Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Cheap and cheerful ที่ สิงหาคม 31, 2020, 22:13:40
-
ดูยอดขาย XV, Forester ที่เป็นเดอะเเบกของค่ายเเล้วน้อยมาก เลยอยากรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรไหมเพราะคู่เเข่งดุเดือดมากๆ
อยากให้ Forester มี 1.8Turbo หรือ 2.5 เป็นมาตรฐานบ้าง คู่เเข่งเเรงกันไปหมดเเล้ว หรือ ไม่ก็ XV ขับสอง กดราคาลงมา (ไม่รู้ว่ามีขับสองในตลาดโลกหรือเปล่านะครับ เเต่คิดว่าไม่น่ามี)
ใครพอทราบข่าว มาคุยๆกันหน่อยครับ ;) ;)
-
เต็มที่ก็คงลดราคาเอาเพื่อกระตุ้นยอดครับ แบบเมื่อก่อน...
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มันขายไม่ออกน่าจะเป็นเรื่องของราคาเป็นหลักครับ เพราะราคาทั้ง XV และ Forester ตั้งไว้ 1.1 -1.45 ล้าน ซึ่งแพงกว่าคู่แข่งเกือบทั้งหมดถ้าเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ (แม้จะมีส่วนลด)
ต้นทุนหลักๆก็ใช้ไปกับเครื่องสูบนอนกับระบบขับสี่ซึ่งหลายๆคนมองว่าไม่จำเป็น ก็ไปเอา SUV ขับสองเจ้าอื่นที่ราคาถูกกว่า, Option บางอย่างก็เยอะกว่า, อัตราเร่งก็ดีกว่า
ถ้าสมมตินะ .... จู่ๆเอาเครื่องใหม่มาลงเลย ไม่ว่าจะเป็น 1.8 Turbo หรือ 2.5 NA
ราคาขายก็จะปรับเพิ่มแน่ เพราะมันต้อง Run พาร์ทส่วนเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด (ในขณะที่เครื่อง 2.0 NA เป็นการต่อยอดจากรุ่นก่อนและใช้ร่วมกันทั้ง XV & Forester)
แต่จริงๆแล้ว Subaru ก็มีข่าวว่าจะปรับมาใช้เครื่อง Turbo ทั้งหมดเหมือนกัน ซึ่งหลักๆน่าจะเป็นในญี่ปุ่นกับอเมริกา
ส่วนบ้านเราอาจจะต้องรอ Gen ต่อไปเลยครับ ไม่น่าใช่ในรุ่นนี้....... (Subaru ในภูมิภาคนี้ชอบทำอะไรแปลกอยู่บ่อยๆ)
-
ตัวรถผมว่าพอไหว ไม่ได้แรงแต่ก็พอใช้ ที่อยากให้ทำด่วนๆคือขยายศูนย์บริการเร็วๆ พอมีศูนย์คนน่าจะสนใจมากขึ้นครับ นี่รถที่ผมใช้ต้องขับไปกว่า 100 km ถึงจะได้เข้าศูนย์ ดู mg เขายังขยายได้เร็วมาก
-
จัด spec ใหม่คงไม่ครับ
มันมีปัญหาจริงๆ แค่เรื่องสมรรถนะอัตราเร่งเท่านั้นเลยในด้านตัวรถ
แต่ที่ทำให้มันขายไม่ออกถึงขนาดนี้นี่ก็มีหลายปัจจัย
- คู่แข่งลงมาเล่นในช่วงราคาเดียวกันหรือถูกกว่าหน่อยแต่ได้ออพชั่นมาเพิ่มมีมากขึ้น
- ดีไซน์ตัว XV หลายคนยังชอบความเรียบของรุ่นเดิมอยู่
- คนเคยซื้อแล้วมีทั้งอยากซื้อซ้ำและไม่มี
- คนยังให้ความสำคัญของ 4WD น้อย
- ศูนย์บริการ บอกตามตรงว่าพัฒนาการจากวันที่ XV โฉมก่อนเปิดตัว 2012 จนถึงตอนนี้ 2020 เป็นอะไรที่ช้าและไม่สร้างความเชื่อมั่นได้เลย
ฯลฯ
ถ้าเอาตามสูตรที่ TC เคยทำ คือปั่นราคาเหมือนหุ้นครับ ยอดตกก็ลดฮวบ ยอดกลับมาก็อัพราคาไป ทำได้เท่านั้นแหละ
-
มันเป็นรถเฉพาะกลุ่มจริงๆครับ ต้องเห็นคุณค่าในระบบขับสี่ของมัน
ที่จริงถ้าทำเป็นขับ 2 สามารถใส่ option ได้อีกมากแล้วขายในราคาเดิม โดยที่อาจจะสามารถทำอัตราเร่งได้ดีกว่าเดิม
ปล. XV สี cool grey khaki ขายดีแต่ผลิตไม่ทัน
-
เครื่องแรงกว่านี้ แล้วใส่ Eyesight แบบเดียวกับญี่ปุ่น เพิ่มราคานิดหน่อย
-
มีเหตุผลเดียวที่ทำให้ยอดขายน้อย คือมันไม่สวยครับ อย่างอื่นผมว่าดีอยู่แล้ว คงต้องแก้ตัวใน gen หน้า
-
ทำให้สวยกว่านี้ แรงกว่านี้
-
เอาขุมกำลังที่น่าสนใจกว่านี้มาลงอาจจะขายได้ดีขึ้น สำหรับคนที่ชอบสมรรถนะตัวรถครับ
อย่างตัวผมกำลังเล็ง WRX ตัวต่อไป ถ้าเข้ามาแล้วสเป็คเป็นไปตามคาด แบรนด์นี้ก็อาจจะได้เจอกันครับ
-
ถ้าทำรุ่นย่อยขับ 2 แล้วลดราคาลงอยู่ที่ 9แสนกว่า ยอดน่าจะพอไปได้อยู่นะ
-
ตัวรถผมว่าพอไหว ไม่ได้แรงแต่ก็พอใช้ ที่อยากให้ทำด่วนๆคือขยายศูนย์บริการเร็วๆ พอมีศูนย์คนน่าจะสนใจมากขึ้นครับ นี่รถที่ผมใช้ต้องขับไปกว่า 100 km ถึงจะได้เข้าศูนย์ ดู mg เขายังขยายได้เร็วมาก
จริงครับ น่าเสียดาย subaru เป็นรถที่ดีแต่คนต่างจังหวัดอย่างผมไม่มีโอกาสได้ใช้
-
มีคนที่ทำงานดูอยู่ ระหว่าง XV กับ CX-30 สุดท้ายก็ไป Mazda เมื่อเทียบราคา option ศูนย์บริการ
Subaru คงต้องปรับปรุง 3 อย่างข้างต้นนั้นแหละครับ
ผมคิดว่าระบบขับเคลื่อน เกียร์ ช่วงล่าง ไม่ได้แย่อะไรเลย
-
มีอะไรเปลี่ยนช่วงนี้ผมเห็นแต่ข่าวว่าจะเปลี่ยนมาใช้เครื่อง Turbo ทั้งหมด ก็น่าสนใจครับ เพราะถ้ามันเป็นเครื่องสหกรณ์จริง ก็น่าจะขึ้น line ผลิตใหม่ได้ไม่ยากมาก
Subaru รถดีครับ แต่คนจะไม่เห็นค่ามัน ถ้าไม่ได้ขึ้นไปขับจริงๆ ถ้าจะโปรโมทกันจริงๆผมว่าต้องเชียร์ให้ไปขับครับ มาคุยกันหน้ารถมันเสียของ
-
ผมว่าปรับดีไซน์ก่อนเลย นี่ขนาดรถห้าปีข้างหน้า ยังดูตกยุค ไหนๆก็ใช้ระบบของโตโยต้า น่าจะเอางบมาพัฒนาดีไซน์ทั้งภายนอกภายในให้ดีๆ
https://m.youtube.com/watch?v=W-teYYS7TSQ&t=25s
-
รถเลือกเจ้าของครับ
Forester ราคาไม่ได้แรงนะ ตัว Top 1.4 - 1.5 ล้าน ได้ option ครบๆ มี ES ในขณะที่ CR-V แพงกว่าหลายแสนยังไม่มีให้เลย ภายในก็กว้าง แต่ข้อด้อยของเค้าคือ คนไม่รู้จัก .. ลองไปถามคนที่ได้ชอบรถสิ .. รถอะไรเหรอ subaru พาลนึกถึงรถกะป๊อ ซะงั้น ตามด้วยเรื่องหน้าตา ที่ต้องบอกว่า อัปลักษณ์ โบราณ น่าเกลียด
- แต่ ตันจง ก็รู้ตัวนะ วางนโยบายเรื่องการทดสอบรถไว้ค่อนข้างดี ลูกค้าคนไหน หลงเข้าโชว์รูมไปขอลองขับนี่ รายไหน รายนั้น พวกพาซัด ให้รถแสดง performance ออกมาเต็มๆ แล้วก็เสร็จมันไปแบบงงๆ
XV ตัวราคาไม่แรง แต่ option มันโล้นไปหน่อย ถ้าเทียบกับคู่แข่ง รวมถึง หน้าตา แม้จะโอเค แต่คู่แข่งดูล้ำสมัยกว่า ดูลงตัวกว่า
..............
สำหรับผม subaru ยอดขาย ไม่ได้แย่ เชื่อว่า เค้าก็พอใจกับยอดขาย เทียบขนาดโรงงาน เทียบปริมาณศูนย์บริการครับ ไปได้เรื่อยๆ อินดี้ ตามสไตล์ รถเลือกเจ้าของ ไม่ใช่เจ้าของเลือกรถ
-
รถเลือกเจ้าของครับ
Forester ราคาไม่ได้แรงนะ ตัว Top 1.4 - 1.5 ล้าน ได้ option ครบๆ มี ES ในขณะที่ CR-V แพงกว่าหลายแสนยังไม่มีให้เลย ภายในก็กว้าง แต่ข้อด้อยของเค้าคือ คนไม่รู้จัก .. ลองไปถามคนที่ได้ชอบรถสิ .. รถอะไรเหรอ subaru พาลนึกถึงรถกะป๊อ ซะงั้น ตามด้วยเรื่องหน้าตา ที่ต้องบอกว่า อัปลักษณ์ โบราณ น่าเกลียด
- แต่ ตันจง ก็รู้ตัวนะ วางนโยบายเรื่องการทดสอบรถไว้ค่อนข้างดี ลูกค้าคนไหน หลงเข้าโชว์รูมไปขอลองขับนี่ รายไหน รายนั้น พวกพาซัด ให้รถแสดง performance ออกมาเต็มๆ แล้วก็เสร็จมันไปแบบงงๆ
XV ตัวราคาไม่แรง แต่ option มันโล้นไปหน่อย ถ้าเทียบกับคู่แข่ง รวมถึง หน้าตา แม้จะโอเค แต่คู่แข่งดูล้ำสมัยกว่า ดูลงตัวกว่า
..............
สำหรับผม subaru ยอดขาย ไม่ได้แย่ เชื่อว่า เค้าก็พอใจกับยอดขาย เทียบขนาดโรงงาน เทียบปริมาณศูนย์บริการครับ ไปได้เรื่อยๆ อินดี้ ตามสไตล์ รถเลือกเจ้าของ ไม่ใช่เจ้าของเลือกรถ
+1 บริษัทแม่ play safe ไม่ได้มีทุนเหมือนบริษัทญี่ปุ่นมาเอง ยอดขายแค่นี้ก็พอใจแล้วครับ ไม่มีความจำเป็นต้องไปลงทุนอะไรเพิ่ม
-
เล็ง XV ตัวใหม่ไว้
พอมาเช็คว่าศูนย์ไหนสะดวกและใกล้บ้าน
บายดีกว่า
-
เรื่องศูนย์ และอู่ซ่อมบำรุง ก็มีส่วนในการตัดสินใจนะครับ
อย่าง สมมุติว่า ต้องได้เปลี่ยนหัวเทียน อู่ทั่วๆ ไปคงไม่อยากทำแน่นอน
รถมันขับดี
แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าชาวบ้านมากมาย (พูดถึง XV /Forester)
ถ้าไม่อยู่ใกล้ศูนย์ หรือใกล้อู่ซ่อม หรือไม่ได้ชอบซูบารุเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ผมว่า ซื้อยี่ห้ออื่นดีกว่า
แต่ผมก็เล็ง BRZ ตัวใหม่อยู่นะครับ
หวังว่าคงเอามาขายเหมือนเดิม
-
ตอนผมจะซื้อ Subaru Levorg
สิ่งที่อยากได้ อยากซื้อ ณ วันนั้น คือ
1. เครื่อง 1.6T เพราะถ้าเป็น 2.0 ผมจะไม่ซื้อเลย
2. รูปร่างรถแบบ wagon
3. หน้าตามันเป็นซูบารู๊....ซูบารุ
4. มากับระบบขับเคลื่อน AWD
สิ่งที่ไม่มี ณ วันนั้น
1. สีน้ำเงิน ไม่มี
2. ไม่มี Eye-Sign
พอมาถึง ณ วันนี้ ปี 2020 สิ่งที่อยากได้ หรือ จุดที่คิดว่า Subaru จะมีที่ยืน ขอบอกแบบนี้
1. รูปร่างหน้าผม Levorg สำหรับผมถือว่าผ่านแล้ว โอเคมาก ดูทันสมัยกว่าตอน(แต่ Forester ท้ายไม่สวยเอาซะเลย ยังกะรถปี 2000)
2. เครื่องยนต์ 1.8T - 2.0T ไม่ต้องแรงเวอร์วังอลังการ อย่าง 2.5T ก็ได้ แต่ขอให้มีกำลังพอขับสนุกว่า 2.0(อืดและกินน้ำมัน) หรือ 1.6T(ตัวเดิม กำลังน้อยไปหน่อย)
3. ต้องมี Eye-Sign แล้วละ และ ออฟชั่นอื่นๆ ก็ต้องมาพอๆ กับรถญี่ปุ่นค่ายอื่นๆ แล้ว มันหมดยุค ขาดแบรนด์ ขายกิมมิกส์ ขายฮิสสตอรี่ แล้ว ปี 2020 แล้ว
4. เรื่องศูนย์บริการ และ อะไหล่ อันนี้ก็สำคัญ
-
ถ้าหน้าตามันสวยถูกใจคนส่วนใหญ่ จะขายดีกว่านี้
แต่ก็นะ พี่เค้าอินดี้ 8)
-
มีอะไรเปลี่ยนช่วงนี้ผมเห็นแต่ข่าวว่าจะเปลี่ยนมาใช้เครื่อง Turbo ทั้งหมด ก็น่าสนใจครับ เพราะถ้ามันเป็นเครื่องสหกรณ์จริง ก็น่าจะขึ้น line ผลิตใหม่ได้ไม่ยากมาก
Subaru รถดีครับ แต่คนจะไม่เห็นค่ามัน ถ้าไม่ได้ขึ้นไปขับจริงๆ ถ้าจะโปรโมทกันจริงๆผมว่าต้องเชียร์ให้ไปขับครับ มาคุยกันหน้ารถมันเสียของ
ใช่ครับ ใช้มาทุกวันนี้ก็ยังแฮปปี้กับมันดี แล้วมันก็ทำหน้าที่รถครอบครัวได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
แต่ถ้าซื้อมาเป็นรถใช้ส่วนตัว ถ้าไม่โบกับเกียร์ธรรมดา ผมก็คิดหนักครับ มันอืดจริมๆ
-
เอาเครื่อง E-Boxer + Eyesight มาลงทั้ง XV และ Forester ก็น่าจะพอขายได้มากกว่านี้แล้วนะครับ (คาดว่าคงราคาต่ำกว่าปัจจุบันได้เพราะเป็นไฮบริด)
ส่วนศูนย์ บางจังหวัดก็เริ่มมีเพิ่มบ้างแล้วนะครับ แต่ก็น้อยอยู่ดี...
-
เรื่องราคาตอนเข้าศูนย์เช็คระยะน่าจะมีผลด้วยครับ เคยลองหาข้อมูลราคาเช็คระยะ ของXV หรือ forester นี่แหละ พบว่าค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับเจ้าตลาด หรือนิสสัน ประมาณ3-5000/ครั้งได้
-
เท่าที่ตามฟังในรายการวิทยุ เหมือน Subaru จะไม่ทำตลาด Turbo ในไทยครับ แต่จะมาเป็น E-Boxer แทน