Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ ตุลาคม 26, 2018, 20:36:24
-
All NEW Nissan LEAF รถยนต์ไฟฟ้าล้วน Full EV เตรียมเปิดตัว
อย่างเป็นทางการในไทย ปลายปี 2018 นี้ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์
เสียบปลั๊กชาร์จไฟ รอลุ้นราคา
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/nissan-leaf-coming-soon-thailand-end-2018/
(https://www.img.in.th/images/b99a18936be5c7f50208bc8a457b9977.jpg)
-
เห็นคันจริงที่ญี่ปุ่นโชว์อยู่ในห้าง สวยมากๆ อยากเห็นวิ่งในบ้านเราจัง
-
เข้าใจว่าไม่ถูก แต่ลุ้นล้านต้นๆสำหรับรุ่นเริ่มต้นไหวไหมครับ อยากได่รถไปกลับที่ทำงานสัก 200 โล
-
ความฝันของใครหลายคนคงเป็นจริงซะทีแล้ว
-
เข้าใจว่าไม่ถูก แต่ลุ้นล้านต้นๆสำหรับรุ่นเริ่มต้นไหวไหมครับ อยากได่รถไปกลับที่ทำงานสัก 200 โล
ดูราคา Hyundai ioniq ไว้ครับ คงไม่ถูกไปกว่านั้น
-
ถ้าซัก 1.5 ล้านนี่ขายกันระเบิดแน่
-
สำหรับคนไทยจ่ายเงิน 1,500,000 บาทแล้ว
เค้าคงคาดหวังว่าต้องได้รถที่มีความหรูหราอยู่บ้าง
แต่สำหรับคันนี้ไม่เจอความหรูหราเท่าไหร่
สำหรับผมตัวท็อปสุดไม่เกิน 1.2 พอถึงจะขายได้
-
ช่วงนี้รุกหนัก ;D
-
ประกอบไทยขอราคา 9.9 แสนได้ไหม รับรองส่งมอบไม่ทันยอดจองแน่ๆ
-
ประกอบไทยขอราคา 9.9 แสนได้ไหม รับรองส่งมอบไม่ทันยอดจองแน่ๆ
น่าจะราคาไม่เกินล้าน กำลังสวย
LEAF เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor รหัส EM57 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,283 9,795 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 0 3,283 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ปล่อย CO2 0g./km. (Zero Emission)
ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ได้สูงสุดถึง 400 กิโลเมตร (มาตรฐาน JC08, Japan) / 240 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA, USA)
ชาร์จปกติ 3 kW onboard Charger ใช้เวลา 16 ชั่วโมง
ชาร์จปกติ 6 kW onboard Charger ใช้เวลา 8 ชั่วโมง
ชาร์จด่วน Quick Charging ใช้เวลา 40 นาที (ชาร์จ 80%)
-
เซอร์ไพรสมากๆครับ ขอรอดูราคาเลยคับ :D
-
ราคาขึ้นล้านเลยหรือครับ ผมนึกว่าไม่น่าเกิน 7 แสนซะอีก ไม่ทราบว่าพิกัดรถมันขนาดเท่าไหร่ครับ
-
แค่ที่ชาร์ทตอนนี้ต้องรอให้ครอบคุมทั้งหัวเมืองใหญ่ๆๆก่อนครับ
-
ราคาขึ้นล้านเลยหรือครับ ผมนึกว่าไม่น่าเกิน 7 แสนซะอีก ไม่ทราบว่าพิกัดรถมันขนาดเท่าไหร่ครับ
ขนาดตัวรถอยู่ในกลุ่ม C-segment hatchback ครับ
ยาว 4480 กว้าง 1790 สูง 1540 มม
-
ราคาขึ้นล้านเลยหรือครับ ผมนึกว่าไม่น่าเกิน 7 แสนซะอีก ไม่ทราบว่าพิกัดรถมันขนาดเท่าไหร่ครับ
Body รถมัน size Pulsar ครับ
-
เดาว่าราคาล้านปลายแก่ๆเลยครับ ไม่รู้ว่าเสียบปลั้กไฟบ้านธรรมดาๆได้เลยหรือต้องสร้างสถานีชาร์จใหม่ให้เป็นไฟกระแสสูงด้วยรึเปล่านะครับ
-
จะรอดู พี่ๆที่รอรถ EV ในกระทู้ก่อนๆ ที่บ่นว่าเมื่อไร EV จะเกิดในไทย ...
ตอนนี้เกิดแล้วนะครับ ..... และจะซื้อขับกันจริงๆหรือเปล่า ... รอรีวิวพวกพี่ๆอยู่นะฮะ ...
-
Nissan LEAF
จะ 2 รุ่นย่อย S, V
เริ่มที่ 1,9xx,xxx - 2,1xx,xxx บาท
ถ้ายอดขายดีจะได้ประกอบในประเทศ ในปี 2020 และเป็นฐานส่งออกในภูมิภาค
-
Nissan LEAF
จะ 2 รุ่นย่อย S, V
เริ่มที่ 1,9xx,xxx - 2,1xx,xxx บาท
ถ้ายอดขายดีจะได้ประกอบในประเทศ ในปี 2020 และเป็นฐานส่งออกในภูมิภาค
ตะลึงกับราคา ถึงกับต้องไปหาราคาของ US มาเทียบ เออแหะ มันแพงกว่า Camry อีกครับ ???
-
จะรอดู พี่ๆที่รอรถ EV ในกระทู้ก่อนๆ ที่บ่นว่าเมื่อไร EV จะเกิดในไทย ...
ตอนนี้เกิดแล้วนะครับ ..... และจะซื้อขับกันจริงๆหรือเปล่า ... รอรีวิวพวกพี่ๆอยู่นะฮะ ...
ยังไม่เกิดนี่ครับ :-\
-
ของแบบนี้ คนซื้อไม่บ่น คนบ่นไม่ซื้อครับ คนจะซื้อเขาไม่พูดมากเจ็บคอครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะซื้อนะครับ 😂😂
-
แค่ที่ชาร์ทตอนนี้ต้องรอให้ครอบคุมทั้งหัวเมืองใหญ่ๆๆก่อนครับ
ชาร์ตแบตเต็มวิ่งได้แค่ 400 กิโล คงเป็นรถที่เน้นวิ่งระยะสั้นๆ ไม่ได้ไปไกล แต่ถ้ามีรถเยอะเมื่อไปสถานีชาร์ตคงตามมาเอง ถ้าปั๊มน้ำมันจพติดตั้งสถานีชาร์ตไฟคงทำได้ง่ายมาก ลงทุนไม่เยอะด้วย
-
ราคาขึ้นล้านเลยหรือครับ ผมนึกว่าไม่น่าเกิน 7 แสนซะอีก ไม่ทราบว่าพิกัดรถมันขนาดเท่าไหร่ครับ
แค่ตัวเริ่มต้น ราราที่อเมริกา เทียบเงินไทยก็ 1.3 ล้านแล้วครับ ปกติราคารถที่อเมการุ่นต่อรุ่นจะถูกกว่าของไทย ดังนั้นเจ้าใบไม้คันนี้ราคามองในแง่ดีก็ 1.3-1.5 MB.
-
ราคาขึ้นล้านเลยหรือครับ ผมนึกว่าไม่น่าเกิน 7 แสนซะอีก ไม่ทราบว่าพิกัดรถมันขนาดเท่าไหร่ครับ
สำหรับราคาจำหน่ายในแต่ละประเทศ ที่ได้รับการเปิดเผยแล้ว มีดังนี้
ญี่ปุ่น JAPAN
ราคา 3,150,360 3,990,600 เยน (ประมาณ 958,000 1,214,000 บาท)
สหรัฐอเมริกา USA
ราคาเริ่มต้นที่ 29,990 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 994,000 บาท)
http://www.headlightmag.com/new-nissan-leaf-photo-exterior-interior/ (http://www.headlightmag.com/new-nissan-leaf-photo-exterior-interior/)
-
400 โลที่เคลมไว้ วิ่งจริงๆ ใน กทม เหลือไม่ถึง 200 แน่ ขนาด Plug in ที่เคลมว่าวิ่งได้ 40 กิโล วิ่งจริงผมได้ไม่ถึง 20 กิโลเลย แต่ระยะทางขนาดนี้เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ราคาถ้าตามกลไกลการตลาดบ้านเรา ไม่มี incentive ใดๆ จากรัฐมาช่วย ผมว่าอยู่ในช่วง d segment แน่ๆ ให้เดา 1.5-1.8 ล้านบาท
-
ดูจากการทำตลาด Teana เลิกหวังเรื่องราคาสวยๆ ละ
-
เย้ แต่ไม่คาดหวังราคาอยู่แล้ว ถ้ามา 2 ลบ แบบเม้นบนว่าก็ไม่แปลกใจ
-
น่าสนใจดีครับ ถ้าราคาไม่แพง
ระยะทาง 400 กม. ผมว่าเหลือเฟือ สำหรับใช้ในแต่ละวันแล้ว
อยากรู้ว่าค่าบำรุงรักษาจะต่ำจริงเหมือนที่หลายๆท่านบอกจริงมั้ย เพราะ พาร์ท มีน้อยมาก
ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ต่างๆ ถ้าทางนิสสันทำมาให้ดูว่าถูกจริงๆ คนน่าจะซื้อเยอะนะคับ
-
ตัวนี้นำเข้าจากญี่ปุ่นหรือประกอบในไทยครับ
ถ้านำเข้าจากญี่ปุ่นจะได้ตัดใจ เพราะราคาคงแรงมาก
-
เท่าไหร่รอชม
-
ตัวนี้นำเข้าจากญี่ปุ่นหรือประกอบในไทยครับ
ถ้านำเข้าจากญี่ปุ่นจะได้ตัดใจ เพราะราคาคงแรงมาก
นำเข้าครับในช่วงแรก
ขอคัดลอกข้อความมาจากท้ายบทความนะครับ
"คาดว่าในช่วงแรกของการเปิดตัว Nissan ประเทศไทย น่าจะนำเข้า LEAF มาทำตลาดก่อน จากนั้นจะเริ่มไลน์ผลิตในประเทศตามมาภายหลัง ต้องรอดูกันว่าราคาอย่างเป็นทางการ และ สเป็คของ Nissan LEAF เวอร์ชั่นไทยจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในช่วงงาน Motor Expo 2018 ปลายเดือน พฤศจิกายน นี้
หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมของ Nissan LEAF เวอร์ชั่นไทย ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ"
-
ตัวนี้นำเข้าจากญี่ปุ่นหรือประกอบในไทยครับ
ถ้านำเข้าจากญี่ปุ่นจะได้ตัดใจ เพราะราคาคงแรงมาก
นำเข้าครับในช่วงแรก
ขอคัดลอกข้อความมาจากท้ายบทความนะครับ
"คาดว่าในช่วงแรกของการเปิดตัว Nissan ประเทศไทย น่าจะนำเข้า LEAF มาทำตลาดก่อน จากนั้นจะเริ่มไลน์ผลิตในประเทศตามมาภายหลัง ต้องรอดูกันว่าราคาอย่างเป็นทางการ และ สเป็คของ Nissan LEAF เวอร์ชั่นไทยจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในช่วงงาน Motor Expo 2018 ปลายเดือน พฤศจิกายน นี้
หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมของ Nissan LEAF เวอร์ชั่นไทย ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ"
ขอบคุณครับ พอดีเน็ตแย่ เลยไม่ได้กดเข้าไปอ่านที่หน้าเว็บหลักครับ
-
รถ BEV นี้ราคา จะแปรผันตามราคา battery ราคา battery ก็ราคาลงทุกๆปี
ถ้า Vendor รายใดอยากจะแข่งขันได้ ในแต่ละปี ก็ควรจะปรับราคาตามราคา battery ที่นำมาผลิตในแต่ละปีด้วยนะ
ไม่เช่นนั้นรถรุ่นใหม่ที่นำ battery ที่เพิ่งออกมาใหม่ที่ราคาต่ำกว่ามาผลิต ก็จะสามารถทำราคาได้ถูกกว่า รถรุ่นเดิมๆ
สมมติถ้า Vendor ที่คิดที่ประเด็นนี้ และอยากจะแข่งขันได้ในตลาดจริงๆ ผมว่า ราคา Leaf ที่ขายในปี 2019 ก็ควรจะถูกกว่า Leaf
ที่ขายในปี 2017 และ 2018 นะ
แต่ไม่ที่ผมพูดหมายถึงตลาดที่มีการแข่งขันก็สมบรูณ์ แต่ช่วงแรกๆที่ไม่มีการแข่งขัน ก็อาจมีการตั้งราคาแบบ หลอกล่อคนที่อยากลองของ
หรือ คนที่ชอบนำตลาด และยอมต้องจ่ายส่วนที่เพิ่มขึ้นสำหรับความอยากไปก่อน
แต่ถ้ารัฐอยากจะสนับสนุนรถไฟฟ้าจริงนะ ก็ควรปล่อยให้นำรถไฟฟ้าจากจีนมาขายได้โดยไม่คิดภาษีจริงๆด้วย
แต่ผมว่าเมืองไทยอีกนานสำหรับรถไฟฟ้าแบบ BEV นะ เพราะการไฟฟ้าไม่พร้อมจะจ่ายไฟ ให้ใช้รถ BEV แบบทุกๆถนนทุกซอย หรอก
ผมว่าถ้ารัฐอยากสนับสนุน สนับสนุน REEV อย่าง e-power ให้คิดภาษีแบบ BEV เถอะ
และในมุมผมนะการคิดว่าเป็นรถไฟฟ้าหรือไม่คือดูว่า ถ้าล้อถูกส่งกำลังจาก motor นะ ไม่ใช่จากเครื่องยนต์ตรงละก็นั้นแหละรถไฟฟ้า
และจะได้มีการซ่อม พวก ระบบขับเคลื่อนจาก motor ในตลาดได้จริงๆจังมากกว่าจะรอ BEV ที่ยากจะเกิดเป็นจำนวนมากเพราะต้องมารอ
การไฟฟ้าให้พร้อมจ่ายไฟก่อนซึ่งอย่างเร็วคง 7-10 ปีโน้น
ถ้ามัวแต่รออีก 10 ให้การไฟฟ้าพร้อมจ่ายไฟ และจะทำให้มียอดการจำหน่าย BEV ถึง 10% อุตสาหกรรมรถยนต์เราคงตายพอดี
เพราะยอดการจำหน่ายรถยนต์สันดาป น่าจะค่อยลดลงๆในอีก 4-5 ปี ข้างหน้าแล้ว แต่บ้านเราตลาด BEV ไม่เกิดสักที จะมีผู้ผลิตสักกี่รายจะมาผลิตในบ้านเรา เพราะตลาดบ้านเรามียอดการจำหน่ายทั้งปี ของ BEV มีไม่ถึง 5% ของยอดจำหน่ายรถทั้งหมด
ผลคือ อุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในอาเซียน คงไปอยู่ที่สิงคโปร์,มาเลเซีย หรือ เวียดนาม เสียก่อนนะ
-
ราคาขึ้นล้านเลยหรือครับ ผมนึกว่าไม่น่าเกิน 7 แสนซะอีก ไม่ทราบว่าพิกัดรถมันขนาดเท่าไหร่ครับ
ขนาดตัวรถอยู่ในกลุ่ม C-segment hatchback ครับ
ยาว 4480 กว้าง 1790 สูง 1540 มม
ขอบคุณครับ หมดความน่าสนใจไปเลย ถ้ามาราคานี้
-
ถ้าเอาตัวนอก เข้ามาขายก่อน ดูยอดค่อยผลิตจริง ถ้างั้นคง bye bye
-
ต่างจังหวัดยังไม่เห็นจุดชาร์จเลย คงได้แค่ชาร์จอยู่บ้านอ่ะ เดินทางยังไม่ได้
-
ผมสนใจเลย
อยากได้รถใหม่ใช้ในเมือง ให้เมียขับไป-กลับที่ทำงาน ประมาณ 50 กม
รอลุ้นราคาอย่างเดียว :-X
-
ภาษีน่าจะถูกนะ คงพอทำราคาได้
-
Co2 -> 0 ราคาก็น่าจะถูก
แต่นิสสันไม่เคยขายราคาถูก
ดู note ผมว่ามันแพง
รถไฟฟ้าต้องเอามาใช้งาน
ในชีวิตประจำวัน ต้องถูก
ประหยัด ไม่ได้เน้นหรู
ถ้าราคา 1.5 ล้าน ผมซื้อ eco car
ส่วนต่างเติมน้ำมัน ได้เป็นชาติ
แถมไม่ต้องปวดหัวกับ ศูนย์นิสสัน
ต้องเน้นถูกครับ ถึงจะเหมาะสม
-
ราคาคงเป็นตัวตัดสินเลยแหละงานนี้ ผมเองก็อยากลองนะครับ แต่ถ้ามันแรงมากไป ก็เอามาเติมน้ำมันรถเดิมดีกว่า
-
ยอดขายหลักสิบช่วงประกอบไทยไม่น่าเกินนี้
-
ผมว่าถ้าเกินล้านนี่ขายลำบากล่ะ...
สมมุติว่าถ้าขาย 1.5ล้าน แล้วใครจะซื้อ
อย่างผมไปซื้อคัมรี่หรือแอคคอร์ดดีกว่า
-
ผมว่าพิกัดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท คงหวังได้แค่ Note e-Power ละครับ
แต่ถ้าระบบ Safety มาครบ ภายในจัดเต็มก็อาจจะน่าสนใจนะครับ
เช่นเอา Note e-Power Nismo Version พร้อมระบบความปลอดภัยจัดเต็ม
ภายในดูดี เบาะหนัง ถุงลม 6-7 ใบ Active Safety ครบๆ
-
1500000ขึ้นไป..เตรียมพับเสื่อกลับญี่ปุ่น
1500000ลงมา.. ยังน่าจะยาก รอคนใจรัก
1200000ลงมา น่าจะขายได้อยู่
1000000ลงมา น่าจะขายดี. :-*
แต่แว่วๆมาว่า ต่ำล้านนะครับ... :-* :-* :-*
-
เขาเอามาขาย เพื่อให้มีการรับรู้และมีประสบการณ์กับรถ EV
จะขายได้สักปีละหลักสิบหลักหน่วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ในช่วงนี้เป็นเวลาของคนที่ซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่คนที่รีดเค้น
เอาความคุ้มค่าความประหยัดต่อบาทต่อสตางค์ครับ
-
เขาเอามาขาย เพื่อให้มีการรับรู้และมีประสบการณ์กับรถ EV
จะขายได้สักปีละหลักสิบหลักหน่วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ในช่วงนี้เป็นเวลาของคนที่ซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่คนที่รีดเค้น
เอาความคุ้มค่าความประหยัดต้อบาทต่อสตางค์ครับ
ตามนั้นครับ
-
เขาเอามาขาย เพื่อให้มีการรับรู้และมีประสบการณ์กับรถ EV
จะขายได้สักปีละหลักสิบหลักหน่วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ในช่วงนี้เป็นเวลาของคนที่ซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่คนที่รีดเค้น
เอาความคุ้มค่าความประหยัดต้อบาทต่อสตางค์ครับ
ตามนั้นครับ
จริงครับ ที่ญี่ปุ่นขายเพราะเค้าไม่ได้คำนึงถึงความประหยัด แต่เค้าคำนึงถึงการลดมลพิษในอากาศ มากกว่า สำหรับคนที่บอกราคานี้ไปซื้อคันนี้ดีกว่า มันก็ส่วนบุคคลครับ ตีความไปกันเอง
-
มันต้องล้านขึ้นอยู่แล้วละครับ เป็นไปไม่ได้ที่จะขาย7-8แสน ต่อให้ประกอบให้ประเทศแล้วก็เหอะ
ถึงแม้จะได้เปรียบเรื่องภาษี แต่อย่าลืมดูเทคโนโลยีและองค์ประกอบอื่นด้วย
full ev ราคาหลักแสนที่พอจะเป็นไปได้ก็มีแต่ fomm ละครับที่ตอบโจทย์ได้
-
1500000ขึ้นไป..เตรียมพับเสื่อกลับญี่ปุ่น
1500000ลงมา.. ยังน่าจะยาก รอคนใจรัก
1200000ลงมา น่าจะขายได้อยู่
1000000ลงมา น่าจะขายดี. :-*
แต่แว่วๆมาว่า ต่ำล้านนะครับ... :-* :-* :-*
ตำ่กว่าล้านคง เป็นไปไม่ได้ แน่นอนคับ..
-
คนส่วนใหญ่ก็รักโลกนะครับ แต่ฐานะไม่เอื้ออำนวย สิ่งสำคัญในการพิจารณาซื้อรถคงหนีไม่พ้นความคุ้มค่า
เพราะฉนั้นต้องตอบให้ได้ว่ารถคันนี้ดีกว่าคันอื่นอย่างไรบ้าง เช่น
ค่าพลังงานที่ต้องจ่าย
ค่าบำรุงรักษาตามระยะ
ความทนทาน
ความยากง่ายในการซ่อม
ราคาอะไหล่ และความสะดวกรวดเร็ว
ทำรถมาขายต้องแจงข้อมูลเหล่านี้ให้ครบถ้วน ถ้ามันดีกว่าขายแพงกว่าก็สมเหตุสมผล
ยกเว้นพวกเงินเหลือๆ อยากใช้ก็ซื้อ อยากรักษ์โลกก็ซื้อ ไม่คิดไรมาก
-
กลัวเปิดราคามาแล้วจะต้อง LEAVE หน่ะสิ
-
เขาเอามาขาย เพื่อให้มีการรับรู้และมีประสบการณ์กับรถ EV
จะขายได้สักปีละหลักสิบหลักหน่วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ในช่วงนี้เป็นเวลาของคนที่ซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่คนที่รีดเค้น
เอาความคุ้มค่าความประหยัดต้อบาทต่อสตางค์ครับ
ตามนั้นครับ
จริงครับ ที่ญี่ปุ่นขายเพราะเค้าไม่ได้คำนึงถึงความประหยัด แต่เค้าคำนึงถึงการลดมลพิษในอากาศ มากกว่า สำหรับคนที่บอกราคานี้ไปซื้อคันนี้ดีกว่า มันก็ส่วนบุคคลครับ ตีความไปกันเอง
เห็นด้วย 100000000000000% ครับ
บางคนบอกว่าไม่เกิน 7 แสนบาท เดี๋ยวนะครับ นี่บริษัทรถ หรือ องค์กรการกุศลครับ
ทำรถก็ต้องมีกำไร ทั้งคันก็นำเข้าจากญึ่ปุ่น ตัวรถก็ใหญ่เท่า Pulsar จะให้ขายเหมือน Eco-car หรือครับ
ลองไปถามแท็กซี่ BYD ที่เป็น EV แท้ๆ สิครับว่าราคาต่อคันเท่าไร ชาร์จครั้งนึงอยู่ได้กี่กิโลเมตร
--------------------------
บางท่านไปเปรียบกับ Note บอกว่าแพง บลาๆ
ได้ดูหรือเปล่าว่าระบบ Advance Safety สูงกว่าคันอื่น
เช่น เตือนชนทั้งคนและรถ / เบรคฉุกเฉิน / เคือนเปลื่ยนเลนส์ / กล้องรอบคัน / เตือนวัตถุรอบคัน
ของพวกนี้มีราคานะครับ ถ้าไม่ใส่ 1.2 มา ราคาคงหลุดไป 8 แสนแน่ๆ
ขณะที่คู่แข่ง มีแค่ถุงลม 7 ใบ กับเบาะหนัง แต่งระบบพวกนี้ก็ไม่มีให้
แม้กระทั่งขนาด CH-R ตัว 1.8 MID ราคา 1.04 ล้าน ยังไม่มีให้ด้วยซ้ำ
คนมีเงินถ้าเค้าจะซี้อ เค้าไม่บ่นหรอกครับ
-
เกินล้านสองคนก็เมินแล้วครับ ก่อนรักษ์โลกต้องรักษ์กระเป๋าตังตัวเองก่อน แต่ถ้ามารุ่นเริ่มต้นต่ำกว่าล้านได้นี่คือว๊าววววว
-
ผมบอกได้เลยว่า
สำหรับคนที่จะเล่น EV
อย่ากลัวเรื่องสถานีชาร์ต
หน่วยงานของรัฐ เช่น
กฟน. กฟภ. ปตท.หน่วยงานอื่นๆ
หรือเอกชน ทำการติดตั้ง
หรือเตรียมการขยายผล
สถานีชาร์ตไปตาม ตจว.
เยอะแยะเลยคับ
-
กำลังรออยู่เลย แต่คงต้องขอดูราคาก่อน
ถ้าประกอบในเกิน 1 ล้าน ผมจะไป Note e-power แทน
แต่ถ้า Note e-power เกิน 1 ล้าน ผมจะไป City/Jazz 1.0T :D
-
Co2 -> 0 ราคาก็น่าจะถูก
แต่นิสสันไม่เคยขายราคาถูก
ดู note ผมว่ามันแพง
รถไฟฟ้าต้องเอามาใช้งาน
ในชีวิตประจำวัน ต้องถูก
ประหยัด ไม่ได้เน้นหรู
ถ้าราคา 1.5 ล้าน ผมซื้อ eco car
ส่วนต่างเติมน้ำมัน ได้เป็นชาติ
แถมไม่ต้องปวดหัวกับ ศูนย์นิสสัน
ต้องเน้นถูกครับ ถึงจะเหมาะสม
ใช่ครับ ผมรักโลกน่ะครับ แต่ผมมีงบประมาณไม่ถึงก็ต้องกลายเป็นคนไม่รักโลกไปก่อน ::) ::) ::)
-
ประเทศเรายังไม่น่าจะอยู่ในฐานะที่จะได้ใช้รถไฟฟ้า แทนรถทั่วไปได้นะครับ เอามาขายได้เฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น
พูดกันตรงๆ เราๆท่านๆ ก็ไม่ได้สนใจโลกมากไปกว่าปากท้องและเงินในกระเป๋า
เรายังไม่อยู่ในจุดที่ยอมจ่ายแพงเพื่อรักษาโลกหรอกครับ รถน้ำมันที่ใหญ่กว่า สบายกว่า ราคาเท่ากันก็มีให้เลือก
จนกว่าวันที่ราคาเท่ากัน ในระดับ segment เดียวกัน นั่นแหล่ะครับ คนไทยถึงจะซื้อ
อ่านข่าวแล้วก็ดีใจที่ประเทศเรามีรถไฟฟ้าเข้ามาแล้ว แต่ก็มองว่า ไม่ใช่เรื่องที่ใกล้ตัวหรือเกี่ยวข้องกับตัวเองเท่าไหร่
-
หลายคนลุ้นราคาต่ำกว่าล้าน ถ้ามาจริง nissan note e-power ราคาคง 6 แสน
-
หลายคนลุ้นราคาต่ำกว่าล้าน ถ้ามาจริง nissan note e-power ราคาคง 6 แสน
โฟมที่เปิดตัวมา 6.6 แสน คงไม่ต้องขาย ::)
-
ต้นทุนการผลิต มันต่ำกว่า รถยนต์สันดาป รัฐช่วยสนับสนุนภาษี 0% ราคามันก็ไม่ควรสูงกว่า 9 แสนน่ะ
ชิงเปิดตัวเจ้าแรก ขายให้ระเบิดเถิดเทิงไปก่อน เจ้าที่จะตามมาทีหลังเหงื่อตกแน่ๆ แต่ก็นะ แล้วแต่นโยบาย บริษัทเค้าอ่ะ ว่าจะเดินทางใหน
ระยะวิ่ง 300 กม.ขึ้นไป ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง ผมคนหนึ่งล่ะที่ซื้อ
-
ราคาเท่าไหร่เน้ 8)
ถ้า 1.2 น่าจะขายดีนะครับ :-*
-
ขอให้มีระบบ thermal management system มากับรถด้วยละกันครับ ไม่งั้นแบตเสื่อมไวและมีอาการชาร์ตช้าแน่นอนครับ
-
มาเลยๆ Tesla จะได้มามั่ง 55 8)
-
เราไม่ต้องไปกังวลเรื่องไฟไม่พอหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องจัดการ ไม่ใช่ผลิตไฟฟ้าได้เท่านี้แล้วมากำหนดคนห้ามใช้ไฟฟ้า ไม่งั้นต้องคุมกำเนิด งดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น จุดเทียนกันเอา เพราะรัฐจะไม่ผลิตไฟเพิ่มงั้นเหรอ??? ในเมื่อการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เมืองขยายขึ้นเรื่อยๆ ยังไงเค้าก็ต้องมีมาตรการรองรับ ถ้าจะมองว่าเป็นปัญหาระยะสั้นคือจุดชาร์จไฟแบบเร็วที่อาจจะยังไม่ทั่วถีงมากกว่า ซึ่งจุดชาร์จแบบนี้มันก็ต้องตั้งราคาค่าไฟสูงกว่าปกติ แต่คนมีรถไฟฟ้าเค้าไม่ได้ใช้การชาร์จเร็วบ่อยๆ จะใช้กรณีจำเป็นเช่นเดินทางไกลแค่นั้น ดังนั้นถ้าชาร์จปกติก็เหมือนการติดแอร์เพิ่มตัวนึงที่บ้าน(ในแง่ค่าไฟ แต่ไม่ได้แปลว่าเค้าต้องเสียบชาร์จทุกวัน) ถามว่าทุกวันนี้รัฐมากำหนดมั้ยว่าบ้านหลังนึงห้ามมีแอร์เกินกี่ตัว??? นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าบางบ้านเค้ามีโซล่าเซลล์ของตัวเอง
ดังนั้นตัดเรื่องไฟไม่พอไปเถอะ ปัญหาที่รถไฟฟ้าจะเกิดหรือไม่มันอยู่ที่คนซื้อมากกว่า ถ้ายังราคาแพงกว่ารถอื่นมาก หาจุดชาร์จยาก วิ่งได้ใกล้ๆ ถึงค่าดูแลระยะยาวน้อยแต่ขายต่อราคาตก คนมองว่าไม่คุ้ม คนจะอยากซื้อมั้ย ถ้าไม่มีคนซื้อก็ไม่มีใครขายแค่นั้นเอง เราไม่ใช่เนเธอร์แลนด์ที่รัฐจะมาบังคับให้คนใช้กัน 100% ผมว่าบ้านเรา10-20 ปี ก็คงมีแค่ไม่ถึง 20% หรอก
-
เราไม่ต้องไปกังวลเรื่องไฟไม่พอหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องจัดการ ไม่ใช่ผลิตไฟฟ้าได้เท่านี้แล้วมากำหนดคนห้ามใช้ไฟฟ้า ไม่งั้นต้องคุมกำเนิด งดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น จุดเทียนกันเอา เพราะรัฐจะไม่ผลิตไฟเพิ่มงั้นเหรอ??? ในเมื่อการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เมืองขยายขึ้นเรื่อยๆ ยังไงเค้าก็ต้องมีมาตรการรองรับ ถ้าจะมองว่าเป็นปัญหาระยะสั้นคือจุดชาร์จไฟแบบเร็วที่อาจจะยังไม่ทั่วถีงมากกว่า ซึ่งจุดชาร์จแบบนี้มันก็ต้องตั้งราคาค่าไฟสูงกว่าปกติ แต่คนมีรถไฟฟ้าเค้าไม่ได้ใช้การชาร์จเร็วบ่อยๆ จะใช้กรณีจำเป็นเช่นเดินทางไกลแค่นั้น ดังนั้นถ้าชาร์จปกติก็เหมือนการติดแอร์เพิ่มตัวนึงที่บ้าน(ในแง่ค่าไฟ แต่ไม่ได้แปลว่าเค้าต้องเสียบชาร์จทุกวัน) ถามว่าทุกวันนี้รัฐมากำหนดมั้ยว่าบ้านหลังนึงห้ามมีแอร์เกินกี่ตัว??? นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าบางบ้านเค้ามีโซล่าเซลล์ของตัวเอง
ดังนั้นตัดเรื่องไฟไม่พอไปเถอะ ปัญหาที่รถไฟฟ้าจะเกิดหรือไม่มันอยู่ที่คนซื้อมากกว่า ถ้ายังราคาแพงกว่ารถอื่นมาก หาจุดชาร์จยาก วิ่งได้ใกล้ๆ ถึงค่าดูแลระยะยาวน้อยแต่ขายต่อราคาตก คนมองว่าไม่คุ้ม คนจะอยากซื้อมั้ย ถ้าไม่มีคนซื้อก็ไม่มีใครขายแค่นั้นเอง เราไม่ใช่เนเธอร์แลนด์ที่รัฐจะมาบังคับให้คนใช้กัน 100% ผมว่าบ้านเรา10-20 ปี ก็คงมีแค่ไม่ถึง 20% หรอก
+1 ^^
-
คนส่วนใหญ่ก็รักโลกนะครับ แต่ฐานะไม่เอื้ออำนวย สิ่งสำคัญในการพิจารณาซื้อรถคงหนีไม่พ้นความคุ้มค่า
เพราะฉนั้นต้องตอบให้ได้ว่ารถคันนี้ดีกว่าคันอื่นอย่างไรบ้าง เช่น
ค่าพลังงานที่ต้องจ่าย
ค่าบำรุงรักษาตามระยะ
ความทนทาน
ความยากง่ายในการซ่อม
ราคาอะไหล่ และความสะดวกรวดเร็ว
ทำรถมาขายต้องแจงข้อมูลเหล่านี้ให้ครบถ้วน ถ้ามันดีกว่าขายแพงกว่าก็สมเหตุสมผล
ยกเว้นพวกเงินเหลือๆ อยากใช้ก็ซื้อ อยากรักษ์โลกก็ซื้อ ไม่คิดไรมาก
ผมว่า อาจจะไม่ใช่ครับ
คนที่ใช้ปิคอัพและ PPV ออกรถป้ายแดงมา
เกินครึ่ง สิ่งแรกที่พวกนี้ทำคือ อุด EGR กับตัดแคท ออกครับ
ถ้ารักโลกจริง คงไม่ทำแบบนั้นครับ
-
เมื่อวานขับรถไปเติมน้ำมันในปั้มเชชล์ หน้าแม๊คโคร แจ้งวัฒนะ
มีหัวชาร์ต ดีซี 1 หัว และ เออีซี 2 หัว
ของเอกชน EA
ผมเดาใน กทม.น่าจะเป็นพันหัวชาร์ตแล้วคับ
-
คนส่วนใหญ่ก็รักโลกนะครับ แต่ฐานะไม่เอื้ออำนวย สิ่งสำคัญในการพิจารณาซื้อรถคงหนีไม่พ้นความคุ้มค่า
เพราะฉนั้นต้องตอบให้ได้ว่ารถคันนี้ดีกว่าคันอื่นอย่างไรบ้าง เช่น
ค่าพลังงานที่ต้องจ่าย
ค่าบำรุงรักษาตามระยะ
ความทนทาน
ความยากง่ายในการซ่อม
ราคาอะไหล่ และความสะดวกรวดเร็ว
ทำรถมาขายต้องแจงข้อมูลเหล่านี้ให้ครบถ้วน ถ้ามันดีกว่าขายแพงกว่าก็สมเหตุสมผล
ยกเว้นพวกเงินเหลือๆ อยากใช้ก็ซื้อ อยากรักษ์โลกก็ซื้อ ไม่คิดไรมาก
ผมว่า อาจจะไม่ใช่ครับ
คนที่ใช้ปิคอัพและ PPV ออกรถป้ายแดงมา
เกินครึ่ง สิ่งแรกที่พวกนี้ทำคือ อุด EGR กับตัดแคท ออกครับ
ถ้ารักโลกจริง คงไม่ทำแบบนั้นครับ
+1 ครับ
-
มีแผนจะ CKD ด้วยนะครับ แต่ CBU ไม่รู้จะรอดมั๊ย
-
เมื่อวานขับรถไปเติมน้ำมันในปั้มเชชล์ หน้าแม๊คโคร แจ้งวัฒนะ
มีหัวชาร์ต ดีซี 1 หัว และ เออีซี 2 หัว
ของเอกชน EA
ผมเดาใน กทม.น่าจะเป็นพันหัวชาร์ตแล้วคับ
ใช่ครับ
ของจ้าวนี้เค้าทำ mou กับการไฟฟ้า
ในพื้นที่ มหานคร > 1000 จุดครับ