Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ มกราคม 23, 2016, 00:05:40
-
ผมเห็นราคาของ Camry ใหม่ทีโดนภาษี 35% ทั้งที่ใช้เครื่องใหม่ เกียร์ AT 6 speed
ผมรู้สึกว่า ตอนนี้ ราคา D-seg มันเริ่มแพงเกินไปแล้วนะครับ
ถึงจะบอกว่า option มันเพิ่มมากขึ้นละ...แต่มันก็ไม่ได้มากขึ้นแบบชัดเจน และบางอย่างก็ไม่ได้ใช้เลย
ผมไม่รู้ว่าหวังไปมากไหม แต่อยากให้ทาง Toyota Nissan และ Honda ลองหาเครื่องยนต์ขนาดเล็กในค่าย
ที่ทำให้ CO2 ต่ำกว่า 150 และถ้าให้ดีเติม E85 ได้ด้วยครับ
เช่นอย่าง Camry ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะมี Camry เครื่อง 1.8CVT ที่อยู่ใน Altis 1.8
แรงม้าจะลดลงไปบ้าง อัตราเร่งลดลงไปบ้าง เหลือสัก 130-135 แรงม้าก็ได้
เพราะตอนนี้ผมว่า แรงม้าของ Camry ใหม่เยอะและแรง แต่บางคนที่ซื้อรถในกลุ่มนี้ ก็ไม่ได้ขับเร็วเท่าไหร่
ถ้าอัตราเร่งทำได้สัก 12 วิปลายๆ - 13 วิก็น่าจะพอแล้ว
แต่ถ้าทำราคาเหลือสัก 1.1-1.2 ล้าน โดยตัดลด option ไปบ้าง เช่น แอร์ออโต้ cruise control หน้าปัดเรืองแสง เบาะปรับไฟฟ้า ไฟหน้า Projector และ HID เป็นต้น แต่ช่วยคงพวก VSC ถุงลม 3-4 ใบด้วยครับ
น่าจะดีขึ้นสำหรับคนซื้อครับ ราคานี้ผมว่ามันคุ้มที่เราจะยอมจ่ายเพิ่มอีกนิด เพื่อเอารถ Segment สูงกว่า ภาพลักษณ์ดีกว่า
คิดอย่างไรกันครับ
-
ผมว่าถ้าใช้เทคโนโลยี ดาวน์ไซส์ซิ่ง จะดีกว่านะคับ รถระดับนี้น้ำหนักปาเข้าไปตันครึ่งเอาเครื่อง 1.8 มาลาก
เครื่องมันจะแบกภาระมากไปนะคับ ดีไม่ดีกินน้ำมันยิ่งกว่าเครื่อง 2.0 ซะอีก
(ดูจากบางรุ่นเครื่อง 2.4,2.5 ไม่ได้กินน้ำมันไปกว่าเครื่อง 2.0 เลยนะคับ)
แต่ถ้าเป็นเครื่องเล็กมีเทอร์โบก็ว่าไปอย่าง
-
แล้วอีกอย่างนะคับ ไอ่พวกอ๊อปชั่นทั้งหลายทั้งแหล่นี่ล่ะ ที่เป็นตัวยกระดับให้กับรถ D-Seg
-
ถ้าตัดออฟชั่นแบบนั้น ก็ไม่มีคนซื้อแล้ว
ออฟฃั่นพวกนั้นที่บ่งบอกความเป็น D seg เลยนะ อาย Eco car ครับ
-
ผมมองว่าเครื่องไม่จำเป็นต้องลงไปต่ำกว่า 2.0 ก็ได้ เพราะถ้าเครื่องเล็กเกินมันอาจจะเลยจุดสมดุลของขนาดเครื่อง-น้ำหนักรถเกินไป
เอาที่เครื่อง 2.0 นั่นแหล่ะเป็นตัวตั้ง แล้วใส่ระบบเทอร์โบดีๆ เพิ่มกำลังเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ให้ดี ทำให้ค่า CO ต่ำๆก็พอเป็นไปได้แล้วครับ
-
เครื่องเล็ก ตัวถังหนัก ต้องขยี้คันเร่งมาก สุดท้าย CO2 ไม่ได้ลดลง
เว้นแต่เครื่องเล็กมีโบ ก้ออีกเรื่อง
-
เรื่องออกรุ่นออพชั่นโล้น เค้าพิสูจน์มาแล้วว่ามันชายไม่ดีครับ
เมื่อก่อนทั้ง Camry, Accord, Teana มีรุ่นโล้นถ้วนหน้า คนไปซื้อตัวแพงกว่าเกือบหมด
-
เรื่องออกรุ่นออพชั่นโล้น เค้าพิสูจน์มาแล้วว่ามันชายไม่ดีครับ
เมื่อก่อนทั้ง Camry, Accord, Teana มีรุ่นโล้นถ้วนหน้า คนไปซื้อตัวแพงกว่าเกือบหมด
+1 ครับ
สมัยก่อนมี 2.0E เบาผ้าทั้ง Camry Accord เลย แต่แทบไม่เคยเห็นตามท้องถนน
-
ผมว่า Options มันมีส่วนให้ D-Seg คือ D-Seg ครับ ตัดออกหมดจะอาย Eco-Car เอาครับ
ส่วนเครื่องมันต้องมีจุดสมดุลของน้ำหนักตัวรถด้วย เพราะ 2.0 NA ลากน้ำหนักตันครึ่งนี่ก็โหดสำหรับเครื่องระดับนึงละครับ
เคยลองนั่ง 4 คน เครื่อง 2.0 วิ่งไม่ออกและเร่งแซงเหนื่อยครับ
-
ถ้าจะให้ลด cc ลงมา ต้องพ่วงเทอร์โบ ด้วยครับ ไม่งั้นไม่ไหวแน่นอน รถพวกนี้มันหนักนะ แล้วถ้านั่งเต็ม 5คน+สัมภาระ น้ำมันเต็มถัง ผมว่าหืดจับแน่นอนเลย เพราะฉะนั้นให้มันเกิน 2000cc เถอะครับดีแล้ว แค่พัฒนาให้มันเจ๋งกว่าเดิมลดค่าไอเสียก็พอ ผมเชื่อว่า ญี่ปุ่นเค้าทำได้นะ
-
ถ้าคุณจขกท. ได้ลองใช้ชีวิตกับ D-Segment ตัว 2.0 ซักรุ่นในตลาด ผมเชื่อว่าคุณจะลืมความคิดนี้ไปเลย
อย่างที่คุณ napaswar อธิบายไป ถ้าฟูลโหลดเมื่อไหร่ จะลำบากชีวิตขึ้นมาทันที ไม่ต้องคนขับเร็วหรอกครับ คนขับชิลล์ๆ สบายๆ ยังมีบ่นในความอืดเวลาต้องการแซงแบบทันด่วน กดจมมิดไปเถอะ ต้องมีเผื่อระยะกันไกลๆ ขนาดขับในเมือง จะยูเทิร์น แล้วต้องเร่งหนีทางตรง มีปาดเหงื่อเลยทีเดียว ผมว่าพวก B-Segment ฟูลโหลด ยังโอเคกว่าเลยนะ อย่างว่าพิกัดนี้ ทำมาสำหรับขับเย็นใจ ออกงาน สร้างภาพลักษณ์ในเมืองเท่านั้นเอง
สรุป ถ้าจะมีทางเลือกเพื่ม คงต้องเป็นดาวน์ไซส์ซิ่ง สถานเดียวครับ
-
12 วิปลายๆ-13วิ มันอัตราเร่ง ecocar เลยนะครับ
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนต้องการอัตราเร่งที่เร็วมาก แต่เชื่อว่าทุกคนที่ซื้อ d seg ก็ต้องคาดหวังว่ามันจะขับสบายนั่งสบายไม่กระฉาก
การที่เครื่องมีกำลังสูงมันช่วยให้รถขับสบายด้วยนะครับ เหมือนเราแตะคันเร่งนิดๆหน่อยก็แซงได้ แทนที่จะต้องไปเค้นมันอย่างที่ต้องเค้นรถเล็ก
-
อยากได้เครื่องต่ำกว่า 2.0 คงต้องพึ่งเทอร์โบละครับ ถ้าเครื่อง 1.8 กำลังเครื่องไม่น่าจะพอแน่ นึกภาพ Freed 1.5 ได้เลย เร่งแซงทีมีลุ้น
-
เห็นด้วยครับ แต่อยากให้ downsizing มากกว่า คือให้เครื่องเล็กลง แต่กำลังเท่าเดิมหรือมากกว่า
-
ใส่เครื่องอะไร ไม่สำคัญครับ ที่สำคัญคือ "แรงบิด"
ทำได้ 2 แง่ คือ
1. เพิ่มกำลังอัด
2. พ่วงเทอร์โบ
ทุกวันนี้ ตัวถังขนาด D-Segment ถ้าเอาแบบขับแล้วไม่หงุดหงิด ต้องแรงบิด 200 NM ขึ้นไป
ถ้าเครื่อง 1.4 - 1.6 มีหอยตัวเล็กๆซักตัว ผมว่าทำได้ไม่ยาก
ประเด็นคือ ไม่มีใครทำ เพราะมันไม่ไหว เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าอีกหลายๆกลุ่มที่เป็นบริษัท
เน้นว่าต้องง่าย ต้อง simple ซึ่งหลายเป็นว่ามันเป็นการสร้างภาระให้บ.ซะเอง
-
ถ้าต่ำกว่า 2.0 แล้วไม่มี ระบบอัดอากาศมาช่วย ขับแล้วลำบากชีวิตแน่ๆๆ ขนาด เครื่อง 2.3/2.4/2.5 นั่ง 2-3 คน ขับยังเหนื่อยเลยจ้าาา
-
คนไทยยังติดค่านิยมรถ CC อยู่นะครับ
D-Seg 2.0 ยังไงก็ขายดีที่สุด
เว้นแต่ว่า หากมี 1.8 มาให้เลือกอีกตัว ก็ต้องดูกันไป ว่ายอดขายจะเป็นเช่นไร
หรือเอา 1.5 เทอร์โบ ขายพร้อมกับรุ่น 2.0 แล้วตั้งราคาให้เท่าๆ กัน ไม่หนีกัน
แล้วมาดูผลภาพรวมยอดขายกันดีกว่า ว่าทิศทางไปทางไหน
-
D-seg ไม่สมควรตัด optionอย่างยิ่งครับ เพราะมันเป็นจุดขายของรถพิกัดนี้รองจากควางสบายในการโดยสารทีเดียว
ส่วนเครื่อง 1.8 CVT ผมคิดว่าคงลากตัวถังcamryไม่ไหวหรอกครับ ถึงมันจะอยู่ในตัวถังของaltisแล้วจะทำให้อัตราเร่งดีเป็นอันดับต้นๆก็เถอะ
แต่ถ้าเป็น 1.5-1.6 เทอร์โบนี่ก็ไม่แน่ครับ
-
ก่อนอื่นต้องเข้าใจนิสัยของเครื่องเบนซินก่อนครับ มันไม่ใช่เครื่องที่ให้กำลังในรอบต่ำได้ดีแบบดีเซล ฉะนั้นถ้าดาวน์ซีซีลงมามีผลต่ออัตาเร่งแน่นอนครับ สู้ไปพัฒนาใส่เทอร์โบกับพัฒนาเกียร์ดีกว่า
รถยุโรปที่มันแรงมันไม่ใช่ว่า ยัดเทอร์โบแบบทวินสกอร์ล เข้าไปแล้วมันแรงเลยชุดเกียร์ก็มีส่วนอย่างมาก
-
เกรงว่า 1.8 จะเล็กเกินไปสำหรับรถขนาดนี้น่ะสิครับ
CO2 อาจจะยังเกิน 150 อยู่เพราะลากตัวถังหนักมาก จนไม่ประหยัดอย่างที่ควร
ถ้าจะลดขนาดต้องพึ่งเทอร์โบชาร์จเจอร์ด้วย เพื่อให้กำลังเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม
แบบนั้นอาจมีลุ้น
-
ถ้าเครื่องเล็กลงมีกรณีเดียวที่เหมาะ คือ ติดเทอร์โบ ช่วย
1.8 Turbo
1.5 Turbo
ก็ว่ากันอีกเรื่องครับ
-
อะไรก็ได้ครับ ขอให้ประหยัดฐานภาษีกว่านี้หน่อยครับ
ไม่ใช่โดน 35% แบบนี้คนซื้อหมดกำลังใจจริงๆ ครับ
-
+ความทนทาน การดูแลรักษา ความประหยัดน้ำมัน ด้วยครับ
ถ้าทำออกมาจนเป็น STANDARD ใหม่ จนมีใช้มากมายก่ายกอง แพร่หลาย
มีความเสี่ยงลดลง ค่าใช้จ่ายลดลงจนระดับรับได้ อันนี้น่าลองครับ
ปล.
ถ้ามีเกียร์ M/T ด้วยจะดีมากครับ
(ราคาการโอเวอร์ฮอนเกียร์ AUTO หลายๆรุ่นสมัยนี้ก็ยังมีราคาสูงทีเดียวครับ)
-
บางทีภาพลักษณ์อาจจะไม่ได้หมายถึงรูปร่างหน้าตาและขนาดเช่น D segment นะครับ
อาจจะเป็น Value added ที่รวมเข้าไปก้อได้นะครับที่ทำให้มันมีภาพลักษณ์เกิดขึ้น
อาทิเช่น รถยุโรปบางยี่ห้อคันเล็กนิดเดียว ออฟชั่นก้อน้อย ขับก้อไม่ได้ดี แต่แปะยี่ห้อหรูๆเข้าไป ภาพลักษณ์ดีทันที ;D ;D
บางทีคนเราก้อเลือกที่ค่าการตลาดมากกว่าค่าของสินค้าจริงๆ....
-
ทางออกที่เป็น ลดซีซี เพิ่ม turbo สำหรับ D-segment เพื่อให้ราคาถูกลง และ แรงเท่าเดิม
ในระยะอันใกล้ ผมว่า ยังทำไม่ได้
เพราะ แพงที่เทคโนโลยี ที่เพิ่งลงไป ต้องขอเวลาคืนทุนก่อน
ยังไม่ค่อยเห็น มีรถยี่ห้อไหน รุ่นไหน ที่ทำ เครื่อง ซีซีน้อย + หัวฉีดตรง + turbo แล้ว ราคาถูกกว่า เครื่อง CC สูง
ถ้าเป็น ดีเซล อาจจะเป็น isuzu dmax 1.9L ที่ทำราคาได้ไม่แพงกว่าปกติมากนัก
-
ค่านิยมบ้านเรานะ ชอบ HIGH ชอบ TOP ไปดู สเปค CAMRY INDIA งง
โลนมาก แต่ที่นู้นเน้นถูกและแค่ใช้เดินทาง (สเปค ตัว 2013)
บ้านเราน่าจะยากที่จะให้ตัด ออฟชั่น และ ขายแค่ 1.1-1.2 คงยากที่ กลุ่มคนซื้อจะยอมรับได้
ส่วนเครื่อง 1.8 คงไม่ไหว 2.0 เวลาออกตัวยังช้าเลย
ถ้าเล็กคงต้องมีพ่วงโบ
แต่ผมก็หวังว่าจะเห็น ออฟชั่นที่คุ้มค่ากับราคามากกว่า
-
ยังไม่ถึงเวลาครับ แค่ 2.0 ปัจจุบันยังแทบลากตัวถังไม่ไหว ขนาด 2.0D-4S ของ Toyota 160 กว่าแรงม้ากับ 2.0 165 แรงม้าของ Sonata ยังทำอัตราเร่ง 0-100 11 กว่าวิอยู่เลย แพ้ Altis 1.8 หลุดลุ่ย
เล็กสุดผมว่าควรจะลงไปแค่ 1.8 และมีเทอร์โบ เช่น Superb และเล็กกว่านั้นอย่าเอามาใส่เลย
-
ไม่ไหวครับ 2.0ยังอืดบรม
ถ้าจะดาวไซต์ซิ่งยังไงก็ต้องมีโบมาช่วยหล่ะ
ของฮอนด้ากับนิสสันมีแล้วแต่ดูทรงคงจะไม่ลงในรถเซ็กเม้นนี้แน่ๆ ของโตต้าไม่แน่ใจ
ส่วนรุ่นต่ำเมื่อก่อนก็มีนะครับ Camry 2.0e Teana200XE ผมเจออย่างละคันเอง(มี L33 แหละ ที่เห็น 200EXบ่อยหน่อย)
Accord G8 MC 2.0e ก็ขายไม่ดี คนไปเล่น 2.0el หมด จนโมเดลใหม่ทั้ง3ค่ายก็เลยต้องตัดรุ่นล่างสุดทิ้งไปยกเว้นL33
-
ใช้ D Seg 2.0อยู่ครับ มันเหมาะสมระดับนึงแล้วครับ
อืดพอรับได้ถ้านั่งเต็ม. Option มีพอเพียง
ถ้าลดเครื่องลดสเปก ผมยอมเพิ่มเงินไปเอาตัวที่ดีกว่า
ถ้ากังวลเรื่องราคา ผมว่าไปขอร้องให้ บ รถยนต์ลดกำไรดีกว่านะ ซึ่งคงจะยาก
หรือไม่ก็ซื้อตอนที่พร้อมครับ ถ้ากังวลกับเงิน1.2-1.3 ล้านผมว่าคุณยังไม่พร้อมนะ เห็นเคยถามเรื่องบำรุงรักษาอีก
-
ส่ง ฮอล คูล ไป
เอ้ย ส่ง 1.6 Turbo , 1.8 Turbo
-
ให้ใส่เครื่องต่ำกว่า 2.0 ลงใน d segment นี่ผมว่าจะขายไม่ออกเอาครับ เว้นแต่จะมีระบบอัดอากาศหรือไฟฟ้ามาช่วย นั่งขับคนเดียวไม่เท่าไหร่แต่อัด ผดส เต็มรถบวกสัมภาระนี่เหงื่อตกเลยครับ
-
จากคนที่ขับ D-Seg ครับ ขอแยกประเด็นนะครับ
เครื่องขนาดเท่าไหร่ไม่สำคัญ จะขับไม่เร็วก็ไม่สำคัญครับ
แต่ที่สำคัญคือแรงบิดเพื่อการออกตัวและเร่งแซงครับ
ถึงขับช้าอย่างไร ก็ต้องออกตัว และต้องแซงครับ รถระดับนี้ไม่ต้องการเครื่องใหญ่เพื่อเร็วครับ แต่เพื่อแรงบิดครับ
เรื่องที่จะลดขนาดเครื่องลง คงต้องให้รุ่นที่เล็กกว่าลงไปก่อนครับ แล้วรถใหญ่ถึงจะลงตาม
เช่น Civic เลิก 1.8 และ 2.0 เหลือแต่ 1.5 Turbo เมื่อไหร่ -> Accord ก็คงลงมา 1.8 Turbo ได้อย่างไม่น่าเกลียดครับ
-
ถ้าหมายถึง D-seg รถญี่ปุ่น
น้ำหนักรถใกล้เคียงกับ F30
ผมปรารถนาให้มีเครื่องดีเซลทวินเทอร์โบแบบรถยุโรป
ได้อัตราเร่ง ความประหยัดแบบ F30 ดีเซล จะเป็นอะไรที่น่าใช้ขึ้นมาก
-
ถ้าเครื่องเล็กแต่แรงผมยอมรับได้ แต่อืดขับแล้วอารมณ์เสีย ผมคงยอมจ่ายเงินเยอะกว่าเพื่อเครื่องตัวใหญ่ครับ
-
ผมว่าเครื่อง 2.0 แต่+เทอร์โบ และก็ทำให้ CO2 ต่ำลงก็น่าจะพอแล้วครับ
-
น่าจะเปลี่ยนเป็น ถึงเวลาใส่เทอร์โบ มาได้รึยัง นะครัช
-
เป็นมุมมอง และความคิดที่ดีครับ
แต่นี่คือความแตกต่างทางความคิดของผู้ผลิต กับ ผู้บริโภค มันมักจะสวนทางกันซึึ่งเป็นเรื่องปกติของการค้าครับ
-
2,0 D4S ในเมืองขับคนเดียว ok ครับไปเรื่อยๆ แต่ถ้า นั่งเต็มคัน นี่อืด เลยครับ
เพราะว่ารถมันมี แรงม้าเยอะขึ้นก็จิง แต่แรงบิดมันแทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไรเลย
ผมว่า ถ้าให้ลงไปใช้เครื่อง 1.8 NA คงไม่ไหว ถ้า 1.8 หรือ 2.0 แล้วพ่วง light turbo เข้ามาน่าจะดีกว่า...
-
Honda Accord Hybrid ก็เครื่อง 2 ลิตรนะครับ แรงด้วย ประหยัดด้วย ลืมไปหรือเปล่า
-
ถ้าเอา1.8อัลติสมาลง นี่ผมว่าไม่ไหวครับ ขนาด2.0 ยังลากกันเนือยๆกินน้ำมันพอกะตัว2.4 2.5ด้วยซ้ำสำหรับบางรุ่น
แต่ถ้าเป็น1.8 turboแบบที่หลายท่านบอก ผมว่าโอเคนะ พัฒนาให้ดีๆทนๆับเทอร์โบได้ดี แรงสู้เครื่องใหญ่ได้ ขับช้าๆก็ประหยัดแบบเครื่องเล็กก็น่าสนใจดีนะครับ
-
แพงไปก็อย่าไปซื้อครับ ให้เป็นโจทย์ของ OEM เองว่าต้องทำยังไง จะลดราคา หรือลดขนาดเครื่องยนต์ ก็แล้วแต่
-
นอกเรื่องนิด
ผมว่าเรื่อง down sizing นี่ยุโรปมาเหนือมากเลยนะครับ แผนการตลาดดูง่ายๆแต่วางมาดีมาก
ลดขนาดเครื่องยนต์ลง แต่คงตัวเลขรุ่นไว้เหมือนเดิม โดยพยายามอัดแรงม้าซึ่งเป็นจุดที่คนส่วนใหญ่ใช้ตัดสินใจ ให้เท่ากับรหัสเครื่องเดิมที่ใหญ่กว่า
พอคนซื้อชินแล้วงานนี้ก็ง่ายละครับ เอาเครื่องเดียวกัน ปรับแรงม้าต่างกัน ใช้มันตั้งกี่รุ่น
ในขณะที่ค่ายญี่ปุ่นยังใช้แบบ เครื่องกี่ซีซี ใส่เลขมันเท่านั้นเลย
สมมติเกิดทำ camry 1.6 195 แรงม้าออกมา ตั้งชื่อแค่ camry 1.6 ด้วยค่านิยมตลาดเมืองไทย ขืนใส่แบบนั้นขายไม่ออกแน่ครับ
ส่วนออพชั่นนี่ ถ้าอยากขายได้ อย่างน้อยต้องมีมากกว่ารถระดับล่างล่ะมั้งครับ
-
เรื่องออกรุ่นออพชั่นโล้น เค้าพิสูจน์มาแล้วว่ามันชายไม่ดีครับ
เมื่อก่อนทั้ง Camry, Accord, Teana มีรุ่นโล้นถ้วนหน้า คนไปซื้อตัวแพงกว่าเกือบหมด
ผมนึกถึง Teana j31 รุ่น JK เครื่องเล็กลงมา แอร์ออโต้แบบมือหมุนไม่แยกฝั่ง ดูไม่เข้ากับรถซักเท่าไหร่ มองแล้วขัดใจ 555 กับราคาที่ลดหลั่นลงมากว่าแสนบาท