ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้เกี่ยวกับรถไฮบริด
ปล. ขออนุญาต จขกท.ครับ ผมขอถามหนึ่งคำถามครับ ว่าทางด้านรถยุโรปเขาทำไฮบริดแบบฝั่งโต หรือ ฮอน ครับ
เท่าที่เข้าใจไม่เหมือนทั้งคู่ครับ BMW BENZ Volvo เอา torque converter ออกจากระบบส่งกำลังแล้วแทนที่ด้วยmotorแทน เกียร์ก็ยังอยู่เหมือนรถปกติทั่วไป
เหมือนทางฝั่งยุโรปเคยทำด้วยตัวเอง แบบจับคู่ระหว่างดีเซลกับมอเตอร์ แต่เหมือนจะไม่ดีเท่าที่ควรเลยหันไปหาทางด้านญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนคิดค้นก่อน ผ่านร้อน-หนาวมาเยอะ อย่างเช่น โต ผมเคยเห็นคนเยอรมันขับพรีอุส ทั้งๆที่ประเทศเขาก็มีรถดีๆมากมาย แถมไฮบริดเองก็มีพัฒนา สงสัยว่าจะมั่นใจในไฮบริดของโตมากกว่า
ปล. ที่ผมเห็นมานี่หลายปีแล้วนะครับ 5-6ปีโน้น
ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้เกี่ยวกับรถไฮบริด
ปล. ขออนุญาต จขกท.ครับ ผมขอถามหนึ่งคำถามครับ ว่าทางด้านรถยุโรปเขาทำไฮบริดแบบฝั่งโต หรือ ฮอน ครับ
ดูเหมือนว่า ทาง บีเอ็ม จะแลกเทคโนโลยี่ ไฮบริด ของโตโยต้า (เพราะทำมาก่อนเพื่อน ผ่านมาหลายปัญหาแล้ว)
กับ เครื่องยนต์ขนาดเล็กสามสูบของ บีเอ็ม ที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดในตอนนี้
ได้ข่าวว่าที่เมืองนอก โตต้า บางรุ่น มีเริ่มใช้เครื่องยนต์สามสูบพื้นฐานจากบีเอ็มแล้ว
ความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่ายุ่งกับ ไฮบริด รอซื้อ EV เต็มตัวเลยดีกว่าครับ
เพราะคุณจะต้องดูแลรักษาระบบสองระบบพร้อมๆ กัน (ที่จริงสาม คือ ระบบ
ที่เชื่อมการทำงานของสองระบบนั้น) รับประกันปวดหัวและปวดใจในอนาคต
อันไม่นาน (เว้นแต่คุณใช้รถไม่กี่ปี)
ผมก็คิดว่าจะข้าม ไฮปริดไปเลย รอใช้ EV เต็มตัวแบบ Plug-in แต่ยังแอบกลัวว่า เมืองไทยจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไรเนื่องจากประเด็นหลายๆอย่างตามด้านล่างนี้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะส่งเสริมด้านภาษีก็ตาม
1. เมืองไทย น้ำท่วมตลอด แม้ว่าฝนจะตกไม่มากก็ตาม
2. สถานีชาร์จไฟแบบ Plug-in คงจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการกระจายทั่วพื้นที่ประเทศ และรองรับปริมาณกับผู้ใช้
3. การซ่อมบำรุงรักษา เรื่องรถไฟฟ้าหรือไฮบริดยังใหม่กับช่างคนไทยมาก แม้แต่ในศูนย์เองก็ยังไม่น่าจะซ่อมเองได้ มีปัญหาก็จับเปลี่ยนอะไหล่ใหม่หมดอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันรถยนต์เครื่องสันดาปทั่วไปรุ่นใหม่ๆหน่อย ที่สามารถเสียบ OBD ได้ ช่างเขาก็ไม่วิเคราะห์อาการกันแล้ว จับเสียบ อ่าน code แล้วเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียว
4. ราคาอะไหล่ที่ราคาสูง ต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะกดราคาลงมาให้คนระดับกลางใช้งานได้ ยกตัวอย่างพวกสินค้าที่ต้องเสียแน่ๆ เช่น แบตเตอรี่, มอเตอร์, อื่นๆ
ปล. แต่เทรนผู้นำของโลกด้านรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่นเยอรมัน ก็ได้ตั้งเป้าหมายที่จะยกเลิกทำเครื่องสันดาปแล้ว แต่อีกนานหลายปี ผมจำตัวเลขปีไม่ได้ครับ นั่นหมายความว่า สุดท้ายแล้วเมืองไทยก็ต้องปรับตัวไปโดยปริยาย แต่จะใช้เวลานานแค่ไหน ต้องรอดูอนาคต ไม่แน่อาจจะทันในรุ่นลูกผมก็เป็นได้