Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: reyeshenry ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2016, 20:01:27
-
ตร.เข้ม! จับจริงผู้ใช้ไฟซีนอน "ผิดกฎหมาย" สร้างความเดือดร้อน เกิดอุบัติเหตุบ่อย"
"27 กุมภาพันธ์ 2559 11:48 น."
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378491512/
(http://f.ptcdn.info/470/040/000/o37gy17s0ssB7w7OiEg-o.jpg)
"พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบก.จร. กล่าวว่า ผู้ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างจ้ากว่าปกติหรือ ที่เรียกไฟซีนอนเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นหลอดไฟที่วิวัฒนาการมาจากหลอดไฮโดรเจน แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะเห็นว่าเป็นโคมและมีหลอดไฟในลักษณะแหลมตรงกลาง ถ้าเป็นอดีตจะเป็นไฟสีเหลือง หลังจากที่เป็นโคมไฮโดรเจนความสว่างไม่เพียงพอ จึงมีการพัฒนาหลอดส่องสว่างเข้ามาใหม่ หรือที่เรียกว่าหลอดซีนอน ซึ่งต้องมีบาลาสต์ที่มีความเข้มของแสงมากกว่าไฮโดรเจนถึง 2 เท่า ในช่วงหนึ่งมีบางคนต้องการให้ไฟหน้ารถตัวเองสว่างจึงไปซื้อหลอดซีนอนมาใส่ในโคมไฮโดรเจน ปัญหาคือโคมไม่ได้ออกแบบมาทำให้เวลาผู้ใช้รถใช้ถนนสวนทางมาจะส่องกระทบหน้าและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์ ม.12 อัตราโทษปรับไม่เกิน 2,000บาท ซึ่งตำรวจได้เข้มงวดกวดขันจับกุมอยู่ โดยเป็นการตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำผิดกฎจราจร"
แต่ถ้าเป็นหลอดซีนอนจะมีโคมไฟรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาแพงจะเป็นไฟกลมๆ จะมี 2 แบบคือติดตั้งมาจากโรงงาน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้ใช้ได้ เพราะเลนจะรวมแสงไม่ให้กระจายไปกระทบต่อรถที่สวนทางมา กับอีกส่วนหนึ่งคือผู้ใช้รถใช้ถนนไปเปลี่ยนโคมไฟโปรเจคเตอร์ เพื่อให้ใช้งานกับหลอดซีนอนได้ ผู้ที่ทำในลักษณะนี้ต้องเอารถไปตรวจกับนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบกในพื้นที่ๆมีทะเบียนอยู่ ตามมาตรา 14 แก้ไขดัดแปลงสภาพรถ หลังจากที่นายทะเบียนตรวจแล้วไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ทางนายทะเบียนจะอนุญาตแล้วบันทึกไว้ในสมุดคู่มือจดบันทึกแล้วใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย " รองผบก.จร. กล่าว
นอกจากนี้รองผบก.จร. ยังกล่าวอีกว่า ในอดีตผู้ที่ใช้ไฟซีนอนจะมีราคาแพงเป็นหลักหมื่นบาท ช่วงนั้นมีการกระทำผิดจำนวนมาก ตำรวจก็พยายามจับกุม หลังจากเริ่มมีการกวดขันจับกุมไปเรื่อยๆ ประกอบกับเลนโปรเจคเตอร์ที่สั่งมาจากต่างประเทศที่มีราคาถูกไม่กี่พันบาท ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ไปซื้อโคมโปรเจคเตอร์มาใส่ ผู้ที่ทำลักษณะนี้ก็ลดลง ถ้าไม่ขออนุญาตนายทะเบียนก็ถือว่ามีความผิด ซึ่งส่วนใหญ่ที่มีปัญหาจะเป็นรถที่ขับอยู่ต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพมหานคร เพราะต้องใช้ไฟสว่างมากเป็นพิเศษ จึงพบผู้กระทำผิดจำนวนมากกว่า
จากข้อมูลของกองบังคับการตำรวจจราจร พบว่า เมื่อปี 2557 มีผู้กระทำผิดกฎจราจรรวมถึงดัดแปลงไฟซีนอนมีจำนวน 1.3 ล้านราย ปี 2558 มีผู้กระทำผิดกฎจราจรจำนวน 1.4 ล้านราย เฉลี่ยเดือนละ 1แสนราย แต่ผู้ที่มาจ่ายค่าปรับตามกฎระเบียบมีเพียง 4 แสนราย ซึ่งถือว่ามีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับการออกใบสั่ง ถือว่าเป็นปัญหาที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรจะต้องแก้ไข
ด้านนายรักษิต ฐิติพัฒนพงศ์ เครือข่ายนักวิชาการ เพื่อความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า "ไฟซีนอน (Xenon) หรือที่เรียกว่า HID (HYPER INTENSITY DISCHARGE) มีความสว่างมาก ก่อให้เกิดอันตรายกับรถที่วิ่งสวนไปมา เนื่องจากแสงไฟซีนอน กระทบกับผู้ขับขี่ในระดับสายตา มีค่าส่องสว่างเกินมาตรฐาน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ที่ใช้ทางร่วมกันในยามค่ำคืน และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อลำแสงที่ส่องออกจากไฟแต่งที่แรงเกินเหตุพุ่งเป็นลำสาดส่องเข้าไปแยงสายตาของรถยนต์ที่แล่นสวนทางมา ซึ่งรถยนต์หลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นใหม่ที่มีราคาสูงจะติดตั้งไฟซีนอนและไฟแอลอีดีมาจากโรงงาน จะไม่เกิดปัญหาเพราะทางวิศวกรได้ออกแบบควบคุมออกมาให้เป็นไปตามข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก ส่วนที่มีปัญหาคือกลุ่มที่นำรถยนต์ไปดัดแปลงทีหลัง โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถกระบะและรถยนต์ส่วนบุคคล สำหรับข้อกำหนดในการติดตั้งไฟหน้ารถมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องต่ำ ส่องไปแล้วมองเห็นในระยะ 30 เมตร และไฟสูงในระยะ 100 เมตร จะไม่เป็นการรบกวนสายตาผู้อื่น
"ต้องมีการดูต่อไปถ้ามีการดัดแปลงแล้วใครจะเป็นผู้ตรวจสอบว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของสถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือตรอ.ไหม ก็ต้องมีการตรวจสอบตรวจวัดว่าใครจะเป็นผู้ดูแล หรือเป็นขนส่งเอง หรือจะให้ตำรวจเป็นผู้ดูแล เป็นเรื่องที่ต้องมีการตกลงกัน" นายรักษิต ระบุ
นอกจากนี้เครือข่ายนักวิชาการ เพื่อความปลอดภัยทางถนน ยังระบุถึงมาตรการการติดตั้งไฟซีนอนดังกล่าว อยากให้หน่วยงานที่ติดตั้งดัดแปลงต้องเข้าใจว่า การดัดแปลงถ้าในมุมมองผู้ตรวจสอบทางยานยนต์แล้วถือว่ามีความผิดแน่นอน แต่ถ้าจะติดตั้งแล้วให้ธุรกิจเกิดขึ้นอาจต้องมีการสร้างระบบตรวจวัดตรวจสอบมาตรฐานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้อื่น แต่ต้องมานั่งเจรจากันว่าใครจะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ แล้วมีการยื่นจดทะเบียนดัดแปลงอย่างไร พร้อมทั้งอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติรถยนต์บางข้อที่ยังล้าสมัยอยู่ เพื่อให้เกิดการปรับปรุงตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
"อุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์ทางโรงงานทำมาดีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่น่าจะดัดแปลง เพราะการดัดแปลงอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นได้ รวมถึงระบบไฟฟ้าจะเสียหายและเกิดไฟไหม้ได้ในที่สุด " นายรักษิต กล่าว
ขณะที่ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างจ้ากว่าปกติหรือไฟซีนอนที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในสังคมไทย เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ขณะขับรถสวนทางมาหรือขับตามหลัง ทำให้สายตาพร่ามัวปรับแสงได้ไม่ทัน จึงอยากเรียกร้องให้เพื่อนร่วมทางใช้ไฟที่ติดตั้งเดิมๆมาจากโรงงานจะเป็นผลดีและได้มาตรฐานที่สุด ไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงให้รถเกิดความสวยงามหรือความสว่างจ้าเกินกว่าปกติ เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น
ตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 ระบุว่า ให้ใช้ไฟสีขาว หรือสีเหลืองเท่านั้น หากไปใช้ไฟสีอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ในขณะที่ไฟเลี้ยวหน้า กำหนดให้ใช้สีขาว หรือสีเหลืองทั้งสองข้าง ซ้ายและขวาต้องเป็นสีเดียวกัน ส่วนไฟเลี้ยวด้านท้ายรถ กำหนดให้ใช้ไฟสีเหลือง หรือสีแดงก็ได้ แต่ห้ามใช้สีขาวอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ พ.ร.บ.จราจรทางบก กำหนดให้ไฟหน้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทุกชนิดที่ใช้งานบนท้องถนน จะต้องมีแสงสีขาว หรือเหลืองอ่อน (ค่า K ไม่เกิน 12,000 K เต็มที่) ติดตั้งสูงจากผิวทางไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร ซึ่งความสว่างของแสงไฟสามารถส่องทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจน และไม่เอียงไปทางขวาจนรบกวนสายตาผู้อื่น ส่วนการดัดแปลงไฟหน้ารถให้เป็นแสงสีอื่น หรือทำให้มีความสว่างจ้ามากจนเกินไป เมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนน จะสะท้อนเข้ากระจกมองข้าง หรือกระจกมองหลังของผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้า หรือส่องเข้าตา ผู้ขับขี่ที่ขับสวนทางมา ทำให้สายตาพร่ามัว จนอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้จากแสงไฟที่แรงเกินค่ามาตรฐานของทางการ ซึ่งผู้ที่ใช้รถที่เพิ่มส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไปจนก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อื่น มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) ออกตามความ พ.ร.บ.จราจรฯข้อ 1 รถทุกชนิดที่อยู่ในความควบคุมของกฎหมาย ว่าด้วยการขนส่งทางบกต้องมีโคมไฟตามประเภทและลักษณะที่กำหนด ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกข้อ 2 รถยนต์ต้องมีโคมไฟหน้ารถและโคมไฟท้ายรถ ดังต่อไปนี้
(1) โคมไฟหน้ารถมี 3 ประเภท คือ(ก) โคมไฟแสงพุ่งไกล ให้ติดหน้ารถข้างละหนึ่งดวงสูงจากพื้นทางราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาวมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ มีแสงสว่างให้เห็นพื้นทางได้ชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร ศูนย์รวมแสงต้องไม่สูงกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบ และไม่เฉไปทางขวา ในกรณีที่เป็นรถยนต์สามล้อให้ใช้โคมไฟประเภทนี้เพียงดวงเดียวโดยติดไว้ที่กลางหน้ารถ(ข) โคมไฟแสงพุ่งต่ำ ให้ติดหน้ารถข้างละหนึ่งดวง สูงจากพื้นทางราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาวมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ มีแสงสว่างให้เห็นพื้นทางได้ชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตร ศูนย์รวมแสงต้องอยู่ต่ำกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบไม่น้อยกว่า 2 องศา หรือ 0.20 เมตร ในระยะ 7.50 เมตร และไม่เฉไปทางขวา ในกรณีที่เป็นรถยนต์สามล้อให้ใช้โคมไฟประเภทนี้เพียงดวงเดียว โดยติดไว้ที่กลางหน้ารถ(ค) โคมไฟเล็ก ให้ติดหน้ารถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โดยให้อยู่ด้านริมสุดแต่จะล้ำเข้ามาได้ไม่เกิน 0.40 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง มีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 10 วัตต์ และต้องมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร โคมไฟแสงพุ่งไกล โคมไฟแสงพุ่งต่ำ และโคมไฟเล็ก จะรวมอยู่ในดวงเดียวกันก็ได้
(2) โคมไฟท้ายรถ มี 3 ประเภท คือ(ก)โคมไฟท้าย ให้ติดท้ายรถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงแดดมีกำลังไฟเท่ากัน และมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร(ข) โคมไฟหยุด ให้ติดท้ายรถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงแดดมีกำลังไฟเท่ากัน และมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตรค) โคมไฟส่องป้ายทะเบียนรถ ให้ติดท้ายรถ ใช้ไฟแสงขาวส่องที่ป้ายทะเบียนรถ มีแสงสว่างสามารถมองเห็นเครื่องหมายหรือตัวอักษรและตัวเลขได้ชัดเจน จากระยะไม่น้อยกว่า 20 เมตร แต่ต้องมีที่บังมิให้แสงพุ่งออกไปทางท้ายรถโคมไฟท้าย โคมไฟหยุด และโคมไฟส่องป้ายทะเบียนรถต้องส่องแสงสว่างพร้อมกับโคมไฟหน้ารถ แต่โคมไฟหยุดต้องส่องแสงสว่าง เมื่อใช้ห้ามล้อเท้า"
-
ขอให้เข็มงวดกันจริงๆครับ แสบตามากเลย
-
ตร.เข้ม! จับจริงผู้ใช้ไฟซีนอน "ผิดกฎหมาย" สร้างความเดือดร้อน เกิดอุบัติเหตุบ่อย"
"27 กุมภาพันธ์ 2559 11:48 น."
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378491512/
(http://f.ptcdn.info/470/040/000/o37gy17s0ssB7w7OiEg-o.jpg)
"พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบก.จร. กล่าวว่า ผู้ที่ติดตั้งไฟส่องสว่างจ้ากว่าปกติหรือ ที่เรียกไฟซีนอนเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นหลอดไฟที่วิวัฒนาการมาจากหลอดไฮโดรเจน แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะเห็นว่าเป็นโคมและมีหลอดไฟในลักษณะแหลมตรงกลาง ถ้าเป็นอดีตจะเป็นไฟสีเหลือง หลังจากที่เป็นโคมไฮโดรเจนความสว่างไม่เพียงพอ จึงมีการพัฒนาหลอดส่องสว่างเข้ามาใหม่ หรือที่เรียกว่าหลอดซีนอน ซึ่งต้องมีบาลาสต์ที่มีความเข้มของแสงมากกว่าไฮโดรเจนถึง 2 เท่า ในช่วงหนึ่งมีบางคนต้องการให้ไฟหน้ารถตัวเองสว่างจึงไปซื้อหลอดซีนอนมาใส่ในโคมไฮโดรเจน xxx
เอิ้กๆ
หลอดไฮโดรเจน
55
จับคนเขียนข่าวเอาไปอบรมวิชาวิทยาศาสตร์ก่อนดีไหม
-
สนับสนุนครับ เดือดร้อนกันทั่วบ้านทั่วเมือง
-
HYDROGEN เอิ่ม.....คือ
-
Halogen รึเปล่าาา
-
พวกเปิดไฟตัดหมอกยามไม่จำเป็นด้วยนะครับ
-
นึกถึงเรื่องนี้แล้วตลก เมื่อหลายปีก่อนก็เข้มงวดกันไปพักนึง
วันนั้นผมแวะปั้มจอดรถเติมน้ำมัน แล้วก็ขับรถออกจากปั้มมาปกติ พอดีช่วงใกล้พลบค่ำผมก็เลยเปิดไฟหน้า
เผอิญมีด่านตั้งอยู่ใหญ่โตเลย คนที่มีรถไฟซีน่อนคงจะทราบกันดี ช่วงจังหวะเบิร์นหลอดไฟ สีของไฟจะออกฟ้าๆเข้มๆ ตำรวจคงเห็นพอดี เลยเรียกทำมือให้หยุดรถ พร้อมกับชี้ให้ผมไปจอดข้างทาง แล้วเดินไปมองที่ไฟหน้ารถผมอีกครั้ง แล้วก็ทำหน้างงๆ ?? สักพักพี่แกก็อุทานว่า อ้าว! เมื่อกี้ยังเป็นสีฟ้า ทำไมตอนนี้เป็นสีขาว ดัดแปลงไฟหน้ารถมาหรือเปล่าครับ ?
วันนั้นจำได้ว่าผมขับ D-Max รุ่นไฟหน้า xenon จากโรงงานไป 5555
-
ขอให้อานิสงค์ครั้งนี้จงมีแด่ผู้จับให้กิจการดีขึ้นๆ ขอให้จับจริงจังทั้งปีนะครับ สาธุ
-
HYDROGEN เอิ่ม.....คือ
Hyper Intensity Discharge ด้วยนะ
ทั้งนี้แนะนำให้ปรับ FTN ใหม่ด้วยครับ แล้วให้เจ้าของรถไปเบิกค่าปรับกับทางโต
เพราะไฟหน้ารุ่นนี้ แสบกว่าซีนอนเถื่อนบางคันมาก
-
จะใส่ไฟแบบไหนก็ช่วยใส่ให้พอดี เอาให้มันถูกมาตรฐานตามที่ออกแบบ ใส่แล้วไม่รบกวนเบ้าตาเนี่ยจะเป็นพระคุณมากเลยครับ
เจอมาหลายแบบเหลือเกิน แต่ที่สุดจะทนก็โคมรีเฟลกเตอร์ใส่ซีนอนนี่แหล่ะ คือบางคันผมก็เข้าใจคุณนะว่าตั้งไฟให้ชี้พื้นแล้ว หวังดีต่อเพื่อนร่วมทางแล้ว แต่ว่าโคมมันสะท้อนแสง(Reflector) ภายในแล้วฉายออกซึ่งมันเหมาะกับหลอดHalogen แล้วคุณใส่ไฟแบบXenon ซึ่งมันใช้หลักการกระจายแสงอีกเนี่ย ต่อให้ตั้งไฟยังไงแสงมันก็แยงตาครับ ไฟXenon แสงมันฟุ้ง มันเหมาะกับโคม Projector ที่ใช้หลักการรวมแสงแล้วฉายไปด้านหน้า ผมเข้าใจนะบางคันใส่เพราะเดินทางกลางคืนบ่อยเลยอยากได้ไฟที่มันสว่าง แต่ช่วยหน่อยเถอะครับ อย่างน้อยเปลี่ยนหลอดเป็นฮาโลเจนวัตต์สูงๆแทนได้มั้ย หรือถ้าจำเป็นจริงๆเพิ่มงบอีกนิดเอาโคมเดิมไปเจาะหัวโปรเจคเตอร์แล้วใส่ไฟLEDใส่เถอะ เวลาผมเจอรถใส่ไฟแบบนี้ตอนกลางคืนตาลายมาก
-
HYDROGEN เอิ่ม.....คือ
Hyper Intensity Discharge ด้วยนะ
ทั้งนี้แนะนำให้ปรับ FTN ใหม่ด้วยครับ แล้วให้เจ้าของรถไปเบิกค่าปรับกับทางโต
เพราะไฟหน้ารุ่นนี้ แสบกว่าซีนอนเถื่อนบางคันมาก
กำลังเลยครับในเฟส อิอิ คงไม่รู้เป็นไฟมากับรถ
https://www.youtube.com/watch?v=ax5ycHj9vVY
https://www.facebook.com/ceclip/videos/1879289325525062/
-
มันมี led ด้วย
-
สนับสนุนอย่างยิ่งครับ
-
ดีครับ จับไปให้หมด แต่ระวังอย่าไปจับ Nissan Juke ก่อน MC นะครับ พวกนี้ถึงจะเป็นโคมรีเฟล็กซ์ไฟซีนอลแต่ก็ได้มาตรฐาน
-
accord ล่าสุดจะโดนไหมครับ
-
สนับสนุนนะครับ
แต่ขอให้ศึกษาข้อมูลรถยนต์ให้ดีว่ารุ่นไหนเป็นสแตนดาดจากโรงงานหรือติดตั้งเอง
-
HYDROGEN เอิ่ม.....คือ
Hyper Intensity Discharge ด้วยนะ
ทั้งนี้แนะนำให้ปรับ FTN ใหม่ด้วยครับ แล้วให้เจ้าของรถไปเบิกค่าปรับกับทางโต
เพราะไฟหน้ารุ่นนี้ แสบกว่าซีนอนเถื่อนบางคันมาก
ฮ่าๆๆโดนใจมากกครับ ขอแบบหยาบๆหน่อย ต้องกระทืบไลค์เลยครับเม้นท์นี้
-
เอาไปใส่แบบโปรเจคเตอร์ดีกว่าครับ ผมก็ว่าจะเปลี่ยนอยู่ รอประกันรถหมดก่อน สงสัยอีกนาน
-
ถ้าจับ มอไซ ไม่ใส่หมวก จะได้กี่รายต่อเดือนครับ :o :o :o :o
-
ดีครับ จะได้เลิกแยงตาเสียที แต่พวกซีนอนอัพเกรดที่ได้มาตราฐานมันจะไม่แยงตาเท่าไรนะ (ถ้าปรับตั้งให้ถูกวิธี)
แล้วก็จับพวกที่ชอบตั้ง cut off ไว้สูงด้วย มันก็แยงตาสุดๆ แม้จะเป็นของเดิมจากโรงงานก็ตาม
-
HYDROGEN เอิ่ม.....คือ
Hyper Intensity Discharge ด้วยนะ
ทั้งนี้แนะนำให้ปรับ FTN ใหม่ด้วยครับ แล้วให้เจ้าของรถไปเบิกค่าปรับกับทางโต
เพราะไฟหน้ารุ่นนี้ แสบกว่าซีนอนเถื่อนบางคันมาก
กำลังเลยครับในเฟส อิอิ คงไม่รู้เป็นไฟมากับรถ
https://www.youtube.com/watch?v=ax5ycHj9vVY
https://www.facebook.com/ceclip/videos/1879289325525062/
เจอแบบนี้ผมเปิดไฟตัดหมอกหลังสู้เลย :D
-
เจอ Projector LED บางยี่ห้อก็แยงนะ
โดยเฉพาะ FTN ใหม่...
ผมว่ามันสำคัญตรงแยงไม่แยง และแก้ได้เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจใช้แบบผิดแต่จะใช้
รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น ไฟแยงเพราะปรับสูงไป (ลดได้) ติดตั้งไม่ดี (แก้ได้)
แต่ถ้าผิดแต่จะใช้ เช่น ติดซีนอนลงโคมมัลติรีเฟลกเตอร์ (ถ้าติดลูกแก้วแต่แรกแต่รวมแสงไม่ดี กระจาย แบบนั้นควรอนุโลมแต่ออกใบสั่งแก้ไข+กวดขันการแจ้งลงเล่ม)
วิจารณญาณควรใช้ควบคู่ไปกับการจับและป้องปรามครับ
-
เจอไฟซีนอนที่ไปติดตั้งกันเองทีไรคิดว่าคนเปิดไฟสูงใส่ตลอดมองไรไม่เห็นเลย >:(
-
ยอดจับโหดจัง
-
จับได้ผมไม่ว่าหรอก......แต่ กรุณาอย่าจับมั่วครับ เพิ่งเถียงกันมาสดๆร้อนๆ ผมขับ camry 2.0G ไฟเดิมจากโรงงานเนี่ยแหละ ไม่ได้แปลงอะไรทั้งนั้น ซีนอลค่า K ก็แค่ 4300-6000K เองมั้ง ไฟตัดหมอกก็ไม่ได้เปิด ลำแสงก็ปรับแบบต่ำสุด มันหาว่าผมดัดแปลงไฟหน้า ใส่ซีนอล พ่องงงงงง ตำรวจหร่านี่โง่หรือโง่เนี่ย เถียงกับมันตั้งนาน จนร้อยเวรเดินมาดู ถึงได้ปล่อยกลับบ้าน จะจับเค้าก็ควรศึกษาหาความรู้ใส่สมองหน่อยนึง คนที่จับผม ยศจ่า อายุน่าจะ40+ กระโหลกกระลามาก
-
จับได้ผมไม่ว่าหรอก......แต่ กรุณาอย่าจับมั่วครับ เพิ่งเถียงกันมาสดๆร้อนๆ ผมขับ camry 2.0G ไฟเดิมจากโรงงานเนี่ยแหละ ไม่ได้แปลงอะไรทั้งนั้น ซีนอลค่า K ก็แค่ 4300-6000K เองมั้ง ไฟตัดหมอกก็ไม่ได้เปิด ลำแสงก็ปรับแบบต่ำสุด มันหาว่าผมดัดแปลงไฟหน้า ใส่ซีนอล พ่องงงงงง ตำรวจหร่านี่โง่หรือโง่เนี่ย เถียงกับมันตั้งนาน จนร้อยเวรเดินมาดู ถึงได้ปล่อยกลับบ้าน จะจับเค้าก็ควรศึกษาหาความรู้ใส่สมองหน่อยนึง คนที่จับผม ยศจ่า อายุน่าจะ40+ กระโหลกกระลามาก
โห ๆๆ ขนาด camry ยังโดนโบก
... สงสัยรถญี่ปุ่นที่ไฟหน้าสีขาว น่าจะโดนเรียกหมดแน่ สยองเลยครับ
-
จับได้ผมไม่ว่าหรอก......แต่ กรุณาอย่าจับมั่วครับ เพิ่งเถียงกันมาสดๆร้อนๆ ผมขับ camry 2.0G ไฟเดิมจากโรงงานเนี่ยแหละ ไม่ได้แปลงอะไรทั้งนั้น ซีนอลค่า K ก็แค่ 4300-6000K เองมั้ง ไฟตัดหมอกก็ไม่ได้เปิด ลำแสงก็ปรับแบบต่ำสุด มันหาว่าผมดัดแปลงไฟหน้า ใส่ซีนอล พ่องงงงงง ตำรวจหร่านี่โง่หรือโง่เนี่ย เถียงกับมันตั้งนาน จนร้อยเวรเดินมาดู ถึงได้ปล่อยกลับบ้าน จะจับเค้าก็ควรศึกษาหาความรู้ใส่สมองหน่อยนึง คนที่จับผม ยศจ่า อายุน่าจะ40+ กระโหลกกระลามาก
สงสัยต้องเก็บโบรชัวร์รถไว้ที่รถ เวลาจะโดนจับก็ยืนไปพร้อมพูดว่า "แหกตาดู" 555
บางคนเขาไม่รู้หรอกครับ เห็นขาวๆมาเหมารวมหมด
-
ตำรวจต้องรู้ Spec รถเยอะๆแล้วละครับงานนี้ ว่ารุ่นไหนมี รุ่นไหมไม่มี
-
ถ้าอายุน้อยๆ ควรนำผู้กครองมาลงโทษด้วย >:(
พวกท่อดัง ซีนอลเถื่อนแยงตา เปิดเครื่องเสียงดังๆแบ่งชาวบ้านฟัง
จิตวิทยา พวกนี้ตอนเด็กๆ บุพการีเลี้ยงดู ทิ้งๆ ขว้างๆ >:(
โตมาก็ เรียกร้องความสนใจ อยากเป็นจุดเด่น ก็ทำเลวๆ อย่างที่เห็น ทั้งที่รู้ว่าชาวบ้านเดือดร้อน ด่าบุพหการี >:(
จึงควรนำ บุพการีมาลงโทษ ข้อหาเลี้ยงดู อบรม บุตรหลาน มาไม่ดีพอ >:(
-
ดีแล้วจ้า จับให้หมดเอาให้จริงๆนะ จ้ามากแสบตามาก โคตรน่าเบื่อ
พวกมาจากโรงงานสบายตัวไปนะจ๊ะ
-
ขอให้จริงจังไปตลอด จับพวกติดซีนอนเองและไม่ได้มาตรฐาน สนับสนุนนะครับ
อย่าจับมั่วก็พอ ตำรวจต้องรู้สเปครถด้วยก็ดีนะ ว่าคันติดจากโรงงานผลิตครับ
-
HYDROGEN เอิ่ม.....คือ
Hyper Intensity Discharge ด้วยนะ
ทั้งนี้แนะนำให้ปรับ FTN ใหม่ด้วยครับ แล้วให้เจ้าของรถไปเบิกค่าปรับกับทางโต
เพราะไฟหน้ารุ่นนี้ แสบกว่าซีนอนเถื่อนบางคันมาก
กำลังเลยครับในเฟส อิอิ คงไม่รู้เป็นไฟมากับรถ
https://www.youtube.com/watch?v=ax5ycHj9vVY
https://www.facebook.com/ceclip/videos/1879289325525062/
เจอแบบนี้ผมเปิดไฟตัดหมอกหลังสู้เลย :D
ไฟฟอจูนเนอร์ใหม่นี้อย่างแสบตา ปาโร่กับเอฟยังไม่แสบเลยโตโยต้าเค้าเชตกันยังไงหว่า
-
จับเยอะๆเลยครับ ตั้งยอดให้ตาม สน. สภ.ไปเลย
เอาเงินเข้ารัฐมาพัฒนาสัญญาณไฟตามแยกก็ได้นะครับเห็นหลายแยกตามต่างจังหวัดใช้ไม่ได้เยอะเลย ลดปัญหาอุบัติเหตุ
ถ้าเจอพวกหัวหมอแย้งมาบอกไม่แยง มีมาตรฐานก็ให้มันหันหน้ามองใส่ไฟตัวเองดูครับ ว่าแยงตาไม๊ ::)
-
สนับสนุนให้จับ แต่ เอาเครื่องมืออะไรวัด มีข้อมูลรถแต่ละรุ่นไหม บางรุ่นตัวtopตัวถูกก็ต่างกัน
ใส่ซีนอนเอง วัตต์ไม่เกิน แสงไม่ฟ้า ไม่แยงตา ผิดไหม
รถโรงงาน แยงตาโตตร ผิดไหม ใครผิด
ผมขอแค่อยากให้มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่ใช้ดุลย์พินิจของจ่า ที่บางคนก็ไม่มีใบขับขี่เลย
-
อัลพาร์ดตัวแรก รู้สึกจะซีนอนในโคมรีเฟล็ก เอสติม่าตัวแรกๆก็เหมือนกัน แต่ cutoff ก็คมต่ำปกติ
ผมว่ารถยุ่นหลายๆรุ่นในช่วงปีนั้นๆยังมีอีกหลายรุ่นนะครับ ที่ไม่ได้ยัดซีน่อนในดวงโปรเจคเตอร์ แต่ก็ออกแบบมาอย่างดีไม่แยงตา
-
ผมก็โดนครับ ทุกครั้งที่อยู่หน้า New FTN เป็นทุกคัน มันน่าจะปรับความส่วางของไฟได้น่ะผมว่า
-
จับไปเลยครับ ดีผมสนับสนุน ยิ่งพวกติดไฟฟ้าๆน่ะเกลียดมาก แสบตาสุดๆ แต่อย่าจับมั่วละกัน คราวก่อนเจอด่าน มีเพื่อนนั่งหน้ามาด้วยแต่นอนหลับ ตำรวจเขายังบอกว่านึกว่าผมลักพาตัวคนอยู่เลย :-\ สงสัยเขาคงเห็นรถผมเป็นแท็กซี่สีฟ้า :(
-
ออกข่าวไปงั๊นแหละ แก้เหงา
ก่อนหน้านี้ ก็บอกว่าจะจับจริง รถบัสติดไฟหลายดวง
ปัจจุบัน วิ่งกันเต็มถนนเหมือนเดิมครับ
-
ขอให้เข็มงวดจริงๆนะครับ
#ฝันแปป
-
ผมโดนแสงพวกนี้ละปวดตามากๆครับ จนสุดท้ายผมต้องไปพบหมอตาเพื่อทำการรักษาตาครับ
ผมเจอบ่อยมากๆที่ชลบุรีครับ ถนนหลักเลย ผมต้องเสียค่าใช้จ่ายเปลี่ยนเป็นกระจกตัดแสงมันพอจะช่วยได้แล้วเสียค่าแว่น
เสียค่าหมอ มันเยอะมากๆครับรถพวกที่ติดไฟแบบนี้ ควรจะลงโทษให้หนักน่ะครับ สามปีมานี่สายตาเสียลงไปมากสำหรับผมที่ต้องขับรถกลางคืนบ่อยๆ
-
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอให้จับจริงๆ จังๆ ตลอดไปเถอะ
ปัญหาอื่นๆ ที่จับง่ายกว่านี้เช่น ขับสวนเลน ฝ่าไฟแดง จอดทับเส้นเขตห้ามจอด หมวกกันน็อคไม่ใส่
ตั้งหน้าตั้งตาจับบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อเนื่องถึงสยาม ระยะสั้นๆแค่นี้ ก็ได้ผู้กระทำผิดมากมายมหาศาลแล้ว
-
XENON โรงงาน คงไม่โดนนะ
-
ก็แค่ข่าวขำๆ รู้ๆ กันอยู่ตำรวจไทยเป็นยังไง ;D
-
ซักวันเราคงโดน เพราะตำรวจแบบงี่เง่ามีเยอะแยะ แยกไม่ได้ว่าอันไหนแท้โรงงาน อันไหนติดเองกากๆ
-
จับคนขับอีกแล้ว ทำไมไม่จับคนขายด้วยล่ะครับ
ในหนังสือรถเพียบ จับที่ต้นเหต คนซื้อบางคนไม่รู้ก็มีตกเป็นเหยื่อ เพราะอยากให้รถตัวเองสว่าง เพาะคำโมษณาต่างๆว่ารถสว่างขึ้นในหลักพัน
-
ก็แค่ ข่าว
-
อย่าลืมจัดการพวกเปิดไฟตัดหมอก โดยไม่มีเหตุต้องใช้ด้วยนะครับ
โดยเฉพาะ วีออส ชอบเปิดไฟตัดหมอกหลัง เจอบ่อยมาก