Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Chariot ที่ มีนาคม 18, 2012, 01:22:04
-
ปัจจุบันก็มีรถหลายรุ่น นิยมยัดออพชั่นจัดเต็ม แล้วอัพราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น Fiesta Ultimate หรือ Camry ใหม่
อย่าง C-segment รุ่นท๊อปสมัยนี้ก็ทะลุล้านบาทไปหลายรุ่นแล้ว
ถ้าเกิดสมมุติเกิดมีรถ C-seg รุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ ขายราคา 1.2-1.4 ล้าน โดยจัดออพชั่นเต็มๆ ดังนี้
- เครื่องเบนซินเทอร์โบ/ดีเซลเทอร์โบ
- เกียร์ 6-7 สปีด พร้อมโหมด +/-
- ESP
- แอร์แบ็ค 6 ลูก
- 7" screen GPS
- Rain Sensor
- Bluetooth
- Auto Headlight แบบ Bi-Xenon
- Panoramic Roof (หลังคาแก้ว)
- วัสดุการประกอบดีเทียบเท่ารถยุโรป
โดยที่รถรุ่นนี้อาจจะไม่ใช่แบรนด์ตลาดมากนัก ถ้ามีแบบนี้จริงคุณจะ..
1. ซื้อทันที ไม่ต้องคิดมาก คุ้มสุดๆแล้ว
2. รอดูคู่แข่งก่อนว่าจะออกรุ่นจัดเต็มแบบนี้บ้างมั้ย
3. ขอดูรูปร่างก่อน ว่ามันสวยหรือเสื่อม
4. ขอดูยี่ห้อก่อน แบบว่าติดยี่ห้อ
5. ไม่ซื้อ เพราะ...
ลองโหวตกันดูครับ ;)
-
สำหรับผม ไม่ครับ..
เพราะสิ่งที่ผมต้องการจริงๆสำหรับรถที่ผมจะซื้อคือ
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น ABS Airbag สำหรับผมแค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วครับ..
จุดประสงค์ของรถในความคิดผมนะ พาเราไปถึงจุดหมายปลายทางโดยปลอดภัย และไม่ต้องลำบากมากมายหรือตากฝนตากแดด
มีเครื่องเล่นเพลงเคล้าคลอระหว่างขับขี่ไปตามทางเรื่อยๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ
ส่วน
- เครื่องเบนซินเทอร์โบ/ดีเซลเทอร์โบ
- เกียร์ 6-7 สปีด พร้อมโหมด +/-
- 7" screen GPS
- Rain Sensor
- Bluetooth
- Auto Headlight
- Sunroof
- วัสดุการประกอบดีเทียบเท่ารถยุโรป
พวกนี้ผมไม่เอาก็ได้ครับ..
-
นอกจากดูยี่ห้อรถแล้ว ยังต้องดูเครื่องยนต์ ช่วงล่างด้วยนะครับ
แต่ options ก็เป็นส่วนในการตัดสินใจแหละครับสำหรับผม
-
ปัจจุบันราคาแค่นี้ก็ได้เต็มๆอยู่แล้ว
-
C-segment ราคาเริ่ม 1.2-1.4 ล้าน D-segmentราคาคงโดดไป กว่า 2 ล้านออพชั่นต้องเยอะกว่า C-segment
A-segment และ B-segment จะได้จองยาวกันข้ามปี ;D ;D จองวันนี้ ได้รถปีหน้า
-
ปัจจุบันราคาแค่นี้ก็ได้เต็มๆอยู่แล้ว
รถ C-seg สมัยนี้มีเครื่องเทอร์โบ, แอร์แบ็ค 6 ลูก, ซันรูฟ แล้วเหรอครับ
ออพชั่นที่ผมยกตัวอย่างนี้ รถจริงในบางรุ่นอาจจะมีอย่างนิดอย่างละหน่อย มีบลูทูธ แต่ไม่มีแอร์แบ็ค 6 ลูก หรือมี GPS แต่ใช้เครื่อง N/A เป็นต้น
แต่อันนี้ผมคิดมาแบบจัดเต็มในคันเดียว เรียกว่าเหมือนได้ออพชั่นของรถขนาด D-seg กันเลยทีเดียว
จากกระทู้โหวตคราวก่อนๆ ได้ข้อสรุปไว้ว่าชาว HLM ชอบรถออพชั่นอลังการ (ขนาดซันรูฟยังอยากได้)
แต่ในโหวตนี้เพิ่มเงื่อนไขว่า ต้องเพิ่มราคาด้วยนะ จึงทำให้ผลโหวตพลิกกลับเลย... ;)
-
ปัจจุบันราคาแค่นี้ก็ได้เต็มๆอยู่แล้ว
รถ C-seg สมัยนี้มีเครื่องเทอร์โบ, แอร์แบ็ค 6 ลูก, ซันรูฟ แล้วเหรอครับ
ออพชั่นที่ผมยกตัวอย่างนี้ รถจริงในบางรุ่นอาจจะมีอย่างนิดอย่างละหน่อย มีบลูทูธ แต่ไม่มีแอร์แบ็ค 6 ลูก หรือมี GPS แต่ใช้เครื่อง N/A เป็นต้น
แต่อันนี้ผมคิดมาแบบจัดเต็มในคันเดียว เรียกว่าเหมือนได้ออพชั่นของรถขนาด D-seg กันเลยทีเดียว
จากกระทู้โหวตคราวก่อนๆ ได้ข้อสรุปไว้ว่าชาว HLM ชอบรถออพชั่นอลังการ (ขนาดซันรูฟยังอยากได้)
แต่ในโหวตนี้เพิ่มเงื่อนไขว่า ต้องเพิ่มราคาด้วยนะ จึงทำให้ผลโหวตพลิกกลับเลย... ;)
รอดูเถอะครับ ปี 2 ปีนี้แหละต้องมีซักรุ่น ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านแน่ๆ เพราะที่จริงไม่เห็นว่าจะจำเป็นว่าต้องใช้เครื่อง Turbo แล้วอ็อฟชั่นโลว์ หรือเครื่อง N/A ดีๆก็มีเยอะไปที่มีอ็อฟชั่นเยอะ ผมว่าปีนี้แหละ Focus ใหม่ละรุ่นนึงที่จะมีอะไรแบบนี้ หรือมาสด้า 3 ตัวนี้ไมเนอร์เชนจ์ออกมา
-
ผมเอา d segment ตัว. Entry. ดีกว่าถ้าราคานั้น
-
ชอบรถจัดเต็มในราคาเดิมหรือเพิ่มน้อยมาก
อย่างกรณี fiesta ขายถุงลมเพิ่ม5ลูก สเกิตหน้าหลัง ครูสคอนโทล ในราคา 35000บาท
c segทำได้มั๊ยครับ ผมมองว่าตอนนี้ราคามันเต็มแล้วครับ แพงทุกตัวเลย
-
จริงๆ รถ C-segment แบบ option เต็ม ราคาก็ไม่ถึงล้านหรอกครับ
อย่าง CIvic ตัวใหม่ที่จะขาย ราคาเริ่มมันแค่ 15000 USD บ้านเราคงเริ่ม 800000 บาท ต่างกันสองเท่า
แต่รถที่จะมี AIRBAG มาให้ สี่ลูกได้ ในราคาไม่ถึงล้านบ้านเรา มีแน่คือ
FORD FOCUS
-
ราคารถ D SEG ขึ้นไปเกือบแตะ 2ล้าน มีให้เห็นแน่ๆ สำหรับC Segments 1.2 -1.4 ล้าน .... ยังงัยก็ซื้อ...ตามกลไกตลาด
สำหรับการขึ้นราคารถ ของ ฟอร์ด ผมว่าไม่เรื่อยเปื่อย เห็นเนื้องานนะ ว่าเพิ่มอะไรขึ้นมาบ้าง
แต่ของ โตโยต้า แทบไม่เห็นอะไรเลย อย่างเช่น Vios รุ่น 50 Yrs Smoke chrome ขึ้นมา 6000 นี่ทำไปได้ยังงัย
-
ดูความเหมาะสมเป็นหลัก เพราะ C-seq เป็นรถที่มีช่วงกว้างของราคาและกลุ่มผู้ใช้เยอะที่สุด
คือราคาตั้งแต่ 7แสนกลางๆ- 1.1ล้าน กลับอีกหมื่นนิดๆ
ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้ก็ขับได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เรียนมหาลัยยันคนปลดเกษียณ
ออฟชั่นที่เขียนมา ตัด
- 7" screen GPS
- Rain Sensor
- Bluetooth
- Panoramic Roof (หลังคาแก้ว)
ยังพอคุมราคาได้ไม่เกิน 1.1 ล้าน ได้อยู่
ส่วนเครื่องเทอร์โบอย่าไปหวังมาก ขอเทคโนโลยีไดเร็คอินเจ็คชั่นก่อนดีกว่า ยังพอจับต้องได้สำหรับรถญี่ปุ่นในไทย
-
ขอลดสเป็คพวก accesories เอาแค่เครื่องเบนซินเทอร์โบพอ แต่ราคาไม่เกินล้านได้ป่าว
-
จริงๆตอนนี้ altis 2.0 navi ก็เกือบๆล้านสองแล้วนะครับ
-
ฝ่ายการตลาดคงไม่คิดรถแบบนี้ออกมาแน่ๆ
จะขายได้กี่คันกันเชียว ???????????
ใน Rate ราคา 1.2 ล้าน พอเป็นไปได้
แต่ option คงมาไม่ทุกรายการ
ออกจะเพ้อฝันเกินไปซะหน่อยในความเป็นจริง
-
ถ้าครบ และ ชอบจริงๆ ก็ซื้อครับ
เพราะผมไม่ชอบรถใหญ่ขนาด D-segment เป็นทุนเดิม
อยากได้รถที่ design สวย วัสดุประกอบดี มีsunroof แบบ new Mazda3
ช่วงล่าง พวงมาลัย ใส่ล้อ 18 มาให้ แบบ lancer Ex
Technology และ Options ล้นๆ แบบ prius minor change
เครื่องแรง และ ประหยัดแบบ Focus TDCI
ถ้ามันรวมอยู่ในคันเดียวกัน และ ขาย 1.2-1.4 ล้าน ผมซื้อครับ
-
ราคาขนาดนี้ถ้าใจไม่รัก C-Segment จริงๆ
คนคงหันไปหา D-Segment หมดล่ะครับ
-
ดูความเหมาะสมเป็นหลัก เพราะ C-seq เป็นรถที่มีช่วงกว้างของราคาและกลุ่มผู้ใช้เยอะที่สุด
คือราคาตั้งแต่ 7แสนกลางๆ- 1.1ล้าน กลับอีกหมื่นนิดๆ
ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้ก็ขับได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เรียนมหาลัยยันคนปลดเกษียณ
ออฟชั่นที่เขียนมา ตัด
- 7" screen GPS
- Rain Sensor
- Bluetooth
- Panoramic Roof (หลังคาแก้ว)
ยังพอคุมราคาได้ไม่เกิน 1.1 ล้าน ได้อยู่
ส่วนเครื่องเทอร์โบอย่าไปหวังมาก ขอเทคโนโลยีไดเร็คอินเจ็คชั่นก่อนดีกว่า ยังพอจับต้องได้สำหรับรถญี่ปุ่นในไทย
และผมคิดว่า L12f น่าจะทำได้ ในราคา 1.09 ล้าน เครื่อง 16DDT, sunroof, airbag7, 7"DVD, GPS ผมว่านิสสันทำได้
อยู่ที่ว่า "เค้า" จะไฟเขียวรึปล่าว เท่านั้นเอง เพราะข้างในทราบว่าก็ "อยาก" เหมือนกัน :)
-
ถ้า Option ที่ว่า หมายถึงสมรรถนะการขับขี่ เช่น ได้ 300 แรงม้า เบรค Brembo และ Traction Control แจ่มๆ ก็น่าซื้อครับ
แต่ถ้าของตกแต่งจุกจิกก็ขอบาย เพราะผมชอบสนุกกับการขับมาก
-
ผมว่าตอนนี้
ALL NEW FOCUS ที่กำลังจะเปิดตัว
น่าจะใช่ที่สุด
แต่สุดท้ายคนไทยก็ ซื้อ พี่โต กับ พี่ฮอน อยู่ดีเหลาะ
-
ถ้าครบ และ ชอบจริงๆ ก็ซื้อครับ
เพราะผมไม่ชอบรถใหญ่ขนาด D-segment เป็นทุนเดิม
อยากได้รถที่ design สวย วัสดุประกอบดี มีsunroof แบบ new Mazda3
ช่วงล่าง พวงมาลัย ใส่ล้อ 18 มาให้ แบบ lancer Ex
Technology และ Options ล้นๆ แบบ prius minor change
เครื่องแรง และ ประหยัดแบบ Focus TDCI
ถ้ามันรวมอยู่ในคันเดียวกัน และ ขาย 1.2-1.4 ล้าน ผมซื้อครับ
+1 ครับ
-
ถ้าครบ และ ชอบจริงๆ ก็ซื้อครับ
เพราะผมไม่ชอบรถใหญ่ขนาด D-segment เป็นทุนเดิม
อยากได้รถที่ design สวย วัสดุประกอบดี มีsunroof แบบ new Mazda3
ช่วงล่าง พวงมาลัย ใส่ล้อ 18 มาให้ แบบ lancer Ex
Technology และ Options ล้นๆ แบบ prius minor change
เครื่องแรง และ ประหยัดแบบ Focus TDCI
ถ้ามันรวมอยู่ในคันเดียวกัน และ ขาย 1.2-1.4 ล้าน ผมซื้อครับ
+1 ครับ
อีก +1
-
ถ้าครบ และ ชอบจริงๆ ก็ซื้อครับ
เพราะผมไม่ชอบรถใหญ่ขนาด D-segment เป็นทุนเดิม
อยากได้รถที่ design สวย วัสดุประกอบดี มีsunroof แบบ new Mazda3
ช่วงล่าง พวงมาลัย ใส่ล้อ 18 มาให้ แบบ lancer Ex
Technology และ Options ล้นๆ แบบ prius minor change
เครื่องแรง และ ประหยัดแบบ Focus TDCI
ถ้ามันรวมอยู่ในคันเดียวกัน และ ขาย 1.2-1.4 ล้าน ผมซื้อครับ
+1 ครับ
อีก +1
+1 ด้วยครับ อยู่ที่ความชอบครับ สำหรับผม รถขนาด C-segment เหลือเฟือแล้ว
ถ้าเป็นรถที่ชอบ ราคานี้ได้ออปชั่นเต็มๆ จากโรงงาน ยังไงก็ซื้อ
-
ผมว่าคนซื้อมีน้อยครับ
ดูจาก C Secment ส่วนใหญ่จะขายดีในรุ่น 1.8 มากกว่า 2.0 เยอะ นั่นเป็นเหตผลที่ตอบเรื่องนี้แล้ว สิ่งนั้นคือราคา แต่ถ้าจะเพิ่มค่าตัวไปอีก 2-3 แสนบาท เพื่อ option ในขณะที่รถคันเท่าเดิม ผมว่าขายยากครับกว่าที่เป็นอยู่อีกครับ
-
ไม่ว่าจะ Segment A B C D
มันคือรถยนต์ในเกรดเดียวกัน คือ เกรด ตลาด หรือที่เรียกว่า Economy Car หรือ รถยนต์ใช้งาน สำหรับชาวบ้านทั่วไป
ซึ่งได้แยกรถออกเป้น กลุ่่ม ตามกำลังเงิน และ ความต้องการ
มันไม่ใช่ Luxury Car แต่อย่างใด
ดังนั้น การแบ่งเกรดรถ มันได้ถูกกฎและการตลาดของมันบีบเอาไว้
อย่าง Luxury car บางคัน ยังมีขนาดห้องโดยสารเล้กกว่า C segment มี
การแบ่ง segment จึงถูกจำกัดอยุ่ที่ราคารถ มากกว่า option
-
คงต้องขอศึกษาหรือรอดูจากค่ายอื่นๆก่อนหละครับว่าจะเป็นอย่างไร
แต่ผมเอนไปทางไม่ซื้อซะมากกว่านะครับ เพราะจริงๆแล้วถามว่า option ที่จัดเต็มมานั้นจำเป็นมากสำหรับผมไหม ผมว่าไม่จำเป็นครับ
-
Focus TDCI จัดให้หน่อย
-
สำหรับผม
Lancer EX ที่ราคา 794000
ได้ช่วงล่างระดับเดียวกับ D-segment ก้เพียงพอแล้ว
อิสระ สี่ล้อ ให้ความนุ่มนวล พอๆ กับรถ ยุโรษ
เหมือน Ford ตัวปัจจุบัน กับ ตัวใหม่ รวมถึง MAZDA 3 ที่หลายคนถูกใจในความ นิ่ง นิ่ม หนึบ ก็ใช้ ระบบช่วงล่าง อิสระสี่ล้อ
ในขณะที่ ALTIS ใช้ ช่วงล่างหลังไม่อิสระ ทำให้กระด้างกว่าชาวบ้าน
-
- เครื่องเบนซินเทอร์โบ/ดีเซลเทอร์โบ
สน
- เกียร์ 6-7 สปีด พร้อมโหมด +/-
ต้องเป็นเกียร์6-7สปีดแท้ ไม่ใช่ CVT ทด6-7สปีดหลอกๆ
- ESP
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยขับเร็ว เฉยๆกับอันนี้
- แอร์แบ็ค 6 ลูก
เหมือนESP
- 7" screen GPS
ต้องอัพเดทฟรี
- Rain Sensor
ตอนนี้มีแล้วนี่
- Bluetooth
เฉยๆ เพราะพกหูบลูทูธอยู่แล้ว
- Auto Headlight แบบ Bi-Xenon
สีต้อง4000-5000Kด้วยนะ 3800ถึงจะสว่างแต่ไม่สวย
- Panoramic Roof (หลังคาแก้ว)
พร้อมพัดลมระบายความร้อนที่ใช้โซลาร์เซลรึเปล่า?
- วัสดุการประกอบดีเทียบเท่ารถยุโรป
รถบ้านเราก็ประกอบโอเคนะ ของฮอนด้าแย่หน่อย
-
พวก Ford ก็ทีมพัฒนา และออกแบบจากยุโรษ ไม่นับเป็นรถยุโรษเหรอครับ
-
ไม่ซื้อครับ
แพงเกิน
-
ลองคิดว่า
คำนวนก่อน ว่าชีวิตส่วนใหญ่ อยู่กับรถมากน้อยแค่ไหน ให้ความสำคัญกับมันแค่ไหน
ถ้ามองรถเป็นพาหนะ ใช้เดินทาง ไม่ยึดติด ก็ไม่จำเ้ป็น
แต่ถ้าใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนรถ ออฟชั่นที่มีไว้ ได้ใช้งานจริงๆ ก็เอาครับ
สรุปเลยคือ สำหรับผม เกินความจำเป็น ไม่เอาครับ
-
ถ้าครบ และ ชอบจริงๆ ก็ซื้อครับ
เพราะผมไม่ชอบรถใหญ่ขนาด D-segment เป็นทุนเดิม
อยากได้รถที่ design สวย วัสดุประกอบดี มีsunroof แบบ new Mazda3
ช่วงล่าง พวงมาลัย ใส่ล้อ 18 มาให้ แบบ lancer Ex
Technology และ Options ล้นๆ แบบ prius minor change
เครื่องแรง และ ประหยัดแบบ Focus TDCI
ถ้ามันรวมอยู่ในคันเดียวกัน และ ขาย 1.2-1.4 ล้าน ผมซื้อครับ
+1 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
-
ดูออปชั่นหลักๆก็พอ สำหรับผม เช่น ความปลอดภัย เรื่องความสะดวกสะบายไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะมีไหมที่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เบรก ABS เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกรุ่น