Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Coat145 ที่ ตุลาคม 24, 2016, 23:20:25
-
สวัสดีท่านสมาชิกครับ
....ผมกับเเฟนเเต่งงานกันมาเข้าปีที่11เเล้วครับ ผมอายุ36 เเฟนอายุ34..ตั้งเเต่เเต่งมาปีเเรกๆก็อยากมีลูกครับ..ก็ไม่มี..ก็ไม่มาสักทีครับ..ไปหาหมอทำกิ๊ปหมดไปหลายตังก็ไม่มาสักที..ก็เลยคิดว่าจะอยู่กันไปเรื่อยๆครับ..ก็เลยเลี้ยงหมา4ตัว เเมวอีก3ตัว เเค่นี้ก็ว่าชีวิตเเฮปปี้ดีครับ...สุดท้ายเข้าปีที่11 มาเเล้วครับ..มาเเล้ว..ได้2เดือนเเล้วครับ ;D ;D ;D
..ปรึกษาท่านสมาชิกที่เป็นพ่อบ้านครับ..ตอนนี้ผมมีรถที่ใช้ส่วนตัวคือD-Segment2คัน(L33กับACV50HV) PPV2(ฟอร์จูนตัวท็อปปกติเเละตัวTRD..สลับกันใช้กับคุณพ่อ)คัน อีโก้คาร์อีก1คัน(ไว้พาหมาเเมวไปหาหมอ :) :)) ตามลายเซ็นด่านล่างครับ กำลังคิดว่าต่อไปผมต้องเปลี่ยนรถมั้ยครับ ใช้PPVต่อไป ต้องจุของเยอะมั้ยครับ ผมไม่เคยมีลูก..น้องชายผมก็ไม่มี..ถ้าตัวน้อยคนนี้เกิดมาก็น่าจะเป็นหลานคนเเรกของฝั่งผมเเละภรรยา :D :D :D..จึงอยากสอบถามครับ..ผมควรต้องซื้อรถตู้เพิ่มหรือไม่ครับ..หรือรอดูสถานการณ์ไปก่อน..คิดว่าถ้าต้องซื้อควรซื้อเป็นรถชนิดใด..รุ่นอะไรให้สะดวกสุดเเก่ลูกครับ..ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
ปล.ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ..ตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัว..รายได้คงที่ประมาณ6หลักเกือบกลางๆ ผมควรออมให้ลูกไว้เดือนละประมาณเท่าไหร่ครับ...ประมาณ10เปอร์เซ็นต์ของรายได้..พอได้รึป่าวครับ..ผมต้องศึกษาอีกเยอะเเยะมากมายในการเป็นพ่อคน..รบกวนสอบถามท่านสมาชิกเเละชี้เเนะเป็นเเนวทางด้วยครับด้วยครับ..ขอบคุณครับ
ปล2.ผมว่าผมมีลูกตอนเเก่อีก20ปีลูกวัยรุ่น..ผมก็56เเล้ว :-X :-X จะพอคุยกันรู้เรื่องรึป่าวครับ :( :( :(
-
ใช้ PPV ต่อไปได้เลยครับ ไม่ต้องออกใหม่ครับ
ยินดีด้วยนะครับ ว่าที่คุณพ่อ ;D ;D ;D
-
อันนี้ถามจริงหรือเอาฮาครับ
มีรถอยู่ 5 คันนี่ยังไม่สะดวกอีกรึ
รอแปป
เดี๋ยวผมไปถามพี่ข้างบ้านให้ว่าเค้าเลี้ยงลูกยังไง สะดวกมั้ย
เพราะเห็นพี่แกมีมอไซด์อยู่คันเดียว
-
สำหรับลูกแล้ว ลูกต้องการเวลาและการเอาใจใส่ เรื่องด้านวัตถุนั้น อะไรก็พอทั้งนั้น อย่างรถ อีโคคาร์คันเดียวก็ยังพอ ช่วงแรก ๆ เด็กยังเดินทางไม่ได้มากนัก ยังไม่ควรเดินทางไกล รถ จขกท ที่มีอยู่ก็เพียงพอแล้ว ของ ๆ เด็กไม่ได้เยอะขนาดที่รถทั่วไปจะขนไม่ไหว
-
ผมว่ารถที่พี่มีอยู่นี้เพียงพอแล้วล่ะครับ เป็นผมๆว่าเกินด้วยซ้ำ 555 ยินดีด้วยครับกับว่าที่คุณพ่อมือใหม่
-
เปลี่ยนเป็นอินโนว่าใหม่สักคัน
-
เข้ามายินดีด้วยครับ ดูเห่อลูกมากๆ
ถ้าเรื่องรถ ระวังการกระเทือนของภรรยาช่วงท้องอ่อนๆก่อนดีกว่าครับ ลูกไว้ค่อยคิดตอนหลังได้
-
ตอนนี้ผมลูกชาย 4 ขวบ ลูกสาว 1 ขวบครึ่งครับ
เห็นคุณพ่อดูมีความกังวลเลยขอแชร์ประสบการณ์จากที่เจอมานะครับ
ถ้าเลี้ยงลูกเองได้ และให้เวลากับเค้าได้มากที่สุดจะดีที่สุดครับ
ยิ่งถ้ามีเงินเก็บเยอะมาก ไม่ต้องทำงานก็ได้ ก็ยิ่งดีครับ แต่คนส่วนใหญ่ต้องทำงาน
ก็พยายามแบ่งเวลาให้ลูกเยอะๆ ครับ คุยกับลูกเยอะๆ พัฒนาการของลูกจะไปไวถ้าเราคุยกับเค้าเยอะๆ
ตั้งแต่ต้นไปจนกระทั่ง ป.6 หมอผมบอกว่าจะเป็นช่วงเน้นภาษา
ถ้าพ่อแม่มีใครพูดอังกฤษได้ เริ่มพูดกับเค้าตลอดเวลาได้เลยครับโดยที่ไม่ต้องแปล
ผมไม่ชอบโรงเรียนอินเตอร์เพราะเห็นคนรอบข้างหลายคนพูดกับลูกไม่รู้เรื่องครับ คิดอ่านไม่เหมือนกัน
คุณหมอผมเตือนว่าอย่าให้ดูทีวีเลยจนกระทั่ง 2 ขวบครับ ผมอ่านหนังสือให้เค้าทุกวัน
ทุกวันนี้ขาดหนังสือไม่ได้ครับ แต่ลูกเพื่อนบ้านขาดทีวีไม่ได้ครับ และไม่ชอบอ่านหนังสือ
แต่หลัง 2 ขวบแล้ว ผมก็ยังไม่ค่อยให้ดูครับ เพราะชอบ effect ที่เกิดขึ้น ดูแกมีสมาธิดี กับชอบอ่านหนังสือ
ไปกินข้าวห้างถ้าผ่านร้านหนังก็อาจจะให้ไปยืนดูนิดหน่อยพอสมควรครับ
พยายามให้ลูกกินจืดๆ ครับ เพราะลิ้นเค้ายังอ่อนมาก ถ้าให้กินของอร่อยๆ ที่ปรุงแต่งเยอะๆ
เค้าจะเป็นคนกินยากหรือเลือกกินครับ และผัก ถ้าเริ่มกินอาหารได้บดผักสดให้กินเลยครับ ลิ้นเค้าจะชินกับรสผัก
เด็กต้องนอนก่อน 2 ทุ่มครับ growth hormone จะมาเต็มที่จะได้โตไวๆ แข็งแรง แต่ถ้าพ่อแม่ตามใจ
เห็นลูกคนอื่นนอน 4 ทุ่มหรือเลยไปถึงเที่ยงคืนก็มีครับ
หมอจะเตือนว่าอย่าให้เด็กกินน้ำช่วง 1 ปีแรก เพราะจะดูดนมแม่ได้ไม่เต็มที่เพราะต้องแบ่งเนื้อในท้องที่ไปให้น้ำ
ผมทำตามคุณหมอครับ แต่เจอผลเสียที่คาดไม่ถึงคือ หลังจากปีแรกที่ต้องเริ่มกินน้ำ เด็กจะไม่ชินและไม่อยากกินน้ำ
ถ้าเป็นเยอะๆ อาจเกิดอาการขาดน้ำได้ครับ ผม search ดูเด็กทั่วโลกเป็นกันเยอะมากเรียกว่า Dehydration in children
การขาดน้ำทำให้การเจริญเติบโตและการเชื่อมต่อของเส้นประสาทในสมองช้าครับ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะให้เค้ากินน้ำบ้าง
เพราะตอนนี้บอกให้กินน้ำยากลำบากมาก ทั้งพี่ทั้งน้องเลย
4 ขวบควรให้เริ่มหัดเล่นเปียโนครับ จะช่วยเสริมพัฒนาการในหลายๆ ด้านมาก เคยอ่านเจอว่าสมองจะดีในด้านการคำนวนด้วยครับ
ให้เล่นให้ออกกำลังกายเยอะๆ แต่อย่าลืมหรือต้องระวังความแข็งแรงของนิ้วมือครับ เพราะการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้ว
นอกจากจะทำให้เขียนหรือวาดรูปได้คล้อง ยังช่วยพัฒนาเส้นประสาทด้วย ผมให้ลูกหัดใช้ตะเกียบกินข้าวกินก๋วยเตี๋ยวเพราะ
เห็นจากจีนญี่ปุ่นเกาหลีรู้สึกเด็กเค้าวาดรูปเก่งเยอะ คนเก่งๆ ก็เยอะด้วย ลูกผมต้องพยายามใช้ตะเกียบกินข้าว แต่พอทำได้แล้วชมเค้าๆ ก็ดีใจ+สนุกครับ
อย่าซื้อของเล่นให้เค้าเยอะครับ เค้าจะไม่เห็นคุณค่าของของ เลี้ยงลูกพยายามอย่าเน้นวัตถุครับ บางทีวัตถุทำให้เค้า
ไม่ดื้อสงบได้ แต่เหมือนมันทำให้เราไม่เข้าถึงเขา ไม่ได้คุยกับเขามากพอ แล้วเขาจะใช้เวลากับของเล่นเยอะซึ่งการพัฒนาช่วงต้น
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ คือต้องเน้นพูดคุยเจรจากับลูกครับ
พยายามอย่าตามใจ ขออะไรเราแล้วได้เลย หัดให้เค้ารอบ่อยๆ ครับ อันนี้หมอบอกมา ผมว่าโอเคเลย
เด็กจะเรียกร้องแต่ของหวานครับ แล้วหลายคนใช้ของหวานควบคุมไม่ให้เด็กดื้อเด็กซน และมีข้อดีก็มีข้อเสียครับ
เมื่อเด็กกินหวานจะทานข้าวได้น้อย หรือความอยากอาหารน้อยลง ปัจจุบันมีเด็กเป็นโรคอ้วน ถ้าจำไม่ผิด 8 ใน 10 คน
เพราะอาหารปัจจุบันอัดหวานมันเค็มมาเยอะ ขนมก็อัดหวานมาให้ เพื่อให้คนกินติดครับ
ข้อเสียสำคัญคือ ถ้าเราไม่ brake เขาเลยแล้วตามใจให้เขากินของหวานเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ก็จะเป็นคนติดหวาน
ตอนโตได้ครับ และความหวานจะเป็นตัวนำโรคภัยไข้เจ็บโรคร้ายๆ ได้ครับ ถ้าเกิดเขาโตขึ้นไปไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพ
จะปลูกฝังไว้ตั้งแต่เด็กสักหน่อยก็ได้ครับ ว่าหวานๆ ไม่ดีนะ (ผมเพิ่งดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นครับเรื่อง otomen เพิ่งรู้ว่า
ผู้ชายญี่ปุ่นไม่กินหวานเลยนะครับ เพราะถือว่าพวกขนม เค้ก ไอศรีมเป็นของกินของผู้หญิง ผู้ชายก็กินได้ แต่จะดูไม่แมน)
ผมลงเท่านี้ก่อนนะครับ ที่จริงผมไม่ได้ซื้อหนังสือเลี้ยงลูกมาเป็นตั้งๆ
แบบคนอื่นเค้านะครับ แต่นี่แค่บังเอิญหรือไปเจอข้อมูลมา หรืออะไรที่สงสัยก็ไปค้นเอา
พ่อแม่ที่เค้าค้นคว้ากันจริงๆ จะรายละเอียดเยอะมากสุดๆ ครับ ซึ่งถ้าอิงตามหลักวิทยาศาสตร์มันก็ควรได้ผลจริงๆ นะ
ซึ่งถ้าเราปล่อยไปตามธรรมชาติ แบบสมัยพ่อแม่เราเลี้ยงเรามา บางทีมันก็มีความเสี่ยง ที่เราอาจจะ
เข้าใจอะไรผิดพลาดไป กลายเป็นทำร้ายลูกไป เช่น อัดขนมซะจะได้ไม่ดื้อร้องโวยวาย หรือปล่อยนั่งดูหน้าจอ
เวลาเราไปทำงานแล้วทำแบบนั้นเยอะเกินไป
โอ ลืมไปครับ สำหรับเด็กๆ ที่ดูหน้าจอ ดูทีวีแต่เด็ก แล้วดันพูดเก่ง(ปกติเด็กติดจอจะพูดไม่เก่ง) หรือดูการ์ตูนพูดฝรั่งแล้วพูดอังกฤษได้ขึ้นมา
ในข้อดีก็มีข้อร้ายนะครับ คืออาจจะได้โรคสมาธิสั้นแถมมาด้วย ซึ่งจะทำให้เราปวดหัวตอนเข้าสู่วัยเรียนได้ครับ
กลับมาเรื่องรถ
ถ้ามีรถตู้ แล้วความปลอดภัยถึงระดับที่ปกป้องลูกเราได้มากที่สุด ก็ซื้อเถอะครับ
แล้วบางทีอาจจะต้องมีปล่อยๆ ขายรถคันที่เราไม่ได้ใช้ไปบ้าง เพราะมีลูกก็น่าจะใช้แต่รถที่ประจำ
เก็บเงินเท่าไหร่
อย่างที่ผมบอก ถ้าหยุดทำงานได้ แล้วมาดูลูกได้เต็มที่นี่เจ๋งครับ
ส่วนถามว่าเก็บกี่เปอร์เซ็นต์ จริงๆ ต้องถามว่าถ้าให้เวลาลูกเต็มที่แล้วเวลางานอาจจะลดลง รายได้จะลดลง
ไปด้วยมั้ยครับ ส่วนใหญ่ที่พูดๆ กันก็คือ มีเด็กคนนึงค่าใช้จ่ายที่จะใช้ไปจนโตทั้งหมดก็ประมาณ 20 ล้าน
ตอนแรกผมนึกว่าพูดกันแบบขำๆ แต่นับเลขไปนับเลขมา ไม่แน่ได้อยู่ครับ แล้วถ้าลงทุนเยอะด้านการศึกษาก็คงจะไป
มากกว่านั้น
แต่เรื่องการเรียน สูตรของผมคือ เน้นให้เค้ารักการอ่านก่อน ช่วงอนุบาลถึงประถมเน้นภาษา
แต่ผมไม่ชอบอินเตอร์ ดังนั้นค่าเทอมผมจะไม่แพงเว่อร์ ด้านวิชาการ บางทีถ้าลูกเราไม่เก่งที่โรงเรียน
มีเพื่อนผมแนะนำว่าเรียนตัวต่อตัวกับครูที่เก่งๆ เลยไม่มีปัญหา หมั่นเอาใจใส่ ให้เวลาเขาไปเรื่อยๆ ครับ
ช่วง 20 ปีข้างหน้าพี่อาจจะรายได้หด เพราะต้องทุ่มให้กับลูกก็ได้
สรุปน่าจะพอคำนวนว่าควรจะเก็บเท่าไหร่นะครับ
-
ยินดีกับสมาชิกใหม่ด้วยนะครับ ผมขอแชร์ คิดว่า รถที่มีอยู่ใช้ได้สบายสบายครับ
พี่ชายผมมีลูก 5 คน อายุ12,10,8,3 ขวบ คนล่าสุดเพิ่งอายุได้1เดือน
เมื่อก่อนตอนลูก 4 บ้านนี้เค้าใช้ เชฟโรเลต อาวีโอ ครับ คันเล็กๆ เนื่องจาก ทำงานที่บ้านครับ โรงงานติดบ้านเลย
แต่ไปเที่ยวไหนใกล้ๆ เค้าก็ขับคันนี้ไป ถ้าไกลหน่อยก็ใช้กระบะสี่ประตู ซึ่งตอนนี้ขายไปแล้ว
ตอนนี้ใช้เค้าใช้ camry hybrid อัดกัน ก็พอได้ ส่วนมากบ้านผมกับพี่ชายจะไปเที่ยวด้วยกันตลอด
อย่างไปบ่อยๆคอนโดที่หัวหินกัน ก็ เอาหลานแบ่งมานั่งด้วยรถจะได้ไม่แน่นครับ
คือจะบอกว่าลูกคนเดียว รถเก๋งสะดวกครับ
เพราะผมเอาหลานมาสลับเลี้ยงตั้งแต่อายุ 1 ขวบกว่า รถเก๋ง อย่าง camry hybrid ใส่รถเข็นเด็กอาจจะติดแบตหน่อยครับ แต่ก้ได้ครับ
แต่ถ้าผมเอาใส่series5,x3 สบายเลย มันวางแนวลึกได้
ตอนหลังผมมาใช้รถตู้ จิงๆ มันอาจจะได้ความสบายมากกว่า แต่ก้ไม่ได้ถึงขั้นจำเป็น พอมีรถตู้บ้าขนของครับ แต่หลานๆก็ชอบกัน
ส่วนมากก็นั่งกันสามคน ผม แฟน และหลานคนเล็กนั่งcar seat ได้ดูการ์ตูน หลานชอบมากๆครับ
หวังว่าพอจะเป็นแนวทางให้ท่าน จขกท นะครับ
มีลูกผมอยากให้เก็บตังค์ไว้เยอะๆครับ เผื่อเด็กไม่สบาย ล่าสุดต้นเดือน หลานผมคน 3 ขวบ ไข้ชัก ต้องนอนicu อยู่อาทิตกว่า มันมีความโชคดีผสมร้ายอยู่ที่ เหตการณ์มันฉุกเฉินมาก รีบส่งรพ ที่ใกล้ที่สุด เป็น รพ รัฐ ปกติเค้าไม่สาย เข้าเอกชนอยู่แล้ว ตอนแรกพยายามจะย้าย ไปเอกชนในกทม แต่ภาวะเสี่ยงอยุ่เลยตัดสินใจ อยู่ต่อ รพ รัฐต่อ
เบื้องต้น ติดต่อ เอกชน ในกทม คุยกันดู อาการหลานผม นี่อาจต้องอยู่icu นาน ค่าใช้จ่ายในicu วันล่ะ200,000 คิดว่าถ้าย้ายไป ดุแล้วนี่ก็น่าจะหมดสัก 3-4 ล้านล่ะครับ เท่าที่คุย
เหตุการณ์นี้มันทำให้แนวคิดในการใช้ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลยหลายอย่าง
เพิ่มเติมนิดนึงครับ camry hybridน่าจะเหมาะกับคุณแม่ที่ตั้งท้องนะครับ นิ่มสบาย เจ้ผมบอก
เพราะตอนท้อง พี่ชายเอาx3 ไปขับ เจอเนินหลังเต่า เจ้ถึงกับจุกเลย camry นิ่มกว่า
อนาคตถ้าจะซื้อแนะนำอัลพาดครับ นิ่มสบาย ขนของได้เพียบเลย
-
ผมลูก2 ใช้vios ยังได้เลย... สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือ เวลา และความเอาใจใส่ให้กับลูกครับ
-
ยินดีด้วยนะครับกับลูกคนแรก รีบมีคนที่สองไวๆนะครับ ช่วงนี้ร่างกายพร้อมทั้งคู่แล้ว คนที่สองจะมีง่ายขึ้น เรื่องรถ พอแล้วครับ เด็กต้องการเวลาเล่นเวลาคุยมากกว่าครับ เราจะรู้เองว่าในเวลาไหนต้องใช้อะไร ไม่ต้องรีบ ส่วนเรื่องเงินออม เก็บเท่าที่เก็บได้ครับ ถ้าจะส่งลูกเรียนอินเตอร์แต่เล็ก เก็บปีละ2ล้านขึ้นครับ
-
PPV ก็พอครับ
สิ่งที่เพิ่มตามมาใส่ในรถหากมีลูกคือ พี่เลี้ยง กระเป๋านม รถเข็นเด็ก แค่นั้นเองครับ
-
งบถึงจัดอัลพาร์ด คันนึง
ppv เลิกใช้ นั่งเต็มเก็บรถเข็นเด็กไม่ได้
ขึ้นลงไม่สะดวก
ถ้าอยากแต่งเอง h1 แต่อาจไม่สะดวกเพราะมันจบ
ไม่ง่ายอยู่ที่ความต้องการของคุณ
เรื่องให้เวลากับลูกเอาไว้เค้าออกมาแล้วคุณจะปรับชีวิตคุณเอง โดยอัตโนมัติ
ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน
-
เปลี่ยน d secment เป็น mpv 1คัน
เปลี่ยน fortuner เป็น กระบะ 4 ประตูอีก 1 คัน
ลงตัวครับ มีรถใช้ครบทุกฟังก์ชั่น
-
ปัญหานึงที่ท่านอาจจะยังไม่ค่อยรู้สึก คือ ภาระการย้ายของ .. มีลูกของเยอะขึ้น มีรถหลายคันย้ายไปย้ายมา เดี๋ยวก็ลืมนู่นนี่
คหสต ลดจำนวนรถที่ฟังชั่นการใช้งานคล้ายๆกันลง แล้วหารถแนวๆรถตู้ (stepwagon alphard) มาแทน น่าจะลงตัวสุด
-
ตอนมีลูกคนแรก ผมใช้ Teana J32 ครับ ไม่มีปัญหาน่ะครับ
เพราะ 6 เดือนแรกผมให้ลูกอยู่บ้านกับไปหาหมอ ใช้รถน้อยมาก
ถ้าต้องเอาเด็กอ่อนไปก็ทีเปลใส่รถแล้วยกขึ้นต่อไปหาหมอเลย
หลังจาก 6 เดือนผมก็ยังไม่ให้/ปไหนถ้าไม่จำเป็นครับ รอหลังเขาแจ็งแรงก่อน
น่าจะ 8 เดือนค่อยหาคาร์ซีทมาใส่ แบบสูงปรับเอนนอนได้
คาร์ซีทใส่เบาะหลัง หลังคนขับเลยครับ นั่งคุ่กับแม่ ส่วนของใช้บ่อยๆอยู่เบาะหน้า
ที่เก็บของมีรถเขนกับเสื้อผ้าอีกนิดหน้อย เอาที่ล้วงตรงท้าวแขนไปหยิบได้
ไม่จำเป็นต้องรถตู้อะไรครับ ชิวๆ
-
ยินดีด้วยครับกับลูกคนแรก
ลูกผมอายุ 10 เดือน ผมว่าใช้ PPV ต่อไปนั่นแหล่ะครับ
เวลาผมไปไหนที่มีลูกไปด้วย มักจะเอาฟอร์จูนเนอร์ไป
การใช้งานสำหรับครอบครัวลูกเล็ก เหลือๆ..
-
ยินดีด้วยนะครับ ว่าที่คุณพ่อ อย่าลืมเล่นกับลูกมากๆนะครับอย่าเบื่อ อย่ารำคาญ เพราะเขาจะให้ความสำคัญกับพ่อแม่แค่สัก10ปีเท่านั้นหลังจากนั้นเราจะลดบทบาทลงแล้ว สำหรับรถ ผมว้าที่มีอยู่นี่ก็พอแล้วนะครับ เอาไว้ถ้ามีคนที่สอง สาม ค่อยว่ากันอีกทีถึงตอนนั้นคงต้องมองไปที่รถตู้
-
ยินดีด้วยครับ เรื่องรถที่คุณมีก็เหลือๆเพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ รอให้เค้าคลอดก่อนแล้วดูว่าการใช้งานเป็นประจำนั้นเป็นยังไงแล้วค่อยหาเปลี่ยนยังไม่สาย
แนะนำเรื่องอื่นๆแล้วกัน ดูฐานะแล้วคงได้จ้างพี่เลี้ยงเด็กมาช่วยแม่บ้านเลี้ยงใช่มั๊ยครับ ถ้าใช่ก็เพิ่มตังนิดส์นึงจ้างคนเลี้ยงชาวฟิลิปปินส์มาเลี้ยงจะได้ภาษาอังกฤษ ของเล่นที่สุดยอดที่สุดคือเลโก้เพราะช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้เป็นอย่างดีและช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กลูกๆผมยังเล่นกันอยู่เลยทุกวัน เป็นได้ทั้งรถถัง เฮลิคอปเตอร์ บ้าน รถ ปืน ตามแต่เค้าคิดและต่อเลือกที่ชิ้นใหญ่ๆกันเอาเข้าปาก
ส่วนเรื่องเงินเก็บให้ลูกแนะนำเป็นทำประกันของคุณและภรรยามอบผลประโยชน์ให้ลูก ประกันค่ารักษาพยาบาล ซื้อกองทุนเก็บไว้ แต่สุดท้ายผมบอกได้เลยว่าสิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุดคือพ่อแม่ครับ ของเล่นที่ลูกต้องการมากที่สุดก็คือพ่อแม่อีกนั่นแหละครับ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับลูกก็คือช่วงเวลาที่อยู่กับพ่อแม่อีก เค้าอาจจะอยู่กับเราแค่ 12 ปีโตกว่านั้นก็อาจติดเพื่อนติดแฟนไปแล้วแรกๆอยู่กับเค้าได้ก็อยู่ไปเถอะครับ
-
ขอแสดงความยินดีก่อนเลยนะครับพี่ แต่พอเห็นคนที่ตั้งใจและอยากจะมีลูกไม่มีจริงๆแล้วรู้สึกเป็นปลื้มมากก (คนที่ไม่อยากมีแล้วมีเลี้ยงกันไม่ไหวเห็นแล้วไม่อยากให้มีเลย) เรื่องรถผมมองว่าที่มีอยู่ค่อนข้างโอเคแล้วนะครับ D Segment มาตรฐานความแข็งแรงปลอดภัยค่อนข้างโอเคแล้ว ส่วนเรื่องการเงินจริงๆถ้าพี่มีรายได้ระดับนี้แนะนำให้พี่หาแหล่งปรึกษาด้านงานเงิน เงินออมจะดีกว่านะครับออมระยะยาวได้ดอกเบี้ยด้วย ได้นิดหน่อยเป็นผลพลอยได้ไป
-
มีลูกแล้ว รายได้ไม่ใช่ปัญหา ให้ภรรยาเลี้ยงลูกอยู่บ้านครับ เลี้ยงเอง
ไม่ต้องออกไปทำงาน จะจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูก็ได้ (เน้นว่าหาพี่เลี้ยง
ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางเลยครับ เค้าจะได้ช่วยแนะนำได้)
เรื่องรถคันไหนก็ได้ครับ ที่มีอยู่ก็ครบถ้วนดีแล้ว ไม่เป็นปัญหาอะไร
ยกเว้นว่ามีลูกคนที่ 2 ค่อยๆขยับขยายก็ได้ครับ ตอนนี้ทุกคันสามารถ
ตอบโจทย์ได้หมดครับ
-
ลูกจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นยู่กับการปั้นแต่งลักษณะนิสัยและความคิดของพ่อแม่ครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง สำคัญที่คุณต้องใกล้ชิดและเลี้ยงดูเค้าจริงจังไม่ใช่ปล่อยให้ทีวีละครตบตีกันเลี้ยงลูกให้ ปัญหาสังคมที่เด็กสมัยนี้มีพฤติกรรมเกเรไม่รักดีก็เพราะว่าพ่อแม่เลี้ยงด้วยทีวีกับละครนี่แหละ รู้ๆกันว่าทีวีไทยมีแค่ความรุนแรงและแฝงไปด้วยความฟุ้งเฟ้อเกินตัว ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น15ปีขึ้นไปอย่าปล่อยให้เค้าตามเพื่อนตามสื่อมากเกินไปครับ สอนให้เค้าคิดเป็นแยกแยะผิดถูกให้ได้แม้ในอนาคตจะมีแต่สิ่งชักจูงมาล่อลวงเค้าก็จะไม่หลงผิดแต่อย่างใด :)
-
มีตอนใกล้ๆกับผมเลยครับ
ยินดีด้วยนะครับขอให้แข็งแรงสุขภาพดีทั้งแม่ลูก
ในคำถามเรื่องรถต้องถามก่อนว่า
1.จะมีลูก กี่คน จะมีอีกมั้ย
2.จะมีพี่เลี้ยงมั้ย กี่คน
3. ไปไหนมาไหนกันกี่คน
คืคือถ้าไม่มีอะไรเพิ่มแล้ว มีลูกแค่คนเดียว ก็ง่ายครับ
แต่ก่อนอื่น ขอแนะนำ อันนี้ครีบ
1. ให้ลูกนั่งคารซีทครับ จะถูกหรือแพงมีไม่มียี่ห้อก็ได้ แพงก็ดีกว่าถูกก็ดีกว่าไม่มี เป็นความปลอดภัยพื้นฐานที่สำคัญ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
2. ให้ซื้อประกันสุขภาพของเด็กนะครับ เอาแบบจ่ายแล้วทิ้งไม่ใชสะสมทรัพ เพราะค่าใช้จ่ายรักษาเด็กแพงมากๆๆ RSV , หวัดสายพันต่างๆ มือเท้าปาก ติดเขื้อไม่รู้สาเหต พวกนี้เข้าที มีห้าหมื่นอัพ เด็กจะเริ่มป่วย หลังหกเดือนไป เพราะเริ่มออกไปข้างนอกมากขึ้นกับบางคนเลิกนมแม่ ให้เริ่มทำประกันช่วงนั้นก็ได้ครับ ช่วยได้มากเนื่องวางแผนการเงิน เพราะบางทีเด็กเข้าๆออกๆรพไม่มีสาเหต ให้ยากันอุตลุต มีหลักแสนได้ไม่ยาก
ส่วนเรื่อง รถ
ถ้าลูกคนเดียว เดินทางไม่เกิน4คน ใช้D segวางคารซีท เบาะหลัง จะเปนการเดินทางที่สะดวก คล่องตัว มีที่เก็บของเยอะ ใส่ รถเข็นพอ ทุกคนนั่งสบาย แต่จะติดตอนก้มๆเงยๆเอาเด็กเข้าออกรถ ตอนเปน เบบี๋ ในตระกร้า ก็จะอึดอัดนิดและ เด็กหันหลัง หน้าจะมองไปทาง กระจกหลัง ดูอึดอัด แดดร้อน หาฟิลมหรือม่านจะช่วย
ตัวเลือกนี้ จะมีข้อเสียคือ เข้าออกหัวชน กับถ้าแม่จะนั่งปั้มนม ถ้าฟิลมไม่มืดก็ไม่ค่อยส่วนตัว เวลาเด็กอึฉี่อ้วก ยากหน่อย ไม่ค่อยมีที่ทาง และเอาของท้ายรถยาก แต่จะดีที่เดินทางสะดวก ที่เก็บของเยอะสุด
หนือถ้าเปน PPV ต้องดูความสูงคุณแม่ ว่ายกเด็กเข้าออกถึงมั้ย ถ้าตัวเตี้ยต้องปีนก็ยาก SUV จะสะดวกสุดเข้าออกง่าย ได้ที่เก็บของเยอะล้วงง่าย เก็บง่าย ได้ที่เก็บแนวสูง แต่เอาเข้าขริง D segเก็บได้เยอะเพราะลึกกว่า โดยเฉพาะpPV ถ้าเบาะหลังพับขึ้นแทบวางรถเข็นไม่ได้ นอกนั้นก็จะดีเหมือน DSeg ติดที่ขนาดใหญ่โต
รถตู้ ถ้ามีก็ดีครับ ต้องดูด้วยเรื่องขนาดความสูง ที่เคยใช้คือH1 กว้างแต่ต้องปีนขึ้นลง หลังคาสูงขึ้นลงง่ายไม่ติดหัวแต่ท่าขึ้นจะทุลักทุเลบ้าง เพราะรถสูง ที่เก็บของด้านหลัง ถ้าเบาะหลังถอยขึ้นสุดก็ใหญ่ดีได้แนวสูงมากกว่าลึก ปัญหาคือรถเข็น เวลาเดินทางไกลมีกระเป๋าให่่่รถเข็นจะต้องหาที่แทรกยากเพราะรูปทรงไม่เปนกล่อง ช่วงล่างทรมนานใจ หลังคาสูง และฝากระโปรงท้ายหนักมากต้องโหนเปิดปิดกัน เมียไม่ยอมขับเพราะใหญ่โต เลยโชคดีได้ vellfireมาขับตอนนี้ ที่เก็บของน้อยกว่าเยอะใส่รถเข็นสองคันเต็ม(ผมลูกแฝด) แต่ได้ควาทสะดวกสบายคล่องตัวสุนทรี ขับง่าย เหมือนใช้D seg ที่กว้างขึ้น มีพื้นที่ เปบี่ยนผ้าอ้อมนั่งปั้มนม ทำโน่นนี่ เรียกว่าใช้รถเปนฐานบัญชาการเวลาเดินทาง ข้อเสียคือแพง
ถ้าเปน step wagon/ Kia carnival ผมว่าได้ข้อดีคล้ายกันราคาถูกกว่า ชอบcanivalเช่าขับที่ออสเตรเลียเปนรถที่ขับดีขนาดใข้ได้ เข้าออกง่ายกว่าvellfire เพราะเบาะไม่ยกสูง ไสลดตัวเหมือนsuvได้เลย แต่อยู่เมืองไทยต้องคิดหนักเรื่องตัวแทน อันนี้แล้วแต่ คหสต freed/ Sientaก็ดูโอเคนะครับ
จะหามือหนึ่งมือสองก็แล้วแต่ ผมแอบอยากแนะนำ อัลพาดมือสอง หาสภาพดีพอมีราคาดีซ่อมง่ายนะครับ รถตู้เป็นรถที่อเนกประสงใช้งานหลากหลาย
โดยส่วนตัวอยากได้SUV จริงๆก็ใช้งานได้นะครับ แต่พอมีลูกเลยตัดใจออกรถตู้แทน ก็ไม่ผืดหวังครับ ถึงจะแอบอยากได้SUv อยู่ลึกๆแต่เวลาเห็น ผู้โดยสารนั่งสบายๆ มากกว่าเราแค่ขับสนุก ก็คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว
-
แสดงความยินดีด้วยนะครับ ว่าที่คุณพ่อ
ผมว่ารถที่มีอยู่ก็เพียงพอแล้วนะครับ ไม่งั้นก็รอดูไปก่อนครับพอลูกโตขึ้น ถ้ารู้สึกไม่ตรงกับการใช้งานค่อยซื้อคันใหม่ก็ยังไม่สาย
ผมว่าลูกต้องการความรัก กับเวลาจากเรามากกว่านะครับ ใช้เวลากับเค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขออนุญาตแนะนำเรื่อง เด็ก bilingual นะครับ ถ้าคุณพ่อคุณแม่พูดภาษาอังกฤษได้ ให้พูดกับลูกตั้งแต่เล็กเลยนะครับ ช่วงเด็กๆเค้าซึมซับภาษาได้ดีครับ พ่อพูดอังกฤษ แม่พูดไทยกับลูก ผมลองกับลูกผมคนโต 5 ขวบ คนเล็ก 3 ขวบ ก็ได้ผลดีนะครับ ฟังรู้เรื่อง พูดได้บ้างคำศัพท์รอบๆตัว บอกหิว บอกง่วงนอนได้ แต่ต้องฝึกไปเรื่อยๆครับ
อีกเรื่องสำคัญมากๆ คืออย่าปล่อยลูกอยู่กับ tv หรือ tablet นะครับ เพราะจะทำให้เค้าไม่มีความอดทน สมาธิสั้นได้ เห็นจากลูกพี่ชายคือถ้าไม่ดู tablet คือจะงอแง แบบควบคุมไม่ได้ พอได้ดูจะเงียบ และได้พฤติกรรม กับคำพูดแปลกๆมาจาก youtube ด้วย เพราะพ่อแม่ไม่ได้สนใจว่าลูกดูอะไรในนั้น
สุดท้าย เรื่องเก็บเงินเพื่อลูก ผมเลือกหัก 10% ของรายได้ ฝากแยกบช.ไว้ให้ลูก ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอกับคชจ.ในอนาคต นะครับ
ปล.ขอให้มีความสุขกับชีวิตครอบครัวนะครับ
.
:)
-
รถที่มีอยู่ ผมว่าพอสำหรับลูกแล้วล่ะครับ
ถ้าวางแผนจะมีลูกเพิ่ม ค่อยขยับขยายไปมองพวก MPV แทนครับ
-
ยินดีด้วยครับ
ส่วนเรื่องรถ ถ้ามีกำลัง
ซื้อไปเถอะครับ รถตู้ มันอเนกประสงค์มากๆ
ไม่ได้ประโยชน์แค่ลูก พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย สบายกันหมด
ซื้อได้ซื้อเลยครับ ผมเชียร์ พอซื้อแล้ว มีแล้ว มันคุ้มจริงๆ
-
รอให้พ้น 16 สัปดาห์ก่อนดีมั้ย
ค่อยตัดสินใจ
ความเห็นผม รถที่มีอยู่พอใช้ครับ
เก็บเงินไว้ให้เยอะที่สุดดีกว่า
เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
-
ยินดีด้วยนะครับ ผมมาพูดในมุมมองของเด็กอายุ 17 นะครับ แม่ก็มีน้องตอนอายุ 35
เมื่อก่อนมีลูกตอนอายุ 36 อาจจะดูแก่ แต่สมัยนี้ผมเห็นก็อายุประมาณนี้แหละครับ เรียนตรี+โทหรือหมอก็จบตอนคุณพ่ออายุ 60 พอดี
คุยกับลูกรู้เรื่องแน่ๆครับ มีเวลาอยู่กับลูกเยอะๆ เข้าใจลูก ให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเอง อย่าสปอยลูกนะครับ อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ควรเตือนอย่าปล่อยไว้ เพราะอนาคตเค้าต้องอยู่คนเดียวนะครับ คุยกับลูกเยอะๆนะครับ สำคัญมาก เพราะเราจะรู้อะไรหลายๆอย่างจากการคุยกับลูกนี่แหละครับ
มาเรื่องการเรียนบ้าง ผมเห็นพ่อแม่สมัยนี้ชอบกังวลว่าลูกจะไม่มีที่เรียน ให้เรียนกวดวิชาตั้งแต่ป.1 เรียนทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ มันเยอะไปสำหรับเด็กครับ การเรียนเป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่ทุกอย่างย่อมมีความพอดี ให้เวลาเด็กวิ่งเล่นบ้าง ถ้าจะสอบเข้าม.1 ก็เริ่มเตรียมตอนป.5 ไม่ต้องเร่ง เด็กจะไม่เหนื่อยมาก เรียนเสร็จก็ให้กลับมาทบทวนด้วยนะครับ ไม่งั้นจะไม่ได้อะไร เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณนะครับ ไม่ต้องเรียนเวอร์นะครับ บางคนเอาแคลให้เรียนตั้งแต่ป.6 เด็กรู้เรื่องนะครับ แต่ไม่เข้าใจ ใช้ไม่เป็น ถ้าจะสอบเข้าม.4 เวลาเตรียมตัวขึ้นอยู่กับเด็กอะครับ ไม่มีเวลาแน่นอน ผมใช้เวลาเดือนเดียว บางคนเป็นปี ส่วนใหญ่ประมาณเดือนเดียว แต่เตรียมแบบปางตายนะครับ ทำโจทย์ทั้งวัน ไม่โผล่มาในเฟส/ไลน์เลย สุดท้าย Entrance ไม่รู้ครับ ขึ้นอยู่คณะที่อยากได้และโรงเรียนที่อยู่ แต่ให้ลูกเลือกคณะที่ลูกชอบนะครับ ไม่ใช่ที่พอแม่ชอบ เพราะลูกเป็นคนที่ทำงานไม่ใช่พ่อแม่ ผมเพิ่งคุยกับที่บ้านไป ที่บ้านอยากให้เป็นหมอ แต่ผมอยากเข้าวิศวะ หมอเป็นอาชีพที่ดีะครับ แต่ผมไม่ถูกกับชีวะเลย กว่าจะจำได้ต้องใช้เวลามาก ถ้าเข้าสาขาที่ลูกชอบเกรดก็จะดีตาม เรียนไม่เหนื่อยด้วย ถึงเหนื่อยก็จะมีความสุข ถ้าเกรดดีมีทุนมีงานแน่ๆครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ
-
รอแฟนอายุครรภ์ผ่านไป 6 เดือนค่อยมาคิดครับ ผมก็เสียลูกไปคนนึงตอนแฟนอายุครรภ์ได้ 10 สัปดาห์ จะบอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง.... ถ้าทุกอย่างโอเคแล้ว ก็ซื้อ car seat แบบกระเช้าไว้ ที่เหลือตอนลูกใกล้ขวบ ค่อยดูอีกที.... ถึงตอนนั้นคงรู้ความต้องการตัวเองแล้วละ
-
ยินดีกับคุณพ่อมือใหม่ครับ
สำหรับผม ตอนนี้อายุ 34 ปี แฟนอายุ 31 ปี (อายุใกล้เคียงกันครับ) คบกันนานแล้ว แต่พึ่งแต่งเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ท้องได้เกือบ 5 เดือน แล้ว ช่วง 1-3 เดือนแรก ขับรถตกหลุมไม่ได้เลยแฟนชอบเจ็บท้อง มีกระบะ 4 ประตู กับ altis หน้าแบน ใช้กระบะไม่ได้เลย ช่วงล่างสะเทือนมาก เลยใช้แต่ altis เวลาไปกับเขา แต่เลย 3 เดือนแล้วก็สบายครับ
ดังนั้น ท้องช่วงแรกอยากให้คุณใช้ camry ส่วน fortuner ไม่แนะนำครับ แต่กลังจาก 3 เดือน แล้วใช้ for ก็ไม่มีปัญหาครับ ถ้าพอมีรายได้ซื้อ alphard ก็ ok ครับ ขายส่วนเกินออก
-
คันนี้จบเลยครับ ถ้ามีขายในไทยนะ
(http://www.uppic.org/image-3853_580F0B4E.jpg) (http://www.uppic.org/share-3853_580F0B4E.html)
(http://www.uppic.org/image-FB17_580F0B4E.jpg) (http://www.uppic.org/share-FB17_580F0B4E.html)
-
ท่าน จขกท. มีรถทุกระดับขนาดนี้ ผมว่าจบ
ดีใจกับเด็กที่จะมาเกิดครับ เจอครอบครับที่มีความพร้อม
-
ดูแล้วขาดแต่รถตู้. เวลไฟร์. ไม่ก็ H1
เวลาไปไหนบางที. ก็ต้องมีเอาพ่อแม่ของเราไปกับหลานด้วยแน่ๆ
-
ยินดีด้วยครับ
จะบอกว่าที่มีอยู่มันเกินจะพอแล้วครับสำหรับครอบครัวลูก 1
เก็บเงินออมไว้เผื่ออนาคตดีกว่าครับ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ อย่าประมาทครับ
-
ไม่ต้องซื้อเพิ่มหรอกครับ ใช้ Camry+car seat ก็พอแล้วครับ ไว้รออนาคตถ้ามีลูกหลายคน จุของไม่พอค่อยซื้อรถตู้ก็ได้ครับ
-
ผมแนะนำไม่ต้องซื้อเพิ่มครับ
รอให้มี ความต้องการ ความยุ่งยากในชีวิต เล็ก ๆ ก่อนแล้วค่อยซื้อ
โบราณว่า มีลูก อย่าซื้อของล่วงหน้าครับ .. มันจะ บลา ๆๆ ๆ แต่จริง ๆ คือมันจะเปลืองครับ ...
ซื้อมาไม่ได้ใช้เยอะมากกกกก เอาไปขายต่อในเวปครับตอนนี้
ตอนผมมีลูกคนแรก ไม่ได้ซื้ออะไรเลยซักอย่าง . มีแค่ผ้าอ้อม 10 ผืน .. แล้วก็ เวลา ชีวิตประจำวันจะใช้อะไร ก็ค่อย ๆ ไปซื้อเอาครับ
แต่ลูกคนที่ 2 แฟนช็อปล่วงหน้ามือเติบมาก .. แล้วก็อย่างที่บอกครับ .. บางอันยังไม่ได้แกะกล่องด้วยซ้ำ
-
ที่มีอยู่ก็พอแล้วละครับ แต่ถ้าอยากจะซื้อใหม่
ถ้า Freed ใหม่มาขาย น่าสนใจมากครับ ประตูไฟฟ้า เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กมากๆ ยิ่งถ้าต้องอุ้มขึ้น/ลงรถ มีข้าวของเยอะแยะ ให้อีกคน กดรีโมทเปิด/ปิดประตูไฟฟ้าให้ สะดวกมากๆครับ
ที่ควรจะมีก็ Car seat ด้วยนะครับ ปลอดภัยกว่าอุ้มเองแน่นอน
ถ้าจะมีอีกคน ครอบครัวเริ่มใหญ่ ค่อยขยับเป็นรถตู้ครับ ยิ่งถ้าเป็นแบบเบาะหมุนหันมาหากันได้ยิ่งดีครับ
ยินดีกับสมาชิกใหม่ด้วยนะครับ แล้ว จขกท จะรู้ว่าเด็กตัวเล็กๆคนนึงนี่แหละ ที่สามารถเติมเต็มชีวิตครอบครัวได้มากมายนะครับ ญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน ก็จะมีความสุขไปด้วย
-
ตอนนี้เพิ่งท้องใช้คันที่มีอยู่ไปก่อนได้สบายๆเลยครับ เน้นรถที่นั่งนุ่ม ให้ภรรยานั่ง
ส่วนรายได้เกือบครึ่งล้าน เหลือเฟือครับ
ให้ภรรยาเลี้ยงลูกเอง พร้อมคนเลี้ยง
พอลูกเริ่มโต ค่อยใชh PPV หรือจะหารถตุ้ MPV มาใช้ก็ดีครับ
-
ดีใจด้วยครับที่จะมีสามชิกใหม่ ชึวิตคุณ Coat145 คล้ายๆผมเลยครับ ตอนยังไม่มีลูกก็เลี้ยงหมา4ตัวจนเหมือนลูกไปแล้ว พาไปหาหมอหรือไปห้างก็นั่งรถ Benz ไปกัน พออยากมีลูกก้ไปหาหมอพึ่งเทคโนโลยีหลายปี ภรรยาโดนเข็มเจาะจนจะพรุนไปเลย อายุขนาดนี้บอกมีลูกตอนแก่ต้องมาเจอแบบผมครับ มีลูกชายตอนอายุ39ลูกสาวตอนอายุ42ปี ตอนนี้ลูกชาย13ขวบลูกสาว11ขวบ ตอนลูกสาวอายุ20พวกผมอายุเท่าไหร่นับดูเอง แต่มีลูกตอนอายุมากก็ดีอย่างนึงคือเราจะพร้อมทั้งการงานและการเลี้ยงดู สิ่งที่เหนื่อยหน่อยคือต้องฟิตร่างกายเพื่อไปมำกิจกรรมกับเด็กๆ สุดสัปดาห์ที่แล้วก็เพิ่งไปห้อยโหนเป็นลิงที่ Hanuman World ภูเก็ตกัน น่ากลัวและหวาดเสียวดีครับ ส่วนเรื่องคุยกันรู้เรื่องสบายมากครับ พยายามเข้าใจเขาก็จะคุยกันได้สบาย แต่จะเริ่มยากก็ตอนเค้าเป็นวัยรุ่น อันนี้เพื่อนๆที่ลูกๆโตแล้วเล่าให้ฟังเหมือนกันหมดว่าต้องอดทนและใจเย็นๆครับ
เรื่องรถสบายมากครับ ตอนมีคนแรกผมก็ใส่Car Seat ไปพร้อมพี่เลี้ยง1คน รถเข็นเด็กก็ใช้แบบพับได้และเบาๆอย่างยี่ห้อ Combi ไม่เกะกะและใช้ได้จนโตครับ แต่ถ้าตอนคนที่2ก็จะลำบากสำหรับการไปพร้อมๆกันกับพี่เลี้ยงและCar Seat 2ตัวด้วยรถเก๋งครับ กรณีนี้คงต้องพึ่งบริการพวก MPV สถานเดียวครับ
-
ผมแชร์ประสบการลูกผมนะครับ
ลูกผมมีลักษณะดังนี้ครับ
1. ไม่ชอบรถที่ภายในสีดำ สังเกตได้เลยว่า จะออกอาการตื่นกลัว อาจกลัวความมืด แล้วตลอดการเดินทางจะหวาดระแวงตลอด ให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยทำ
ถามว่านานไหมกว่าจะชิน ก็นานครับ ที่บ้านมีรถหลายคันด้วย สลับไปมาๆ พอขึ้นรถ Jazz เบาะหนังสีดำ จะกลัวขึ้นมาเลย (ตอนเล็กๆ)
2. เด็กๆชอบรถที่กว้างๆ เพดานโล่งๆ โทนสีอบอุ่น สว่างๆ ไม่อึมทึม จะทำให้ตลอดการเดินทางเขาจะเล่นได้มีความสุข
3. เด็กๆ ไม่สนใจเรื่อง รถนิ่ม ไม่นิ่ม บางทีกระแทกๆก็ชอบครับ เขาก็โดดเล่นไปมาบนรถอยู่ดี
4. ให้เด็กๆอยู่ด้านหลังกับคนโดยสาร ก็มักไม่อยู่เฉย ทั้งๆที่รู้ว่าอันตราย แต่ญาติผู้ใหญ่ก็ชอบเอามาอุ้มนั่งตัก นั่งๆข้างๆ โดยไม่รัดเข็มขัดหรือนั่งคาร์ซีท
ดังนั้นควรเลือกรถที่มีถุงลมด้านหลังด้สย จะดีมาก เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
5. รถที่มีอุปกรณ์ อิเลคโทรนิคเยอะๆที่อยู่ในที่ๆเขาหยิบจับได้ต้องระวัง อย่าง รูเสียบปลั้กด้านหลังของ Fortuner หรือ เบรคมือไฟฟ้า ปุ่มแอร์ตรงคอนโซลกลางด้านหลัง จับบิดหมุนไปหมุนมาตลอด พังได้ หรือเกิดอันตรายตามาได้
6. รถที่ทรงตัวไม่ดี เลี้ยวทีโคลงไปเคลงมาต้องระวังครับ ลูกผมนั่ง PJS ก็หัวทิ่มหัวตำหลายครั้ง ตอนเลี้ยวโค้ง รถเก๋งดีกว่าครับ จุดนี้
7. รถ PPV ขนของลูกๆได้ดีกว่ารถเก๋งแน่นอนครับ เพราะเวลาเดินทาง คุณพ่อจะต้องมีกระเป๋าสัมภาระ อุปกรณ์ ของลูกน้อยอย่างเยอะเลยครับ รถเข็น ของเล่น ตุ๊กตา หมอน โอย ขนาด PPV พับเบาะแถว3ยังแน่นเลยครับ
8. ลูกขี้ร้อนครับ ถ้าคันไหน ไม่มีแอร์ตอนกลางจะบ่นร้อนมาก เหงื่อซ่กเลย ต้องมานั่งกลางชะแง้หน้ามาตรงกลางรับลมแอร์ตลอด
9. รถที่ต้องแตะหน้าจอเพื่อเซตติ้งค่าต่างๆ ระวังพังครับ ลูกจะกดจิ้มเล่นมั่วไปหมด จริงๆแบบปุ่มก็เล่นครับ แต่ดูท่าน่าจะพังยากกว่า
10. รถ PPV จะทำให้ลูกไม่ดื้อมาก เท่ารถเก๋ง คือรถเก๋งมันเตี้ยครับ จอดรถไว้ลืมล็อกรถนี่ ถูกเปิด-ปิด เข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นกันสนุกสนาน แต่ PPV มันสูงครับ ต้องปีนป่ายกว่าจะเปิดประตูได้ เลยไม่ค่อยได้ซนเท่าไหร่ ถึงกระนั้นก็ต้องระวังตกครับ ปีนอยู่ดี โดยเฉพาะตรงราวบันไดเหยียบครับ
-
ยินดีด้วยครับ มีลูกอายุพอๆกับผมเลย ตอนแฟนท้องผมออกHonda StepWGNครับ ใช้งานดีมาก ประตูสไลด์ (Freedเข้าไปนั่งแล้วอึดอัดครับ) รถหน้าแคบ แต่ยาว จุของได้เยอะ หลังคาสูงอุ้มลูกเข้าออกสะดวก (ใช้D segmentอุ้มที่ไรหัวลูกชนหลังคาทุกที555) หลังๆพาลูกเที่ยวไปตจวบ่อย ขับStepwgnแล้วไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เลยไปได้X5มา ขับดีแต่รถกระเด้งไปหน่อยครับ (ออกรถใหญ่เผื่อลูกคนที่2) ส่วนPPV ใช้แล้วไม่สะดวกเลยครับ ตอนนี้ถ้าต้องการเพิ่มอาจจะเป็นalphard หรือ kia grand canivalครับ รับรองสบาย ปล.ลูกคลอดออกมาแล้วเรื่องcarseatสำคัญมากนะครับ ให้นั่งตั้งแต่เกิดเลย ใช้รุ่นที่หมุนได้360องศาชีวิตจะสบายขึ้นเยอะครับ
-
ใช้ฟอร์อ่ะดีแล้วครับไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ไปทำช่วงล่างเทพๆดีกว่า
-
ตอนท้อง - Camry เน้นนั่งสบาย
คลอดแล้ว - Fortuner เน้นขนของ กระเป๋านม ขวดนม ของใช้จิปาถะ รถเข็นเด็ก