เครื่องยนต์วางหลังดีกว่านะครับ ต่อการบาลานซ์น้ำหนัก
แต่วางหน้ามันง่ายต่อการดูแลครับ อย่างอุปกรณ์ที่ต้องระบายความร้อน เครื่องวางนี่ยากเลยครับ
ขอบคุณมากครับ. เรื่องระบายความร้อนนี่ผมนึกถึงปัญหาของรถโฟล์ค เต่า ที่นอกจากการระบายความร้อนด้วยอากาศแล้ว ยังมีจุดรับลมที่น่าจะทำให้ลมเข้าได้ยากครับ
ในสมมติฐานนี้ก็คือ การส่งกำลังจากเครื่องไปสู่ล้อ ซึ่งขับหลัง มันสั้นกว่า และแรงกดที่ล้อหลังลงสู่พื้นมีมากกว่า (กำลังพอดี)ืืทำให้ล้อหลังแตะพื้น และสูญเสียจากการฟรีน้อยกว่า...
.....เดาครับ...
ขอบคุณมากครับที่ให้ความรู้เรื่องน้ำหนักทีกดลงล้อ ที่มีเยอะกว่าวางเครื่องด้านหน้าครับ
Wiki เขียนเรื่องนี้ได้ดีกระชับมาก
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Rear-engine_design
เทคโนโลยี่ปัจจุบันทำรถวางหน้าขับหลังได้ดีกว่าขับหลังไปแล้ว แต่ก็ต้องทำโดยรถpremium เอารถญี่ปุ่นมาทำก็ต้องทำให้สั้นๆแบบmx5 ft86 ถึงจะบาลานซ์แรงให้ล้อกดพื้นได้ดี
ขอบคุณมากครับ. ถ้าวางหน้านี้ผมหละชอบขับสี่ แบบsubaru. แต่พอพูดถึงขับหลังในรถpremium car กับในสปอร์ตญี่ปุ่น mx5 ft86นี่เห็นหลายคนพูดถึงบาลานซดีขับสนุกมาก โดยเฉพาะ mx5ครับ
เครื่องวางหลังมันจะเป็นรถที่เอาใจคนขับมากกว่าผู้โดยสารนะครับ
ผมคิดว่ารถขับสี่นี่น่าจะถูกใจคนนั่งสุดครับ
แต่ต้องมีระบบกระจายแรงบิดทั้ง 4 ล้อ
และระบบกันสะเทือนชั้นดีมาด้วยนะครับ
อิอิ
ผมว่าขับสี่เป็นมิตรต่อคนนั่งและคนขับมากกว่าขับหลังครับ. เพราะรถขับหลังแก้อาการ oversteer ได้ยากกว่าขับหน้าและขับสี่ครับ. แต่รถขับหลังนี่ คนนั่งหน้าเย็น แต่คนนั่งหลังน่าจะร้อนหลังนะครับ. เพราะประเทศไทยอากาศร้อนด้วย ลำพังรถทีมีแอร์ที่ไ่ม่มีแอร์ด้านหลังยังแทบจะไม่ถึงผู้โดยสารหลัง. ยิ่งวางเครื่องหลังคงจะอาจหลังเปียกได้ครับ
ไม่ต้องมีเพลา ต่อตรงจากเกียร์เข้าล้อ ไม่เปลืองพื้นที่ห้องโดยสาร ออกแบบน่าจะง่าย และ ถูกกว่า
ล้อหน้าไว้เลี้ยวอย่างเดียว
รถนั่งขนาดใหญ่ใช้พื้นที่เยอะนะครับในการวางเครื่องขนาดใหญ่พอที่จะไม่ให้รถอืด. และการที่ล้อหน้าเลี้ยวอย่างเดียวแต่น้ำหนักอยู่ข้างหลังนี่ทำให้รถควบคุมยาก ซึ่งเคยเกิดกับรถหลายๆรุ่นเช่น porches Chevy corvair ที่มีปัญหาเกิดอุบัติเหตุสูญเสียชีวิตเพราะความพยศอยู่บ่อยๆ