Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ww ที่ ธันวาคม 04, 2016, 13:18:05
-
อนาคต cx3 ดีเซล จะเป็นอย่างไร
มาสด้าจะทำอย่างไรกับ cx3 1.5ดีเซล ที่ราคาแพง อัตราเร่งค่อนข้างอืด แต่ประหยัดน้ำมัน เข้าใจว่าเครื่องดีเซลต้นทุนแพง แต่ก็แชร์เครื่องยนต์กันกับมาสด้า2ด้วย มาสด้า2ดีเซลตัวเริ่มต้นตัวกลางราคาก็ถือว่าไม่แพง ทำราคาได้ดีแต่พอมาอยู่ในcx3 มีแต่ในตัวท็อปทำให้ราคาโดดไปไกลเลย ถ้ามีงบไม่จำกัดให้เลือกซื้อรถมาสด้าแต่ละsegment ในมาสด้า2 และ cx5 ผมไปดีเซลแบบไม่คิดเลย ส่วนใน cx3ผมไปเบนซิลแบบไม่คิดเหมือนกัน cx3 ดีเซลจ่ายแพงกว่า ประหยัดกว่าก็จริง แต่เวลาที่ต้องการอัตราเร่งแซงกลับอืดกว่าเบนซิลที่ราคาถูกกว่า
ต้นทุนเครื่อง 1.5 ดีเซล บล็อคนี้ราคาประมาณเท่าไรใครทราบบ้าง ที่ทราบคือ มันแพงกว่า2.0 เบนซิลแน่นอน
อนาคตcx3 ดีเซลที่พอจะมโนได้
1. ใช้บล็อค1.5 ดีเซลเดิมจากมาสด้า2 ลากขายต่อไป ขายได้น้อยขายไม่ออกก็ช่างมัน ไม่สนไม่แคร์ อยากซื้อก็ซื้อไม่อยากซื้อก็ข้ามไป ขออินดี้ไว้ก่อนตรูมาสด้า
2.ใช้บล็อค 2.2 ดีเซลจาก cx5 แล้วอัพราคาเพิ่มไปกว่านี้
3.ออกรุ่นย่อยดีเซลเพิ่ม1-2รุ่น ใช้เครื่อง1.5เดิม ตัดอุปกรณ์ไม่จำเป็นออก ลดราคาลงกว่านี้
4.ปรับจูนเครื่องยนต์บล็อค1.5 นี้ใหม่ให้แรงม้าแรงบิดมากกว่าเดิม
5.เลิกใช้เครื่องยนต์ดีเซลใน cx3 มีแต่ 2.0 เบนซิล
ทั้ง5ข้อจาก 1. 2. 3. 4. และ5. จะทำให้ไม่เสียต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลบล็อคใหม่ที่ต้นทุนการผลิตสูง
6.ผลิตเครื่องยนต์บล็อคใหม่ 1.8/2.0 ดีเซล ที่ต้องทำอัตราเร่งได้ดีกว่า2.0เบนซิล และราคาก็เพิ่มด้วย และอาจนำมาใช้กับมาสด้า3
ข้อไหนมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด เพราะอะไร
ปล.1 ถ้ามีความคิดอื่นที่เป็นไปได้สำหรับcx3 ดีเซลก็เสนอมาได้
ปล.2 แฟนมาสด้าบางท่านหรือใครใช้อยู่อย่าโกรธผมนะ ผมก็ชอบมาสด้าและแบรนด์อื่นด้วย อะไรเหมาะสม ทำมาดีก็ชม อะไรที่รู้สึกไม่เหมาะควรแก้ไขก็ว่ากันไป แต่ละแบรนด์ก็มีข้อดีข้อเสียกันหมด ไม่มีแบรนด์ไหน รถรุ่นใดหรอกที่จะperfectไปทุกอย่าง อยู่ที่เราจะรับมันได้ไหมมากกว่า ทั้งหมดเป็นความเห็นผม ที่คิดว่ามาสด้าวางไลน์อัพ และราคาเครื่องดีเซลสูงไป
ปล.3 ยาวหน่อยนะครับ อิอิ
-
ข้อ 1 ครับ
เท่าที่เป็นอยู่มันก็ได้แค่นี้
ต้องเข้าใจก่อนว่าภาษีของดีเซลเสีย 30% แต่เบนซินเสีย 25% มาสด้า 2 ดีเซลเสีย 14% ต่อให้มีรุ่นย่อยๆ ลงมามันก็จะแย่งยอดกันเอง ถามว่าระหว่างเบนซินกับดีเซลขายอันไหนกำไรกว่าถ้าราคาขายเท่ากัน? ก็ต้องเบนซินอยู่แล้วเพราะเสียภาษีน้อยกว่า ต้นทุนต่ำกว่า ดังนั้นไม่มีเหตุผลให้ต้องสร้างรุ่นย่อยมาตัดยอดกันเอง
แล้วก็เอาเครื่องแรงกว่ามาลงก็เท่านั้นครับ เพราะคนซื้อดีเซลเค้าอยากได้ประหยัด ถ้าเอาเครื่อง 2.2 มาลง ขาย 1.3 ล้าน ยอดน้อยกว่าตอนนี้แน่นอนแล้วจะเอามาขายทำไม
มันก็จะขายได้น้อยๆ แบบนี้ล่ะครับ คนที่อยากได้ดีเซลจริงๆ มีไม่มาก ส่วนมากก็ตัดใจเอาเบนซินที่อัตราเร่งดีกว่า
-
ไม่ต้องทำอะไรทั้ง เบนซิล/ดีเซลจัด protion ก็พอ
เพราะคนที่อยากได้ cx-3 ซื้อไปหมดล่ะ
ที่เหลือไม่ลดระดับลงมา 2 ก็อัพไป 3
ตัวรถไม่ได้มีจุดเด่นด้านใดเป็นพิเศษ นอกจากความสวย
-
มาสด้าน่าจะอินดี้ต่อแหละครับ ขยับอะไรคงน้อยมากๆ
อุปสรรคของมาสด้าตอนนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่ราคาที่ค่อนข้างสูง เเมื่อเทียบกับชื่อยี่ห้อ อ๊อฟชั่น
ลองให้อุปกรณ์เท่าๆฟอร์ด ราคาเท่าฟอร์ด มาสด้าขายกระจาย
และcx3 ดีเซล ตัวเปรียบเทียบกับ 2 ดีเซล ลองเทียบๆดูอุปกรณ์ที่เกิน กับราคาห่างกัน4แสน ซื้อมาสด้าสองได้ คันครึ่ง
ผมว่ามาสด้าที่สมเหตุสมผลที่สุดคือ cx5 เทียบกับคู่แข่ง
-
ยุโรปชอบ ญี่ปุ่นชอบ ก็เพียงพอ
-
เขาก็คงดูยอดขาย
-
ลองเปลี่ยนภายใน ตกแต่งอิง cx5 หรือ 3 จะดีสุดครับ นี่มันภายในเป็น 2
-
คนซื้อดีเซลคงเน้นประหยัดไม่เน้นแรงมั้งครับ คันนี้วิ่งทางไกลไงก็เกิน 22 โลลิตร ขับไปกลับพัทยา ได้เกือบ 25 โลลิตร ขนาดไปวนหาที่จอดรถเป็นสิบๆ นาที เรื่องความแรงถือว่าพอใช้ในยามจำเป็น
แต่อยากให้เพิ่มรุ่นย่อย ปรับ option พวก blind spot lane watch city brake ไรพวกนี้ออกแล้วขาย 1 ล้าน
-
cx 3 ดีเซล สำหรับผม คิดว่าเป็นการตั้งราคา ที่ ล้มเหลวที่สุด ของมาสด้า ยุค sky เลย สำหรับผม มองดูยังไงก็ ไม่น่าคุ้ม ถ้าเทียบกับเงินที่เสียไป
ยิ่งไปเทียบกับ cx3 เบนซิล เครื่อง 2.0 อีก
-
ส่วนตัวตอนไปซื้อรถเมื่อเดือนที่แล้วนะคะ ใจนี้อยากจะพา Cx-3 เครื่องดีเซลกลับบ้านมากๆ เป็นรถที่ถูกใจเราในหลายๆด้าน (อาจจะเป็นเพราะเราขับรถไม่เร็วด้วยค่ะ)
แต่พอเจอราคาเข้าไป ก็เงิบครั้งที่หนึ่ง
และเหมือนมาสด้าไม่ค่อยอยากจะขายรุ่นนี้เท่าไหร่ โปรโมชั่นก็ไม่ค่อยดีเท่ารุ่นอื่นๆ
สุดท้ายก็เลยประหยัดไปสามแสนกว่าบาท ยอมออก 2 ดีเซลแทนค่ะ :)
-
อยากให้ทำตัวล่าง แล้วลดราคาลงหน่อยตอนไมเนอร์
เข้าใจว่า ตัวดีเซลคงไม่กะขายเยอะ กะปล่อยเครื่องเบนซินมากกว่า
เครื่อง 2.0 เบนซิน ขายได้จาก 3 cx3 5 รวมๆ น่าจะราวๆ 6-7ร้อยเครื่องต่อเดือน
ส่วน 1.5 ดีเซล ขายได้จาก 2 เป็นหลัก ก็ราวๆ 6-7ร้อยเครื่องต่อเดือนเหมือนกัน
เมื่อยอดขายดูสมดุลย์แบบนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเร่งยอดเครื่องดีเซลละมั้งครับ การสต็อกอะไหล่ก็ง่ายหน่อย อัตราการผลิตก็คุมง่าย
....................
แต่ส่วนตัว ผมก็เลือกดีเซลนะ"ถ้า" ราคามันพอๆกัน หรือแพงกว่าสัก1-2หมื่น ไม่ใช่เป็นแสนแบบนี้
แล้วทำตัวกลาง-ล่าง ล้อขอบ 16 ยางแก้มสูงที่ดูลุยนิดๆแบบตัวล่าง มี MZD connect ราคา 9.8แสนก็น่าซื้อนะ (ล้อ18 ไม่อยากใช้เลย ยางแพง+ลุยถนนขรุขระไม่น่าจะดี)
ผมใช้ 2 ดีเซลอยู่ ชอบเครื่องตัวนี้นะ ถ้า 3/cx3 ใส่เครื่องตัวนี้แล้วราคาน่าคบ ผมซื้อแบบไม่ลังเลเลยครับ....
........................
ถ้าผมเป็นมาสด้า
ผมจะทำดีเซลรุ่นล่าง ตอนไมเนอร์ครับ น่าจะต้อนรับ CHR พอดี
-
ไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ
ที่เปนอยู่สมดุลดีแล้ว
ผมว่าหน้าที่ของcx3 ดีเซลคือทำให้คนตัดสินใจซื้อตัว2.0เบนซินง่ายขึ้น และบริษัททำกำไรจากตัวเบนซินเอา
ตัวดีเซลขายเยอะขาดทุนเยอะ ยิ่งไปลดราคายิ่งขาดทุน อยู่เฉยๆแบบนี้ดีละ
รอCHR ออกมา ค่อยปรับออฟชั่นกับราคาสู้
น่าจะพอยื้อไปได้ เอาตัวรอด
-
มันมีไว้เพื่อการตลาด เปรียบเทียบเฉย ๆ รึเปล่าครับ
พ่อค้าน่าจะเข้าใจ มีตัวให้เทียบดีคล้าย ๆ กัน แต่แพงกว่า .. เชียร์ให้ลูกค้าซื้อตัวถูก แล้วให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้ม ฉลาด คิดถูก
แต่แท้จริงแล้ว .. คือเดินตามเกมพ่อค้า ไม่ว่าจะเลือกซ้าย หรือ ขวา ก็กำไรเหนาะ ๆ
-
อุต๊ะ! เค้าคิดกันแบบนี้หรอ จรรยาบรรณหรือความจริงใจไม่มีเลย
-
ผมว่าข้อ 1 ครับ 8) 8) 8)
ผมว่า Mazda2 และ CX-3 เป็นรถที่เหมาะกับผู้หญิงตัวเล็กมากครับ (แบบในโฆษณา)
ตัวใหญ่อย่างผมนี่นั่งขับแล้ว ถอยเบาะสุด หันข้างมาเจอเสาบีเลยครับ
บนก็ติดหลังคา ข้างก็ติดเสาบี ที่พักแขนกลางก็ไม่มีให้ :( :(
-
ไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ
ที่เปนอยู่สมดุลดีแล้ว
ผมว่าหน้าที่ของcx3 ดีเซลคือทำให้คนตัดสินใจซื้อตัว2.0เบนซินง่ายขึ้น และบริษัททำกำไรจากตัวเบนซินเอา
ตัวดีเซลขายเยอะขาดทุนเยอะ ยิ่งไปลดราคายิ่งขาดทุน อยู่เฉยๆแบบนี้ดีละ
รอCHR ออกมา ค่อยปรับออฟชั่นกับราคาสู้
น่าจะพอยื้อไปได้ เอาตัวรอด
ถูกต้องครับ เพราะ เครื่องก็ตัวเดียวกับ 2 ครับ
-
แต่คนรอบตัวผมก็มีออกมา2คันแล้วครับตัวดีเซล เจ้าของเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ผมถามทำไมไม่เอารุ่นเบนซิน เค้าบอกอยากได้ประหยัด หน้าตาสวย และออฟชั่นดี
แต่ถ้าผมเป็นมาสด้า ผมจะออกรุ่นกลางมาซักรุ่นนึง โดยอาจอิงออฟชั่นจากตัว Core ของรุ่นเบนซิน ขายซัก9แสน5 น่าจะช่วยเพิ่มยอดได้ดีขึ้นครับ
-
cx3 cx5 ดีเซลเร่งก็อืดหมดไม่ใช่หรอครับ
มีคนเอารถมาให้ลอง รู้สึกแปลกใจตรงมันเร่งอืดมาก แตกต่างจากรถดีเซลที่เคยใช้มาหลายๆคัน
ถ้ามาสด้าอยากจะขายจริงๆคงต้องเปิดตัวกลางมาอีกตัว หรือรอช่วงราคาน้ำมันเบนซินพุ่งกระฉุดไปละมั้ง
แต่ส่วนตัวไม่ซื้อแน่นอนเพราะ interior ดูไม่แพงเลย ตัวที่มาลองไม่มีที่วางแขนให้ด้วย รถราคา 1ล้านไม่มีแม้กระทั่งที่วางแขน
เอางานออกแบบใน 3 มาใส่น่าจะดีขึ้น แต่ตาม segment 2-cx3 3-cx5 คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป
-
cx3 cx5 ดีเซลเร่งก็อืดหมดไม่ใช่หรอครับ
มีคนเอารถมาให้ลอง รู้สึกแปลกใจตรงมันเร่งอืดมาก แตกต่างจากรถดีเซลที่เคยใช้มาหลายๆคัน
ถ้ามาสด้าอยากจะขายจริงๆคงต้องเปิดตัวกลางมาอีกตัว หรือรอช่วงราคาน้ำมันเบนซินพุ่งกระฉุดไปละมั้ง
แต่ส่วนตัวไม่ซื้อแน่นอนเพราะ interior ดูไม่แพงเลย ตัวที่มาลองไม่มีที่วางแขนให้ด้วย รถราคา 1ล้านไม่มีแม้กระทั่งที่วางแขน
เอางานออกแบบใน 3 มาใส่น่าจะดีขึ้น แต่ตาม segment 2-cx3 3-cx5 คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป
CX3 อืดจริงครับ แต่ CX5 ไม่น่าใช่ เพราะ0-100ได้ 8วิปลายเลยนะครับ แถมขับจริงผมว่ามันดึงโหดกว่า 1.5 ในmazda2 แบบคนละเรื่องเลยครับ
-
cx3 cx5 ดีเซลเร่งก็อืดหมดไม่ใช่หรอครับ
มีคนเอารถมาให้ลอง รู้สึกแปลกใจตรงมันเร่งอืดมาก แตกต่างจากรถดีเซลที่เคยใช้มาหลายๆคัน
ถ้ามาสด้าอยากจะขายจริงๆคงต้องเปิดตัวกลางมาอีกตัว หรือรอช่วงราคาน้ำมันเบนซินพุ่งกระฉุดไปละมั้ง
แต่ส่วนตัวไม่ซื้อแน่นอนเพราะ interior ดูไม่แพงเลย ตัวที่มาลองไม่มีที่วางแขนให้ด้วย รถราคา 1ล้านไม่มีแม้กระทั่งที่วางแขน
เอางานออกแบบใน 3 มาใส่น่าจะดีขึ้น แต่ตาม segment 2-cx3 3-cx5 คงต้องเป็นแบบนี้ต่อไป
cx 5 2.2 ไม่น่าจะเรียกว่าอืดนะ
(http://upic.me/i/ct/fvsuv.jpg)
-
ข้อ1อยู่แล้วครับ สายมโนแบบผมถ้าราคานี้ได้2.2 ก็โคตรแจ่ม
ถ้าได้ลอง1.5แล้วอย่าลอง2.0 เพราะจะไม่ซื้อ1.5
-
ติตรงราคานี่แหละ
-
ยอดไม่ดี ก็เอาออกไปครับ เท่านั้นเอง ผมว่า Mazda ไม่ทำอะไรมากหรอกครับ รุ่นย่อยนี้ ไม่ใช่ตัวขายอยู่แล้ว
-
ยอด 95% คือ ตัว 2.0 เบนซิน :o
เป็นผมคง ยกเลิก ดีเซล เพราะเปลื้อง cost ตัวเปลี่ยน line การผลิต (ถึงจะแค่เครื่องก็ตาม) แต่ดูแล้ว mazda คงชิวๆ ทำ ดีเซลขายต่อไป
-
ไม่ต้องทำไร
นั่งเป็นเพื่อนLexsus IS
แล้วปรบมือร้องเพลง YNWA