Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Cool ที่ เมษายน 20, 2012, 15:21:51
-
ผมขับรถเก๋งมาตลอด 12 ปี Lancer CK 5 อยากได้รถสูง ๆ แต่ก็อยากได้ความสะดวกสบาย นุ่มนิ่ม ทั้งคนขับและผู้โดยสาร เล็ง ๆ ไว้ระหว่า ปาเจโร่สปอร์ตเบนซิน 3000 กับ New Camry 2.5 G ขับรถไกลสุดก็ ไป - กลับ 600 โล ทุกวันนี้ก็เมื่อยจะแย่ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะอย่างไรดีครับ ถ้าขับระยะทางประมาณนี้เท่ากัน คันไหนจะเหนื่อยกว่ากันครับ กรุงเทพ - นครสวรรค์ ความเร็วประมาณ 130 ครับ อะไรทำให้เหนื่อยต่างกันกันครับ หรือจริง ๆ แล้วไม่ได้เหนื่อย แต่แค่เมื่อยอ่ะครับ ?
-
อาจจะเป็นเพราะรถกระบะนั้นจะไม่นุ่มนวนเท่าเก๋งมันเลยจะทำให้เวลาขับขี่เหนื่อยและเมื่อยล้าได้มากกว่าก็เป็นได้คับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่เสมอไปซะทีเดียวหรอกคับที่จะเป็นแบบนั้นมันก็มีหลายปัจจัยอ่ะคับเข้าประกอบ เช่น
ลักษณะของรถ เครื่องยนต์ ระยะทาง สภาพถนน สภาพร่างกายของผู้ขับขี่ และระยะเวลาที่ใช้ขับไปถึงจุดหมาย
กลับมาที่คำถาม สองตัวที่บอกมาขับทางไกลสะบายๆได้อยู่แล้วคับกำลังเครื่องยนต์เหลือๆ ทั้งนี้ผมว่าขึ้นอยู่กับ
จำนวนผู้โดยสารมากกว่าคับถ้าไม่เกิน4คน camry 2.5 g นั่งกันสะบายๆเลย แต่ถ้ามากกว่านั้นผมว่า pjs 3.0 เบนซิน
น่าจะตอบมากกว่านะคับ แต่ยังไงpjsก็ยังมาจากพื้นฐานของกระบะนะคับ จะนุ่มไม่เท่า camry แน่นอน แต่จากที่เคยนั่ง
ผมว่าpjsก็โอเคในระดับหนึ่งทีเดียว ไม่ค่อยดีดเท่าไร แต่ถ้าจะเลือกจริงๆผมว่าcamry 2.5 gน่าจะเข้ากับความต้องการคุณมากกว่าคับ
-
คงจริงสำหรับกระบะตอนเดียวครับ
แต่ถ้าหาก 4ประตู หรือ ปาเจโร่สปอร์ต(ที่ จขกท สนใจ) ตำแหน่งคนขับไม่ต่างอะไรกับ c-segment
หากสรีระใครรับที่มันจุดศูนย์ถ่วงที่มันสูงได้ เพลอๆไปแตะ d-segment ด้วยซ้ำครับ
-
ยกเว้นบีทีห้าสิบล่ะครับ ส่วนสองคันที่ว่ามา ยังไงแคมรี่ก็มีพื้นฐานเดิมดีกว่านิดหน่อย
-
เคยใช้ CK2 สิบปี ขับไปกลับ ประมาณ 600 กม. เช่นกันค่ะ รู้สึกไม่เมื่อย เมื่อเทียบกับปิคอัพค่ะ
แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น D-segment คนละเรื่องเลยค่ะ ไม่เมื่อยแม้ขับต่อเนื่อง 400 กว่าโลค่ะ
ดังนั้น Camry น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ
-
เคยยืม Vigo ไม่มีแค็บ (ตัวล่างสุดมั้ง) มาบรรทุกของ
ขับอยู่แค่ครึ่งวันแต่เล่นเอาเหนื่อยเลย เพราะ:
1. ปรับเบาะได้นิดเดียว ท่านั่งเลยไม่สบายเท่าไหร่
2. ช่วงล่างแข็งมากๆ กระเด้งกระดอนไปตลอดทาง
3. เกียร์ธรรมดา ปรกติขับแต่รถเก๋งเกียร์ออโต้เลยไม่ชิน แถมต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยตอนออกตัวเพราะเกียร์ 1 ทดไว้สูง เข้าได้แป๊ปเดียวก็ต้องเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2
-
กระบะรุ่นเก่าๆ มันเมื่อยจริงๆครับ ผมยืิมรถเค้าขับแค่ไม่ถึง ชม ผมยังว่ามันแปลกๆเลย ประมานว่า รู้สึกพื้นมันสูงๆ แล้วเบาะมันเตี้ยๆ
รุ่นใหม่ๆ ผมว่าเมื่อยน้อยลงเยอะครับ แต่ก็คงยังไม่เหมือนรถเก๋ง 100% หรอก
ต้องไปลองขับดูครับ หาโอกาสขับยาวๆหน่อยจะได้รู้ว่าแบบนี้โอเคป่าว
แต่ถ้ากระบะตอนเดียว โอ้ว สุดๆครับ ปรับเบาะแทบไม่ได้ ต้องนั่งพนักพิงชันๆ คงจะเมื่อยยยยน่าดู
-
เหตุที่เมื่อยและเหนื่อยล้าสะสมสูงกว่า
เพราะ ตัวถังของรถเก๋ง ยึดติดกับช่วงล่าง แล้ววางบนล้อไปเลย
การปรับแต่งช็อกอัพ สปริง อื่นๆ จะทำให้ผู้ขับสัมผัสความนุ่มสบายได้ชัดเจนกว่า
รถกระบะ หรือ SUV แบบ Pickup Based ที่ต้องวางตัวถังไว้บน เฟรมแชสซี และ
เอาระบบกันสะเทือนไปติดยึดกับเฟรมแชสซี อีกทีหนะครับ
นั่นละ สาเหตุทั้งหมด
-
ถ้าเป็นกระบะรุ่นใหม่ๆ ปัจจุบันสบายครับ
ถือว่าทัศนวิสัย.. ด้านความสูงนี่ดีกว่ารถทั่วไป มองเห็นรอบดี
แต่การกะระยะ ต้องทำความเคยชินหากเปลี่ยนมาจากรถเก๋ง
เรื่องเครื่อง อัตราเร่ง แรงบิด ดีเซลในกระบะจะมาเต็มเพราะออกแบบมาให้บรรทุกหนัก
ถ้าใช้เกียร์ออโต้... "สบาย" ครับ
ชีวิตปัจจุบันผมขับแต่ซีดาน กะแฮทชแบค แล้วเคยขับกระบะ 2 คัน
- ฟรอนเทียร์ 2004 : เกียร์กระปุก 2 ประตูครึ่ง เหนื่อยนิดตรงเกียร์ เบาะอะไรไม่มีปัญหา
- ไทนตัน 2009 : ออโต้ 4 ประตู ขับสนุก ลุกนั่งสบาย ทางไกลยาวๆนิ่งดี
ตามที่ท่านถาม Pajero Sport จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ สำหรับการเดินทางไกล 600 โล
ดีเซลเองราคาถูกกว่าเบนซินราว 10-20 บาท อัตราการกินพอๆกันช่วง 12-15 กม/ลิตร
แต่ความปลอดภัย ประโยชน์ใช้สอยในกรณีชอบขนของเยอะๆ ผมว่าพี่ Pajero Sport นั้นคุมเกมได้ดีกว่า
หากต้องไปออกป่า เขา เที่ยวขึ้นเขาลงห้วย ลากเจ็ทสกี... ได้เปรียบมากครับ และขับสบาย
New Camry "รุ่นลิเก" 2.5 .. เดาว่าค่าน้ำมันหนักกว่าเยอะ และซดมากกว่า แรงบิดรอบต่ำน้อย
วิ่งทางไกล 600 km ถ้ามีขึ้นเขา ลงห้วย แลจะคุ้มค่าและตอบสนองได้ไม่ดีเท่าครับ
-
เหตุที่เมื่อยและเหนื่อยล้าสะสมสูงกว่า
เพราะ ตัวถังของรถเก๋ง ยึดติดกับช่วงล่าง แล้ววางบนล้อไปเลย
การปรับแต่งช็อกอัพ สปริง อื่นๆ จะทำให้ผู้ขับสัมผัสความนุ่มสบายได้ชัดเจนกว่า
รถกระบะ หรือ SUV แบบ Pickup Based ที่ต้องวางตัวถังไว้บน เฟรมแชสซี และ
เอาระบบกันสะเทือนไปติดยึดกับเฟรมแชสซี อีกทีหนะครับ
นั่นละ สาเหตุทั้งหมด
ผมว่ารถเก๋งน่าจะดีกว่ารถกระบะนะ ถ้าขับในเมือง และไม่ใช้ลุยทางขุขะ ลูกรัง
-
รถกระบะ ส่วนใหญ่เกียร์ เมนวล แน่น่อน เหนื่อยกว่า พวงมาลัยไม่คมเท่าเก๋ง วงเลี้ยวก็กว้าง เบาะไม่ค่อยกระชับแผ่นหลัง
ทั้งปวดขาและปวดหลัง
-
เคยนั่งวีโก้ 4 ประตู ยกสูง 3 ชั่วโมง
เฉยๆนะครับ ตัวแคบ ตัวตอนเดียว ไม่แน่อาจจะเมื้อย
แต่ตัว 4 ประตู นั่งสบายกว่า B Segment นะครับ
-
จริงครับ แค่ระบบช่วงล่างที่ซับแรงกระแทกใว้ก็ต่างกันแล้วครับ แต่ถนนเมืองไทยผมจึงเปลี่ยนมาใช้
PPVแล้วเปลี่ยนช่วงล่างดีกว่า ;D
-
Camryสิครับ จะไปขับPPVให้เหนื่อยทำไมล่ะ
-
Camry อีกเสียง
-
ความเร็วระดับ 130 ไม่เหมาะกับกระบะหรอกครับ รถเก๋งดีกว่า นิ่งกว่า ไม่ต้องเกร็งเท่าครับ
-
แคมรี่ไม่เคยขับ เคบพาน้องแจ็สจากยะลาเข้ากรุงแบบแวะข้างทางเรื่อย วิ่งยาว ๆ ไปเลย ไปไม่ถึงกรุงเทพครับ หมดแรงก่อน ยิ่งกลางคืนเครียดมาก แต่พอมาขับปาเจโร่ 2.5 Gt วิ่งยาวไปเลยแบบไม่ต้องนอนพักระหว่างทาง วิ่งถึงกรุงเทพใช้เวลาครึ่งวัน (หมดแรงพอดี) ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าขัยแจ้ส ยิ่งวิ่งกลางคืน ฝนตกหนัก รูดสบาย ๆ แซงซ้ายแบบไม่เครียดเลย ทัศนวิสัยดีกว่าเยอะ ถังน้ำมันก็จุมากกว่า 1000 โล เติม 2 ครั้งก็ถึงแล้ว แม้แต่คนนั่งข้างยังบอกเลยว่านั่งไม่เมื่อยเลย สรุปถ้าเป็นผม เลือก P่๋JS ครับ
-
แคมรี่ครับ แต่ถ้าเปลี่ยนจากPajero Sport เป็นแคปติว่า เอาแคปติว่าครับ นิ่มไม่เท่าแคมรี่ แต่ขับทางไกลมั่นใจกว่า
-
เคยขับจริงจังอยู่ 4 คัน ยาริสคันแรกของผม FD ของพี่สาว Fortuner ของคุณพ่อ แล้วก็ EX 2.0 ของผม ทุกคัน ที่นั่งคนขับ Fortuner ใหญ่กว่าทุกคัน นั่งเฉยๆ สบายกว่า แต่ถ้าขับเดินทาง เกิน 100km. กลับไม่ได้สบายกว่าเลย การดูดซับของช่วงล่าง ก็อาการโยนไปมาของรถเวลาเปลี่ยนเลน ก็ต่างแล้วครับ
เคยเอา Fortuner มาใช้อยู่เกือบๆ อาทิตย์หนึง แฟนผมบอกให้ไปเอา EX กลับมา เพราะว่าเห็นผมขับไกลๆ แล้วออกอาการเหนื่อยล้ามาก ต่างจากขับ EX แล้วจะดูสบายๆ กว่า
สมัยยังไม่มีรถ ยืมรถคุณพ่อตา(ดีแม็ก 2006) พาแฟนไปเยี่ยมยายของเขาเองนะละ สมุทรปราการ - ชัยภูมิ ไปเช้าเย็นกลับ รู้สึกเหนื่อยมากๆๆ ปกติที่บ้านผมเองมีแต่รถเก๋ง
สรุปถ้าอยากขับสบายก็เอารถเก๋ง อยากลุยนิดๆ ไม่สนว่าถนนเมืองไทยเป็นไง น้ำท่วมก็ไม่กลัว PPV ก็เจ๋งดี(Fortuner ได้ประโยชน์มากตอนน้ำท่วมปีที่แล้ว ขนเรือ ขนเสบียง จากสมุทรปราการไปส่งให้ พ่อแม่ที่อยุธยา) แต่ยังไงๆ ช่วงล่าง PPV ก็สู็รถเก๋งไม่ได้หรอกในเรื่องความนิ่มนวล เหตุผลตามที่คุณ จิมมี่ ให้ไว้ละครับ
-
พวงมาลัยไม่ไว
คันเร่งหน่วงๆ
โยกไปก็โยกมา
-
ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือรถกระบะ
ถ้าช่วงล่างไม่ดี เบาะไม่ดี นั่งก็เมื่อยทั้งนั้นแหละครับ
โดยพื้นฐาน
รถเก๋ง เขาสร้างมาเพื่อบรรทุกคน
รถกระบะ เขาสร้างมาเพื่อรับน้ำหนักการบรรทุก ซึ่งต้องแข็งไว้ก่อน ไม่งั้นเวลาบรรทุกของหนัก จะย้วย
จากข้างบน แค่นี้ ก็น่าจะทราบแล้วนะครับว่า รถอะไรจะนั่งสบายกว่า
-
ขอบคุณมาก ๆ สำหรับทุกความเห็นนะครับ ได้ไอเดียเยอะ
-
ปา ครับ
ถนนสายเอเชีย ปากะมิว 7 รูด มันส์ สุดละครับ
นอกนั้น เหนื่อย ;)
-
ทำไมผมรู้สึกรถกระบะเดี๋ยวนี้ขับสบายกว่ารถเก๋งอีกอะ เช่น ขับวีโก้120-140 ดูไม่เร็วเหมือนกระบะในอดีต ขับไปแบบลื่นๆ เงียบๆไหลๆ ถึงแม้ช่วงล่างจะกระด้าง แต่ผมมองว่าความสบายไม่ได้มาจากช่วงล่างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น กระบะสมัยนี้การเก็บเสียงในห้องโดยสาร โดยเฉพาะเสียงยางบดถนนเวลาเจอถนนลาดยางหรือคอนกรีตในกระบะที่ตัวธรรมดาล้อเล็กๆเหมือนเก๋งทั่วไปมันเก็บเสียงได้ดีกว่าเก๋งราคาสองสามล้านบาทบางคันด้วยซ้ำ (ถ้าแยกเสียงเครื่องยนต์ออก)ผมว่ามันเก็บเสียงและความรู้สึกไม่เร็ว ดีกว่าs-class ปลาวาฬอีกนะ s-class ขับ120ขึ้นไปจะรู้สึกเร็วมากครับ ส่วนนึงที่เครื่องยนต์เพราะกระบะเดี๋ยวนี้แรงบิดดี เหยียบนิดนึงก็พุ่ง ไม่ต้องเค้นกำลังเยอะ พวงมาลัยกระบะก็เป็นแบบแรค ทัศนวิสัยจากความสูงของตัวรถ แอร์เย็นๆ ยางกระจกสองชั้น สิ่งเหล่านี้อาจมีส่วนทำให้ภาพรวมรู้สึกกระบะเด๊๋ยวนี้ขับสบาย (เฉพาะบางรุ่น) ใครรู้สึกแบบผมบ้างเนี่ย5555 อาจแหวกแนวไปหน่อยครับ แต่มันเป็นเรื่องจริงจากการใช้งานอยู่ คนรู้จักผมหลายคนขายเก๋งไปซื้อกระบะ ถามว่าเปลี่ยนทำไม บอกขับกระบะสบายกว่า ^^ แต่ถ้าขับทางไกลอาจจะเหนื่อยกว่า เพราะท่านั่ง ตัวเบาะ ความแข็งของช่วงล่าง