ผู้เขียน หัวข้อ: พวกบูช,ยางที่เกี่ยวกับช่วงล่างมีอะไรบ้าง หากเปลี่ยนจะซับเเรงกระเเทกดีขึ้นไหมครับ  (อ่าน 11557 ครั้ง)

ออฟไลน์ headduke

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
พวกบูช,ลูกยางที่เกี่ยวกับช่วงล่างมีชิ้นส่วนอะไรบ้างครับ   เปลี่ยนยกชุดจะซับเเรงกระเเทกได้ดีขึ้นไหมครับ
รถเก่า vios โฉมเเรก ไมเนอร์ 06 อายุประมาณ 10ปี วิ่งน้อย 80,000km ไม่เคยเปลี่ยนพวกนี้เลย  เปลี่ยน ช็อคกับ สปริง เป็น vios turbo เมื่อ2ปีที่เเล้ว ยางเป็น gr100 ขอบ15/55/195  ความรู้สึกตอนนี้เเข็งกระด้างตึงตังกระเเทกมากๆเวลาเจอทางไม่เรียบ เสียงถนนดังสุดๆ

แนวทางตอนนี้คือ จะเปลี่ยน พวกบูช ยางต่างๆ ที่เกี่ยวกับช่วงล่างเเต่ไม่รู้ว่ามีจุดไหนบ้างครับ
สปริงจะเป็น Dobinson ความสูงเดิมๆ ขดใหญ่ ช็อคมองๆไว้เป็น New SR หรือ Bilstien B4(Standard) ล้อ 15 เบาๆหน่อย(Unsprung weight)
ยาง Lc 3st แก้ม60  พวกนี้จะทำให้เห็นผลเรื่องความนุ่มนวล ซับเเรงกระเเทกไหมครับ

รบกวนพี่ๆช่วยเเนะนำด้วยครับ









ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,488
ผมว่าพวกบูชยังไม่น่าจะไปนะครับ  มันตึงตัง  อยู่ที่สปริง และโช้คที่คุณเปลี่ยนนั่นแหละ  เลือกหาชุดใหม่ที่พอดีกับความรู้สึกของคุณ  อย่าไปบอกเขาว่าหนึบ  เกาะดี  แต่ให้บอกว่าขอนุ่น แต่เกาะดีกว่านิดหน่อยก็พอ 

ออฟไลน์ jajaboss

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 693
อยากนุ่มก็ลดลมยางครับง่ายสุด

ถ้าบูชไม่ดีหรือขาดรถเอียงวิ่งไปตรงนะครับ

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,586
ปัญหาเดียวกับผมเลยตอนนี้ แต่เป็น civic fd เปลี่ยนยางเป็น 3st แล้วนุ่มขึ้นเงียบขึ้นบ้าง ลองเปลี่ยนยางเป็นซีรี่ 60 น่าจะช่วยได้อีกพอสมควรแต่ปัญหาหลักอยู่ที่โช๊คเท่าที่หาข้อมูลมาโช๊คเดิมจากโรงงานนุ่มที่สุดแล้วครับ

ออฟไลน์ iamitman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 301
    • อีเมล์
ตามมาบอกแค่ว่า รถผม vios เหมือนกัน วิ่งมาพอๆกัน ยาง gr100 ซีรี่ย์เดียวกัน เรื่องตึงตังผมไม่แน่ใจ น่าจะมาจากสปริง วีออสนี่เจอสปริงแข็งแล้วถ้าโช๊คหยุดอาหารเต้นไม่อยู่อาการจะแย่มาก แนะนำว่าสปริงเดิม กับ new sr เหลือๆครับ ลองดู และยาง ผมว่า gr100 ไม่เงียบครับ สู้สมัย gr90 และ yoko db ที่เคยใช้ไม่ได้ครับ ยางผมวิ่งมาสามหมื่นกว่าโลครับ รู้สึกไม่โอเคตั้งแต่พ้นหมื่นโลแรกครับ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,334
VIOS บู๊ชยาง หมดสภาพที่ 200,000 km. มี บู๊ชปีกนก, บู๊ชกันโคลง หน้า/หลัง, บู๊ชคานหลัง และบรรดาอะไหล่ที่มียางประกอบแล้วหมดสภาพที่ 100,000 km. มี  ยางแท่นเครื่อง-แท่นเกียร์, ยางเบ้าหัวโช๊คฯและยางรัดแร็ค ส่วนที่เหลือเช่น ยางหูโช๊ค-ยางกันกระแทกโช๊ค เมื่อรถขึ้น hoist ควรฉายไฟตรวจดู ถ้าใช้งานถนนเรียบก็ไม่ค่อยทรุดครับ แต่ที่แน่ๆ ควรตรวจละเอียดทุก 2 แสนกิโลฯ

ออฟไลน์ Whisky

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 48
ทุกชิ้นมีผลกับการซับแรงสะเทือนหมดแหละครับ แม้กระทั่งน้ำหนักของชิ้นส่วนเอง เห็นคุณพูดถึง unsprung weight คิดว่าคงทราบดีถึงผลกระทบตรงนี้

การใช้งานชิ้นส่วนเหล่านี้โดยมากเราจะใช้กันจนมันพังจริงๆ แต่ผมขอเสริมตรงนี้ว่า ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นจะมีช่วงการใช้งานที่ดีที่สุดของมันไม่นานเท่าอายุขัยของมันจริงๆ เช่น โช๊ค บางคนอาจใช้ถึง แสนโล หรือ 5 ปีโดยประมาณ แต่ช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดคือไม่เกิน ห้าหมื่นโล หรือประมาณ ปีครึ่ง ถึง 2 ปี บุชชิ่งเอง ถ้ามาจากโรงงาน วัสดุมักเป็นยางพวกนี้มองด้วยตาสภาพอาจดูปกติ แต่มันค่อยๆแข็งขึ้นตามระยะเวลาและการใช้งานแปรผันไปตามสภาพแวดล้อมนั้นๆ แม้กระทั่งล้อยางเองก็มีช่วงที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน แม้แก้มยังไม่บวมปูด แตกลายงา แต่มันก็เริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ไปตามกาล ลูกหมากเองก็มีผลไม่น้อยต่อการทำงาน อย่าคิดว่าลูกหมากถ้าหลวมแล้วจะไม่กระทบนะครับ

คำตอบของคำถามคือมีผลมั้ย ผมบอกได้เลยว่าถ้าไม่เคยเปลี่ยนเลย มีผลแน่นอน แต่เนื่องจากคุณเปลี่ยนมาใช้ สปริงกับโช๊คที่แข็งขึ้น การซับแรงสะเทือนอาจไม่เท่ากับโช๊คเดิมๆ
สรุป
ยาง
บุชชิ่ง
สปริงกับโช๊ค
ลูกหมาก
ยางรองเบ้าโช๊ค
ยางกันกระแทก และส่วนอื่นๆที่เป็นยางและมีความเกี่ยวข้อง

มีผลกระทบแน่นอนครับ ถ้าใช้จนลืมไปแล้วว่าต้องเปลี่ยน ตอนเปลี่ยนนี่จะชัดเจนมาก ยิ่งถ้าได้เปลี่ยนพร้อมกันนี่บอกเลยว่ารับรู้ได้แน่นอน
ปล. ใช้ของแท้ด้วยนะครับ อย่าลืมขันกวดช่วงล่างทุกจุด ทั้งแพหลัง แพหน้าด้วยครับ จริงๆ ควรทำทุกสองหมื่นโล หรือปีละครั้ง แต่ส่วนใหญ่มักละเลย ศูนย์เองก็ไม่ทำให้เว้นสั่ง หรือต้องออกไปทำข้างนอกเอง

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,244
มีvios บริทนี่แต่เป็นรุ่น Sก่อนminor
ผ่านมา10กว่าปี เปลี่ยนโช้คแล้ว เปลี่ยนยางแล้ว แต่ก็ยังมีเสียงช่วงล่างที่ดังมากเวลาผ่านถนนที่พัง
ขอถามต่อว่ามันเป็นเพราะอะไรครับ ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใหนถึงเสียงจะเบาลง

ออฟไลน์ lacked

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
เปลี่ยนลูกยาง ลูกหมาก บุช ต่างๆ ก็จะได้ขันน็อตต่างๆ แล้วคุณจะเหมือนได้รถใหม่มาเลยครับ
ถ้ายังไม่พอกลับไปใส่โช้คแสตนดาร์ทเดิมๆครับ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ถ้ายังไม่พออีกเปลี่ยนไปใช้ยาง ecopia ครับนุ่มมาก ยิ่งปีแรกๆที่เปลี่ยนยิ่งนุ่ม
ถ้ายังไม่พออีกใส่ยาง 175/65R14 ลมยางไม่เกิน 32

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
ทุกชิ้นมีผลกับการซับแรงสะเทือนหมดแหละครับ แม้กระทั่งน้ำหนักของชิ้นส่วนเอง เห็นคุณพูดถึง unsprung weight คิดว่าคงทราบดีถึงผลกระทบตรงนี้

การใช้งานชิ้นส่วนเหล่านี้โดยมากเราจะใช้กันจนมันพังจริงๆ แต่ผมขอเสริมตรงนี้ว่า ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นจะมีช่วงการใช้งานที่ดีที่สุดของมันไม่นานเท่าอายุขัยของมันจริงๆ เช่น โช๊ค บางคนอาจใช้ถึง แสนโล หรือ 5 ปีโดยประมาณ แต่ช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดคือไม่เกิน ห้าหมื่นโล หรือประมาณ ปีครึ่ง ถึง 2 ปี บุชชิ่งเอง ถ้ามาจากโรงงาน วัสดุมักเป็นยางพวกนี้มองด้วยตาสภาพอาจดูปกติ แต่มันค่อยๆแข็งขึ้นตามระยะเวลาและการใช้งานแปรผันไปตามสภาพแวดล้อมนั้นๆ แม้กระทั่งล้อยางเองก็มีช่วงที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน แม้แก้มยังไม่บวมปูด แตกลายงา แต่มันก็เริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ไปตามกาล ลูกหมากเองก็มีผลไม่น้อยต่อการทำงาน อย่าคิดว่าลูกหมากถ้าหลวมแล้วจะไม่กระทบนะครับ

คำตอบของคำถามคือมีผลมั้ย ผมบอกได้เลยว่าถ้าไม่เคยเปลี่ยนเลย มีผลแน่นอน แต่เนื่องจากคุณเปลี่ยนมาใช้ สปริงกับโช๊คที่แข็งขึ้น การซับแรงสะเทือนอาจไม่เท่ากับโช๊คเดิมๆ
สรุป
ยาง
บุชชิ่ง
สปริงกับโช๊ค
ลูกหมาก
ยางรองเบ้าโช๊ค
ยางกันกระแทก และส่วนอื่นๆที่เป็นยางและมีความเกี่ยวข้อง

มีผลกระทบแน่นอนครับ ถ้าใช้จนลืมไปแล้วว่าต้องเปลี่ยน ตอนเปลี่ยนนี่จะชัดเจนมาก ยิ่งถ้าได้เปลี่ยนพร้อมกันนี่บอกเลยว่ารับรู้ได้แน่นอน
ปล. ใช้ของแท้ด้วยนะครับ อย่าลืมขันกวดช่วงล่างทุกจุด ทั้งแพหลัง แพหน้าด้วยครับ จริงๆ ควรทำทุกสองหมื่นโล หรือปีละครั้ง แต่ส่วนใหญ่มักละเลย ศูนย์เองก็ไม่ทำให้เว้นสั่ง หรือต้องออกไปทำข้างนอกเอง

ความเห็นนี้ +1 เลยครับ ตรงทุกจุด ผมเองยังเปลี่ยนโช็ค+สปริงทุก 8 หมื่นโล อาการที่เห็นชัดคือ มันเตี้ยลง