เรื่องการยกเลิกการจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันชั่วคราว เพื่อลดราคาน้ำมันลง
แล้วจะทำให้ไปกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากคนซื้อของกันได้ง่ายขึ้น
เศรษฐกิจโดยภาพรวมแล้ว ก็จะดูดีขึ้นไปด้วย แต่ผมมองว่าเราจำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรือเปล่าครับ?
ถ้าจะจัดเก็บน้อยลง เพราะเห็นว่ากองทุนมีเงินเพียงพอแล้ว
หรือตลาดมีความยืดหยุ่นที่จะรับมือกับความผันผวนของราคาน้ำมันมากขึ้น ผมว่ามันก็ดี
แต่ถ้าไม่เก็บเลยเป็นสักช่วงหนึ่ง มันจะเป็นการไปกระตุ้นให้เกิด Peak ในความต้องการของตลาด
ทำให้เกิดการซื้อล่วงหน้า เก็บตุนสินค้าไว้มากมาก ถ้าดูกันวันต่อวันจะเหมือนกับเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ดีขึ้น
แต่จริงจริงแล้ว ในระยะยาวมันจะเป็นเพียงอุปสงค์ (Demand) หลอก เพื่อจะได้ไม่ต้องไปซื้อของตอนแพง
พอกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนเหมือนเดิม ราคาสินค้าต่างต่างเพิ่มสูงขึ้น ก็จะทำให้การซื้อชะลอตัวไป
เศรษฐกิจก็ชะงักกันอีกรอบ
อยากจะเรียนหลายหลายท่านว่า ที่ผมให้ความคิดเห็นนี่ไม่ใช่ในเชิงตำหนิรัฐบาลนะครับ
เพราะท่านเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ ยังไม่ทันได้เริ่มดำเนินการใดใด จะไปตัดสินเลยคงด่วนสรุปเกินไป
ที่พูดมาเป็นเพียงการวิเคราะห์กลไลและผลกระทบที่อาจจะเป็นไปได้
ของนโยบายที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่าจะนำมาบังคับใช้เท่านั้น
ยังไงๆ ปัญหาเรื่องน้ำมันแพง มันเป็นสิ่งที่คนในชาติเราควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว
กลุ่ม opec มันมีแต่จะเพิ่มราคาขึ้น เพราะน้ำมันเหลือไม่มากแล้ว
มันต้องการเอาเงินไปลงกับอสังหาเพื่อที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต
ไว้หากินตอนไม่มีน้ำมันแล้ว อย่างที่เห็นกัน เกาะต้นปาล์ม ตึกสูงที่สุดในโลก
เพราะฉะนั้น น้ำมันไม่มีทางถูกหรอก การแก้ปัญหาของรัฐบาลทำได้ดีที่สุดก็เท่าที่เห็น
ถือแม้จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงชั่วคราว ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะครับ
ถึงข้าวของจะถูกลงบ้าง มันก็ดีไม่ใช่หรือ เพราะทุกวันนี้มันก็แพงมากอยู่แล้ว
ตามที่ผมมองไว้ว่าน้ำมันจะถูก ก็ตอนที่รถพลังไฟฟ้าเริ่มใช้กันแพร่หลายแล้วนั้นและ
พวก opec dump ราคาน้ำมันแน่ มันไม่ต้องการให้เครื่องยนต์ไฟฟ้าเกิด