อันนี้น้องสาวเล่ามาให้ฟังนะครับ
1.) ถ้าทำงานพวก uber, didi (คล้าย uber แต่ดังในเมืองที่น้องสาวอยู่) ต้องไปสอบใบขับขี่ ใบขับขี่นานาชาติใช้ไม่ได้ แล้วต้องเสียเวลาลงเรียนก่อน
2.) ค่าออกรถ จะต้องบวกภาษีท้องถิ่น (แล้วแต่รัฐที่ไปอยู่ อย่าง SA ก็คนละ rate กับ victoria) และค่าประกัน เค้าจะมีราคา based กับ drive away price ดู drive away price เป็นหลักก็ได้
3.) ค่าประกัน จะต่างจากประเทศไทย คือ เอาอายุ ประวัติ ประวัติฝ่าฝืนการจราจร (ไทยถ้าเข้าใจไม่ผิด ประวัติไม่ได้ตามตัวไปด้วย) มาคำนวนด้วย ปกติก็ประมาณ 30-40k บาท สำหรับรถ c-seg ก็ประมาณประกันรถไฟฟ้า c-seg บ้านเรา
4.) ค่าที่จอดคงแล้วแต่ที่ ตอบไม่ได้ แต่ส่วนมากตามถนนสาธาณะในเมือง มักจะต้องหยอดตู้ ticket แล้วเสียบบัตรไว้หน้ารถ ที่จอดค่อนข้างแพง อย่างใน adelaide จอดในเมืองตกคืนละพันกว่าบาท
5.) ค่าน้ำมัน พอๆกับไทย แต่ปั๊มแต่ละปั๊มราคาต่างกันเยอะ ยี่ห้อเดียวกัน อยู่ถนนเดียวกัน น้ำมันแบบเดียวกันยังราคาต่างกัน เท่าที่เห็น BP จะถูกสุด
6.) ราคามือ 2 ไม่ได้ถูกกว่าที่ไทยอย่างที่คิด, ตอนนั้นจะหารถมือ 2 ให้น้อง ถ้า Mazda 3 ตัวที่แล้ว อายุ 4 ปี ก็ราคา 500,000k บาท ถูกกว่าไทยนิดเดียว แต่เลขไมล์น่าจะจริง เพราะเห็นที่ลงกัน วิ่งเป็นแสนเยอะไปหมด ไปซื้อพวก kia คัน b-c seg ใหม่ อาจจะคุ้มกว่า มี waranty 7 ปี ด้วย
โดยรวม คชจ ค่าใช้จ่ายแพงในการใช้รถกว่าไทยประมาณ 20-30% แต่ ถ้าเทียบกับรายได้และค่าครองชีพ ถือว่ามีรถไม่ยาก (ไม่รวมซ่อมนะ อันนั้นน่าจะหูตูบเหมือนกัน)
ปล เค้าขับรถกันแปลกดี ออกจากไฟแดง เหมือนเหยียบเต็มตีนทุกคน (น่าจะกลัวคันหลังออกไม่ทัน แนวเกรงใจกัน) แต่พอถึง speed limit ปุ๊ป ก็ขับแช่ speed limit ทุกคน ทุกคัน (แช่ซ้ายกลางขวาทุกเลนยิ่งกว่าไทย)
แต่ค่าปรับโหดมาก จอดรถผิดที่ที โดนไป 3000 บาท