ถ้าเราคิดตามดู ผมว่ามันคงไม่มีทางกลับมาเหมือนแบบเดิมแล้วเพราะตอนนี้ คนทำธุรกิจเต๊นท์ก็ต้องดิ้นเอาตัวรอดกันทุกคน ใครหน้าไหนกัน จะกล้ามาตีราคารถแบบเมื่อ 3 ปีก่อน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับ เพราะคนจะขายมันมากกว่าคนจะซื้อมาก ข้อมูลข่าวสารก็ถึงกันหมด จะมาหลอกขายกันก็ยาก หลอกซื้อก็ยิ่งยากเข้าไปอีกลองมองอีกมุมนะครับ สิ่งที่จะตามมาคือ เราผู้บริโภคจะต้องแบกรับภาระค่าเสื่อมของรถที่มากขึ้นในอีก 3-5 ปีข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น? ............... เราก็ต้องหาเงินมาโปะ เพื่อเปลี่ยนรถคันใหม่กันนั่นเองจากเคยขับ C ก็ต้องหดลงมาเหลือ B หรือ Sub B เพราะรถขายเหลือเงินไม่พอดาวน์รถที่สเป๊คใกล้เคียงเดิม หรือไม่ก็ยอดผ่อนสูง แบกไม่ไหวในความคิดผมประเด็นมันอยู่ตรงที่ รถใหม่มันแพงเกินไปแล้วครับตอนนี้ ถ้ามันลดขนาด ก็ต้องลดสเป๊คเราก็จะได้ใช้รถที่ราคาเท่าเดิม แต่ห่วยลง หรือไม่ก็ทนใช้คันเก่า ซ่อมใช้กันไปเมื่อก่อนเทียบบ้านเรากับเมืองนอก ค่าเสื่อมบ้านเราหายน้อย เพราะตลาดมือสองบ้านเรารถแพงมากครับตลาดโดยรวมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว คงไม่มีทางเป็นเเบบเดิมได้อีกต่อไปครับ