Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มกราคม 05, 2018, 11:44:39

หัวข้อ: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Red Bicycle ที่ มกราคม 05, 2018, 11:44:39
 :) :) :) สมัยก่อนตอนวัยรุ่นและเริ่มทำงาน ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆครับ ว่ารถD segment ญี่ปุ่น Camry  Accord.  cefiro.   altima    cronos.    รถกลุ่มนี้เหมือนมันจะสะท้อนความสำเร็จระดับหนึ่ง ของปุถุชนชาวบ้านในเมืองทั่วๆไป ที่ไม่รวมผู้มีฐานะดีอยู่แล้ว ก็จะไปเล่นรถ Premium ยุโรปอันนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยครับมันเกินเอื้อมมากๆ แต่ปัจจุบันดูยอดขาย D segment แล้วยอดหดหายมากๆ ดูแล้วผู้คนจะไปเล่น พวก PPV และ SUV กันมากกว่ามากๆ เลยไม่แน่ใจว่ารถ D segment ญี่ปุ่นยังเป็นรถที่ดูดี ในสายตาผู้คนทั่วๆไปอยู่ไหมครับ ผมกลัวว่ามันจะเป็น  Segment ที่ไม่เป็นที่สนใจขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้วน่าเสียดายนะครับ
ปล. ในเวปบอร์ดดูยังสนใจความเคลื่อนไหวของรถกลุ่มนี้อยู่มาก แต่ดูไม่ตรงกับยอดขายเท่าไรเลยครับ
หัวข้อ: Re: @@ ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี คล้ายๆว่าเหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความ
เริ่มหัวข้อโดย: Mos37257 ที่ มกราคม 05, 2018, 11:51:30
มันก็ยังสะท้อนถึงความสำเร็จในชิวิตขั้นนึง เเต่ที่เห็นยอดมันน้อยเพราะรถมันออกมาเเนวนุ่ม เเละนั่งได้ไม่กี่คน ลุยน้ำไม่ได้ เเต่มันยังเป็นรถที่ดูดีในระดับล่างชั้นบนถึงกลางชั้นล่างอยุ่ครับ ส่วนที่ เล่น ppv เเละ suv สมัยนี้ผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อน suv มีเเค่ crv หรือ ppv มีเเค่ fortuner mu7 หรือคนที่เล่น d seg เขามีตังมากขึ้นก็ข้ามไปเล่นรถ premium บางคนที่มอง d seg เเต่เห็นว่ารถยุโรปเช่น 320d cla gla เเพงกว่าไม่กี่เเสนเลยเพิ่มไปเล่นพวกนั้น เเต่ d seg ยังดูดีในระดับนึงเเน่ๆครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: palma ที่ มกราคม 05, 2018, 11:52:05
ไม่ครับ ดูจากยอดขายก็พอได้คำตอบครับ

ที่ยังสนใจ คือ สิ่งที่ D-seg ญี่ปุ่นยุคนี้ให้ได้ กับราคาที่สมเหตุผลครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ มกราคม 05, 2018, 12:14:17
ผมว่าสะท้อนพอได้อยู่นะครับ ถ้าเป็นต่างจังหวัด คนขับรถล้านกว่าบาท ถือว่ามีฐานะพอสมควร

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเราจะขับรถราคาประมาณ 1 ล้านบาทครับ

แต่คน กทม หารถได้ง่ายกว่า รายได้ก็สูงกว่า การที่เห็นเขาขับวีออสก็ไม่ได้แปลว่าเขาฐานะไม่ดี

เรื่องนี้คิดไปก็ปวดหัว มันวัดอะไรไม่ค่อยได้ครับ

แต่ถ้าขับรถราคาซัก 4 ล้านขึ้นไปนี่รวยจริงครับ อิอิ



มองอีกแบบหนึ่ง รถซีดานไซส์นี้ดูสวยสง่าภูมิฐานครับ ขับแล้วก็ดูดี

เรียกว่า "ดูดี" ดีกว่าครับ อย่าเรียกว่ามีฐานะหรือประสบความสำเร็จอะไรเลย


ผมถือคติอย่างนี้ครับ

ไม่ว่ารถเราจะแรงแค่ไหน รถคนอื่นแรงกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะสวยขนาดไหน รถคนอื่นสวยกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะแพงขนาดไหน รถคนอื่นแพงกว่าเราก็ย่อมมี

ฉะนั้นเลือกรถให้ตรงกับการใช้งานดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มกราคม 05, 2018, 12:38:57
ผมว่าสะท้อนพอได้อยู่นะครับ ถ้าเป็นต่างจังหวัด คนขับรถล้านกว่าบาท ถือว่ามีฐานะพอสมควร

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเราจะขับรถราคาประมาณ 1 ล้านบาทครับ

แต่คน กทม หารถได้ง่ายกว่า รายได้ก็สูงกว่า การที่เห็นเขาขับวีออสก็ไม่ได้แปลว่าเขาฐานะไม่ดี

เรื่องนี้คิดไปก็ปวดหัว มันวัดอะไรไม่ค่อยได้ครับ

แต่ถ้าขับรถราคาซัก 4 ล้านขึ้นไปนี่รวยจริงครับ อิอิ



มองอีกแบบหนึ่ง รถซีดานไซส์นี้ดูสวยสง่าภูมิฐานครับ ขับแล้วก็ดูดี

เรียกว่า "ดูดี" ดีกว่าครับ อย่าเรียกว่ามีฐานะหรือประสบความสำเร็จอะไรดีกว่า


ผมถือคติอย่างนี้ครับ

ไม่ว่ารถเราจะแรงแค่ไหน รถคนอื่นแรงกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะสวยขนาดไหน รถคนอื่นสวยกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะแพงขนาดไหน รถคนอื่นแพงกว่าเราก็ย่อมมี

ฉะนั้นเลือกรถให้เหมือนกับการใช้งานดีกว่าครับ
+1

ยิ่งเห็นพวกขับรถ D seg แล้วใส่ล้อแม็กแต่งนี้ ชัดเจนเลยว่าซื้อมือ 2 มาแต่งแน่ๆ ส่วนตัวไม่คิดว่าพวกนี้รวยจริง
รวยจริงๆคงขับแลมโบกินีไปแล้ว

แต่ถ้าออกมือ 1 ป้ายแดงและวิ่งใน ตจว. รอบนอก อันนี้ถือว่ามีเงินพอสมควร แต่ด้วยความเอนกประสงค์ + การใช้งาน PPV จะตอบโจทย์คน ตจว.มากกว่า
D seg มักจะได้รับความนิยมในกลุ่ม ขรก. เป็นหลัก
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Indy_Garden ที่ มกราคม 05, 2018, 12:43:11
คงจะมองในระดับนึงครับแต่คงไม่มากเท่าสมัยก่อน   สมัยนี้รถกระบะรุ่น Top ก็ล้านกว่าบาทแล้ว
สำหรับคนที่เลือก D seg ญี่ปุ่นอาจจะต้องการรถคันใหญ่นั่งสบายครับ ราคาจับต้องได้และค่าบำรุงรักษาที่ไม่ต้องซีเรียสมาก
ถ้าเทียบกับ Benz E class หรือ  BMW Series 5 
หรือบางคนอาจจะไม่ต้องการความ Premium มากมาย แต่เน้นใช้สอยทั่วไป D Seg ญี่ปุ่นป้ายแดง 2 คันใช้คันละ 5 ปีแล้วเปลี่ยนรุ่นใหม่ถ้าจะเทียบกับ   Premium ยุโรปก็มองได้หลายมุมครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 05, 2018, 12:52:25


ขึ้นกับ ว่า คุณเทียบกัยใครครับ
ตาสีตา สา
แค่ รถเก๋ง ธรรมดา ก็ถือ ว่าดีละ
เมือง เกษตรกรรม ตจว นี่ ใคร ขับ Ranger 4 ประตู คือ เสี่ย

แต่ถ้าเทียบ ชนช้นกลางขึ้นไปถึงสูง
สมัยนี้ ต้อง BZ กับ BMW ขึ้นไปครับ

ข้าราช การ ก็ต้อง PPV ป้ายแดงขึ้นไป
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มกราคม 05, 2018, 12:58:26
ตาม คห บนละ  ขึ้นว่าไปเทียบกับใคร    ถ้าเทียบกับคนทั่วไปเขาไม่ค่อยสนใจหรอกมั้ง   ยอดจำหน่าย D Seg  มันถึงได้ต่ำเตี้ย  เพราะรถใหญ่แบบนี้ปัจุบันถ้าไม่ซื้อเองส่วนตัวก็จะเป็นรถเช่าบริษัทส่วนมากครับ  เพราะต้องเช่ารุ่น คัมรี่เป็นหลักทุกโมเดลละ    ถ้าซื้อเองส่วนมากก็เครื่อง 2.0 และรุ่นรอง  ๆ    ถ้าเป็นรถบริษัทอาจมีรุ่นท๊อป                  ถ้า ตจว PPV  จึงตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะ SUV  บางตัวภาพลักษณ์ก็สุ้ Fortuner ใน ตจว ไม่ได้

  แต่บอกเลย คน ตจว รถเก๋งยังไงเขาก็ดูเป็นรถเก๋งหมดละ ไม่แตกต่าง     ยกเว้นมีแบรนด์ยุโรปน้ำหน้าเขาอาจมองไปอีกแบบนึง   
ถ้าดูดีเลยตอนนี้ คนส่วนใหญ่ดูเป็นหมดคือ  รถใหญ่ ๆ หน่อยอย่งพวก อัลพาร์ด  คนดูเป็นครับว่าดูดีแน่ ๆ    หรือไม่ก็รถสปอร์ตไปเลย 
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: gorilla ที่ มกราคม 05, 2018, 13:01:09
ส่วนตัวเฉยๆครับ รถล้านกว่าบาทสมัยนี้ซื้อกันง่ายๆ ผ่อนเยอะ ดอกไม่ได้แพงเว่อ  ถ้าย้อนไป 20-25 ปีที่แล้วคุณซื้อรถล้านกว่า ก็ถือว่าพอตัวครับ

ถ้าเอาว่าดูพอมีตังหน่อยก็ 4-5 ล้านบาทขึ้นไปครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: HappyCar ที่ มกราคม 05, 2018, 13:04:37
ตอนแรกผมก็เคยอยากได้ D-Segment ซักคันเหมือนกันครับ

แต่พอได้ขับบนถนนประเทศไทยมาหลายแห่ง

ผมจึงลืม D-Segment และนึกถึง SUV ขึ้นมาทันที  ::)
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: superest ที่ มกราคม 05, 2018, 13:13:59
ถ้าเป็นสมัยก่อน จะตอบง่ายมากครับ เพราะ คนซื้อรถต้องเงินสดเท่านั้น  อันนั้น คือ ต้องมีเหลือระดับนึง เลยทีเดียว แต่สมัยนี้ ตอบยากมากครับ เพราะ ที่มาของการขับรถ การครอบครองรถ การเป็นเจ้าของรถ สมัยนี้มันหลากหลายมาก เราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า คนขับรถยี่ห้อนี้ มีฐานะหรือประสบความสำเร็จอะไรมา อย่างไร แค่ขนาด จะให้ นิยาม คำว่า มีฐานะ แต่ละคนยัง  คิดไม่เหมือนกันเลย

   แต่ถ้าใช้ แค่ความรู้สึกส่วนตัวมอง ผมมองว่า ทุกวันนี้  คนขับรถ ทั่วๆ ไป มันก็เหมือนกันไปหมด ไม่ว่า จะ vios altis civic กระบะ เบนซ์ บีเอ็ม คัมรี่ แอคคอร์ด teana เพราะ มันเห็นเยอะ  จนเฉยๆ ไม่ว๊าวแล้ว (โดยเฉพาะbenz มันเยอะจนโหล และ เฉยๆ ไปแล้ว)  ความรู้สึกคือ ท่านคือคนชั้นกลางระดับใกล้เคียงกัน ทั้งหมดครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ มกราคม 05, 2018, 13:19:06
สมัยนี้คนเราดูกันที่รถได้ยากมากๆครับ อาเสี่ยขับรถกระป๋องไม่ใช่น้อยๆ คนหนี้บานขับรถหรูๆก็เยอะแยะรอบตัว
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขับสี่ ที่ มกราคม 05, 2018, 13:38:19
ผมว่าตลาด D-seg มันหดเพราะว่า นอกจากกระแส crossover แล้ว ยังมีเรื่องของราคารถญี่ปุ่น ที่ดันขยับขึ้นไปจี้ รถยุโรปพรีเมี่ยมประกอบใน ชนิดที่ว่าต่างกันไม่กี่แสน

พูดตรงๆว่า ทุกวันนี้คนที่ซื้อ D-seg ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ซื้อเพราะ Reliability ล้วนๆ เช่นไม่ต้องกังวลเรื่องเสีย หรือดับกลางทาง ไปเจอน้ำมันสกปรก ปั้มแม้ว หรือ ปั้มผสมน้ำ ก็ยังเอาตัวรอด ไม่ไปดับกลางทางด่วน
แถมวัสดุภายใน ก็ไม่ค่อย ย่อยสลายเองได้ สายฟงสายไฟ ผ่านไป 10 ปีมันก็ยังดีอยู่

เอาเป็นว่า ถ้าผมมีเงินเหลือ ผมก็คงซื้อ D-Seg ญี่ปุ่นมาเพื่อ "ความสบาย" และเป็นรถ "ใช้งานประจำวัน"
แต่ถ้าเรื่องภาพลักษณ์ก็ต้องยอมรับว่า สมัยนี้ D-seg นั้น image ไม่เพียงพอ ถ้าเทียบกับ ใบพัดสีฟ้า และ ตราดาว ราคาสองล้านต้นๆที่ออกมาเต็มถนน
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี
เริ่มหัวข้อโดย: TheZero ที่ มกราคม 05, 2018, 13:40:36
น่าจะไม่ใช้แล้ว มือสองราคาไม่เท่าไร  เด็ก รง. ผมยังซื้อ Camry มือสอง มาขับเลย  ส่วน ผจก. ออก ecocar mazda 2มาขับซะงั้น (จริงๆ มี Glc 250 แต่ให้เมียขับ)
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ มกราคม 05, 2018, 13:43:24
ผมคิดว่าแนวทาง ค่านิยมต่างๆเกี่ยวกับรถได้เปลี่ยนไปแล้วครับ ไม่ว่าจะด้วยสื่อออนไลน์ต่างๆหรือสังคมในยุค Social Network

แนวทางของคนรุ่นใหม่ ถ้าไม่ขึ้นไปจุดสูงสุด... ก็มองหาแนวทางที่แตกต่างไปเลย
ถ้าไม่ข้ามไปเล่นรถยุโรปเพื่อแสดงฐานะ ... ก็ไปหารถแนวเอนกประสงค์อย่าง SUV หรือ Crossover เพื่อแสดงบุคลิคของคนรุ่นใหม่เน้นความ smart เน้นความเป็๋นตัวตนของตนเอง
หรือไม่ก็แต่งรถแนว Performance แนว VIP อะไรไปทางนั้น

รถ D Secment ญี่ปุ่นที่เคยวางตัวไว้ว่าเป็นรถเกรดดี ภูมิฐาน ขับสบาย เป็นรางวัลชีวิต จึงเริ่มไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แล้ว
ไม่นับคนเมือง Gen ใหม่ที่กำลังจะโตขึ้นมา ก็กำลังมีค่านิยมที่จะไม่ซื้อบ้าน ไม่ซื้อรถกันแล้ว เน้นใช้ชีวิตอิสระไม่มีภาระผูกพัน

รถซีดาน D Sec แม้ว่าจะยังขายได้อยู่ แต่ก็คงไม่ใช่ปลายทางสำหรับใครหลายๆคนอีกต่อไป
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: hamenjoy ที่ มกราคม 05, 2018, 14:04:14
อีกเหตุผลนึงส่วนตัวผมนะ ผมว่าราคาของ D-Segment ปัจจุบันไม่ได้ห่างจากตัวเริ่มต้นของรถยุโรปแล้ว

แบบ Accord หรือ Camry ถ้าอัพราคาอีกหน่อยก็ไปสอย Volvo S60 หรือ BMW Series 3 ได้เลย

ดังนั้น ถ้าคนที่มีกำลังเงิน ไม่ได้เดือดร้อน และต้องการให้บ่งบอกความสำเร็จ (จากการใช้รถนะ) ก็มีไม่น้อยที่ขยับไปเล่นรถยุโรปครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ มกราคม 05, 2018, 14:15:18
ผมมองอีกแบบนึงครับ. ผมเห็นว่า. ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหน. สามารถเป็นตัวสะท้อนความสำเร็จได้ทั้งหมด. หากจะซื้อรถสักคัน เพื่อเป็นรางวัลให้กับเรา.

หากจะโยงว่า สัดส่วนคนซื้อรถ d seg Japan ส่วนใหญ่คือผุ้ที่ซื้อเพราะความเหมาะสมกับรายได้หรือไม่. ผมว่าส่วนน้อยครับ. ปัจจุบันน่าจะ PPV มากกง่า
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ มกราคม 05, 2018, 14:18:17
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ มกราคม 05, 2018, 14:20:08
ผมว่ามันก็บอกได้อยู่นะ การที่คุณจะซื้อรถ D-segment ได้ ฐานะก็น่าจะดีระดับหนึ่งครับ
อย่างรถบริษัท ส่วนมากคนได้รถ segment ก็มักจะเป็น Mgr หรือ Dir ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ

ส่วนเรื่องความนิยมตอนนี้มันมีรถหลายประเภทให้เลือกมากขึ้น รถระดับ C-segment ก็นั่งสบายขึ้นมากกว่าก่อน (แน่ล่ะสิตัวถังขยายจนแทบจะเท่ากับ D-segment สมัยก่อนแล้ว) คนเลยเริ่มมองตัวเลือกอื่นมากขึ้นครับ

ผมมองว่าคนเลือก D-segment ขึ้นไป คือคนที่ต้องการความสบายใจการเดินทางนะครับ
C-segment ลงมา คือคนชอบรถที่คล่องตัว ขับสนุก
แต่อย่างผมอยู่ ตจว ถนนไม่ค่อยดี แถมบ้าหอบฟาง+มีลูกน้อย ขอไปพวก SUV ละกันครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: BigCat ที่ มกราคม 05, 2018, 14:26:41
ผมมองอีกแบบนึงครับ. ผมเห็นว่า. ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหน. สามารถเป็นตัวสะท้อนความสำเร็จได้ทั้งหมด. หากจะซื้อรถสักคัน เพื่อเป็นรางวัลให้กับเรา.

หากจะโยงว่า สัดส่วนคนซื้อรถ d seg Japan ส่วนใหญ่คือผุ้ที่ซื้อเพราะความเหมาะสมกับรายได้หรือไม่. ผมว่าส่วนน้อยครับ. ปัจจุบันน่าจะ PPV มากกง่า
+1ครับ ผมซื้อรถเพื่อให้รางวัลกับชีวิตครับ สะท้อนความสำเร็จจากตัวเอง
ซ้อตัวที่ชอบ และอยากได้ ไม่ได้แบ่งsegmentมากมาย

แต่ก่อนมีแค่มอไซค์ครับ ปัจจุบันขยับมาได้ทุกวันนี้ก็ภูมิใจและมีความสุขครับ  8)

หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มกราคม 05, 2018, 14:27:01
มันอยู่ที่ใครมอง ถ้าคนทั่วๆไปหรือคนไม่มีรถยังไงก็ดูดี
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Trafalgar ที่ มกราคม 05, 2018, 14:27:13
ไม่เลยครับ เพราะมันเห็นบ่อยมากจนชินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: poom7 ที่ มกราคม 05, 2018, 14:46:16
ผมว่าก็ยังสะท้อนความสำเร็จได้อยู่ในระดับนึงนะครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่รู้เรื่องรถ ถ้ายังเห็นป้ายด้านหลังว่า เป็นตัวท็อปหรือไฮบริด
ก็ยังบ่งบอกได้ว่าคนนี้ก็ยังมีหน้าที่การงานที่ค่อนข้างดีพอสมควรเลย สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องรถอะไรมาก
ผมว่าถ้ายังเห็นว่าเป็น Accord Camry Teana ก็ยังสามารถดูออกได้นะครับ

ทุกวันนี้ขับรถในเมือง เห็น 320d, CLA/GLA เยอะขึ้นมา เพราะน่าจะด้วยราคาที่ถูกลงค่อนข้างมากด้วย
สำหรับคนที่รู้เรื่องรถก็จะรู้ว่าเราซื้อรถ Premium Compact Car มาทำไม สิ่งที่เราได้คือ ภาพลักษณ์, การบังคับควบคุมรถ, เครื่องยนต์
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องดังกล่าวนี้ ก็อาจจะมองว่า ทำไม Option น้อยจัง, Option แบบนี้ ราคานี้ ไปเล่น D-Seg ตัวท็อปดีกว่าได้ของครบกว่า ฯลฯ

ส่วน PPV/SUV ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าราคามันก็ใกล้เคียงกับ D-Seq กันแล้วในปัจจุบัน โดยส่วนตัวมผมมองคนที่ขับ PPV/SUV ได้สี่แบบครับ คือ
1.น่าจะไม่ใช่รถคันเดียวของบ้าน 2.สมาชิกในครอบครัวเยอะ 3.น่าจะเดินทางบ่อย/ขนของบ่อย 4.แถวบ้านน่าจะน้ำท่วมบ่อย
คนนึงอาจจะไม่ต้องมีครบทุกข้อนะครับ แค่มีข้อเดียวผมก็มองว่าเป็นเหตุผลที่เลือกซื้อรถ PPV/SUV ได้แล้ว

ส่วนตัวผมเองตอนแรกก็เล็ง Accord Hybrid Tech ไว้ ตั้งใจจะไปจองที่งาน Big Motor Sale 2017 สุดท้ายไปคุยกับเซลล์ คุยไปคุยมาข้อเสนอยังไม่ถูกใจ
เลยเดินไปดูรอบๆงานก่อน สุดท้ายได้ไปตามที่ BMW 320d iconic  ;D
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: vatmee ที่ มกราคม 05, 2018, 14:46:53
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
50 ล้านจึงนับว่ารวยหรอครับ ตายแว้ว มิน่าผมยังจนอยู่นี่เอง  :D แซวกัน ขำๆ ครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ มกราคม 05, 2018, 15:23:59
ผมมองว่าวัดได้แต่ ต้องเป็นรุ่นใหม่ และซื้อแล้วไม่กลับมาใช้คันที่ถูกกว่าเดิม
ไม่มีคนจนคนไหนซื้อรถคันละ1.2ล้านทุกๆ 6 ปีได้หรอกครับ
แต่ที่บ่งบอกได้แน่นอนคืออายุครับ รับรองว่าสว.ในระดับนึง
แต่กับAccord Camry 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี่ ผลิกโฉมดูวัยรุ่นกว่าที่เคยเป็นมาเลยครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: kamphola ที่ มกราคม 05, 2018, 15:24:23
ยังดูดีไหม ผมว่าถ้ารุ่นใหม่ล่าสุดหรือเก่าไปสัก Gen ก็ยังพอได้อยู่
สะท้อนถึงการประสพความสำเร็จไหม ผมว่ามันก็ยังพอได้อยู่เช่นกันครับ แต่ไม่ถึงกับว้าวววว
มองง่ายๆอย่างไม่มี Bias คนอายุ 35-40 เดินไปขึ้น Vios กับเดินไปขึ้น Accord ผมว่ามันก็ต่างกันอยู่น๊าาาา  :D
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: pim_cute ที่ มกราคม 05, 2018, 15:48:27
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก

อะไรกันครับ รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินเหรอครับ ผมไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงเข้าใจแบบนี้ ความรู้พื้นฐานเลยครับ

asset (สินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน) = debt (หนี้สิน) + equity (ทุน)

รถเป็น asset แน่นอนครับ จะเสื่อมค่าหรือไม่เสื่อมค่า จะบ้าน อสังหา ที่ดิน ก็เป็น asset หมดแหละครับ เพียงแต่มันจะเป็นส่วน debt หรือ equity เท่าไรแค่นั้นเอง ถ้าคุณกู้มาซื้อ ส่วน debt ก็เยอะแค่นั้น ส่วนจะเสื่อมราคามันไม่เกี่ยวเลยทางการเงินเค้าถึงมีค่าเสื่อมราคาเป็น คชจ และค่าเสื่อมราคาสะสมคอยปรับมูลค่า asset อยู่แล้วนี่ครับ

คนจะรวยไม่รวย ดูที่ net asset ครับ หรือ equity นั่นแหละ มันแสดงฐานะไม่ใช่กู้มามีแต่หนี้สิน ส่วนแค่ไหนถึงรวย 50 ล้าน 100 ล้าน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาตั้งเกณฑ์แบบนี้นะครับ ผมว่ามันมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า

จะพูดเรื่องการเงินศึกษาให้ลึกครับบอกเลย
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ มกราคม 05, 2018, 16:38:59
รวยไม่รวย ถ้าสูงมาอีกหน่อย เค้าไม่ดูรถเค้าดู cash flow แล้วก็ชื่อเสียงกันมากกว่าอ่ะครับ
แต่ถ้าระดับเริ่มต้น ซื้อ d seg ป้ายแดงก่อน 25
ซื้อ benz bmw ป้ายแดงก่อน 30 ผมว่าใช้ได้แล้วครับ
ตอนนี้ผมเฉยๆ มือสองใหม่ๆมันก็หล่อนะ E coupe cls ไรเงี้ยะครับ  มีตังค์ซ่อมมันก็จบ ปลอดภัยด้วย
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ มกราคม 05, 2018, 16:51:15
ผมว่าแล้วแต่มุมมองมากกว่าครับ ส่วนตัวผมเฉยๆกับ D seg C SUV จนไปถึง ยุโรป entry เลย
รถราคาแค่ล้านกว่าบาทไม่น่าสะท้อนอะไรได้ แบบผม อายุ 24 ก็ยังผ่อน CRV สบายๆเลย
ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากเลย

ผมว่าโฆษณามากกว่าที่สร้างค่านิยมพวกนี้ขึ้นมา เอาคนใส่สูทมาขับมานั่ง
มันก็ดูเป็นรถผู้บริหาร ( คงแสดงถึงความสำเร็จในระดับหนึง )
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ มกราคม 05, 2018, 17:26:18
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก

อะไรกันครับ รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินเหรอครับ ผมไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงเข้าใจแบบนี้ ความรู้พื้นฐานเลยครับ

asset (สินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน) = debt (หนี้สิน) + equity (ทุน)

รถเป็น asset แน่นอนครับ จะเสื่อมค่าหรือไม่เสื่อมค่า จะบ้าน อสังหา ที่ดิน ก็เป็น asset หมดแหละครับ เพียงแต่มันจะเป็นส่วน debt หรือ equity เท่าไรแค่นั้นเอง ถ้าคุณกู้มาซื้อ ส่วน debt ก็เยอะแค่นั้น ส่วนจะเสื่อมราคามันไม่เกี่ยวเลยทางการเงินเค้าถึงมีค่าเสื่อมราคาเป็น คชจ และค่าเสื่อมราคาสะสมคอยปรับมูลค่า asset อยู่แล้วนี่ครับ

คนจะรวยไม่รวย ดูที่ net asset ครับ หรือ equity นั่นแหละ มันแสดงฐานะไม่ใช่กู้มามีแต่หนี้สิน ส่วนแค่ไหนถึงรวย 50 ล้าน 100 ล้าน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาตั้งเกณฑ์แบบนี้นะครับ ผมว่ามันมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า

จะพูดเรื่องการเงินศึกษาให้ลึกครับบอกเลย
อันนี้จริงครับ คนมีหลายร้อยล้านหลายคนยังบอกตัวเองไม่รวยเลยครับ ใช้ชีวิต low profile กว่าคนหลักสิบล้านก็มี หรือชนิดที่เจ้าตัวขับรถญี่ปุ่นทั่วๆไปแต่เพื่อนมายืมเงินขับรถยุโรปรุ่นใหม่ก็มีเหมือนกัน หรืออย่างเพื่อนผมคนนึงรายได้ไม่ได้เยอะมากมายแค่ไม่กี่หมื่นแต่เที่ยวต่างประเทศบ่อยกว่าคนเงินเดือน6หลักอีกครับ 555
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ มกราคม 05, 2018, 18:25:40
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก

อะไรกันครับ รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินเหรอครับ ผมไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงเข้าใจแบบนี้ ความรู้พื้นฐานเลยครับ

asset (สินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน) = debt (หนี้สิน) + equity (ทุน)

รถเป็น asset แน่นอนครับ จะเสื่อมค่าหรือไม่เสื่อมค่า จะบ้าน อสังหา ที่ดิน ก็เป็น asset หมดแหละครับ เพียงแต่มันจะเป็นส่วน debt หรือ equity เท่าไรแค่นั้นเอง ถ้าคุณกู้มาซื้อ ส่วน debt ก็เยอะแค่นั้น ส่วนจะเสื่อมราคามันไม่เกี่ยวเลยทางการเงินเค้าถึงมีค่าเสื่อมราคาเป็น คชจ และค่าเสื่อมราคาสะสมคอยปรับมูลค่า asset อยู่แล้วนี่ครับ

คนจะรวยไม่รวย ดูที่ net asset ครับ หรือ equity นั่นแหละ มันแสดงฐานะไม่ใช่กู้มามีแต่หนี้สิน ส่วนแค่ไหนถึงรวย 50 ล้าน 100 ล้าน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาตั้งเกณฑ์แบบนี้นะครับ ผมว่ามันมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า

จะพูดเรื่องการเงินศึกษาให้ลึกครับบอกเลย

รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ มกราคม 05, 2018, 18:39:52
ถ้าส่วนตัวผมนะ ..

สะท้อนไหม ?

มันก็ระดับหนึ่งแหละ เห็นคนขับ D-Segment มา ก็คือ ต้องผู้บริหารระดับกลาง เงินเดือนมีแตะๆ 6 หลักขึ้นไปแหละ (ยกเว้น วัยรุ่น แต่งซิ่ง พ่อแม่ซื้อให้ หรือ ยืมรถพ่อแม่มาใช้ ก็อีกเรื่อง)

ที่บริษัทผม ระดับ ceo นี่ ขับกันเพียบ Camry / Accord / Teana นะ

แต่ผมเอง มองว่า มันรถคนแก่ มีแต่พวกอายุ 40 - 50 up ขับทั้งนั้น

ตอนที่ซื้อรถ เลยไม่เคยคิดจะมองมันเลย เพราะ ใหญ่ไป ยาว เกะกะ / รถเซ็ทมาเน้นนุ่ม ขับไม่มันส์ / รถเตี้ย ลุยนั่น ปีนนี่ ไม่ได้ ต้องระวัง ... พูดง่ายคือ ประโยชน์ใช้สอยมันน้อยไปหน่อย ไม่อเนกประสงค์

สู้ไป PPV / SUV ผมว่า มันอเนกประสงค์กว่า ขับแล้วดูไม่แก่เท่า D-Segment ด้วย
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ มกราคม 05, 2018, 18:57:10
ถ้าส่วนตัวผมนะ ..

สะท้อนไหม ?

มันก็ระดับหนึ่งแหละ เห็นคนขับ D-Segment มา ก็คือ ต้องผู้บริหารระดับกลาง เงินเดือนมีแตะๆ 6 หลักขึ้นไปแหละ (ยกเว้น วัยรุ่น แต่งซิ่ง พ่อแม่ซื้อให้ หรือ ยืมรถพ่อแม่มาใช้ ก็อีกเรื่อง)

ที่บริษัทผม ระดับ ceo นี่ ขับกันเพียบ Camry / Accord / Teana นะ

แต่ผมเอง มองว่า มันรถคนแก่ มีแต่พวกอายุ 40 - 50 up ขับทั้งนั้น

ตอนที่ซื้อรถ เลยไม่เคยคิดจะมองมันเลย เพราะ ใหญ่ไป ยาว เกะกะ / รถเซ็ทมาเน้นนุ่ม ขับไม่มันส์ / รถเตี้ย ลุยนั่น ปีนนี่ ไม่ได้ ต้องระวัง ... พูดง่ายคือ ประโยชน์ใช้สอยมันน้อยไปหน่อย ไม่อเนกประสงค์

สู้ไป PPV / SUV ผมว่า มันอเนกประสงค์กว่า ขับแล้วดูไม่แก่เท่า D-Segment ด้วย

เห็นด้วยครับ เรื่องดูไม่แก่ เสริมคือลุยน้ำได้ดีกว่า
ผมต้องขับติดต่องานที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะบ่อยๆ เวลาฝนตกหนักน้ำท่วมขับcamryลุยลุ้นหัวระเบิดว่าจะรอดไหมจะถอยก็เสียงานเสียการ :'(
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: siwakorn ที่ มกราคม 05, 2018, 20:07:58
ถามแบบนี้มันอยู่มี่สังคมแหละครับ ถามในบอร์ดนี้ก็มีแต่คนเล่นรถ และส่วนมากก็มีเงินกันพอสมควรก็เลยบอกว่ามันเฉยๆ แต่ถ้าถามผมผมว่ามันยังเป็นรถที่ดูดี ภูมิฐานอยู่ครับ อันนี้นับรวมไปถึง C-suv PPV ด้วยเลยนะครับ เพราะรถพวกนี้ราคาต่างกับ C-segment B-suv กระบะ อย่างต่ำๆก็ 3-4แสน คนเงินเดือนไม่ถึงหลักหมื่นปลายๆนี่ผมว่ามันเป็นจะนวนเงินที่ไม่น้อยเลยนะครับ บ้านผมนี่กว่าจะได้ D-seg มาขับพ่อผมก็ปาไป 50กว่าแแล้วครับ แต่ก่อนก็ได้แค่ C-seg

ปล.ไม่นับพวกมีเงินแต่อยากได้รถเล็กขับคล่องๆนะครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: pim_cute ที่ มกราคม 05, 2018, 20:12:43
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: BigCat ที่ มกราคม 05, 2018, 20:23:50
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
เดี๋ยวๆ อันนี้ผมตกใจ ต้องมี50ล้านนี่ใครกำหนดครับ 555 8)
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ มกราคม 05, 2018, 20:37:44
D-Segment ญี่ปุ่นนี่ถ้าเจ้าของซื้อมานั่งหลังมีคนขับรถส่วนมากจะเป็นคนที่มีฐานะทั้งนั้นครับ แต่จะไม่สนใจเรื่องรถยนต์มาก
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ มกราคม 05, 2018, 21:41:35
วัดยังไงดีละ ถ้าคุณเข้าไปถามคนขับรถหรู mb bm ว่าพี่รวยไหมครับ ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครกล้าพูดว่าตัวเองรวย สังคมไทยเรานี่ก็แปลก อยากทำให้ตัวเองดูรวย แต่ไม่เคยกล้ายอมรับว่าตัวเองรวย

แล้ววัดยังไงว่ารวย ต้องมีเงินกี่ล้าน มีทรัพย์สมบัติเท่าไหร่

สำหรับรถ d segment ถ้าไปถามมนุษย์เงินเดือน เด็กจบใหม่เริ่มทำงานไม่นาน เค้าก็มองว่าหรูว่ารวยแล้วครับ

ถ้าถามตาสีตาสาที่ไม่เคยรู้เรื่องรถก็มองเป็นรถเก๋งเหมือนๆกันหมด

ถ้าถามคนขับรถพรีเมียมไปจนถึงซูเปอร์คาร์ก็คงมองว่า งั้นๆ

แต่ถ้าตาม ตจว ภาพลักษณ์คนขับ ppv โดยเฉพาะ ftn นี่ช่างดูรวย ดูมีอำนาจ ดูเป็นเจ้าพ่อ มากเลยครับ 555
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ มกราคม 05, 2018, 22:21:48
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
เดี๋ยวๆ อันนี้ผมตกใจ ต้องมี50ล้านนี่ใครกำหนดครับ 555 8)

รัฐบาลครับ ถ้ากองมรดกมากเกิน 50 ล้าน ต้องเสียภาษี
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ มกราคม 05, 2018, 22:38:33
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ มกราคม 05, 2018, 22:40:38
คนอื่นไม่รู้ ผมไม่เคยคิดว่ามีสิ่งของบางอย่างแล้วจะสะท้อนถึงการประสบความสำเร็จในชีวิตเลยครับ คิดอย่างเดียว มีแล้วชีวิตดีขึ้นจนคุ้มต่อการจ่ายเงินเพื่อตอบโจทย์ตรงนี้มั้ย
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: Tpol ที่ มกราคม 06, 2018, 07:33:42
ส่วนตัวผมว่ามันเป็นรถตามวัยนะครับ35-40+. หน้าที่การงานก็จะเริ่มดีขึ้นเงินเดือนก็จะมาเป็น100Kบวกลบ รถมันก็ตามมาเอง แต่วัยนี้เริ่มต้องเลือกระหว่าง D กับ SUV เพราะราคาพอๆกัน และเพราะเริ่มมีครอบครับ พ่อแม่เริ่มแก่ต้องดูแล ครอบครัวเล็กไม่ลุยคงเลือกD นะครับ. ดังนั้นผมว่ามันแสดงออกระดับหนึ่งนะ ว่าพอมีตังบ้าง ล้านบวก  ค่าผ่อนรถแบบคนปกติก็น่าจะเท่ากับเงินเดือนคนจบใหม่ๆเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มกราคม 06, 2018, 09:26:41
ถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่งครับ

อยู่ที่สำเร็จแล้วพอใจมั้ย ถ้าพอ ก็จบ ชีวิตก็มีความสุข
ถ้าไม่พอ หาต่อ หาอีก หาใหม่
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: tew ที่ มกราคม 06, 2018, 10:04:41
ก็มองว่าธรรมดานะ มองว่าคนขับรถกลุ่มนี้คือคนที่มีอายุ อยากนั่งสบายๆ ส่วนมากตามต่างจังหวัดก็กลุ่มข้าราชการกู้เงินสหกรณ์(รวมถึงรถPPVด้วย)
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ มกราคม 06, 2018, 10:08:28

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

คุณอาจจะไม่ชัวเรื่องการเงิน เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรด่วนสรุปว่ามันไม่ใช่ทรัพย์สิน เกิดวันนึงที่คนไม่รู้ด้านนี้เข้ามาอ่านจะสรุปตามแบบคุณไป

และบ้าน ตึกแถว ที่ขายได้กำไรตลอดเพราะเงินมันเฟ้อด้วยรึเปล่า ที่ในเมืองเข้าใจได้ครับราคาขึ้นเพราะเศรษฐกิจขยายตัว มีความต้องการสูง แต่ตามต่างจังหวัดที่ขึ้นไม่กี่%มันอาจจะมาจากปัจจัยอื่นๆ อย่าลืมคำนวณตรงจุดนี้

แล้วรถที่คุณจัดไปอยู่ในหมวดเสื้อผ้านี่ ถ้าคุณมองรถตลาดอาจจะมองว่าราคามันมีแต่ตกลงเรื่อยๆ แต่ถ้ารถพวกคลาสสิค หรือ supercar รถพวกนี้ราคามันหล่นและก็ขึ้นเป็นกราฟพาราโบล่าเลยนะ ยกตัวอย่าง พวกรถคลาสสิคอเมริกัน หรือ ถ้ารถญี่ปุ่นพวก skyline ดูครับ พวกนี้พอราคาหล่นมาถึงจุดๆนึง มันขึ้นเอาๆ คุณอาจจะแย้งได้ว่ารถพวกนี้มันเอามาใช้ในขีวิตประจำวันไม่ได้ ถ้างั้นก็ลองไปหาซื้อพวก Vios turbo, Accord Coupe มือสองมาขับดู ราคาอาจจะลงซักพักหลังจากนั้นราคามันจะขึ้นเพราะเป็นของrareที่นักสะสมต้องการ แบบนี้ยังมองว่าเป็นเสื้อผ้าได้อยู่รึเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: citrinecw ที่ มกราคม 06, 2018, 12:14:56
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

ด้วยความเคารพนะครับ มาใช้ตัวแดงใหญ่ตั้งใจให้เด่น เรียกให้คนมาอ่านมาสนใจ แล้วพอมีคนมาท้วงก็มาแก้ตัวว่าไม่ได้มีความรู้ดี รู้แบบผิดๆถูกๆ แต่ยังพยายามแถต่อ เห็นแล้วก็ตลกดีครับ

ตอบเจ้าของกระทู้ ส่วนตัวคิดว่า D-seg มันเน้นจับตลาดผู้บริหาร ข้าราชการ ที่ใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่พอช่วงหลังมี 2 ปัจจัยที่ทำให้ตลาด d-seg หดตัวลงเพราะ ราคารถยุโรปตัว basic ขยับลงมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ กับ สภาพถนนและน้ำท่วมทำให้กลุ่มเป้าหมายเดิมหันไปมอง ppv มากขึ้น แต่รวมๆแล้ว D-seg ก็ยังให้ภาพลักษณ์ที่ดีอยู่ แต่ว่าผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: yumenowinds ที่ มกราคม 06, 2018, 16:03:30
ผมมองว่า PPV(ฝรั่งเรียก SUV) มันขยับขึ้นไปชน D-seg ด้วยแหละครับ

ทั้งราคา ออปชั่น ภาพลักษณ์ คันเดียวจบนั่งได้หลายคนด้วย ขนของก็ไม่ขี้เหร่ ทนทาน ไม่จุกจิก เรียกว่า All Around เลยดีกว่า

อยากดูหรูขึ้นอีกหน่อย หาป้ายประมูลซักแผ่นมาติดก็จบล่ะครับ สำหรับผมนะ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: TONYP ที่ มกราคม 06, 2018, 18:02:25
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

บ้านขายได้กำไรจริงหรือไม่ ไม่ใช่ดูแค่ซื้อมา 1 ล้าน 30 ปีขายได้ 3 ล้าน
มันต้องดูด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อระยะเวลา 30 ปี มันขึ้นมาเท่าไหร่
ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าราคาขาย คุณขาดทุนนะ หมายถึงคุณเอาชนะอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ ทรัพย์สินของคุณด้อยค่าลงด้วยอัตราเงินเฟ้อเสมอ

จะเชื่อแบบไหนก็ได้ แต่อย่าพยายามสอน หรือเอาความเชื่อไปทำให้คนอื่นเชื่อครับ

ขออภัยที่นอกเรื่องรถครับ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ มกราคม 06, 2018, 19:13:21
ถ้ามองด้านความสำเร็จก็ระดับนึง. เพราะคนขับแนวนี้ส่วนใหญ่ก็ระดับหัวหน้าแล้ว. มีอายุพอประมาณ

แต่ทุกวันนี้มันเฉลี่ยไปรถประเภทอื่นด้วย เช่น ppv suv.





หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: NNIICCKK ที่ มกราคม 06, 2018, 23:28:03
ผมว่าคำว่ารวยมันอยู่ที่มองจากฝั่งไหนนะ ถ้าผมมองตัวเอง เมื่อผมมีเงินเพียงพอกับความต้องการจับจ่ายใช้สอยได้แบบสบายๆและยังมีเหลือ นั่นคือรวย(และตอนนี้ผมจนมาก)

ถ้าผมมองคนอื่น ใครมีมากกว่าผมคือรวยหมดครับ ถ้ามีมากกว่ามาก คือรวยโครตๆ ใครมีพอๆกันคือธรรมดา ส่วนคนมีน้อยกว่านิดนึงคือยังธรรมดาอยู่(แอบเข้าข้างตัวเอง) ใครมีน้อยกว่ามากๆๆๆจึงจะนับว่าจนนิดๆ ;D
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: TRcdi ที่ มกราคม 07, 2018, 07:43:19
 
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
เดี๋ยวๆ อันนี้ผมตกใจ ต้องมี50ล้านนี่ใครกำหนดครับ 555 8)

รัฐบาลครับ ถ้ากองมรดกมากเกิน 50 ล้าน ต้องเสียภาษี

จริงๆ ก็ไม่อยากพาดพิงคุณ bodin
เพราะเห็นว่าออกตัวว่า "ความเห็นส่วนตัว"

แต่เรื่องบางเรื่อง มันเป็นวิชาการ
มันเป็นหลักสากล  สมาชิกท่านนึงก็พยายาม
อธิบายให้ทราบ 

ผมขอเทียบง่ายๆ  ถ้าคุณ bodin นำหลักการ
รวย 50 ล้านมาจากรัฐบาลมาอ้างอิง

เรื่องยานพาหนะนั้น  เวลาต้องแจกแจง
"ทรัพย์สิน" ของคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล
เค้าต้องนำมาคิดเป็นทรัพย์สินด้วยนะครับ

ดังนั้นถ้าสมมติคุณ bodin ได้เป็นรัฐมนตรี
คุณจะไปบอกนักข่าวว่า  อ๋อ ผมไม่นับรถยนต์
ที่ผมมี เป็นทรัพย์สิน   เพราะผมเชื่อว่ามัน
ก็เหมือนเสื้อผ้า ...  แบบนี้เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ
เผลอๆ มีความผิดเลยนะ
หัวข้อ: Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มกราคม 07, 2018, 07:43:37
ผมว่ามันก็ยังเป็นอยู่นะ จะมากจะน้อย ขึ้นกับว่าใครยึดติดมากแค่ไหน