สวัสดีครับ ชาว HLM ทุกท่าน คราวนี้จะมารีวิวรถคันใหม่ของบ้าน นั่นคือ Toyota Corolla Altis 2014 โฉมที่ 11 ของโลก
โดยเหตุผลที่เลือกคันนี้มาคือ
-ต้องการเก๋งระดับ c segment ขึ้นไป
-ต้องเป็นรถที่สดใหม่ เปิดตัวได้ไม่นาน และไม่ตกรุ่นเร็ว
-เป็นยี่ห้อตลาด ศูนย์บริการต้องไว้ใจได้
-ต้องเป็นรถพลังงานทางเลือก แก๊ส E85 Hybrid เท่านั้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย
โดย ผมได้เฝ้าตามข่าว และภาพหลุดของ corolla มานานแสนนาน จนถึงวันที่ 14/01/57 โตโยต้าไทยแลนด์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการซะที และเปิดราคามาแบบ (แพงจัง) แถมรุ่น 1.6E CNG ก็ออฟชั่นน้อยนิด ไม่ต่างจากรุ่นเดิมเลย (ออฟชั่นอาย Eco Car คันละ 5แสนจริง)
คันนี้จอง 18/01/57 ออกรถ 14/02/57 ถือว่าเป็นรุ่น CNG สีน้ำตาลคันแรกของฉะเชิงเทรา ถือว่าได้ช้ากว่าสีพื้นๆ อย่างสีขาว สีเงิน สีดำ พอสมควร ทั้งๆที่จองวันแรกสำหรับการเปิดตัวที่โชว์รูม
ด้านหน้า มีโคมไฟหน้าที่ยาว เชื่อมต่อกับกระจังหน้าลายโครเมี่ยม 3เส้น แบบไม่มีช่องว่าง ไฟหน้าเป็นแบบฮาโลเจน ไม่มีไฟLED 4ดวงแบบรุ่น 1.8ES 1.8V
ด้านท้าย โคมไฟท้ายยาวเช่นกัน มาพร้อมกับ ไฟเบรกดวงที่3 แบบLED ทุกรุ่น
มิติตัวถัง มีความยาว 4,620 มม. กว้าง 1,775 สูง 1,460 ฐานล้อ 2,700 ซึ่งเทียบมิติแล้ว ใหญ่กว่าโฉมที่แล้วพอสมควร
ด้านเครื่องยนต์ รุ่น 1.8และ1.6 ยังใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม ส่วนรุ่น 1.6E CNG ได้เปลี่ยนมาใช้บล็อก 1ZR-FE (CNG) Duel VVT-I ให้กำลัง122แรงม้า ที่6,000รอบ แรงบิด154นิวตัน ที่5,200 รอบ เติมน้ำมันE20ได้
สิ่งที่น่าติเล็กๆน้อยๆ ก้างค้ำฝากระโปรง ไม่มีฟองน้ำลดความร้อนมาให้
ในรุ่น CNG มีการปรับปรุงหลายอย่าง ไม่อืดเหมือนรุ่นก่อน ไม่ต้องเปลี่ยนกรองก๊าซ เพราะมีระบบแยกน้ำมันคอมเพรสเซอร์ที่ปะปนมาจากสถานีบริการ มีระบบไฮโดรลิคปรับตั้งวาล์วอัตโนมัติ หมดปัญหาเรื่องระยะห่าง และยัน พร้อมทั้งเคลือบสารพิเศษเพิ่มความทนทาน มีการเปลี่ยนโอริงใหม่หมดให้ทนมากขึ้น เปลี่ยนหัวเทียนใหม่เป็นแบบ iridium ใช้งานได้เป็นแสนกิโล (ข้อมูลจาก
http://www.altisclub.com)
ถังก๊าซใช้ขนาด 75 ลิตร เติมเต็มถังครั้งนึงได้ 150-160 บาท
เมื่อปิดแผ่นไม้อัดบุด้วยผ้า กั้นถังก๊าซแล้ว เหลือพื้นที่ใช้สอยน้อยมาก เป็นจุดด้อยของรถใช้ก๊าซถังแคปซูล
หัวเติมก๊าซและน้ำมันอยู่ด้วยกัน เหมือนรุ่นที่แล้ว ใช้งานง่ายและสะดวกดี เด็กปั้มชอบ
สัญลักษณ์ Advancer CNG แบบใหม่มีขนาดเล็กลง มองไกลๆไม่ค่อยเห็น
ล้อ 16 นิ้ว ลาย 15 ก้าน ซึ่งหน้าตาดูดีเลย แต่พอจะล้างรถ 15*4 = 60 ก้าน ขัดกันอย่างเมามือเลยทีเดียว มาพร้อมกับดิสก์เบรก ทั้ง4ล้อ
ประตูคู่หน้าเปิดได้กว้างดี (กว้างจน รับรถมาวันแรกผมเปิดฟาดกับเสาโรงรถไปแล้ว) เข้า-ออกสบาย
ประตูคู่หลังเปิดได้สบาย เช่นกัน มาพร้อมกับล็อกเด็กครบทั้ง2 ประตู
พักแขนคู่หน้า กว้างวางแขนสบาย แต่ตำแหน่งนั้นต่ำไปหน่อยตามที่คุณจิมมี่แจ้งไว้ โดยรวมถือว่าดีกว่ารุ่นที่แล้วมาก ถึง มากที่สุด
ช่องเก็บของด้านหน้า สามารถใส่ขวดน้ำ 7 บาทพร้อม IPad ได้สบายๆ
พักแขนด้านหลังก็วางแขนได้เต็มๆ พอดีๆ ช่องเก็บของด้านล่างก็สามารถใส่ขวดน้ำ 7 บาท พร้อมกับ IPad แนวตั้งได้
คอนโซนแนวตั้งฉาก ที่เค้าล่ำลือ มีประโยชน์ที่ช่วยลดแสงสะท้อนเข้าตาผู้ขับขี่ แต่มันสูงมากกกกก ไม่รู้จะสูงไปไหน จะไปแข่งกับยอดเขา เอเวอเรสต์ รึยังไง จนบีบพื้นที่กระจกหน้าเหลือน้อย ทำให้ทัศนวิสัย ไม่ดีเท่าไร รู้สึกอึดอัด ทั้งคนนั่งและคนขับ เหมือนขับรถ B-Segment ยังไงไม่รู้ พวงมาลัย3ก้านหน้าตาพอใช้ ไม่สวยแต่ก็ไม่ขี้เหล่ ตั้งแต่รุ่น 1.8E ลงมาให้แอร์ อัตโนมือ ทรงโบราณมากก หน้าตาดำๆทื่อๆกระด้างๆ และนาฬิกาสุดเร้าใจ รูปทรงล้ำสมัยเอกสิทธิ์ ของโตโยต้า ที่จะทำให้คุณประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มอง มัน!!
ปุ่มควบคุมวิทยุ บนพวกมาลัย รูปทรงลดต้นทุน อาจใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องคลำๆหาเลย เพราะมันมีอยู่2ปุ่ม
ก้านไฟเลี้ยว และระบบเปิดไฟหน้าแบบอัตโนมือ ไม่มีไฟตัดหมอกมาให้ สำหรับรุ่นนี้
ก้านปัดน้ำฝน มาพร้อมกับตั้งหน่วงเวลาได้
วิทยุแบบ BUILT-IN หน้าตาดูดี สามรถอ่านภาษาไทยออก แต่คุณภาพเสียงยังไม่ดีเท่าไร ไฟฉุกเฉิน อยุ๋ในตำแหน่งที่เหมาะสม ถนัดมือ
ระบบสัญญานเตือน immobilizer มากระพริบอยู่ข้างๆวิทยุ
ช่องวางแก้วน้ำตรงกลาง ไม่มีฝาปิดมาให้ แต่มีช่องให้สามารถวางโทรศัพท์ได้
เกียร์ CVT-I พร้อมล็อกรอบไว้ที่ 7Speed ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าCVT ทั่วไป และมาพร้อมกับ Sequential Mode ให้เล่นแก้เหงา
ช่องจ่ายไฟ 12V ทั้งคันมีจุดเดียว ซึ่งถือว่าน้อยเกินไปมาก ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
เก็บเก็บของคอนโซนกลาง เป็นแบบ2ชั้น ไม่สามารถเลื่อนเข้า-ออก ได้อีกแล้ว ทำให้การวางแขนไม่ถนัด ช่องเก็บของมีขนาดไม่กว้างเท่าไร และด้านหลังออกแบบได้สิ้นคิดมาก เจาะช่องใส่ของโง่ๆ ที่ไม่รู้จะใส่อะไรได้มาให้ แค่นั้น แทนที่จะทำที่วางแก้วแบบพับได้ หรือ ช่องจ่ายไฟ12V หรือไม่ก็แอร์แถวหลังมาเลย ลดต้นทุนกันเห็นๆ เลย
เกะเก็บของด้านหน้า มีขนาดใหญ่ จุของได้เยอะ น้องๆแคมรี่เลย
ไฟอ่านแผนที่2ดวง แต่ กล่องเก็บแว่นตาหายไปแล้ว!! ที่บังแดดพร้อมกับกระจกแต่งหน้าทั้ง 2บาน
มาตรวัดความเร็วแบบสามช่อง สำหรับรุ่น 1.8ESport ลงมา เรียงฟร้อนตัวเลขวัดความเร็วเป็นแบบวงกลม ตามค่ายรถ เมกัน ทำไม!!! รุ่นCNG ได้เกจวัด ปริมาณก๊าซ อยู่บนหน้าปัดแล้ว แต่ต้องแลกกับ มาตรวัดความร้อนหายไป
เบาะนั่งสำหรับรุ่น E J ได้แบบผ้าล้วน เบาะหลังนั่งสบาย กว้างพอสมควร นั่ง3คนสบายๆ แต่เฮดรูมน้อยไปหน่อย ผมสูง 173 ถ้านั่งหลังติดเบาะตัวตรง ก็เกือบๆติดเพดานพอดี เบาะนั่งมีจุดยึดนิรภัยISOFIX มาให้ครบครัน
มาดูอัตราเร่งกันบ้าง 0-120 km ขับคนเดียว ไม่มีสัมภาระบรรทุก
1. แบบใช้ก๊าซ NGV
https://www.youtube.com/watch?v=jEK_6dw7iY0&feature=youtu.be2. แบบน้ำมันล้วนๆ
https://www.youtube.com/watch?v=NpIcN_hHGp8&feature=youtu.beอัตราบริโภคก๊าซ NGV จับ 5 ถังแล้วมาหาค่าเฉลี่ย วิ่งนอกเมืองเป็นหลัก ขับแบบเรื่อยๆ ไม่เร่งมาก ไม่กดจม ไม่เกิน120km ไม่ค่อยเจอรถติด เติมเต็มถัง วิ่งจนก๊าซหมดตัดเข้าน้ำมัน แล้วจึงนำไปเติมถังต่อไปครับ
ถังที่ 1) เติม 151 บาท ได้ 14.3 กก. ระยะทางที่วิ่งได้ 236.6 กม. เฉลี่ย 0.63 บาท/กม.
ถังที่ 2) เติม 132 บาท ได้ 12.5 กก. ระยะทางที่วิ่งได้ 201.2 กม. เฉลี่ย 0.65 บาท/กม.
ถังที่ 3) เติม 151 บาท ได้ 14.3 กก. ระยะทางที่วิ่งได้ 207.5 กม. เฉลี่ย 0.72 บาท/กม.
ถังที่ 4) เติม 141 บาท ได้ 13.3 กก. ระยะทางที่วิ่งได้ 197.4 กม. เฉลี่ย 0.71 บาท/กม.
ถังที่ 5) เติม 146 บาท ได้ 13.8 กก. ระยะทางที่วิ่งได้ 198.5 กม. เฉลี่ย 0.73 บาท/กม.
ผลรวมเฉลี่ยได้ 0.68 บาท/กม.
บทสรุป หลังจากใช้ชีวิตกับ Corolla Altis 1.6E CNG มาเกือบๆ 1เดือน
-เครื่องยนต์
ตัว CNG จากโรงงานได้ Duel VVT-I กับเค้าซะที พอเปลี่ยนเป็นโหมดน้ำมัน อัตราเร่งออกมาค่อนข้างดี เป็นเพราะได้เกียร์ CVT-I ที่ฉลาดและขับสนุก ด้วยการล็อกรอบไว้ 7Speed กดเป็นมา แทบจะไม่ต้องรอสมองเกียร์สั่งงานเลย
-ช่วงล่าง
ตัวนี้ช่วงล่างนุ่ม สะเทือนค่อนข้างน้อย แต่การเก็บเสียงยังไม่ดีเท่าไร แต่ผมยังไม่ค่อยมั่นใจในความเร็วสูงนัก พวงมาลัย มีกริปมือที่จับถนัด แต่รู้สึกว่าน้ำหนักพวงมาลัย ยังเบาไปทุกช่วงความเร็ว เบรกค่อนข้างลึก ตามแบบของโตโยต้า ถ้าใช้โตโยต้ามาก่อนจะไม่มีปัญหาด้านนี้
-ออฟชั่น
รุ่น 1.6E CNG โฉมนี้ออฟชั่นน้อยมาก มีมาแค่พอใช้งานเท่านั่น ตัวรถราคา 889,000 ได้ออฟชั่นแค่ เบาะผ้า พวงมาลัยหุ้มยูรีเทน แอร์ปรับอัตโนมือ(หน้าตา ไม่น่าใช้งานเลย) ไฟหน้าฮาโลเจน ธรรมดา ไม่มีโปรเจกเตอร์ ไม่มี DRLกุญแจแบบพับสวยงามดี แต่ยังต้องเสียบบิดอยู่ เบาะหลังพับแยก 60/40 ไม่ได้ พักแขนเบาะหลังไม่มี เทียบดูแล้วออฟชั่นไม่ได้เพิ่มมาจาก 1.6E CNG โฉมที่แล้วเลย ไมเนอร์แล้วขอออฟชั่นแบบจัดหนักตามราคาหน่อย ออฟชั่นแค่นี้ อายHonda City2014 และECO Car จังเลยย!!
++ขอบคุณครับสำหรับการติดตามรีวิว++
++ถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ ++
Defect ที่พบ
16/03/57 พบไฟ Engine และไฟรูปประแจ ขึ้นที่หน้าปัทม์ รถวิ่งได้3,000 อายุ 1เดือน 2 วัน
การแก้ไข นำรถเข้าศูนย์บริการ ช่างแก้ไขโดยการ รีเซตกล่องECU