ดีเซล 1.5 ไม่มีอาการน้ำดัน ส่วนเครื่องสั่น เพราะ
dpfตัน ให้ศูนย์ล้าง หรือเติมน้ำยาล้าง ที่เรียกว่าหัวเชื้อดีเซลก็หายแล้ว สปริงไอเสียล้าไม่ได้เป็นทุกคัน
แปลกดี เบนซินบังคับให้ใช้น้ำยาล้างหัวฉีดจากศูนย์อย่างเดียว ถ้าราคาไม่เกินสองร้อยก็จ่ายไปเถอะไม่แพง
เติมทุกหมื่นโลได้จริงถือว่าถูก ขนาดสองร้อยยังไม่เกินห้าพันโล เพิ่มออกเทน ซีเทนด้วย
เครื่องฉีดตรงจำเป็นต้องใส่ สี่ห้าหมื่นโล ถอดมาล้างที ถ้าไม่ใส่จะมีเขม่าเกาะเร็ว หนักๆหัวฉีดตันเร็ว
E85 ทำให้ยางแห้งแตกง่าย ต้องเติมสารทำให้เป็นเมือกเพื่อหล่อลื่นสายยาง แหวนยางด้วย ที่ใส่มาจากหอเติมไม่เยอะ
และมีสารลดการแยกตัว ทำให้รวมกับเบนซินได้ทนทาน เพราะเก็บในถังเก็บจะได้เน่าช้า เพราะความชื้นไปกลั่นตัวในถัง
ุ้ถ้าเป็นหัวฉีดไอดี บ่าวาล์วสะอาด แต่ฉีดตรงบ่าวาล์วแห้ง ไอเสียจากegr จะมาเกาะง่าย ต้องเติมน้ำยาเพิ่มชะเขม่าบ่าวาล์ว
เครื่อง4ds สามห่วงมีหัวฉีดสองชุด แต่เสียทีเปลี่ยนแปดหัว ซูซุกิใช้สองหัวฉีดไอดีแทนฉีดตรง ประหยัดใกล้กันดูแลง่ายกว่าเยอะ
1.8ถ้าใช้เสื้อ1.5 เปลี่ยนเพลาข้อเหวี่ยง อินเตอร์น่าจะน้ำเหมือนเดิม เกียร์ลูกเดิมแหง ติดออยเครื่องเกียร์มาได้แล้วอย่ากั๊ก
ราคาเท่าๆเดิม แต่ออกตัวเร็วขึ้น ประหยัดขึ้น พอๆกับเบนซิน น่าซื้อกว่าเดิมเยอะ คงต้องดูชิ้นส่วนแบบตอนเปิดตัว1.5
2.2 ดีเซล น้ำดันในโฉม1 กับ 2 โฉม 3 ยังไม่มี อุดegrไปได้แค่หลอกตัวเอง ร้านทำรวยเจ้าของเสียประกันรถ
2.2 ดีเซลคุณหมายถึง cx5 ใช่ไหมครับ ผมเข้าใจว่า cx5 ตัวปัจจุบันมันโฉมที่ 2 รึป่าวครับ หรือผมเข้าใจผิด คือแบบอ่านมาตั้งเยอะถ้าผิดมาตายตอนท้ายจริงๆ
เข้าใจอะไรผิดถามได้ ที่ตอบอยู่นี้ไม่ใช่ข่าว แต่คือความเห็น ช่วยพูดจามีมารยาท ดูกาลเทศะด้วย พิมพ์ผิดก็แก้ไขได้ไม่เป็นตายหรอก
ขอบคุณ คุณ Jinfinite มากครับ ที่ช่วยเฉลย
cx5 ตัวที่ขายอยู่ ใช้โครงสร้างหลักจากตัวถังที่แล้ว เปลี่ยนบางชิ้นส่วนไม่ได้ออกแบบใหม่ทั้งหมด
ถ้านับอย่างรถยุโรปที่ลากขายเกินสิบปี ถือเป็นโฉม3 จนกว่าจะออกแบบโครงสร้างใหม่ทั้งหมดถึงเรียกว่าเปลี่ยนตัวถัง