Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: gunz13096 ที่ มีนาคม 02, 2012, 11:08:01
-
ผมอยากถามความเห็นของทุกๆคน ตัวผมเองเห็นว่าเฉยๆนะครับ ไม่ค่อยเครียดเรื่องเงินคืนแสนนึง แล้วคุณล่ะครับ?
-
ไม่ถึงกับซีเรียสครับ
ผมคิดว่ามันเป็นการใช้สิทธิ์มากกว่า ในเมื่อรัฐบาลประกาศออกมาแล้วว่าจะได้คืน มันก็ควรจะได้คืนครับ
100,000 บาท สำหรับคนที่รวยอาจจะดูเหมือนว่ามันไม่เยอะ แต่สำหรับผมมนุษย์เงินเดือน ผมเอาเงินส่วนนี้ไปทำอะไรได้เยอะเลยครับ (คิดง่ายๆว่า เอาไปเติมแก๊สนี่วิ่งได้ แสนกิโลเมตรแล้วนะครับ)
-
ผมว่าเงินมันก็ค่อนข้างเยอะอยู่น่ะครับ
ทำอะไรได้หลายอย่าง :)
-
มองว่าเป็นโอกาสครับ นานๆ จะได้อะไรจากรัฐบาลประเทศนี้บ้าง
-
ผมว่าผมก็มีสิทธิ์นั้นอยู่นะแต่ผมจะไม่เอาตัวเองไปผูกมัดกับส่วนลดเพียงแค่แสนบาทตีกรอบให้ตัวเองต้องมองดูรถที่อยู่ในข่ายของส่วนลดนั้นๆเพียงอย่างเดียว การใช้รถที่เราไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะซื้อมันมาเลยแล้วต้องทนใช้อยู่กับมันไป5ปี10ปีมันไม่มีความสุขแน่ๆเมื่อเห็นคนที่เค้าใช้สิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วมีความสุขกับมัน ถ้าตัวเองอยู่ในข่ายก็ถือว่ากำไรไปแต่ถ้าไม่ก็ไม่ขวนขวายที่จะได้มันมา แค่แสนบาทมันเทียบไม่ได้กับความบันเทิงนับพันๆชั่วโมงที่เราได้ในสิ่งที่เราชอบจริงๆ :)
-
เอ่อ .. ผมว่าก็เยอะอยู่นะ
อย่างน้อยก็ใช้เติมน้ำมันได้
หลายเดือนเลยทีเดียว
-
ตัวผมเองก็ทำค้าขายธรรมดา แต่มันก็ถูกที่ว่ามีโอกาสใช้สิทธิ์ คงเป็นเพราะตัวเองไม่คิดมากเรื่องนี้ด้วย แต่คิดๆอยู่นะว่าจะใช้ดีมั้ย?
-
ตัวผมเองก็ทำค้าขายธรรมดา แต่มันก็ถูกที่ว่ามีโอกาสใช้สิทธิ์ คงเป็นเพราะตัวเองไม่คิดมากเรื่องนี้ด้วย แต่คิดๆอยู่นะว่าจะใช้ดีมั้ย?
ผมเห็นด้วยกับคุณ 2K นะครับ
ผมอยากจะให้มองว่า คุณมีความจำเป็นจะต้องซื้อรถไหม, และคุณมีแพลนที่จะซื้อรถในเร็วๆนี้หรือเปล่า, รถที่คุณต้องการซื้อมันอยู่ในข่ายได้สิทธิ์นี้ด้วยไหม ถ้าคำตอบทั้ง 3 ข้อ คือใช่ ก็ไม่ต้องลังเลครับ ใช้สิทธิ์นี้ได้ทันที
แต่ถ้า คำตอบข้อใดข้อหนึ่งเป็นไม่ ผมจะไม่เชียร์ให้คุณซื้อรถเพราะสิทธิ์นี้ครับ เพราะการมีรถ 1 คันนี่ ค่าใช้จ่ายตามมาเพียบครับ ทั้งค่าน้ำมัน ค่าภาษี ค่าประกัน ค่าเช็คระยะ ฯลฯ
ตัวผมที่ตัดสินใจซื้อ เพราะ ต้องการรถเพิ่มอีกคันอยู่แล้ว เพื่อให้แฟนขับไปทำงาน และรถที่แฟนผมชอบก็อยู่ในข่ายได้คืนภาษีพอดี
-
ไม่ได้ใช้สิทธิ์ เหมือนกันครับ
เสียดาย กฏเกณ เยอะไปหน่อย อดเลยเรา
-
ใช้สิทธิก็ดีครับ แต่ถามบัญชีที่บริษัทได้ความว่า ถ้าใช้ลดหย่อนภาษีได้ 100,000 แล้วจะได้เงินคืนจริงแค่ทั้งหมด 10,000 บาท (จ่ายภาษีเรท 10%) โดยต้องทำลดหย่อนตามปีที่กำหนด เช่น รถรุ่น A หักได้ 100,000 บาท ต้องทำลดหย่อน 5 ปี ก็จะได้คืนปีละ 2,000 บาท แต่ถ้าปีไหนไม่ทำหักภาษี ณ ที่จ่ายก็อก 2,000 ปีนั้นไป
-
มากครับ
-
ใช้สิทธิก็ดีครับ แต่ถามบัญชีที่บริษัทได้ความว่า ถ้าใช้ลดหย่อนภาษีได้ 100,000 แล้วจะได้เงินคืนจริงแค่ทั้งหมด 10,000 บาท (จ่ายภาษีเรท 10%) โดยต้องทำลดหย่อนตามปีที่กำหนด เช่น รถรุ่น A หักได้ 100,000 บาท ต้องทำลดหย่อน 5 ปี ก็จะได้คืนปีละ 2,000 บาท แต่ถ้าปีไหนไม่ทำหักภาษี ณ ที่จ่ายก็อก 2,000 ปีนั้นไป
บัญชีบริษัทคุณมั่วแล้วครับ มันไม่ใช่การลดหย่อนภาษีนะครับ แต่มันคือการคืนภาษีครับ ดังนั้น 1 แสน คือคืนเงินจำนวน 1 แสนบาทครับ
-
ผมคิดว่าถ้าได้ 100,000 คืน โดยไม่ได้ใช้รถคันที่ตัวเองชอบ ก็คงไม่มีประโยชน์อ่ะคับ
-
สำหรับผมๆไม่ซีเรียส เพราะว่า ถ้ารถที่เราชอบไม่ได้อยู่นั้นที่มีเงินคืน แต่ดันไปเอารถที่ไม่ดี แล้วได้เงิน 100000 มา ไม่คุ้มเลยครับ เพราะไม่ตรงตามคอนเซปต์ของเรา เลือกรถไม่ได้อยู่ที่เงินคืนเสมอไปครับ ต้องดูที่รูปลักษณ์ ความใช้สอย สมรรถนะ ภายในเป็นอย่างไร ถ้าเอารถที่ไม่ได้คุณสมบัติพวกนี้มา แล้วได้เงินคืนมันจะดีไหมล่ะครับ
-
ผมว่ามากมายเลยครับ..
ถ้าคุณเป็นคนที่มีฐานะที่มีความมั่นคงมากอยู่แล้ว มันอาจจะดูเหมือนไม่เยอะ คุณก็พูดได้
แต่สำหรับบางคน (เช่นผม) มันก็ถือว่าเยอะมากครับ..
ตอนที่ผมเรียนจบมาใหม่ๆ เงินแสนนึงนี่เก็บไม่ได้ภายในปีสองปีนะครับ..
กว่าจะเก็บได้แต่ละบาท มันทำให้ผมรู้ค่าของเงินที่เก็บได้มาว่ามันยากแค่ไหน
ดังนั้น ผมซีเรียสตรงนี้ครับ..
-
ไม่ได้สนใจเลยครับ
เพราะรุ่นรถที่สามารถร่วมนโยบายนี้ได้
ไม่มีรุ่นไหนตอบโจทย์ผมได้เลย
และไม่ชอบด้วย เลือกรถเอาโปรแต่ไม่ใช่รถที่ชอบที่สุด
ผมยอมไม่เอาดีกว่าครับ
-
อยากได้แต่ไม่มีสิทธิ์ครับ เสียดาย :'(
-
มากกกกกกกกกกกกก คร๊าบผม
-
แล้วแต่ความเหมาะสมครับ เป็นการใช้สิทธิ์ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ เพิ่งได้งาน เงินเดือนน้อย ต้องพึ่งพ่อแม่บ้าง หรือคุณใช้รถในเมือง ส่วนใหญ่รถติด ที่จอดไม่สะดวกนัก รถเล็กก็เหมาะสำหรับคุณอยู่แล้ว ในเมื่อคุณได้สิทธิ์แสนนึง มันก็เพิ่มแรงจูงใจขึ้นมาอีก
ปล.ให้ตายเหอะกว่าจะได้รถแต่ละคัน เราเสียภาษีเยอะขนาดนี้ไปเพื่ออะไร ผู้บริหารบางคนยังไม่ซื้อCamry ไม่สงสารมนุษย์เงินเดือนบ้างเลย
-
มันอยู่ที่ความจำเป็นกับรถคันนั้นครับ ถ้าคนครอบครัวใหญ่ใช้ 7 ที่นั่งสบายๆ คงไม่ตีกรอบตัวเองครับ แต่้ถ้าขับไปกลับที่ทำงานวิ่งในเมือง รถเฟอรารี่ก็ติดเท่ากับeco car อันนี้ผมเลือก eco ครับ อิอิ
-
เยอะเหมือนกันนะครับ
แต่ถ้ารถที่เราสนใจมันไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น ก็อย่าฝืนใจตัวเองเลยครับ
-
;D ;D มีผลครับ บางคนมีรถอยู่เเล้ว เเต่สามารถใช้ชื่อคนในครอบครัวมาใช้สิทได้ ก็ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนรถง่ายขึ้น
อย่างผมมีรถมาสองคันเเต่ซื้อชื่อ พ่อ+เเม่ตลอด พอนโยบายนี้มา เท่ากับผมขายคันเก่า+เงิน1เเสน ผมสามารถออกรถใหม่ได้เลยไม่ต้องเพิ่มเงินสักบาท เรื่องอะไรจะไม่เอาครับ ในเมื่อคันเก่าก็หลายปีเเล้ว เริ่มมีซ่อมจุกจิก
-
ไม่ครับ
เพราะผมเลือกจากความรัก ไม่ได้เลือกจากเงินคืน
-
ต้องดูว่าเรา มองหารถขนาดไหน
เล็กก็คงหนีไม่พ้น แต่ไม่ใช่รถคัน ก็คงไม่เก็บมาคิด
-
ผมไม่สนใจเลยถึงแม้จะได้สิทธิ์
แต่ผมซื้อตามความต้องการใช้งานมากกว่า ครับ
-
ผมว่าซีเรียสครับม มันเป็นเงินเยอะมากสำหรับผม
-
^w^ ไม่ซีเรียสครับ ;D
-
ซีเรียสพอสมควร
เพราะที่บ้านกำลังมองหารถเล็กๆ ประหยัดน้ำมันพอดี
-
ค่อนข้างมากครับ ตั้งใจจะเปลี่ยนรถอยู่แล้วสักต้นปี-กลางปี 56 แต่พอโครงการนี้มาก็เลยเลื่อนขึ้นเร็วหน่อยเป็นเดือน 8 ปีนี้แทนเพื่อให้ทันสิทธิ ใจจริงผมอยากได้ซีวิคมือสองนะแต่แฟนผมอยากได้ซิตี้ป้ายแดงพอมีโครงการนี้มาปุ๊ป แฟนผมได้ซิตี้สมใจ จองไปแล้วแต่ก็แอบแหล่มิราจ สวิฟท์แค่เมียงมองเพราะแพ้ตรงศูนย์บริการน้อย+ไกลเหลือเกิน
-
ถ้าผมได้สิทธิ์ผมจะเก็บมาคิดครับ แต่ไม่ถึงกับซีเรียส
-
ซีเรียส นะ
แต่ ถึงไม่มี เรื่อง 100000 มา ผมก้ซื้อ อยู่ดี 555
-
ผมว่าถ้ามีเงินเยอะอยู่แล้ว
จะไปซีเรียส ทำไมละครับ เงินมีเยอะก็ออกรถที่แพงแน่ๆ ไม่สนรถเล็กราคาถูก มีเงินนิครับไครก็อยากได้รถแพงรถดีกันทั้งนั้นหละครับ ไม่เข้าค่ายคืนภาษีอยู่แล้ว แล้วก็เงิน 1แสนเองจะไปซีเรียสทำไมจริงไหมครับ
แต่สำหรับคนเงินน้อย ใช้รถเท่าที่เงินหาได้จริงๆ ก็คงเอื้อมได้แค่รถเล็กผ่อนเดือนนึงเกือบหมื่นหรือหมื่นต้นๆ ได้เงินก่อนนี้มาเอามาผ่อนได้เกือบปี แล้วเงินตั้งแสนกับคนกลุ่มนี้ต้องซีเรียสสิครับ (ผมเองก็กลุ่มนี้หละครับ :'()
-
ถ้ามีแพลนจะซื้อรถอยู่ก็ดีครับเหมือนได้ส่วนลด1แสนบาทมาฟรี แต่ถ้าซื้อเพราะเห็นว่าได้ลด1แสนโดยที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนไม่คุ้มแน่ๆครับ
1. ไม่ใช้ซื้อรถแล้วจะได้เงินคืนทันทีต้องรอไปอีก1ปีถึงจะได้เงินคืน
2. ถ้ารถถูกไฟแนนซ์ยึดและได้เงิน1แสนมาแล้ว ต้องเอาเงิน1แสนจ่ายคืนรัฐด้วย ไม่งั้นโดนฟ้องอ่วมเลย มีคดีกับรัฐเนี่ยไม่สนุกแน่นอนล่ะ
3. เหตุผลต่อเนื่องจากข้อ1. มีอะไรเป็นหลักประกันไหมว่าจะได้เงิน1แสนคืนมาจริงๆ เกิดรัฐบาลประกาศยกเลิกกลางคันเพราะเงินไม่พอล่ะ
เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะซื้อเพื่อเอาเงินคืน1แสนคิดดีๆนะครับ โดยเฉพาะข้อ2อันตรายที่สุด
-
ไม่ครับ เพราะไม่มองอยู่แล้วเก๋งต่ำกว่า 1500 และกระบะถ้าซื้อมันเกอน 1 ล้านเลยไม่สน
-
ผมเห็นแก่ได้ครับ>< ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อรถเลย
เนื่องจากมีJazz กับ Mz2 ผมใช้กับแฟน ส่วนมากแฟนจะใช้Jazzผมใช้mz2 ธุระนิดหน่อยแถวบ้าน
แต่ยามใดที่ต้องไปส่งของ ณ กทม ผมต้องเอา Jazz มาใช้ ให้แฟนใช้ mz2 สลับไปมาดูไม่ค่อยสะดวกเลย
แฟนไม่ค่อยอยากใช้ mz2เพราะเติมน้ำมัน และเป็นเกียร์ mt ส่วน jazz lpg at
พอนโยบาย100,000 ออกมาปุ๊บผมตัดสินใจขายmz2 ทันทีขาดทุน 100,000 บาทเปลี่ยนไปเป็นกระบะ4 ประตู
ได้เงินคือ 90,000บาท แต่ก็ดีกว่าผ่อนmz2 ไปเรื่อยๆแต่รถไม่ค่อยได้ใช้ 1 ปีวิ่งไป 9,000โลเองไม่คุ้มกับการผ่อนมากๆ
-
มากเหมือนกัน และที่สำคัญรถที่ตรงรุ่นเนี่ยก้อเจอแล้วด้วย 5ปีอาจจะไม่ไหว เหนื่อยจุดเดียวเยี่ยล่ะ แต่เอาเถอะ แลกกับ ฟรีประกันกัน กับฟรีดอก แค่นี้คุ้มครับ (คิดจากส่วนลดภาษี)
-
ซีเรียสครับ เพราะยังไงก็ออก jazz อยู่แล้ว อยู่ในกรอบผมพอดีไม่มีนโยบายนี้ปีนี้ก็ซื้ออยู่ดี + - 100000 เปรียบกับไม่ได้คืนก็เท่ากับก็เท่ากับว่าผมผ่อนรถฟรีดอกเบี้ย แถมเหลือไว้เก็บเป็นค่าน้ำมันอีก 4 หมื่นกว่าบาท ;D
-
นิดหน่อย ครับ แต่รถที่จะชื้อนี้ ก็เพราะมี ส่วนลด 1แสนนี้ด้วยครับ ไม่งันก็คงเก็บตังไว้ ;Dแต่รถจองไว้ ก็นานจัง แต่ยังไงก็คงไม่รอข้ามปี อะน่ะ (ford ranger wt :'( )
-
ไม่ซีเรียสครับ เพราะปกติที่บ้านผมจะชอบใช้รถตั้งแต่ C-segment ขึ้นไปอยู่แล้ว
-
สมมติถ้าผมสนใจรถที่เข้าข่ายสิทธิ์ 100k ผมรับรองเลยว่าซีเรียสแน่นอน 100,000 นึง เยอะน้อยไม่รู้แต่รู้ว่าเป็นเงิน ผมซีเรียสครับ
ผมไม่ยอมเสียเงินฟรีโดยไม่เกิดประโยชน์แม้แต่บาทเดียวครับ
-
ไม่เลย .... เพราะไม่ได้คิดจะซื้อรถที่ได้คืนอยู่แล้วครับผม
-
อยู่ในข่ายที่สนใจพอดี
กระบะ 4 ประตู สำคัญและซีเรียสค่อนข้างมาก
เงิน 1 แสนไม่ใช่น้อยๆ แน่นอนว่าทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายยิ่งขึ้น
จากเดิมคิดแล้วคิดอีกว่าเปลี่ยนดีมั้ย เพราะรถคันเก่าก็เริ่มจุกจิก
และไม่ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว
-
เงิน 1 แสน
ถ้าเติมน้ำมันวิ่ง กิโลล่ะ 2.5 บาท
เติมน้ำมันเพื่อวิ่งฟรีๆได้ถึง 40,000 กิโลเลยนะครับ
1 แสน ต่อประกันได้ 5-6 ปี
ดังนั้น ผมซีเรียสครับ
-
เสียดายนิด ๆ เพราะตอนแรกอยากได้ Crv มือสอง
พอนโยบายนี้ออกมาเลยเปลี่ยนใจไป Swift แทน ประหยัดไปหลายแสนแถมได้รถใหม่ ประหยัดน้ำมันกับค่าบำรุงรักษา
แถมจริง ๆ ตอนนี้ก็นั่งกันแค่คนสองคน รออีกซัก 2 ปีค่อยว่ากัน
เงินตั้งแสนนึงคนอื่นไม่เสียดายโอกาส แต่ผมเสียดาย
-
ซีเรียสครับ เพราะแสนนึงสำหรับผมคงไม่ได้หาได้ง่ายๆ >_<
-
ไม่เอาครับ ความคิดผมเองคือ มันไม่ใช่ของที่ผมควรจะได้ เงิน แสนนึง เอาไปทำประโยชน์ อย่างอื่นได้ตั้งเยอะ
-
ผมไม่ได้สิทธิ แต่พี่สาวซื้อได้
แต่มีใครได้เงินคืนบ้างหรือยังล่ะ
ไฟแนนท์ไหนให้สิทธิแล้วบ้าง เอาตรงนี้ก่อนดีกว่า
เพราะการจะได้เงินคืน คุณต้องใช้รถครบ1ปี ไม่ใช้เหลอ
-
ผมไม่ได้สิทธิ แต่พี่สาวซื้อได้
แต่มีใครได้เงินคืนบ้างหรือยังล่ะ
ไฟแนนท์ไหนให้สิทธิแล้วบ้าง เอาตรงนี้ก่อนดีกว่า
เพราะการจะได้เงินคืน คุณต้องใช้รถครบ1ปี ไม่ใช้เหลอ
เเง้ว มานก็มีคำตอบในตัวเอง ก็มันยังไม่มีใครทำเรื่องครบปีนี่ครับ เลยยังไม่มีใครได้ ส่วนไฟเเน้น หลายๆเจ้าเซนต์ให้เเร้วนี่ครับ
-
อ้าว ผมก็เข้าใจว่าเป็นการ "ลดหย่อน" รายได้เพื่อคำนวณภาษีมาตลอด
เพิ่งเข้าไปอ่านในเวปสรรพสามิต จริงๆ เป็นการคืนเงินก้อนเลยเหรอครับเนี่ย
ผมเองก็มีสิทธิ์นะ แต่ตอนนี้กำลังคิดว่า จะซื้อ SUV เลยไม่ค่อยได้มองไว้
แบบนี้ก็น่าสนใจแฮะ eco car คงไม่ได้ถึงแสน แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เลย
-
ตอนแรกคิดหนักครับ ตอนนี้เฉยๆแล้ว
เพราะเลือกรถตามความต้องการในอนาคตอีก 10 ปี
เลยไม่มองว่าต้องเป็นรถที่อยู่ในข่ายได้ลดหย่อนภาษีแล้ว