เกียร์นิสสันนี่ คนรับซ่อม หรือ เปลี่ยน เยอะแยะ จบ 3 - 5 หมื่นบาทครับ
ไม่รู้รุ่นนี้ ให้ oil cooler มาหรือยัง ถ้ายังก็ติดเพิ่ม
ถ้ามีมาแล้ว ก็ถ่ายน้ำมันทุก 2 หมื่นพร้อมกรองเกียร์ ขับนิ่มๆ ไม่ลากเกียร์ แล้วมันจะทน
ตามนี้เลยครับ ถ้าไม่มี oil gear มาก็ไปติดเพิ่ม แต่ย้ำว่าต้องติดของดีๆนะครับอย่างเช่นร้านแถวคลอง3เป็นต้น แล้วก็หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเกียบ่อยๆ 2-4หมื่นโล ช่วยยืดอายุเกียร์ได้เยอะครับ
ร้านนี้มีประเด็นเรื่อง ลูกค้าเอา nissan ไป flushing เกียร์แล้วทำให้เกียร์พังนี่ครับ ข้อความด้านล่างเอามาจากกลุ่ม xtrail ในเฟส
--------------------------------
วันนี้ขอเล่าประสบการณ์น้ำมันเกียร์ของ xtrail t32 เพื่อเป็นความรู้สำหรับเพื่อนสมาชิกในกรณีที่จะเปลี่ยนถ่ายหรือ flushing
คือเมื่อปีที่แล้วประมาณช่วงตุลาคม 61 ผมออกรถ demo xtrail 2.5 มา โดยมีไมล์อยู่ที่ 1,600 โล (เช็คแล้วไมล์แท้) ซึ่งหลังจากออกรถผมก็ต้องการเปลี่ยนของเหลวในรถทั้งหมดเพื่อความมั่นใจ และได้ศึกษาเรื่อง flushing และนำรถไปดำเนินการที่ร้านบริการใหญ่ที่มีชื่อแถวรังสิต-นครนายก แถวคลองๆนะครับ ทางร้านนี้ได้แนะนำผมให้ใช้น้ำมันเกียร์ liqiud moly เกรดรวมสำหรับ xtrail t32 (liquid moly รุ่นสำหรับ NS2 และ NS3) พร้อมกันนี้ทางร้านได้ให้ความมั่นใจโดยออกใบรับประกัน 150,000 บาท กรณีถ้าใช้น้ำมันแล้วเกียร์พัง ผมเห็นว่าน่าเชื่อถือมากจึงตัดสินใจให้ดำเนินการ
ทีนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมไปแถวบุรีรัมย์ เกียร์ผมออกอาการโดยมีอาการรถกระตุกและเร่งไม่ขึ้น ตอนขับเหมือนขับบนถนนที่เป็นลอนคลื่นแล้วรถก็ขับไม่ได้เกียร์ไม่ทำงาน ให้ทางศูนย์นิสสันที่บุรีรัมย์ดู ปรากฏว่าตรวจสอบแล้วเกียร์พัง...ซีลินอยด์และมู่เล่เกียร์เสีย...ผมจึงให้ช่างดูใบประกันที่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มา ทางช่างแจ้งว่า "น้ำมันเกียร์ของ t32 ต้องใช้เกรดเดียวเท่านั้นคือเกรด NS3 ถ้าใช้เกรดรวมเกียร์จะเสียหายได้" ตอนเกิดปัญหาที่ 16,000 โล
ผมจึงโทรไปร้านที่ทำ flushing เพื่อแจ้งว่าเกียร์ผมมีปัญหาจากที่เขาใช้น้ำมันเกียร์เกรดรวมให้ผม ปรากฏว่าทางร้านตอบกลับมาว่า น้ำมันเกียร์ของเขาที่เปลี่ยนเป็นไปตามมาตรฐาน เขาจะประกันกรณีที่คุณภาพน้ำมันมีปัญหาเท่านั้น ซึ่งเขาต้องส่งตัวอย่างน้ำมันในเกียร์ผมให้ทาง liquid moly ทดสอบก่อนว่าการเสียหายเกิดจากคุณภาพน้ำมันหรือไม่ ผมจึงบอกไปว่าประเด็นผมไม่ใช่คุณภาพน้ำมันแต่เป็นเรื่องของการเติมน้ำมันเกรดรวมให้ผมไม่ใช่เกรดเฉพาะ NS3 ซึ่งคำตอบที่กลับมาคือ เขาเปลี่ยนรุ่นนี้มาร่วม 300 คันไม่เคยมีปัญหา
ผมจึงเห็นเลยว่าเสียเวลาแน่ๆ เลยโทรหาช่างเบิร์ด ขึ้นรถยกจากบุรีรัมย์มาที่อู่ช่างเบิร์ดที่บางพลีทันที ตอนนี้ซ่อมเปลี่ยนเกียร์เรียบร้อยครับ ควักเงินจ่ายชำระเองเรียบร้อย รถกลับมาใช้งานได้ รับประกันให้ผม 1 ปี แบบใจต่อใจ กำลังดูอาการต่อเนื่อง แต่ที่เข็ดคือ ต่อไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ผมต้องใช้ของนิสสันเท่านั้น NS3 ส่วนการประกันต่อให้ออกใบประกันสวยหรูแค่ไหน มันก็มีสิทธิเป็นแค่เศษกระดาษได้เมื่อมีปัญหา ยังคงโอเคกับนิสสันครับ
มาคอนเฟิร์มอีกสำหรับอู่นี้ครับ
เท่าที่อ่านมาผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอู่เดียวกัน ด้วยความที่เขาค่อนข้างเก่งในการโฆษณาและมีคนรีวิวกันเยอะ ผมจึงเลือกไปใช้บริการที่นั่นเหมือนกัน
รถผมเป็น Sylphy 1.6 ครับ ก่อนเข้าไปทำก็โทรคุยรายละเอียดและนัดหมายกันเรียบร้อย ทางอู่ก็ให้คำแนะนำดีครับ โอเค ตกลงตามนั้น
พอไปถึงที่อู่จริงๆ ช่างแนะนำน้ำมัน+ถึงการเปลี่ยนกรองนมก. ผมก็โอเคและเชื่อฟังแต่โดยดี ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าต้องประหยัดหรืออะไร เพราะอยากให้รถทำแล้วออกมาดีที่สุด
ปรากฏว่าขับออกมาได้ไม่นาน รถเริ่มออกอาการรอบสวิงเวลาที่กดคันเร่ง ใช้รอบเครื่องสูงกว่าปกติในความเร็วเดียวกัน ผมเริ่มสงสัยจึงโทรกลับไปหาที่อู่
ได้คำตอบมาว่าเป็นเพราะเพิ่งฟลัชนมก.ใหม่ อีกซักแปปเดี๋ยวก็เข้าที่ครับ ผมก็เชื่อและพยายามขับให้เบาเท้าที่สุด เพราะถ้าเหยียบลึกมาก อาการจะยิ่งชัดเจน
จนมาตอนกลางคืนไปทานข้าวเย็นข้างนอก รถเกิดอาการเร่งไม่ไป+ไฟเครื่องโชว์ ผมพยายามฝืนเพื่อจะเอารถจอดข้างทาง ทุลักทุเลพอสมควรครับ
ทานข้าวเสร็จก็ต้องคลานกลับบ้านโดยที่เหยียบไม่ออกแม้จะกดคันเร่งสุดหรือค่อยๆกดก็ตาม ด้วยความที่ตอนนั้นคือช่วงค่ำของวันที่ 27 ธันวาแล้ว
แน่นอนครับว่าอู่ต่างๆทยอยปิดปีใหม่กันหมดแล้ว โชคดีที่เอารถกลับมาถึงบ้านจนได้ ผมโทร+ส่งคลิปวีดีโออาการผิดปกติของรถให้กับทางอู่ดูทันที
คุยกันไปคุยกันมา เขาบอกให้ผมลองเอาไฟฉายส่องแล้วเอามื้อล้วงลงไปที่หน้าตัววอร์มเมอร์นมก.ดู จะเจอปลั๊กเกียร์อยู่ ปรากฏว่าสาเหตุที่รถมีปัญหาคือ
ปลั๊กเกียร์เสีย ด้วยลักษณะที่เป็นเข็มหมุดเหล็กเล็กๆที่จะต้องเสียบดับเกียร์ มีขาหมุดบางตัวหักอยู่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
ผมจึงถามว่า ในขั้นตอนการฟลัชนมก.ของที่อุ่ ต้องมีการจับต้องหรือขยับปลั๊กอันนี้ไหม? คำตอบคือใช่ ช่างต้องถอดปลั๊กเกียร์ในการทำงานด้วย
...
เมื่อคุยกันแล้ว ทางอู่ก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดปกติ ซิลฟี่ทุกคันก็ทำแบบนี้หมดนะ และนี่ก็หยุดปีใหม่แล้ว ไม่สามารถส่วช่างมาดูรถให้ได้หรอก
ผมหัวเสียมากเลยครับ ความรับผิดชอบแย่มากๆ จนสุดท้ายผมได้เบอร์ช่างนิสสันที่มาเปิดอู่นอกเป็นของตัวเอง โทรคุยและบอกอาการกันไม่นาน
ช่างก็เข้าใจและตกลงที่จะมาซ่อมให้ ผมขับรถจากบ้านไปรับช่างถึงที่และก็พาช่างไปหาซื้ออะไหล่จากร้านที่ช่างรู้จักด้วยตัวผมเอง
ปรากฏว่าเปลี่ยนปลั๊ก+เปิดอ่างนมก.มาทำความสะอาด เสียค่าแรง+ค่าของไปทั้งหมดสองพันบาทถ้วน โดยที่ผมไม่ได้รับการชดเชยใดๆทั้งสั้นจากอู่เลย
บอกเลยครับว่าผิดหวังมากๆ และขอลาขาดจากอู่นี้จริงๆ การตลาดดีดูน่าเชื่อถือ แต่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบและความใส่ใจดูแลลูกค้า
จนมาตอนนี้รถผมเลขไมล์กำลังจะแตะ 300,000 ในอีกไม่กี่วัน บำรุงรักษาเปลี่ยนถ่ายนมก.ตามปกติ ก็ไม่เคยมีปัญหาอีกเลย
เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า อย่าเชื่อเพียงเพราะภาพหรือโพสต์ยาวๆที่บรรยาย มันไม่ใช่เครื่องการันตีความรับผิดชอบและความสามารถของอู่เลยจริงๆครับ
ปล. ขออภัยถ้าผมอธิบายส่วนใดผิดไป เพราะเรื่องนี้ผ่านมาปีกว่าแล้ว ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์กันนะครับ