Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ มีนาคม 09, 2020, 16:36:18
-
ราคาอย่างเป็นทางการ Lexus LM 300h : 5,500,000 - 6,500,000 บาท (นำเข้า CBU)
มีทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ Executive 4 ที่นั่ง เบนซิน 2.5 Hybrid E-Four 197 แรงม้า
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/official-price-lexus-lm-300h-thailand/
(https://www.img.in.th/images/d0547347b20a37f50f5551af088507e7.jpg)
-
ท้ายไม่ค่อยสวยเลยแฮะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ลูกค้าเพิ่มเงินมาซื้อตัวนี้บ้างครับเนี่ย
-
ราคาตามนัดเลย เคยคิดว่าจะได้เห็นเลข4 ขึ้นหน้า ไม่มี 5555 แต่ภายในตัว 6.5 นี่โหดมาก สวยงามครับ
-
ตัว 4 ที่นั่งคงกะว่าชนกับ s-class กับ ss7 แหละดูจากราคาแบบนี้
-
นึกว่าจะแพงกว่านี้ซะอีก
-
ราคาตัว7ที่นั่งตรงเป๊ะตามที่เซลล์เคยแจ้งผมมาเลย
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=74278.0
-
ท้ายไม่ค่อยสวยเลยแฮะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ลูกค้าเพิ่มเงินมาซื้อตัวนี้บ้างครับเนี่ย
ปกติ Alphard ตัว executive lounge ราคาก็ 5 ล้านกว่าอยู่แล้วครับ ผมมองว่าตัวนี้ไม่แพงเลย
-
ค่าโลโก้ตัว L แพงจริงๆ
ยังดูไม่สวย สม ราคา เลย
-
ราคาถือว่าไม่แรงมากครับสำหรับ Lexus
ถ้าซื้อมาไว้นั่งด้านหลังไม่เกินสองคนตัว 4 ที่นั่งผมว่าน่าสนใจยิ่งกว่ารถซีดานตัวหรูแบบ Lexus LS หรือ MB S-Class อีก ความสบายของเบาะกับพื้นที่น่าจะเทียบได้กับรถระดับ Maybach เลย
-
รุ่นนี้เกรย์ยังสั่งเข้ามาขายไม่ได้เพราะ Lexus JP ยังไม่จำหน่าย
บ้านเราเปิดตัวเป็นที่แรกด้วย สงสัยเขาคงจะวิจัยมาแล้วและว่า Alphard และ Velfire บ้านเราขายดีมาก
เพิ่มเติมหน่อยเหอะ พอรุ่นแบบนี้แล้วตั้งราคาให้ลูกค้าจับต้องได้
แต่ไอจำพวกรถเก๋ง Sedan & Coupe ตั้งราคาได้แบบ...... >:(
เช่น
IS
GS
LS
RC Coupe
LC Coupe
-
โจทย์ข้อใหญ่ของ Lexus คือต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินอีกร่วม 2 ล้าน จาก Alphard Hybrid SRC มาเอาเจ้านี่ ซึ่งใช้เครื่องยนต์และเกียร์เดียวกัน แถมรูปทรงก็แทบไม่ต่างกัน
ภายในสวยกว่า?
เก็บเสียงดีกว่า?
ช่วงล่างนุ่มและหนึบกว่า?
นั่งสบายกว่า?
และทั้งหมดนี้ มันดีกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญจริงหรือไม่
ถ้าความแตกต่างคือ เหมือนกับสมัย Harrier vs Rx Gen 1 กับ 2 ก็คงขายไม่ดีนัก
ปล.เคยเห็นเกรย์บางเจ้า ขาย Alphard Hybrid Executive Lounge ในราคแตะ 5 ล้าน หรือพูดตรงๆ ก็คือแทบไม่ได้ถูกกว่าตัว 3.5 เลย
-
โจทย์ข้อใหญ่ของ Lexus คือต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินอีกร่วม 2 ล้าน จาก Alphard Hybrid SRC มาเอาเจ้านี่ ซึ่งใช้เครื่องยนต์และเกียร์เดียวกัน แถมรูปทรงก็แทบไม่ต่างกัน
ภายในสวยกว่า?
เก็บเสียงดีกว่า?
ช่วงล่างนุ่มและหนึบกว่า?
นั่งสบายกว่า?
และทั้งหมดนี้ มันดีกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญจริงหรือไม่
ถ้าความแตกต่างคือ เหมือนกับสมัย Harrier vs Rx Gen 1 กับ 2 ก็คงขายไม่ดีนัก
ปล.เคยเห็นเกรย์บางเจ้า ขาย Alphard Hybrid Executive Lounge ในราคแตะ 5 ล้าน หรือพูดตรงๆ ก็คือแทบไม่ได้ถูกกว่าตัว 3.5 เลย
ก็นั่นแหละครับ ขนาด Alphard executive lounge ยังราคา 5 ล้านกว่า แต่พอเป็น Lexus ได้เป็นตัว executive lounge เหมือนกันดันราคาเท่ากันซะงั้น จุดนี้แหละจะทำให้ลูกค้าซื้อ
-
หน้าตาเหมือน ไส้ไม่เหมือนนะครับ :)
เป็น Lexus ที่ทำให้ผมสงสัยว่า แล้วพวกตัวเก๋งก่อนหน้านี้ คนตั้งราคาเมาเห็ด หรือเมาเป็ด
-
ดูยังไงก็แอลพาร์ดเปลี่ยนโลโก้อ่ะ
-
ชอบหน้าตาหรูหรามาก แต่ไม่ปลื้มราคา
-
ส่วนตัวผมใช้ ANH30 อยู่ อยากรู้เหมือนกันว่า Lexus จะมีอะไรที่ดีกว่าในแง่มุมเรื่องช่วงล่าง ความนุ่มหนึบ การเก็บเสียง สมรรถนะย่านความเร็วสูง ความคมพวงมาลัย กว่า alphard/vellfire ตัวปรกติขนาดไหนครับ
เพราะเอาตรงๆ พื้นฐานรถ alphard/vellfire มันไม่ได้เลิศมากมายในเรื่องสมรรถนะ/ประสิทธิภาพ เเบบที่เรียกว่าเทพมากมาย เพียงแต่ว่าในกลุ่มนี้ไม่มีคู่แข่งเท่านั้น ราคามันแพง ดูแพง หรูหรา แต่จริงๆมันแพงเพราะภาษีล้วนๆจริงๆ
ถ้าแพงจากการตกแต่งภายใน ปรับภายนอกแปะยี่ห้อ เปลี่ยนลุค อัพราคาก็จะแล้วแต่ความชอบของลูกค้าว่าจะเลือกมั้ย แต่เชื่อว่าก้อคงขายได้ช่วงนึงแต่คงไม่หวือหวาครับ
-
ถูกไปครับแบรนด์ระดับเลกซัส เพราะโลโก้ก็เป็นล้านแล้ว ::)
-
โจทย์ข้อใหญ่ของ Lexus คือต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินอีกร่วม 2 ล้าน จาก Alphard Hybrid SRC มาเอาเจ้านี่ ซึ่งใช้เครื่องยนต์และเกียร์เดียวกัน แถมรูปทรงก็แทบไม่ต่างกัน
ภายในสวยกว่า?
เก็บเสียงดีกว่า?
ช่วงล่างนุ่มและหนึบกว่า?
นั่งสบายกว่า?
และทั้งหมดนี้ มันดีกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญจริงหรือไม่
ถ้าความแตกต่างคือ เหมือนกับสมัย Harrier vs Rx Gen 1 กับ 2 ก็คงขายไม่ดีนัก
ปล.เคยเห็นเกรย์บางเจ้า ขาย Alphard Hybrid Executive Lounge ในราคแตะ 5 ล้าน หรือพูดตรงๆ ก็คือแทบไม่ได้ถูกกว่าตัว 3.5 เลย
ก็นั่นแหละครับ ขนาด Alphard executive lounge ยังราคา 5 ล้านกว่า แต่พอเป็น Lexus ได้เป็นตัว executive lounge เหมือนกันดันราคาเท่ากันซะงั้น จุดนี้แหละจะทำให้ลูกค้าซื้อ
executive lounge เป็นเครื่องเบนซิน V6 3.5 เกีย 8 สปีด LM เป็น ไฮบนิด 2.5 ได้ช่วยเรือ่งภาษี ถ้าเอาเบนซิน 3.5 เข้ามาราคาคงทะลุไป 8-9 ล้าน
-
โจทย์ข้อใหญ่ของ Lexus คือต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินอีกร่วม 2 ล้าน จาก Alphard Hybrid SRC มาเอาเจ้านี่ ซึ่งใช้เครื่องยนต์และเกียร์เดียวกัน แถมรูปทรงก็แทบไม่ต่างกัน
ภายในสวยกว่า?
เก็บเสียงดีกว่า?
ช่วงล่างนุ่มและหนึบกว่า?
นั่งสบายกว่า?
และทั้งหมดนี้ มันดีกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญจริงหรือไม่
ถ้าความแตกต่างคือ เหมือนกับสมัย Harrier vs Rx Gen 1 กับ 2 ก็คงขายไม่ดีนัก
ปล.เคยเห็นเกรย์บางเจ้า ขาย Alphard Hybrid Executive Lounge ในราคแตะ 5 ล้าน หรือพูดตรงๆ ก็คือแทบไม่ได้ถูกกว่าตัว 3.5 เลย
ก็นั่นแหละครับ ขนาด Alphard executive lounge ยังราคา 5 ล้านกว่า แต่พอเป็น Lexus ได้เป็นตัว executive lounge เหมือนกันดันราคาเท่ากันซะงั้น จุดนี้แหละจะทำให้ลูกค้าซื้อ
executive lounge เป็นเครื่องเบนซิน V6 3.5 เกีย 8 สปีด LM เป็น ไฮบนิด 2.5 ได้ช่วยเรือ่งภาษี ถ้าเอาเบนซิน 3.5 เข้ามาราคาคงทะลุไป 8-9 ล้าน
ใช่ครับ เพราะภาษี hybrid เลยทำราคาได้เท่า v6 3.5 แต่ Alphard 2.5 hybrid executive lounge เกรย์เจ้าหนึ่งขายอยู่ 5 ล้านกว่า แสดงว่า LM ตัว 7 ที่นั่งตัวนี้นี่คือไม่แพงเลยครับ
-
lexus เหมือนตั้งใจทำตลาดเค้าก็ทำราคาได้ nx, rx ก็ไม่ได้แพงจนรับไม่ไหว รถตู้เปิดตัวมาราคาก็ดี
พวกตระกูล sedan เค้าคงมองว่ายอดน้อย เพราะคนไทยบูชายุโรปมากกว่าเค้าเลยไม่มาเสียเวลาทำมั้ง ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย
ตัวนี้ผมมองว่าเค้าเอามาลองตลาดก่อนจะทำโมเดลเอง เพราะเอาจริงๆถ้าไม่เอาตัว captain seat ไม่มีอะไรต่างจาก alphard เลยอ้ะ คงทำฟิลแบบ caravelle ที่ยนตรกิจ เอามากั้นห้องขาย ผบรห ยังดีที่ทำราคามาเท่ากัน แบบนี้ lexus น่าสนกว่า
โมเดลต่อไปอาจจะมีกระดองเป็นของตัวเองก็ได้ ตอนนี้แค่ลองตลาดเป็นยอดนักแปะไปก่อน
โดยรวมผมมองว่าหน้ารอดแต่ทั้งคันไม่รอดอย่างแรง ลายเส้นเฟี้ยฟ้าว เจอกับรูปทรงที่ไม่เข้ากันเลย
lm จะดีกว่า alphard รึเปล่ายังไม่รู้เลย เพราะจริงๆ alphard ก็ทำมาแนว top grade อยุ่แล้ว คงเปลี่ยนแค่ดีไซน์ เหมือนที่ landcruiser กับ LX
-
ไฟหน้า อุตส่าห์เอาไฟ Lexus ใส่ไปกับไฟ Alphard ได้ด้วย แถมออกมาสวยใช่ได้เลย
ตัว 4 ที่นั่ง น่าจะสบายน่าดู พื้นที่กว้างขวางจริงๆ
-
ความต่างกับ Alphard จะห่างเท่ากับที่ ES300h เหนือกว่า Camry Hybrid หรือไม่นะครับ
ถ้าไม่มากนักก็มีตัวสี่ที่นั่งแหละ ชูโรง พื้นที่ที่เคยนั่งกันได้ 5 คน ลดมาเหลือสอง คงเป็นสองที่ที่สบายสุด
(http://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2020/03/TMT-News-IMG-e3b0c44298fc1c149afbf4c8996fb92427ae41e4649b934ca495991b7852b855-7.jpg)
แต่ในวันนี้ ควรจะแดงทั้งจอและกุมขมับกันทั้งคู่...
-
ความต่างกับ Alphard จะห่างเท่ากับที่ ES300h เหนือกว่า Camry Hybrid หรือไม่นะครับ
ถ้าไม่มากนักก็มีตัวสี่ที่นั่งแหละ ชูโรง พื้นที่ที่เคยนั่งกันได้ 5 คน ลดมาเหลือสอง คงเป็นสองที่ที่สบายสุด
(http://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2020/03/TMT-News-IMG-e3b0c44298fc1c149afbf4c8996fb92427ae41e4649b934ca495991b7852b855-7.jpg)
แต่ในวันนี้ ควรจะแดงทั้งจอและกุมขมับกันทั้งคู่...
555 แล้วต้องใส่หน้ากาก กับมีเจลล้างมือในรถด้วยครับ :-X
-
ความต่างกับ Alphard จะห่างเท่ากับที่ ES300h เหนือกว่า Camry Hybrid หรือไม่นะครับ
ถ้าไม่มากนักก็มีตัวสี่ที่นั่งแหละ ชูโรง พื้นที่ที่เคยนั่งกันได้ 5 คน ลดมาเหลือสอง คงเป็นสองที่ที่สบายสุด
(http://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2020/03/TMT-News-IMG-e3b0c44298fc1c149afbf4c8996fb92427ae41e4649b934ca495991b7852b855-7.jpg)
แต่ในวันนี้ ควรจะแดงทั้งจอและกุมขมับกันทั้งคู่...
555 แล้วต้องใส่หน้ากาก กับมีเจลล้างมือในรถด้วยครับ :-X
;D ;D ;D