Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Tamale ที่ พฤษภาคม 19, 2012, 18:39:15
-
บ้านผมใช้w124 E280 ปี96 ถึงตอนนี้ก็เกือบ16ปีแล้ววิ่งไป290000กว่าๆรู้สึกมันเริ่มจุกจิ๊กมากแล้ว
เมื่อ3ปีก่อนซ่อมใหญ่ไปแสนกว่าบาท แล้วพอมานั้งดูยอดปีที่แล้วรวมๆก็เกือบ60000 รถติดLPGแล้ว
พอคิดจะขายมันก็ได้แค่5แสนเต็มที่ก็เลยรู้สึกเสียดายขึ้นมาเพราะรถถึงจะเก่าแล้วแต่ก็ยังวิ่งดีอยู่
แต่ผมวิ่งต่างจังหวัดก็บ่อยวิ่งทีไปกลับก็800โลประมาณ2เดือนครั้ง
เลยขอความคิดจากชาวhml หน่อยครับ :)
-
ยังอยู่ต่อได้อีกครับรุ่นนี้ รถดีจาก MB ที่ไม่ควรละ
-
เหนื่อยจากการดูแล หรือ มีรถใหม่อยากได้ก็ขายครับ
ยังพอใจ ไม่มีปัญหากวนใจก็ใช้ต่อครับ ;D ;D ;D
-
ใช้รุ่นเดียวกันครับ เรื่องซ่อมหรอพอกันครับ มีมาเรื่อยๆ ปีที่แล้วโดนไปเป็นแสนเหมือนกัน ตอนนี้ก็หม้อน้ำรั่วถ้าเปลี่ยนก็เป็นหมื่นเลยยังไม่ได้เปลี่ยน ถามว่าจะขายไหม ขายได้ 5 แสน ทางบ้านจึงเก็บไว้ใช้เองดีกว่าครับ (ซื้อมาแพงขายได้แค่นี้) รถยังนั่งสบายอยู่เลย ภายในยังถือว่าสถาพดีอยู่สำหรับรถเกือบ 20 ปี แต่ จขทก. เดินทางไกลบ่อย ถ้ามันไปตายกลางทางละเรื่องใหญ่ ฉะนั้นถ้าขายแล้วไปดาวน์ D-segment ป้ายแดงมาก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันครับ
-
เก็บไว้เถอะครับ
ไหนๆก็ซ่อมใหญ่ไปแล้ว
อีกอย่างเจ้า BENZ รุ่นนี้มันก็งามแบบ Classic เหมือนกันนะครับ
-
ยกเครื่องวาง2jzไปเลยคับ ใช้ได้อีกยาว
-
นอกจาก Stroke8 หรือ W114 แล้ว
W124 รุ่นในฝันเลยครับ
ติดที่ปีนี้ต้อง restore BMW E34 ของที่บ้าน
ไม่งั้นจะหามาเก็บแล้ว
ลองเช็คๆหน่อยก็ได้ครับว่าอะไรเสื่อมอีกบ้าง เปลี่ยนอะไหล่หน่อยคิดว่าอยู่ได้ยาวครับ
-
ไหนๆก็ซ่อมไปแล้ว ผมว่า บูรณะให้ดีทั้ง เครื่องยนต์ ภายนอก ภายใน ช่วงล่าง ไปเลยดีกว่าครับ หาเครื่องเดิมลง หรือไม่ก็จับลง 1J 2J ก็ยังได้ครับ
ขายตอนนี้ แล้วซื้อคันใหม่ ผมว่า 1 ล้าน+/- หารถดีๆขับทางไกลสบาย ช่วงล่างดี แบบเจ้านี่ยากนะครับ อีกอย่าง ซ่อมไม่จุกจิก...อะไหล่ถือว่าไม่โหด เปลี่ยนถูกจุดก็จบใช้กันลืม ยิ่งเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ๆอย่าง W210 W211 W212 ที่เริ่มจะจุกจิก ค่าดูแล อะไหล่ แพงมากกว่า W124 มากๆ
W124 ถ้าดูแลดีๆ ฟื้นฟูรอบคัน เปลี่ยนหนังเบาะใหม่ ขับเคลือบสีให้เงาๆ ผมว่ามันสวยคลาสสิคไปแล้วครับรุ่นนี้
-
ถ้าวิ่งทางไกลบ่อย แล้ววางแผนจะมีครอบครัว ผมกลับว่าหารถใหม่ เป็น C-Segment สักคัน น่าจะสบายใจกว่าในระยะยาว อย่างน้อยๆ ก็ 7-8 ปี
ถึง W124 จะเป็น MB ยุค Over-engineered ก็เถอะครับ รถอายุขนาดนี้ มันก็ต้องมีกินข้าวลิงบ้างละครับ ไม่มากก็น้อย ถ้าใช้รถคนเดียว ก็ OK แต่ถ้ามีคนพ่วงไปด้วย ผมว่ามันก็ไม่สนุกเท่าไรนะครับ (ผมยังจำตอนอนุบาล ที่คุณพ่อเอา W123 ไป Overheat คาสะพานบางไผ่ได้อยู่เลย สิ่งเดียวที่จำได้คือ การอยู่บนรถรอช่างโดยไม่มีแอร์มันร้อนเป็นบ้าเลย 555) เอาค่าซ่อมมาผ่อนรถใหม่ขึ้นจะดีกว่าไหมครับ?
ก็ฝากไว้ละกันครับ
-
ถ้ายังไม่เบื่อกับฟิลลิ่งการขับขี่ที่เกียร์ตอบสนองช้ากว่ารถรุ่นใหม่ๆ และช่วงล่างเฟิร์มแต่ออกทื่อๆ อย่างอื่นดีหมดครับ ตั้งแต่ปี2539 มาถึง 2554 ผมใช้เบนซ์รุ่นW116 W126 W124 W202 W140 W210 รถที่มีปัญหาน้อยที่สุดคือ W126 W124 และW116 ครับ 124 ที่ใช้ผ่านมา2คันคือ300EกับE220 พอสรุปได้ว่าหากต้องการใช้ต่อ แนะนำให้เปลี่ยนช่วงล่างทุกชิ้นตั้งแต่สปริงโช้คลูกหมากบูชไปจนถึงยางเต้าคาน ระบบน้ำเปลี่ยนท่อใหม่ทั้งหมดปั้มน้ำตาน้ำ เครื่องเปิดฝาสูบยอมเสียปะเก็นเช็คสภาพเครื่องแล้วเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เริ่มสึกหรอใหม่ เปลี่ยนทุกอย่างที่ว่ามารวดเดียว รถจะขับคล้ายตอนใหม่ๆมาก ที่สำคัญใช้นานจนเกือบลืมว่าครั้งสุดท้ายซ่อมไปเมื่อไหร่ W124 ทั้งสองคันที่ได้ใช้มาผมทำแบบนี้ตั้งแต่ซื้อมือสองมา รถไม่เคยเสียกลางทางหรือมีซ่อมหนักๆเลยใน5ปี โดยรถใช้วิ่งทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ภูเก็ตยันภูชี้ฟ้า ยังประทับใจว่าขนาดรถอายุมากแล้วยังสามารถรับใช้เราได้เหมือนรถใหม่ถ้าเราซ่อมแบบดักทางไว้ก่อน นอกจากจะไม่เสียแล้วการที่เราเปลี่ยนช่วงล่างให้100%ช่วยเรื่องฟิลลิ่งการขับขี่ได้มากครับ
-
ถ้าเบื่อแล้วขายได้5แสนรีบขายเลยครับ รถอายุและไมล์มากๆแล้วก็ถึงเวลาเสียมากเป็นธรรมดาครับ
-
มี124อยู่คันครับ ค่าซ่อมเฉลี่ยตกปีละประมาณหมื่น-สองหมื่น ต่อปีครับ แต่ก็มีแจ๊คพอตบางปีเช่น
ทำช่วงล่างจะมากหน่อยแต่โดยทั่วไปก็ไม่มีอะไร ถ้าบอกว่าปีนี้มีเปลี่ยนผ้าเบรคหน้าไปชุดนึง กับท่อน้ำมันเบนซิน
1เส้นเอง จะเชื่อผมมั้ยเนี่ย ท่อน้ำมันผมสั่งจากUK มา ของCohline ฟุตละ พันเศษๆ กับ ผ้าเบรคTextar 1000.-
บาท เท่ากับ ปีนี้เพิ่งจ่ายเงินไป 2000.-นิดๆเองครับ อ้อมีซ่อมสลิงกระจกบานหลังขวาอีก1200.- ด้วยเกือบลืม
มีเท่านี้เองครับ W124 จ่ายไปไม่ถึง4000.- เกือบๆครึ่งปีแรก หารถอายุ20ปี ที่ค่าดูแลต่ำและไม่จุกจิกแบบนี้ผมว่า
คงหายากเต็มทนแล้วครับ รถคันนี้ เป็นตัวประกอบนอก ชายประตูทั้งสี่บาน ยังไม่เคยผุเลยครับ
-
ถ้ายังไม่เบื่อ แล้วคิดว่าซ่อมใหว ก็ใช้ต่อครับ
ถ้าคิดว่า ซ่อมไม่ไหวแล้ว ก็ออกรถใหม่
แต่ต้องทำใจว่ารถป้ายแดงบางรุ่น ก็ยังหนึบ/แน่นสู้ W124 อายุสิบกว่าปีที่สภาพดีไม่ได้
-
ถ้าเป็นตัว WDB1240282C E 280 ประกอบนอก ตัวนี้ยิ่งน่าเก็บครับ ใช้อีก สองปี ผมว่าราคามันก็ไม่หนีไปต่ำกว่านี้นะ ถ้าเป็นผม ปีนึง ซ่อม ซัก 50000 ผมรับได้เลย
-
ถ้าซ่อมแบบจบๆ แล้วเราจะได้ขับ E280 ที่สมบูรณ์
รถขับมีความสุข สมรรถนะดี ไม่จุกจิก มันคุ้มค่าเงินที่ซ่อมมากๆครับ
( รถ W124 อายุ 16 ปี แต่ลองเปรียบเทียบเบาะรองนั่ง + ดูวัสดุภายใน
เทียบกับรถญี่ปุ่นที่ผ่านการใช้งานสักแค่ 5 ปีก็ได้ครับ แล้วจะรู้ว่า
BENZ W124 พยายามคัดสรร วัสดุ+อุปกรณ์ระดับไหนให้เราครับ )
-
เก็บครับ ถ้ารักและผูกพัน ก็ดูแลครับ