดอก ปิดก็แบบลดต้นลดดอก
แต่ตอนโอน โดนค่าธรรมเนียมแพงกว่าไฟแนนซ์
ของผมโตต้าลิสซิ่ง ซึ่งลองถามดูแล้วได้ส่วนลดสามพันหน่อยผมเลยไม่ปิดยอดเลยผ่อนต่อเอาเงินไปทำอย่างอื่นให้งอกเงยดีกว่า
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: nut_na ที่ กันยายน 18, 2016, 15:02:28
ไฟแนนซ์ทุกที่เค้ารับรู้รายได้แบบลดล้ตลดดอกครับ
เพราะฉะนั้นเวลาคุณไปปิดยอดตอนใกล้ๆหมด มันแทบจะเหลือแต่เงินต้นครับ

ถึงแม้ตอนที่เค้าคิดให้เราดูจะเป็นแบบ flat rate
แต่พอเค้าเอาไปเข้าในระบบของทางบริษัทเค้าจะคำนวณออกมาเป็นแบบ EIR ครับ

เค้าไม่ได้เอาเปรียบครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bobsan ที่ กันยายน 18, 2016, 15:51:48
ไฟแนนซ์ทุกที่เค้ารับรู้รายได้แบบลดล้ตลดดอกครับ
เพราะฉะนั้นเวลาคุณไปปิดยอดตอนใกล้ๆหมด มันแทบจะเหลือแต่เงินต้นครับ

ถึงแม้ตอนที่เค้าคิดให้เราดูจะเป็นแบบ flat rate
แต่พอเค้าเอาไปเข้าในระบบของทางบริษัทเค้าจะคำนวณออกมาเป็นแบบ EIR ครับ

เค้าไม่ได้เอาเปรียบครับ

ช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหมครับว่าคิดดอกเราแบบนึง แต่พอเข้ากระเป๋าตัวเองคิดแบบนึง
มันไม่เอาเปรียบยังไงครับ

อย่างตอนเช่าซื้อบอกว่าโปะหมดลดดอกครึ่ง  ผมก็เคยเอาไปปิดปรากฏว่าห่างไกลจากครึ่งไปมาก
เช่น ดอกตกเดือนละ 2,000 บาท เหลือผ่อน 20 เดือน ดอกรวม 40,000 บาท
ตามที่บอกเวลาโปะดอกต้องเหลือ 20,000 บาท แต่เอาเข้าจริงไม่ถึงหมื่น

ช่วยอธิบายทีครับ

หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Cnx_man ที่ กันยายน 18, 2016, 15:58:24
ผมว่า เขาเอาเปรียบครับ

แต่ถ้าไม่อยากถูกเอาเปรียบ  ทางเลือกเดียวคือ เก็บเงินซื้อสดครับ

ดังนั้น  ถ้าคิดจะซื้อผ่อน ก็ถูกนายทุนเอาเปรียบต่อไป
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Teera ที่ กันยายน 18, 2016, 16:22:38
ถ้าคิดว่าโดนเอาเปรียบ ซื้อสดสิครับ
มันเป็นธุรกิจครับ  เหมือนยืมเงิน เค้ามาซื้อรถแหละ นอกระบบโหดกว่านี้เยอะ !!!!
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ กันยายน 18, 2016, 16:34:10
ผมมองว่า เขาไม่ได้เอาเปรียบ
ถ้าจะให้ไฟแนนซ์คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เขาก็ทำได้ แต่เขาก็จะคิดดอกเบี้ยอีกอัตรานึง
ตัวเลขอัตราดอกเบี้ย ก็จะดูแพง เหมือนกับดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน

ส่วนตัวเลขดอกเบี้ยต่ำๆ แต่คิดดอกแบบ flat rate ก็เปรียบเหมือนภาพลวงตา บางคนจะดูเหมือนว่า ดอกไม่แพง แต่ความจริงคือแพง ยิ่งคนที่ผ่อนเกิน 48 งวดขึ้นไป รวมดอกเบี้ยแล้วก็ยิ่งแพงมาก

ผมเลือกที่จะผ่อน 36 งวด ดอกเบี้ยอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ กันยายน 18, 2016, 16:42:05
คิดเหมือนกันหมดครับ และไม่อยากให้คาดหวังว่าปิดก่อนจะได้ส่วนลดครับ เพราะเขาคิดแบบ Flat Rate มาแล้ว

อย่าคิดมากไปเลยครับ ได้ส่วนลดนิดหน่อยก็ถือเป็นค่ารถไปดำเนินการครับ

ปกติผมก็จะผ่อนแบบปกติ และผ่อนจะครบงวดตามปกติครับ
นอกจากจะขายครับ ถึงจะไปปิดก่อนครบกำหนด
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: keamgladnan ที่ กันยายน 18, 2016, 17:00:42
ดอกเบี้ยเค้าคิดรวดเดียวแล้วรวมไปในยอดผ่อนแต่ละเดือน

หากอยากลดดอกเบี้ยครึงนึง คุณต้องโปะตั้งแต่งวดแรก

แต่ถ้าผ่อนไปครึ่งนึง  ดอกที่ลดมันคือดอกที่เหลือของงวดที่เหลือครับ   ผมว่ามันก็ตรงไปตรงมานะ ไม่มีอะไรซับซ็อน

สมมติคุณผ่อน 5 ปี  ดอก 50000 บาท  ถ้าคุณไปโปะปีสุดท้าย แล้วได้ดอกลดครึ่งนึงของดอกทั้งหมด 25000 บาท แบบนี้ผมว่าไฟแนนอะเสียเปรียบ ที่ผ่านมาปล่อยกู้ฟรีดิงั้น ได้ดอกนิดเดียว แต่ผ่อนนาน เอออ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ กันยายน 18, 2016, 17:48:30
ทำไงได้ครับ ตอนซื้อเราก็อยากได้รถ
อยากให้ไฟแนนซ์ผ่าน มันก็มักจะมีการคิดที่เหมือนเอาเปรียบเราอยู่แล้ว
ไม่ต่างจากการผ่อนแบบบอลลูน
รวมๆแล้วดอกจะแพงมาก แต่ไม่มีเงินดาวน์เยอะ
ไม่มีเงินผ่อนต่อเดือนเยอะ บางคนเลยต้องเลือก
เพื่อให้ได้รถออกมาทำมาหากิน ก็ต้องยอมรับกฎเกณฑ์กันไปครับ

ทางออกก็มีคือการซื้อสดไปเลย..
ผมก็เคยเบื่อไฟแนนซ์จนออกสดมาแล้ว..
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: neutrino ที่ กันยายน 18, 2016, 18:04:52
ผมคิดเหมือนหลายๆท่านในนี้ ไม่อยากโดนเอาเปรียบยอมเสียเวลาเก็บเงินซื้อสดไปเลย ผมทำแบบนี้มานานแล้วครับ ทำมาหลายคันแล้ว
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กันยายน 18, 2016, 18:38:10
      ไฟแนนซ์ทุกแห่งเป็นแบบนี้ครับ  ผมเคยเปลี่ยนเป็นวิธีกู้เงินสหกรณ์มาซื้อ ดอกเบี้ยต่ำกว่า คิดแบบลดต้นลดดอกด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กันยายน 18, 2016, 20:09:07
      ไฟแนนซ์ทุกแห่งเป็นแบบนี้ครับ  ผมเคยเปลี่ยนเป็นวิธีกู้เงินสหกรณ์มาซื้อ ดอกเบี้ยต่ำกว่า คิดแบบลดต้นลดดอกด้วยครับ

ดอกสหกรณ์ก็ไม่ได้ถูกครับ 6.0-7.5 % ต่อปี
หักปันผล ที่คืนตอนสิ้นปี 15% ของดอกเบี้ย

ก็ยังแพงครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: eaton fuller ที่ กันยายน 18, 2016, 20:15:24
รถความเสี่ยงสูง อัตราดอกเบี้ยที่เขาคิดถูกแล้ว เป็นทุกเจ้า

ทางรอด เอาบ้านไปจำนองแบงค์แล้ว   ถือสดไปซื้อรถ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: GRB0999 ที่ กันยายน 18, 2016, 21:40:37
ถ้าคิดแบบเรทลดต้นลดดอก จะเท่ากับเรทที่financeคิดคูณด้วย2
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: rut191 ที่ กันยายน 18, 2016, 22:18:09
รถความเสี่ยงสูง อัตราดอกเบี้ยที่เขาคิดถูกแล้ว เป็นทุกเจ้า

ทางรอด เอาบ้านไปจำนองแบงค์แล้ว   ถือสดไปซื้อรถ
ดอกmrrประมาณ6กว่าหรือป่าวครับ
รถผมผ่อน4ปี2.4 คิดแบบลดต้นลดดอก4.1ครับ แต่ถ้าผ่อน5ปีขึ้นแล้วขยันโป็ะก็อาจจะคุ้มมั้งครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: UpToGu ที่ กันยายน 19, 2016, 01:35:41
ของผม ได้โปร ดอกเบี้ย 0% ผ่อน5ปี ดาวน์30% เลยเฉยๆครับ
ทุกวันนี้ อะไรถ้าต้องเสียดอกเบี้ย ไม่เอาครับ ซื้อ เงินสด สบายใจกว่าครับ ผมเสียดายเงินในส่วนนั้น
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 19, 2016, 02:53:07
ผมว่ามันไม่แปลกหรอกครับ เราไปขอกู้เงินเค้าซื้อรถ
ส่วนใหญ่คนที่อยากปิดคือไม่อยากเป็นนี้โดยไม่สนใจอะไรแล้ว
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ กันยายน 19, 2016, 07:59:26
ของผม ได้โปร ดอกเบี้ย 0% ผ่อน5ปี ดาวน์30% เลยเฉยๆครับ
ทุกวันนี้ อะไรถ้าต้องเสียดอกเบี้ย ไม่เอาครับ ซื้อ เงินสด สบายใจกว่าครับ ผมเสียดายเงินในส่วนนั้น
ถ้าซื้อสด รถราคา 1,000,000 บาท ก็ตีเป็นส่วนลดได้ประมาณ 80,000 ครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: boykung ที่ กันยายน 19, 2016, 09:30:37
มันก็คล้ายๆธุรกิจปล่อยกู้แหละครับ

เค้าเอาเงินก้อนซื้อรถให้คุณไปใช้ แล้วเรียกเก็บย่อยรายเดือน ไม่ให้มีดอกเบี้ย ค่าดำเนินการ ค่าใช้จ่าย ค่าความเสี่ยงได้ยังไงละครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแนนซ์รถยนต์เอาเปรียบเกินไปไหม
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กันยายน 19, 2016, 10:09:21
ดอกเบี้ยเค้าคิดรวดเดียวแล้วรวมไปในยอดผ่อนแต่ละเดือน

หากอยากลดดอกเบี้ยครึงนึง คุณต้องโปะตั้งแต่งวดแรก

แต่ถ้าผ่อนไปครึ่งนึง  ดอกที่ลดมันคือดอกที่เหลือของงวดที่เหลือครับ   ผมว่ามันก็ตรงไปตรงมานะ ไม่มีอะไรซับซ็อน

สมมติคุณผ่อน 5 ปี  ดอก 50000 บาท  ถ้าคุณไปโปะปีสุดท้าย แล้วได้ดอกลดครึ่งนึงของดอกทั้งหมด 25000 บาท แบบนี้ผมว่าไฟแนนอะเสียเปรียบ ที่ผ่านมาปล่อยกู้ฟรีดิงั้น ได้ดอกนิดเดียว แต่ผ่อนนาน เอออ

+1 ถูกต้องตามหลักการเลย