ผู้เขียน หัวข้อ: (กระทู้ความรู้)บริษัทสินเชื่อกับรถซุปเปอร์คาร์ในปัจจุบัน  (อ่าน 7491 ครั้ง)

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,420
ผมเชื่อว่าคนส่วนหนึ่งมีความฝันว่า อยากจะมีรถหรู ๆ ซักคันเพื่อเป็นรางวัลเเห่งชีวิต วันนี้ขอนำเสนอเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน ท้าวความก่อนเเล้วกันว่าเมื่อก่อนการที่เราจะสามารถซื้อรถหรู ๆ หรือรถซุปเปอร์คาร์ได้นั้นยากมากกว่าสมัยนี้มาก เพราะบริษัทที่ปล่อยสินเชื่อไม่ค่อยยอมปล่อยสินเชื่อให้ซื้อรถราคาระดับนี้ เพราะเป็นจำนวนสินเชื่อที่ข้อนข้างมาก และอีกทั้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ต่าง ๆ ไม่ค่อยประกันรถระดับนี้

แล้วสาเหตุใดบ้างที่เป็นเช่นนั้น

- ค่าเงินบาท …ใช่เเล้วครับค่าเงิน เป็นอีกหนึ่งเหตุผลของราคารถนำเข้า เพราะในปัจจุบันค่าเงินบาทถือว่าเเข็งค่า เช่นเมื่อก่อน Audi R8 5.2 คันหนึ่งราคาอยู่ราว 20 ล้าน พอค่าเงินบาทเเข็งค่าราคาอยู่ราว 18 ล้านบาท
- การขอสินเชื่อง่ายขึ้น…อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญเช่นกัน สำหรับการซื้อรถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์ โดยเฉลี่ยเเล้วคนที่จะซื้อรถซุปเปอร์คาร์ส่วนใหญ่จะวางเงินดาวน์ประมาณ 40% ของราคารถนั้น ๆ  เช่นสมมติว่า  เราต้องการซื้อรถ PORSCHE CAYMAN 2.9 PDK ราคา 6.4 ล้าน เราก็ต้องมีเงินดาวน์ประมาณ  2.56 ล้านบาท (ยิ่งเรามีเงินดาวน์เยอะเท่าไร โอกาสที่เราจะขอสินเชื่อผ่านก็มากเท่านั้น) กู้สินเชื่อ 3.84 ล้านบาท ถ้าดอกเบี้ยคงที่  1.9% /ปี ผ่อน 60 งวด  ยอดทั้งหมดที่เราจะต้องจ่ายค่างวดคือ 3,840,000 บาท + (72,960 x  5  ปี )(ดอกเบี้ย) รวมแล้วรถคันนี้เราต้องจ่ายให้กับบริษัทสินเชื่อจำนวน  4,204,800 บาท  บวกค่าภาษีอีก 7%  คิดเป็นเงิน 294,336 บาท รวมทั้งหมดที่เราจะต้องจ่ายภายใน 60 เดือนคือ 4,499,136 บาท เป็นเงินที่เราต้องชำระต่องวดคือ  74,986 บาท

เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อสำหรับซื้อรถหรู

* เงินดาวน์ -เพราะว่าเงินดาวน์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการอนุมติสินเชื่อซื้อรถยนต์หรู จากตัวอย่างที่แล้วในการซื้อรถ PORSCHE CAYMAN 2.9 PDK 6.4 ล้านบาท เราต้องกู้สินเชื่อ 3.84 ล้านบาท พอวันใดเราไม่สามารถชำระค่างวดรถได้ และอาจจะผ่อนไปเเล้วประมาณ 7 เดือน เราก็จะมีหนี้กับทางบริษัทสินเชื่อจำนวณ 3,974,234 บาท พอบริษัทสินเชื่อนำรถเราไปขายทอดตลาด 99% จะสามารถขาย PORSCHE CAYMAN 2.9 PDK คันนี้ได้ในราคาสูงกว่า 3,974,234 บาท อย่างเเน่นอน และโดยทั่วไปแล้วเงินส่วนต่างที่ขายได้นั้นบริษัทสินเชื่อจะคืนให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถเดิม  ด้วยเหตุนี้เองว่าทำไมเรายิ่งดาวน์สูงก็มีโอกาสที่เราจะขอสินเชื่อผ่านได้ง่าย
* ประวัติการชำระหนี้ที่ดี ใน National Credit Bureau(NCB)- ตัวนี้จะเเสดงถึงวินัยในการชำระหนี้ของเเต่ละบุคคล ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลในการพิจารณา
* หลักฐานเเสดงสถานะทางการเงิน - สำหรับข้อนี้ก็สำคัญเพราะจะเเสดงถึงความสามารถของเราในการชำระหนี้  สำหรับคนที่มีเงินเดือนทางบริษัทสินเชื่อจะดูง่าย โดยจะดูที่สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน เเต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ซื้อรถระดับนี้จะเป็นคนที่ทำธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการ เขาจะแสดงหลักฐานที่บ่งบอกว่าเขามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ และโดยทั่วไปเเล้วจะดูบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน จะดูว่าในเเต่ละเดือนนั้นมีรายรับที่สามารถชำระค่างวดได้หรือไม่

จริงหรือไม่ที่คนมีเงินพอที่จะออกรถหรูหรือรถซุปเปอร์คาร์ด้วยเงินสดทั้งคัน แต่กลับไปขอสินเชื่อ?

โดยส่วนใหญ่แล้วจริงครับ…สมมุติว่าผมมีเงินสดในมืออยู่ 20 ล้านบาท แล้วอยากจะออกรถซุปเปอร์คาร์ราคา 20 ล้านบาทเลย แต่ผมกลับไปขอสินเชื่อกู้ซื้อรถซุปเปอร์คาร์คันนี้จำนวน 12 ล้านบาท (คือผมต้องดาวน์ 8 ล้านบาท กู้สินเชื่อจำนวน 12 ล้านบาท) แสดงว่าจากเงิน 20 ล้านบาท ผมจะเหลือจำนวน 12 ล้านบาท และผมก็นำเงินจำนวน 12 ล้านบาท นี้ไปลงทุนเพื่อให้เกิดดอกออกผลและสร้างรายได้ให้กับตัวเอง เเต่ถ้าผมซื้อรถเงินสด 20 ล้านบาทผมก็จะไม่มีรายได้ใด ๆ เลย

ถ้ารถคันละ 20 ล้านคันนี้ ผมกู้สินเชื่อ 12 ล้าน ชำระ 60 งวด  เเละภาษีคงที่ 1.9% /ปี   แสดงว่าผมต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดจำนวน  1.14 ล้านบาท ภายใน 60 เดือนหรือ 5 ปี และการชำระเงินเเต่ละครั้งต้องมีเรื่องภาษีมาเกี่ยวข้องอีก 7% แสดงว่าเมื่อเอาเงินต้น + ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายนี้ จะทำให้ผมต้องเสียภาษีจำนวน 919,800 บาท
สรุปภายใน 5 ปี นี้ผมต้องจ่ายดอกเบี้ย (1.14 ล้านบาท) + ค่าภาษี (919,800 บาท) รวม 2,059,800 บาท   แลกกับการที่ผมมีเงิน 12 ล้านบาท นำไปลงทุนในธุรกิจใด ๆ …ถ้าธุรกิจที่ผมนำเงิน 12 ล้านบาทไปลงทุนนั้นให้ผลตอบเเทน 5 % /ปี แสดงว่าภายใน 5 ปี เงิน 12 ล้านบาทจะทำเงินให้ผม 3 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่ผมต้องจ่ายดอกเบี้ยและชำระภาษีด้วยซ้ำ

…นี่เเหละครับคือเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่ (ขอย้ำว่าส่วนใหญ่นะครับ ไม่ทุกคน) ที่มีเงินพอที่จะซื้อรถซุปเปอร์คาร์ด้วยเงินสดทั้งคันแต่กลับไปขอสินเชื่อ

ที่มา thailandsupercars

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,875
  • เส้นขอบฟ้า
เป็นอีกหนึ่งความรู้ขอบคุณนะครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,088
ขอบคุณมากครับ มีสาระมากๆเลยครับ จริงๆก็เคยสงสัยมานานแล้วแต่ไม่รู้จะถามใคร ในที่สุดก็ได้รู้เสียที

ออฟไลน์ Bomber

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
    • อีเมล์

ออฟไลน์ panerai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,351
ดีครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,098
ความรู้ดีๆเลยครับ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Robb 🍋

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 155
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ArmMoTo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 396
ขอบคุณครับ

ความรู้ใหม่  :D

ออฟไลน์ JT77

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
ขอบคุณมาก ๆ ครับผม
เป็นความรู้อย่างดีเลยครับ ทำให้เข้าใจในเรื่องนี้ดีขึ้นมาก

ออฟไลน์ pump

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
เออ  ผมขอแก้ จขกท.หน่อยครับ

เพราะผมทำงานในบริษัทไฟแนนซ์

ถ้ารถป้ายแดงออกศูนย์ ออกห้าง  ราคาเต็มที่เราซื้อนั้น +vat7% แล้วครับ

เพราะราคาศูนย์จะขายรวม VAT อยู่แล้วครับ

หากคุณซื้อในนามนิติบุคคล สามารถขอบิล VAT ตัวนี้ไปทำค่าใช้จ่ายได้ด้วยครับ


เคลสที่จะโดน +7% เพิ่มคือพวกที่ มีรถเป็นของตัวเองอยุ่แล้วไม่ได้ติดไฟแนนซ์ แล้วนำรถไปจัดไฟแนนซ์ ยกตัวอย่างพวก car for cash พวกนี้ ขอสินเชื่อ เวลาคิด จะเป็นอย่างที่ จขกท คือ  ยอดจัด +ดอกเบี้ย * ปี  หาร จำนวนเดือน + VAT = จำนวนเงินที่จะต้องผ่อนชำระต่อเดือนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2012, 19:14:45 โดย pump »

ออฟไลน์ Ko Love Lexus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 333
ขอบคุณครับ ;D ;D ;D

 thank you my friend :D :D :D
Nothing is impossible. ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ขอบคุณครับ ได้ความรู้เยอะเลย

เดี๋ยวนี้รู้สึกคนซื้อรถแพงๆ เยอะขึ้นมากนะครับ

จำได้ว่าเด็กๆ เห็น Porsche บนถนนนี่ตื่นเต้นมากๆ เดียวนี้เห็น Lambo ยังเฉยๆ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!