จริงๆเราจะเอาดีกันสักขนาดไหนครับ
ผมเห็น fortuner คันละ 1.5ล้านวิ่งกันเยอะแยะ ก็ขายดีนะ
ถ้ารุ่นไหนออกมาดีก็ขายได้เทน้ำเทท่าเหมือนกัน แต่ต้องไปดูว่าบางรุ่นทำไมขายไม่ได้ มันมีเหตุผลของมันพอสมควร
อีกอย่างเราจะให้ดีขนาดไหน ขนาดปี 2012 รถคันแรกมั๊ย แย่งกันซื้อ คอยรถกันทีหลายๆเดือนเหรอ
ผมว่าตอนนี้ไม่ได้แย่นะ คนรวยๆขึ้น คนจนก็จนลงเหมือนเดิม ปกติที่มันเป็นแหละ ผมว่ามันใช้ได้ แต่มนุษย์น่าจะไม่รู้จักพอเอง พอไปเร่งๆอะไรที่เกินจริง อยู่ๆมันลดลงก็ทนไม่ได้
อยากเป็นเศรษฐี ไม่ยากครับ เอาทรัพย์สินไปจำนองสิ ได้เงินมาเป็นเศรษฐีเลย พอเจอยึดไม่มีเงินส่งก็จนไปเองมันก็ปกตินะ
ความเห็นส่วนตัวครับ ผมว่ามันไม่ได้แย่ แค่ปรับตัว และไม่ได้มีอะไรแย่ ประเทศเราไม่ได้โดนโจมตีค่าเงินแบบปี40 จนทั่วโลกเรียกต้มยำกุ้งดีซีท
ผมกลับเห็นด้วยกับความเห็นนี้ รถป้ายแดงเต็มไปหมด รถติดตลอด ไปห้างทีไม่มีที่จะจอด ทั้งในเมือง ชานเมือง
ผมอยู่แถวฟิวเจอร์รังสิต รถเต็มตลอด ร้านอาหารต่อคิวอย่างนาน หน้าเทศกาลที่เที่ยวเต็มหมด ถ้าแย่จริงรถ
ต้องไม่ติดครับ สมัย 40 รถโดนยึดกันหมดไปไหนถนนโล่งเลย แถมยอดการใช้ไฟฟ้ายังไม่ลดเลยครับ
ถ้าอุตสาหกรรมแย่จริง การใช้ไฟฟ้าลดแน่นอน
มองแบบนี้โคตรแคบครับ รถออกเยอะเพราะเดี๋ยวนี้ไฟแนนซ์ผนึกกำลังกับศูนย์แทบจะประเคนรถให้ ไม่รู้ว่าผ่อนไหวไหมแต่โปรดึงดูดเหลือเกิน ไฟแนนซ์ก็ผ่านง่ายยังกับถอนเงินธนาคาร หลังจากรับรถแล้วก็ตัวใครตัวมัน
ผมอยุ่ในวงการท่องเที่ยว และบอกเลยว่าสองปีมานี้โคตรแย่ครับ ไม่อยากพูดว่าเพราะอะไร แต่แย่มากๆ
ผมขอแก้ตัวสักหน่อยครับ ในฐานะที่ถูกมองว่ามองแบบนี้โคตรแคบ
ความคิดคุณมองแค่ท่องเที่ยว และคุณมองแค่สองปี ไม่แคบกว่าเหรอครับ
คุณจับลูกค้ากลุ่มไหน ในหรือนอก และคู่แข่งคุณเพิ่มขนาดไหน เงินในมือต่างชาติเป็นยังไง รสนิยมการจับจ่ายเปลี่ยนไปรึเปล่า
ตรงนี้ผมว่าคุณต้องไปมองภาคส่วนตัวคุณด้วย แต่เจ้าของทุเรียนเค้าคงมองว่าเค้าดีมากๆๆเลยสองปีนี้ คัณว่าจริงป่ะ
ผมมองภาพรวมครับ ไม่ได้มองจากจุดเดียวหรือจากเงินในกระเป๋าตัวเอง
ที่คุณว่าไฟแนนปล่อยง่าย ป้ายแดงเยอะ แต่ก็ไม่ค่อยมีรถยึดมากนัก ถ้าคนไม่ไหวก็คือเค้าไปอดเอาที่อื่น เพราะเค้ามองว่ารถจำเป็นมากกว่า
แต่บอกเลยว่า ธนาคารเค้าก็กลัวเจ๊งนะ ปล่อยสินเชื่อก็ต้องดูบ้างแหละ แต่เค้ามั่นใจว่าไม่ถูกยึด
ผมว่ายังห่างไกลคำว่าวิกฤติเศรษฐกิจอีกมาก หากอยาอยากรู้ว่าของแท้เป็นอย่างไร ดูปี40ไว้ครับ
ขายทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งทอง ทั้งบริษัท ขายทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด แต่ประเทศไทยตอนนี้ยังไม่มีเลยครับ
ผมมองว่าคุณจะเอาสูงสุดตลอด เอาของเดิมๆมาเทียบตลอดคงไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่จุดเลวร้าย นรกของจริงมันมากกว่านี้ครับ ผมถึงพูดว่า จะให้ขายดีแบบ 2012 แบบนั้นเหรอ ถึงเรียกว่า เศรษฐกิจดี
ไม่ใช่ที่คุณบ่นๆว่าไม่ดี เพราะปี 2012คนเอาเงินไปผ่อนรถกันหมดเหรอ ทำให้ตอนนี้มันไม่ดีตามที่คุณว่า
แต่ผมมองว่าปกติ ทุกอย่างมันต้อง slow lifeบ้างครับ ไม่ใช่ให้ทำ new highตลอด แต่มันไม่ใช่จุดที่มีปัญหาครับ
คุณลองมองให้กว้างกว่าที่ผมมองแล้วคุณค่อยมาว่าผมดีกว่า เพราะผมเห็นคุณก็พูดแต่ธุรกิจคุณคนเดียว
ถ้าถามรถป้ายแดงเยอะ เกี่ยวอะไร
เกี่ยวมากครับ ....
คือมีรถกันง่าย ใครๆก็ออก แต่เอาเงินไปผ่อนรถคันใหม่กันหมด จนต้องเซฟ ทำให้ใช้จ่ายน้อยลงมากจริงๆ
พวกรถคันแรก เพื่อนผมออกกันเยอะมาก ทุกคนก็ผ่อนไหวกันน่ะ แต่ที่ทุกคันทำคือ ประหยัดเพิ่ม เพราะเงินหายไปกับผ่อนรถหมด จากเดินเที่ยวๆ กับรถคันเก่า เงินเหลือ ตอนนี้ เที่ยวที แทบจะหิ้วของกินไปทำกินเองอะครับ (งกเพิ่ม)
เพื่อนๆ จบใหม่ๆ เงินเดือนก็ 1.5 - 2.5 หมื่น และผมว่าคนเงินเดือนระดับนี้ น่าจะเป็นคนกลุ่มใช้จ่ายหลักของประเทศน่ะ (ถ้าอิงตามสถิติ คนไทยส่วนใหญ่ก็เงินเดือนประมาณนี้แหละ) ทำมานานบริษัทก็ให้เงินเดือนเพิ่มนิดเดียว แล้วผ่อนรถคนละห้าหกพัน ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าประกัน เช็คระยะ แล้วรายจ่ายมันเพิ่มกันทุกคน (จากกิเลสที่ไปผ่อนรถใหม่) สุดท้ายก็อด งดเที่ยวงดจ่ายกัน ชวนไปไหนไม่อยากไป พอไปก็ไม่อยากจ่าย ไม่กินกัน (ผมก็เคว้งสิ)
อีกอย่างช่วงปีนี้ ผมได้เคยเข้าช่วยงานเกี่ยวกับหนี้สิน คนไทย "เป็นหนี้" กันเยอะขึ้นมาก ผ่อนไอโฟน ผ่อนรถ ผ่อนคอนโด ผ่อนบ้าน ค่าเน็ต Smartphone เน็ตบ้าน สุดท้าย เดือนชนเดือนกันหมด จะเอาเงินไหนไปใช้จ่ายกัน
มองกว้างๆ รถคันแรกมันกระทบกว่าที่คิด นโยบายให้คนเอาเงินในอนาคต(กำลังซื้อตอนนี้)มาใช้ รถน่ะ เค้าไม่ยอมโดนยึดหรอก ส่วนมากก็งดเที่ยวงดช็อปน่ะละ ง่ายดี