Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ มีนาคม 26, 2018, 21:55:14
-
สามารถผ่านที่ 80 km/h ได้ชิวๆ และเริ่มเสียการทรงตัวที่ 83 km/h
https://www.youtube.com/watch?v=OhX0pJs_ffs
ถ้าเทียบ SUV คันอื่นๆ ที่ขายในไทยก็จะมี
Mazda CX-5
ผ่านที่ 77 km/h เริ่มเสียการทรงตัวที่ 78 km/h
https://www.youtube.com/watch?v=H1FIPXeU7J0&t=32s
Toyota CHR
ผ่านที่ 75 km/h เริ่มเสียการทรงตัวที่ 76 km/h
https://www.youtube.com/watch?v=SR5zexUaKVo
Subaru XV
ผ่านที่ 73 km/h แต่เสียการทรงตัวที่ 73 km/h เพราะ ESC ทำงานช้าไปและหลุดโค้งไปเลยที่ 74 km/h
https://www.youtube.com/watch?v=olp8TdPvvkc
สรุปดูๆ แล้วถ้า Mitsubishi Eclipse Cross เข้าไทยก็จะเป็นรถ SUV ที่ช่วงล่างเทพสุดเลยครับ
-
ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ Mitsu เป็นค่ายรถที่ทำช่วงล่างได้ดีในหลายๆรุ่น อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าแห่ง Rally WRC มาก่อนนะ
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมรถ AWD อย่าง Subaru ที่ว่าช่วงล่างดีนักหนา กลับทำผลงานสู้รถขับ 2 ล้อหน้าไม่ได้
เพราะธรรมชาติของรถ Fulltime AWD มันจะมีอาการหน้าดื้อหรือ Under steer ทำให้เลี้ยวกลับไปมาซ้าย-ขวาแบบกระทันหันได้ไม่คล่องเท่ารถขับ 2
ท่าสังเกตุดีๆ รถมันไม่ได้เสียอาการอะไรนัก แต่เนื่องจากพอมันเลี้ยวไม่เข้าแนวกรวย พอ Fail ปุ๊บคนขับเขาจะหยุดทดสอบทันที มันเลยเป็นอย่างที่เห็น
ในสภาพถนนปกติ รถขับ 2 กับ AWD ในแง่การเกาะถนนแทบจะไม่ต่างกันเลย มันจะไปได้เปรียบเสียเปรียบในสภาพที่ถนนไม่ปกติมากกว่า
-
จริงๆ ตั้งแต่ตอนขับ space wagon เจอมอไซค์ตัดหน้าที่ความเร็ว เกือบ 70 หลบได้ชิลๆเลย
มิตซูรุ่นใหญ่ทำช่วงล่างดีมานานแล้ว
-
ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ Mitsu เป็นค่ายรถที่ทำช่วงล่างได้ดีในหลายๆรุ่น อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าแห่ง Rally WRC มาก่อนนะ
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมรถ AWD อย่าง Subaru ที่ว่าช่วงล่างดีนักหนา กลับทำผลงานสู้รถขับ 2 ล้อหน้าไม่ได้
เพราะธรรมชาติของรถ Fulltime AWD มันจะมีอาการหน้าดื้อหรือ Under steer ทำให้เลี้ยวกลับไปมาซ้าย-ขวาแบบกระทันหันได้ไม่คล่องเท่ารถขับ 2
ท่าสังเกตุดีๆ รถมันไม่ได้เสียอาการอะไรนัก แต่เนื่องจากพอมันเลี้ยวไม่เข้าแนวกรวย พอ Fail ปุ๊บคนขับเขาจะหยุดทดสอบทันที มันเลยเป็นอย่างที่เห็น
ในสภาพถนนปกติ รถขับ 2 กับ AWD ในแง่การเกาะถนนแทบจะไม่ต่างกันเลย มันจะไปได้เปรียบเสียเปรียบในสภาพที่ถนนไม่ปกติมากกว่า
แบบนี้ถ้าขับถนนปกติก็ไม่ควรใช้ AWD รึเปล่าครับ แสดงว่าที่บอกว่าหนึบๆ กันนี่จริงๆ แล้วแค่ฟีลลิ่ง แต่สุดท้ายไม่ได้หลุดโค้งยากกว่า 2WD เหรอครับ
-
นั่นมันแพช่วงล่างกับระบบขับเคลื่อน 4ล้อ แบบ EVO อัพเกรดล่าสุดครับ แถมมาอยู่ในรถบ้านในราคาจับต้องได้ แถมเครื่องแรงด้วย 0-100 km/h ว่ากันที่ 8 วิ กว่าๆถึง 9 วิ เท่านั้น
https://www.youtube.com/watch?v=nM6i17ZyWhc
-
8) 8) 8) 8)
-
เสียดายไม่มาขายบ้านเรา
-
ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ Mitsu เป็นค่ายรถที่ทำช่วงล่างได้ดีในหลายๆรุ่น อย่าลืมว่าเขาเคยเป็นเจ้าแห่ง Rally WRC มาก่อนนะ
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมรถ AWD อย่าง Subaru ที่ว่าช่วงล่างดีนักหนา กลับทำผลงานสู้รถขับ 2 ล้อหน้าไม่ได้
เพราะธรรมชาติของรถ Fulltime AWD มันจะมีอาการหน้าดื้อหรือ Under steer ทำให้เลี้ยวกลับไปมาซ้าย-ขวาแบบกระทันหันได้ไม่คล่องเท่ารถขับ 2
ท่าสังเกตุดีๆ รถมันไม่ได้เสียอาการอะไรนัก แต่เนื่องจากพอมันเลี้ยวไม่เข้าแนวกรวย พอ Fail ปุ๊บคนขับเขาจะหยุดทดสอบทันที มันเลยเป็นอย่างที่เห็น
ในสภาพถนนปกติ รถขับ 2 กับ AWD ในแง่การเกาะถนนแทบจะไม่ต่างกันเลย มันจะไปได้เปรียบเสียเปรียบในสภาพที่ถนนไม่ปกติมากกว่า
แบบนี้ถ้าขับถนนปกติก็ไม่ควรใช้ AWD รึเปล่าครับ แสดงว่าที่บอกว่าหนึบๆ กันนี่จริงๆ แล้วแค่ฟีลลิ่ง แต่สุดท้ายไม่ได้หลุดโค้งยากกว่า 2WD เหรอครับ
ไม่ใช่ไม่ควรครับ รถ AWD มันก็ขับได้ปกติเหมือนรถทั่วไป เพียงแต่จะชี้ให้เห็นว่าบางอย่างมันก็ไม่ได้เด่นกว่า 2WD
อย่างที่บอกว่ารถ AWD Fulltime แบบ Subaru ถ้าเข้าโค้งมาเร็วๆมันจะแสดงอาการหน้าดื้อชัดเจน (ก็เพราะล้อหลังที่พยายามดันล้อหน้าไปทางตรง) แต่มันไม่ได้เป็นปัญหากับโค้งทางเดียว ถ้าล้อมันจับกับโค้งได้แล้วก็กดคันเร่งออกโค้งได้เลย หลุดยาก
ในขณะที่รถขับ 2 ล้อหน้าที่เซตช่วงล่างมาดีๆมันจะแสดงอาการหน้าดื้อน้อยกว่า เลี้ยวหลบไปมาคล่องกว่า แต่กลับกันถ้าไต่โค้งด้วยความเร็วสูงๆมันจะมีโอกาสที่ท้ายรถจะเสียหลักง่ายกว่า เพราะล้อหลังไม่ได้มีแรงบิดมาช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ (หากเจอสถานการณ์ไม่ปกติ เช่นถนนลื่น) แต่มันก็อาจจะมีข้อด้อยเรื่องอื่นตามมาเช่น Torque steer
อาการหน้าดื้อของรถ AWD ก็พัฒนามาเรื่อยๆ บางค่ายใช้เป็นระบบ Real-time AWD ให้ลื่นก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนจากขับ 2 เป็นขับ 4
บางรุ่นของ Subaru ใช้การกระจายแรงแบบหน้า 60 หลัง 40 เพื่อให้อาการเหมือนรถขับหน้า หน้าไม่ดื้อโค้งมาก เลี้ยวคล่องขึ้น ขับง่ายขึ้น
หรืออย่าง Toyota fortuner ตัวก่อนที่เป็น Fulltime AWD ก็เซตกระจายแรงแบบหน้า 30 หลัง 70 ให้อาการเหมือนรถขับหลัง เป็นต้น
ผมเอาคลิปนี้มาให้ดูครับ อาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหัวข้อที่กำลังพูดกันอยู่ ในคลิปพูดถึงข้อดี-ด้อยของระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบ และวิธีการ Handing รถแต่ละแบบตามความเหมาะสม
https://www.youtube.com/watch?v=C4hv78vtBxM
-
เอาตรงๆ ผมไม่ค่อยเข้าใจการทดสอบของค่ายนี้เท่าไหร่ แต่เท่าที่เห็น ผลออกมา รถรุ่นดังๆ ตายเรียบ
หลังๆมา ผมกลับชอบการทดสอบของ maxtv โดยเฉพาะคุณ madcow มากกว่า ซะอย่างงั้น ;D
-
อยู่ที่ฝีมือและประสบการณ์ผู้ขับทดสอบด้วยครับ ไม่ใช่ว่าผู้ขับทุกคนจะแก้ไขในสถานการณ์แบบนี้ได้ทุกคน อย่างในคลิปทดสอบ บางทีก็อย่ามั่นใจในรถมากจนเกินไปนัก รถมีขีดจำกัดเหมือนกัน อย่าประมาทครับ
-
บาลานซ์ตัวรถดีมาก ช่วงเข้าชิคเคนดูไม่เสียอาการ อาจเป็นเพราะเซตช่วงล่างมาแบบสปอรต์ แต่ใช้งานจริงจะแข็งกระด้างนั่งไม่สบายรึเปล่า อันนี้น่าเสียดายที่มาไม่ถึงมือพี่จิมนะ
แน่นอนความสามารถคนขับก็เป็นอีกส่วนนึงด้วย มิตซู เรื่องระบบขับสี่นี่ก็ทางเขาอยู่แล้ว เจอคนขับแบบนี้ก็พริ้วอย่างที่เห็น เปน crossover คันแรกรึป่าวที่ไปถึง 80km เห็นเงียบๆแต่ไม่ธรรมดาจริง
-
มีแว่วๆๆๆ ว่า
มันคือ รถที่ จะมาแทน C-Segment ในไทย
แต่คงไม่มี 4WD
-
ไม่เสียชื่อมิตซู ที่เซตช่วงล่างเจ๋งจริง
เสียดายที่เจ้านี่ไม่มาไทย
-
ใช้อ้างอิงกับรถในประเทศไทยไม่ได้อยู่ดี
เซตมาคนละแบบ
นอกซะจากรถยุโรป ที่นำเข้าแบบ CBU
-
Mitsu เคยทำช่วงล่าง รถ ultima ได้น่าประทับใจ มาก จนถึงตอนนี้ ผมขับยี่ห้ออื่นแล้ว แต่ ยังไม่เคยลืม ultima เลย
-
Mitsu เคยทำช่วงล่าง รถ ultima ได้น่าประทับใจ มาก จนถึงตอนนี้ ผมขับยี่ห้ออื่นแล้ว แต่ ยังไม่เคยลืม ultima เลย
จริงครับ เสียดาย C-seg D-seg ค่ายนี้มากๆ
-
ใส่ยางรุ่นนี้ ทำความเร็วได้ขนาดนี้ ตัวรถต้องสุดยอดแน่ๆ
-
ของดีๆค่ายนี้ ไม่เคยมาไทย พอจะมาก็ตลาดวาย :-\ :-\