พี่ครับ....
ถ้าเป็นรถ แบบ Hi-end แบบที่มันพิเศษมาก ๆ และประกอบเฉพาะคันเหมือนการตัดสูท อย่างนั้นทำได้ครับ แต่จะแพงมาก ๆ
ถ้าเป็นรถแบบ mass แล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ สำหรับการประกอบสำเร็จจากโรงงานและต้องควบคุมความผิดพลาด
แบบไม่ให้เกิดขึ้นทุก ๆ คัน
-- เรื่องของโรงงาน --
การผลิตแบบ mass เพื่อตอบสนองตลาด :
ผมยกตัวอย่างเช่น ถ้าพี่ดูยอดผลิตรถสักรุ่น ป้อนในประเทศและส่งออก สักเดือนละ 20,000 คัน
1 เดือนเราทำงาน 20 วัน นั่นคือ ไลน์ของรถรุ่นนั้นต้องผลิตให้ได้ 1,000 คันต่อวัน
1 วันเรามี 2 กะ ดังนั้น 1 กะคือ 500 คัน
1 กะมี 8 ชั่วโมง นั่นคือ 500 คันใน 8 ชั่วโมง
8 ชั่วโมงมี 8x60 = 480 นาที นั่นคือ 500 คันใน 480 นาที
โห... 1 คัน (1work station) มีเวลาให้คนงานประกอบชิ้นงานสำหรับ station นั้นไม่ถึง 1 นาทีนะครับ
ทีนี้ พี่ลองนึกว่าถ้าพี่เป็นคนงานประกอบ Airbag สำหรับรถรุ่นนึงที่มีรุ่นย่อย S, V, V+, SV, SV+
เวลาที่รถวิ่งผ่านสายพานมาถึง station ของพี่ พี่แค่ดูว่าเป็นรุ่นย่อยไหน แล้วพี่ก็หยิบ Airbag เข้าไปประกอบ
เช่น รุ่น S, V, V+ ก็หยิบแค่ถุงลมหน้า รุ่น SV, SV+ ต้องใส่ถุงลมข้างด้วย (สมมุตินะ)
แต่พอเป็นแบบ เลือกออปชั่นได้ตามใจลูกค้า...
คราวนี้พอรถวิ่งเข้ามาใน station ของพี่ พี่จะไม่รู้ละว่าคันนี้ จะใส่ถุงลมมั้ย ถ้าใส่จะใส่ใบไหนบ้าง นั่นคือพี่ต้องดูใบงาน
แบบ customize กันทีละคันแบบที่ไม่มี pattern ใด ๆ เลย
สี่งที่จะเกิดกับ work station นี้คือ คนงานใช้เวลาดูใบงานมากขึ้น มีโอกาสใส่ผิดใส่ถูกมากขึ้น
นี่แค่ option เดียวนะครับ
นี่แค่มุมมองของคนงานนะครับ ยังมีหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมาก ทั้ง production plan, part order
QC, ไปจนถึง buy off จิปาถะ
แล้วยิ่งกว่านั้น ทั้งหมดจะอ้างอิงจากใบงานที่ customize เฉพาะของรถคันนั้น ๆ ซึ่งคนที่ออกใบงานตัวนี้ต้อง
ิbreakdown part ย่อย เช่น การเลือกที่จะใส่ - ไม่ใส่ airbag บางตัว มันไม่ใช่แค่ airbag อย่างเดียว
แต่มันต้อง break ลงไปถึง part ที่เกี่ยวข้องอย่าง สายไฟ คลิปสายไฟ สวิทซ์ต่าง ๆ เซ็นเซอร์ ECU etc มากมาย ครับ
ต่อให้เป็นโรงงานแบบ 4.0 ที่ใช้ program ในการ breakdown part และ การประกอบลงเป็น station ไปได้
แต่ตัว program นี้จะต้องสร้างระบบที่สั่งการให้ลึกลงไปอีกมากครับ
-- เรื่องของการ design --
Function ของ option ต่าง ๆ มันมีการออกแบบที่ต้องเผือความผิดพลาดในการประกอบของโรงงานด้วยครับ
โดยเฉพาะเรื่องสายไฟ
รถยนต์ที่ผลิต ไม่ได้เดินสายไฟกันทีละเส้นเข้ากับ option กันทีละตัวนะครับ มันจะเป็นชุดสายไฟ ที่ควรจะมีเฉพาะ
สายไฟที่ใช้งานตามรุ่นย่อยเท่านั้น เพื่อป้องกันคนงานเสียบผิด เสียบถูก ทำให้ฟังก์ชั่นของรถมันรวน แล้วลูกค้าก็มา
ร้องเรียน เคลม กันไงครับ (คนงานมีเวลาในการประกอบแต่ละ station ไม่เยอะ และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นคนทำงาน
ปราณีตมาก)
ทีนี้ถ้าเป็นแบบ customize วิธีเดียวที่พอจะเป็นไปได้คือ ชุดสายไฟของรถทุกคันต้องเป็นสายไฟแบบต่อได้ครบทุก
option ส่ิงที่ตามมานอกจากจะแพงโดยไม่จำเป็นแล้ว โอกาสที่คนงานมึน ๆ เสียบผิด-เสียบถูกจะสูงมาก
ต่อให้ QC inspection เจอ การซ่อมรถพวกนี้คือรื้อชิ้นส่วนที่ครอบสายไฟออกมาเพื่อแก้งาน พี่ ๆ ก็ไม่ชอบให้รถ
ถูกรื้อกันใช่มั้ยครับ
อันนี้คร่าว ๆ นะครับ
สุดท้ายแล้ว ถ้าเราอยากจะ customize option กับรถ mass
ผลที่ได้จริง ๆ คือ เผลอ ๆ อาจจะแพงกว่ารุ่น top ที่ขายอยู่บน show room น่ะครับ