Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: a601970 ที่ สิงหาคม 03, 2022, 03:14:06
-
ผมคิดออก 2 ข้อ ครับ
1. มีความสูงพอสมควรเพื่อวิ่งในน้ำท่วมได้
2. เล็กกะทัดรัดเพื่อความคล่องตัว เข้าออกซอกซอยได้ดี
มาแชร์กันครับ :D :D
-
เป็นรถhybridครับ เพราะรถติดมาก
-
1.Plug-in hybrid ประหยัด + แรงออกตัวเร็ว
2.ใต้ท้องสูงๆ ลุยน้ำท่วมได้ ใช้โหมดไฟฟ้าวิ่งแทนเครื่องยนต์
3.ช่วงล่างซับแรงกระแทกได้ดี ยางหนาหน่อย เพราะสันถนน ฝาท่อ ขอบหลุมเยอะมาก
4.ตัวถังแข็งแรง มีจุดซับแรงกระแทกได้ดี ห้องโดยสารคงรูปเวลาโดนของจากบริเวณก่อสร้างหล่นใส่
5.มีระบบ SOS โทรหาตำรวจอัตโนมัติเวลาเกิดอุบัติเหตุ หรือขอความช่วยเหลือกรณีอื่นๆ
-
มีบ้านพักเองไป EV
อยู่คอนโดไป Hybrid
และต้องเป็นทรงยกสูง suv
-
ไฮบริด, ยกสูง ยางแก้มหนา พอละครับ นิสสันคิกส์ตอบโจทย์
-
Kei car แบบญี่ปุ่น
เครื่องเล็กๆ ทำความเร็วมาก ไม่ได้= ลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
อัตราเร่งไม่ได้มาก = ลดความรุนแรงของอุบัติได้เช่นกัน
เครื่องเล็ก น้ำหนักเบา = ลดมลพิษสะสมในตัวเมืองได้มหาศาล
-
PPV ไปเลยครับ ใช้แล้วบายใจสุดละ
ลุยน้ำท่วมได้ เจอถนนห่วยๆ กับฝาท่อก็รูดสบาย น้ำมันรัฐบาลก็อุ้มให้
-
ปลั๊กอินไฮบริดยกสูงที่สู้กับน้ำท่วมได้บ้าง พร้อมระบบขับอัตโนมัติที่ต้องมีทุกคันและบังคับให้ใช้ในเขตเมืองทุกคัน
และระบบนี้ควรจะลิ้งค์กับระบบจราจรของเมืองได้แบบจริงจัง เพราะมนุษย์ชาวไทยส่วนใหญ่ขับรถมีวินัยน้อยกว่า AI เยอะ ถ้าเปลี่ยนเป็น AI ขับในเขตเมืองได้ทุกคัน น่าจะลดได้ทั้งเวลาเดินทางและอุบัติเหตุ
-
เงื่อนไขทางสภาพแวดล้อม ก็ส่วนหนึ่ง
ความชอบส่วนตัว ก็ส่วนหนึ่ง
โจทย์การใช้งาน คนเดียว ครอบครัว ก็ส่วนหนึ่ง
มันจะกำหนดตายตัวไม่ได้หรอกครับ ขึ้ันกับแต่ละบุคคลเลย
ผมมีเก๋ง มี suv มีกระบะ ทุกวันนี้ผมก็เลือกกุญแจ suv เป็นตัวเลือกแรก เพราะ ขับง่าย ทัศวิสัยดี มองไกล นั่งสบาย และ ใส่คาร์ซีทสำหรับลูกๆ ได้สบาย รวมไปถึงการใส่ของ บรรทุกของ
-
จริงๆรถที่ผมว่าเหมาะเป็นรถในเมืองกรุงเทพ
FORD ECOSPORT ครับ เห็นคันเล็กๆ ใต้ท้องสูง 200 คันกะเปี๊ยก ขึ้นลงง่าย ลุยน้ำได้พอประมาณ ท่อกรองก็สูง
เสียอย่างเดียววิ่งในเมืองไม่ค่อยประหยัด
-
เลือก B/C-SUV ครับ จะ HEV หรือ PHEV ก็ได้
พิจารณากลางๆ ตามสภาพถนน, สภาพการจราจร และน้ำท่วมรอระบาย
-
ด้วยสภาพถนนที่ มีแต่ฝาท่อ และการขุดถนน บวกกับน้ำท่วมขัง ทั้งในอุโมงและถนนข้างบน
และที่สำคัญ กับการขับขี่มอไซด์ที่ชอบแทรกเลน และเอาแฮนมาถูข้างรถจนเป็นรอย ไม่มีรถแบบไหนเหมาะเท่ารถแบบนี้อีกแล้วสำหรับกรุงเทพฯ
(https://www.img.in.th/images/30b4c38f3e7c9c8f6de2c8d44c5f2433.jpg)
-
1 suv ล้อชิดๆขอบรถหน่อยมุมรับมุมจากเยอะ จะได้ไม่ปวดหัวกับเนินหลายมาตรฐานแบบกทม.
2. ท่อกรองอากาศต้องอยู่สูง แบบcityมันเล่นวางไว้ข้างเครื่องเลยแล้วสูงกว่าหัวเทียนอีก (ถึงได้เห็นคลิปcityดำน้ำกันบ่อยๆ555)
3 เป็น Hybrid
4 ซิลสายไฟมาให้แน่นเหมือนซิลสายน้ำมันไม่ให้รั่วอะครับ
-
สำหรับผมนะ
Jeep Rubicon ถ้าใช้รถคนเดียว
แต่ถ้าเกิดมีครอบครัว CX5 น่าจะกำลังดีสำหรับขับในกรุงเทพ
-
มอเตอร์ไซค์ ครับ...
-
ต้องดูว่าอยู๋แถวไหนท่วมบ่อยไหมสูงหรือเปล่า
ถ้าเจอระดับฟุตบาท บางครั้ง ผมว่า CrossOver B/C-SUV ไหว
ถ้าสูงกว่านั้น PPV ดีกว่า
ขับในเมืองรถติด คงต้องเพิ่ง Hybrid / EV
สรุป HR-V / CR-V / Collora Cross / b4ZX / PPV / XC40 BEV ประมาณนี้
-
ประหยัดน้ำมัน เมื่อเร่งเบรคบ่อย = ไฮบริด/ev
ยกสูงหน่อย เผื่อน้ำท่วม
แก้มยางหนาๆ เผื่อไปเบียดฟุตบาท ตอนรถสวนในซอยแคบ
มี Apple carplay ไว้ดูแผนที่ ซอยยิบย่อย
ยางหนา หรือช่วงล่างนุ่ม ไว้วิ่งผ่านรอยตัวถนน ฝาท่อไม่สะเทือน
ไม่แพงมาก จะได้ไม่หวงรถมาก ไม่เครียดเวลาไปโดนมอไซค์เฉี่ยว รถเบียด หรือจอดห้างโดนเปิดประตูกระแทก
คันไม่ต้องกว้างมาก ให้รถมอไซค์แทรกสบายๆ
-
อยากได้ Jinmy 5 ประตูมาไว้วิ่งในกรุงเทพครับ
เครื่องเล็ก คันเล็ก ใต้ท้องสูง จบๆ ครบๆเลย
เสียดาย มันไม่มาประกอบในอาเซี่ยน
-
1. รถ xEV จะ Hybrid / PHEV / BEV ก็ขึ้นกับความสะดวกแต่ละคนเลย
แต่ยังไงพื้นฐานต้องมีระบบไฟฟ้ามาช่วยค่าใช้จ่ายในการใช้ในเมืองการจราจรติดขัด
2. Ground Clearance ที่สูงในระดับใช้ลุยน้ำท่วมได้ ต้องมีขั้นต่ำ 180-200mm หรือมากกว่า
แถมระดับที่ว่ายังเสี่ยงในบางพื้นที่อีก
3. ประตู slide ซ้ายขวา สะดวกในการขึ้นลงในการจอดพื้นที่แคบ
4. ช่องแอร์มีครบสำหรับทุกที่นั่ง จะต่อท่อจากคอมแอร์หน้า จะมี blower แยก หรือจะเพิ่มคอมแอร์หลังก็เถอะ
เมืองไทยอากาศร้อน แอร์ต้องทั่วถึงทุกคนและเย็นทันใจไว้ก่อน
5. การเชื่อมต่อมือถือต้องเป็น Wireless ทั้ง Bluetooth / Wireless CarPlay / Wireless Charger
เพื่อลดเวลาในการต่อสายสำหรับชีวิตเร่งรีบ
6. กระจกแต่งหน้าในที่บังแดดต้องมีทั้งคนขับและผู้โดยสารหน้า สำหรับคุณสุภาพสตรีใช้แต่งหน้ายามรถติด
สุภาพบุรุษอย่างผมก็ใช้บีบสิวได้ระหว่างรอเช่นกัน
7. พื้นฐานระบบความปลอดภัยต้องมี
- เรดาร์เตือนการชนด้านหน้าพร้อมช่วยเบรก
- Adaptive Cruise Control แบบมี Stop&Go เท่านั้น
- ระบบเตือนและช่วยประคองพวงมาลัยให้อยู่ในเลน
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว
- กล้องรอบคัน 360° หรือเซ็นเซอร์กะระยะหน้าหลัง อย่างใดอย่างนึงหรือทั้งคู่
ส่วนระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติไม่จำเป็นเท่าไหร่
8. อันนี้ส่วนตัว ทั้งหมดนี้ถ้ามาได้ในราคา 900,000-1,200,000 บาทถือว่าดีมากเลย
-
K-car Cross/Plus
-
รถที่เราชอบครับ ขับแล้วรู้สึกดี
เช่น พวกรถสวยๆ มันเป็นงานศิลปะแบบนึง ที่เราสามารถใช้งานมันได้
-
SUV K-Car Hybrid หรือ EV จบๆ ใครเอามาประกอบ ขายราคาสวยๆ ไม่เกิน 8แสน รับรอง ขายดี
-
มองหาC-segหรือSubcompactและควรเป็นกึ่งไฟฟ้า จะปลั๊กอินหรือไฮบริทก็เหมาะมากๆ
ช่วงล่างซับหลุมบ่อรอยต่อถนนหลังเต่าดีๆหน่อย พวงมาลัยคมๆวงเลี้ยวไม่กว้าง ติดฟิมใสๆกรณีใช้วิ่งกลางคืน
ด้วยราคาน้ำมันที่เหวี่ยงๆแบบนี้จะเบนซิลหรือดีเซลล้วนๆ ขับไปลุยรถติดในเมืองนิไม่ไหวไม่คุ้ม
เห็นเพื่อนบางคนบอกรถEvค่ายจีนหรือเกาหลี ก็น่าในใจแต่เห็นข่าวรัฐจะเพิ่มค่าไฟนิหัวจะปวดเลย
แต่ถ้ากรณีคุณอยู่ชานเมืองไปกลับเมืองกรุงซื้ออะไรก็ได้เอาที่นั่งสบายๆทรงสวยๆ จบเลย
ปล.คหสต.หาบิ๊กไบค์300-400ccวิ่งไปออฟฟิชโคตรสบายๆ แต่วันฝนตกหนักก็จะไปสายๆกันปกติ5555
-
-กระจกมองข้างยืดหยุ่นโดนมอไซขับชนจากหน้าหรือหลังได้เฟืองไม่รูดหรือถ้าแตกร้าว ลูกค้าเบิกอะไหล่ซ่อมเองได้ง่ายๆ
- crossover ที่สูงพอที่จะลุยน้ำท่วมได้จริงๆ
- ท่อ intake +กล่อง resonator ทำหลบคลื่นน้ำปะทะหน้าสูงๆรถเวลาพวกรถยกสูงโชว์พาววิ่งเข้าใส่น้ำท่วม/ซัดคลื่นน้ำฝั่งตรงข้ามมาใส่
-ท่ออากาศเกียร์ทำท่อสูงๆกันน้ำท่วม+พวกจุกเติมน้ำเกียร์มาแบบพวกจุกยาง honda cvt รุ่นใหม่หลวมๆก็ไม่เอาน้ำเข้าง่ายเวลาใช้ไปนานๆแล้วมันหลุด ดูจุกก้านเติมน้ำมันเกียร์ atf รถรุ่นเก่าๆก็ได้ที่มีตัวล็อกเรียบร้อย
-ทำช่องเปิดพรมพื้นเป็นจุดๆ+เปิดจุกยางไว้ระบายน้ำออกจากห้องโดยสารเองได้ กรณีลุยน้ำท่วมสูงจนน้ำเข้าห้องโดยสาร
-สามารถถอดเบาะถอดพรมได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือพิเศษ/หรือให้เป็นกล่องเครื่องมือมา กรณีน้ำเข้าห้องโดยสาร
-ไม่เอามอเตอร์ eps พวงมาลัยไปไว้ที่เสื้อแร็คแบบพวก civic กันเวลาลุยน้ำท่วมแล้วพวงมาลัยช๊อต => ประโยชน์อีกอย่างทำให้ราคาแร็คถูกลง
-ไม่ควรมีระบบเบรคเอง แต่ควรมีระบบแจ้งเตือนพร้อมปุ่มปิดเสียง เพราะคนกรุงขับรถกัน***มาก การที่รถเบรคเองทำให้คันหลังที่จี้มากระชั้นชิดชนกันหลายคันได้
-size รถประมาณ B-C Segment จะขับค่อนข้างคล่องตัว เวลาขึ้นอาคารจอดรถแคบๆ
-ไม่ควรใช้เกียร์ CVT สายพาน เพราะสายพานเกียร์จะพังเร็วจากกันออกตัวกระชากทุกๆเช้า-เย็น เนื่องจากจะมีรถนิสัยเสียแทรกคอสะพาน
-เลิกใช้ไฟเบรคหลอดไส้ฮาโลเจนได้แล้ว ไฟเบรคมันติดช้ากว่า led เสี้ยววิ เวลาพวกจี้ตูดมันจี้แล้วมันเบรคไม่ทัน เสี้ยววินาทีก็มีค่า
-
ppv /กระบะ เท่านั้นครับเลือกตามชอบกับกำลังทรัพย์เลย พวกครอสโอเวอร์บางรุ่นตัวรถสูงจริงแต่ท่อดูดอากาศอยู่ตาตุ่มลุยได้มากกว่าเก๋งนิดเดียวครับ ถ้าวันไหนฝนตั้งเค้าส่วนตัวเอากระบะออกทันทีครับ
ถ้าไม่ติงว่ารถเก่า ส่วนตัวมองว่าisuzu cameo/vegaเหมาะมาก ลุยได้ถึกทนประหยัดน้ำมัน ดีเซลรัฐอุ้มให้อยู่ ไซส์รถกะทัดรัดกว่ากระบะพีพีวีสมัยนี้เยอะ แต่เครื่องดัง รถส่วนใหญ่เป็นmt อัตราเร่งอืดอยู่ อะไหล่บอดี้อาจจะลำบากขึ้น
-
ขอแบบ มีกันชนรอบคันครับ เบื่อมอไซต์ครับ ขับแย่มาก อยากเฉี่ยว มาเลย สอยกันชนไปแล้วกัน
-
ออกตัวง่าย มี auto stop, brake hold ด้วยครับ
-
รถเสริมกันชนเหล็กทั้งรอบคัน
ด้านบน - ด้านบนไว้กันสิ่งของหล่นจากไซตืก่อสร้าง
ด้านรอบรถ - เอาไว้บวกกับแท้กซี่ที่เปิดไฟเลี้ยวไม่ถึง 1 วิก็พุ่งออกมา
-
ืNISSAN KICKS E-POWER
ขนาดเล็กๆ สูงหน่อย คล่องตัว จอดง่าย
ประหยัดน้ำมันระดับอีโคคาร์ ขับสนุก อัตราเร่งดี
-
ข้างบนแนะนำหมดแล้ว
ผมขอเพิ่มกันชนหน้าหลังด้วยครับ
เหมาะกับ กทม มาก ๆๆๆๆๆ
:) ;D :D 8) ::)
-
ส่วนบุคคลนะที่เหมาะกับเมืองบางกอก
1.คันเล็กไม่ใหญ่มาก ไซร์ยาริสน่าจะเหมาะ
2.ไม่กินพลังงานมากเวลารถติด (เผาเชื้อเพลิงทิ้งกันไปเท่าไหร่แล้ว)
3.ไม่ต้องแรงมาก พอประมาณ
4.ยกสูงนิด ขอบยางหนา
5.มีระบบเซนซิ่งมาครบๆ
-
ส่วนตัวผมมองว่ารถในกรุงเทพควรจะเป็น B-Segment เครื่องยนต์ N/A ขนาดไม่เกิน 1200cc
ส่วนตัวผมมองว่า เครื่องยนต์เทอร์โบไม่มีความจำเป็นสำหรับใช้งานในกรุงเทพ เพราะไฟแดงมีทุกแยก
ส่วนระบบไฮบริดนั้นก็มีค่าบำรุงรักษาที่แพงเกินไป ซึ่งผมมองว่ามันไม่คุ้มในระยะยาว