Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Rung ที่ มกราคม 06, 2011, 20:56:23
-
พอดีช่วงวันหยุดปีใหม่ผมขับรถไปเที่ยวที่เชียงใหม่ครับ เส้นทางจากไฮเวย์ไปตลาดไนท์บาร์ซ่าเจอป้าย สร้างค่านิยมด้านการจราจรร่วมกัน กระพริบไฟ คือ ให้ทาง แต่พอดีวันนี้ผมขับผมที่ กทม.ขับรถบนถนนสองเลนสวนกัน พอเจอสี่แยก ผมเปิดไฟกระพริบจะเลี้ยวขวาเข้าถนนใหญ่ แต่รถสวนมาเปิดไฟกระพริบให้ผม แต่ๆๆๆๆๆในความหมายขอเขาคือเตือนไม่ให้ผมเลี้ยวตัดหน้าเขา เลยทำให้ผมคิดว่า.......กระพริบไฟคือ....แล้วแต่ท่านจะคิดนะครับ จึงอยากถามความเห็นของพวกเราว่าท่านคิดอย่างไรกับค่านิยมนี้ครับ สำหรับผมคิดว่าดี แต่ต้องโปรโมทหรือทำเป็นกฎจราจรเช่นจะเลี้ยวขวาต้องเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเหมือนกัน
-
ถ้าเราไปขับรถที่ Europe หลายๆประเทศ และอังกฤษ , USA & Canada , South Africa , Australia , New Zealand การกระพริบไฟหน้าคือการให้เราผ่านได้ หรือให้ทางครับ ผมก็ยังงงว่าประเทศเรามันไปเหมือนกับประเทศอะไรหว่า เคยถาม Taxi ที่ LA เค้าว่าการบีบแตรคือการเตือนผู้อื่นอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกระพริบไฟเพื่อเตือนผู้อื่นอีกมั้งครับผม
-
ประเทศไทยใช้ในความหมายนี้มานานแล้วครับ และทุกคนเข้าใจตรงกันว่ากระพริบไฟคือขอไปก่อน
ถ้าจะเปลี่ยนคงยากครับ
-
ผมเคยชินกับการกระพริบไฟเพื่อขอทางแล้วอ่ะครับ ถ้าจะเปลี่ยนก็ได้ครับ แต่คงยาก
:( :(
-
ถ้าเราไปขับรถที่ Europe หลายๆประเทศ และอังกฤษ , USA & Canada , South Africa , Australia , New Zealand การกระพริบไฟหน้าคือการให้เราผ่านได้ หรือให้ทางครับ ผมก็ยังงงว่าประเทศเรามันไปเหมือนกับประเทศอะไรหว่า เคยถาม Taxi ที่ LA เค้าว่าการบีบแตรคือการเตือนผู้อื่นอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกระพริบไฟเพื่อเตือนผู้อื่นอีกมั้งครับผม
ขอเสริมด้วยอีกคนว่า ใช้ไฟกระพริบเพื่อขอไปก่อน สำหรับบ้านเราอาจจะดูสุภาพกว่าบีบแตรเตือนน่ะครับ
เดี๋ยวนี้ ไปบีบใครเข้า เผลอๆโดนยิงกลับมาเยอะแยะ ฉะนั้น เรื่องขอทางไปก่อน ยอมๆ ให้เค้าใช้
ไฟกระพริบไปเถอะครับ ดีแล้วล่ะ สำหรับบ้านเราโดยเฉพาะ
-
ในกรณีที่กระพริบนะครับ(ไม่ใช่ยกค้างนะ)ถ้าทำใด้ก็ดีนะครับผมว่า แต่ก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่เริ่มสอบใบขับขี่กันเลย ส่วนที่มีอยู่แล้วก็ต้องรณรงค์กันอย่างจริงจัง
ในกรณีที่ใช้เสียงบางครั้งอาจไม่ใด้ยิน หรือถ้าเป็นตอนกลางคืนใช้ไฟน่าจะชัดเจนกว่านะ
แต่ส่วนใหญ่ผมจะดูที่ความเร็วของรถข้างหน้าเป็นหลักนะครับบางที่ไฟก็สับสน
แต่ก็ไม่รู้การรณรงค์จะทำใด้แค่ใหนนะครับ ขนาดคำว่า รถช้าชิดซ้าย กับ แซงแล้วชิดซ้าย ยังไม่ค่อยมีคนสนใจเลยครับ
ทั้งๆที่มันก็เป็นสิ่งที่ควรทำครับ
-
จริงๆแล้วการกระพริบในความหมายของสากลก็คือ การให้ทางผู้อื่นก่อนอยู่แล้วนิครับ
แต่ประเด็นคือ บ้านเราเอามาใช้กันในความหมายที่ว่ากูขอไปก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่
มันก็เลยกลายเป็นการสอนกันมาแบบผิดผิด จวบจนปัจจุบันน่ะครับ
เพราะงั้นถ้าอยากจะเริ่มกันตั้งแต่แรก ก็เริ่มกันตั้งแต่การอบรมสอบใบขับขี่ก่อนเลยอันดับแรก
เพราะดูแล้วน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะยังไงทุกทุกคนก็ต้องไปฟังอบรมก่อนสอบใบขับขี่อยู่แล้วแน่นอนนอนแน่
-
ผมว่าควรเริ่มก่อนสอบไปขับขี่อีกครับ ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่ที่บ้าน ตั้งแต่หัดขับรถกันเลย จนไปถึงคุณครูสอนขับรถ เพราะไม่งั้นมันจะฝังลึกลงไปในซีรีบรั้ม555555ของเราเลย
ผมก้ใช้ไฟ "ขอทาง/ขอไปก่อน" ตามปกติของคนไทย ผมไม่ค่อยชอบใช้แตรน่ะครับ ผมว่ามันไม่ค่อยสุภาพ ผมมักจะใช้แตรเพื่อ "ด่า"
แต่บางครั้ง ก็กระพริบไฟแล้วให้ทางก็มี ผมเห็นคนอื่นก็ทำบ้างเหมือนกัน แต่กว่าจะชัวร์ก็ต้องเห็นเค้าหยุดก่อน เราถึงจะออกอยู่ดีล่ะ
ปล. ถ้าขับเร็วมาเลนขวา แล้วรถจะยูเทิร์น ผมกระพริบไฟสูงใส่เพื่อขอทาง แต่จะเบรกและเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้ทาง ถ้าเค้ายังไม่ออก จะกระพริบไฟอีกที
ขับเร็วมาเลนขวา เจอรถขับช้ากว่า ถ้าไม่หลบ ผมแซงซ้าย ถ้าเค้าหลบไม่ได้ ผมจะไม่เปิดไฟไล่หรือบีบแตรหรือจี้ทั้งนั้น รอดูสถานการณ์ต่อไป
ปล2. ผมจะไปสอบใบขับขี่เร็วๆนี้ครับ^^
-
ผมยังใช้กระพริบไฟเพื่อไม่ให้เขาไปนะ เพราะผมว่ามันก็ OK อีกอย่าง บีบแตรบางคนมันของขึ้นง่าย ปกติขอเป็นวิธีสุดท้ายดีกว่า
-
ผมมองว่า บ้านเราใช้การดิฟไฟเพื่อ "ขอไปก่อน" เนื่องจากการกระพริบไฟแบบนี้ สามารถแทนการ "กดแตร" ได้ เพราะการกดแตร รถคันอื่นอาจสับสนว่ามาจากรถคันไหน หรือไม่ก็อาจไม่ได้ยิน
อีกนัยยะนึง การกระพริบไฟอาจจะเหมือนกึ่งเตือน กึ่งด่า เช่น "เฮ้ยๆ เอ็งจะทำอะไร" อะไรทำนองนี้ จึงเหมือนการ warn รถคันอื่นให้ระวังรถฉัน ก็คือการขอไปก่อนนั่นเอง
พักหลังผมเจอรถกระพริบไฟแบบยุโรปหลายคันเลยครับ สับสน บางกันกดแตร แป๊น แป๊น แทนการดิฟไฟ แทนการให้ทางไปซะอีก งง
-
คงต้องสอนกันตั้งแต่ทั้งทำใบขับขี่ ทั้งโฆษณาด้วยแหละครับ ถึงจะได้ผล
-
ถ้าเราไปขับรถที่ Europe หลายๆประเทศ และอังกฤษ , USA & Canada , South Africa , Australia , New Zealand การกระพริบไฟหน้าคือการให้เราผ่านได้ หรือให้ทางครับ ผมก็ยังงงว่าประเทศเรามันไปเหมือนกับประเทศอะไรหว่า เคยถาม Taxi ที่ LA เค้าว่าการบีบแตรคือการเตือนผู้อื่นอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกระพริบไฟเพื่อเตือนผู้อื่นอีกมั้งครับผม
ขอเสริมด้วยอีกคนว่า ใช้ไฟกระพริบเพื่อขอไปก่อน สำหรับบ้านเราอาจจะดูสุภาพกว่าบีบแตรเตือนน่ะครับ
เดี๋ยวนี้ ไปบีบใครเข้า เผลอๆโดนยิงกลับมาเยอะแยะ ฉะนั้น เรื่องขอทางไปก่อน ยอมๆ ให้เค้าใช้
ไฟกระพริบไปเถอะครับ ดีแล้วล่ะ สำหรับบ้านเราโดยเฉพาะ
เห็นด้วยนะครับ ค่านิยมมันต่างกัน ประเทศเราใช้แบบนี้
ต่างประเทศเขาใช้แบบนั้น นิยมแบบนั้นมันก็เรื่องของเขา เราใช้แบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเราแปลกแยกหรอกครับ
บางทีเอาวัฒนธรรมต่างประเทศมาใช้แบบไม่รู้กาละเทสะ แทนที่จะดูดี อาจจะกลายเป็นตัวแปลกไปได้นะครับ
-
คิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้มันสาเหตุก็เพราะคือนี่คือสังคมไทยครับ วัฒนธรรมที่อาศัยการแสดงออกแบบสื่อความหมายเป็นหลัก กล่าวคือการกระทำที่แสดงออกถึงความก้าวร้าวและย้ำถี่ๆนั้นคือความหมายในเชิิงปฏิเสธสำหรับคนไทย เหมือนกับข้ามสี่แยกแล้วต้องเปิดไฟฉุกเฉินนั่นแหละซึ่งเป้นการกระทำที่ผิด ถึงได้ทำๆกันอยู่จนถึงปัจจุบันและสืบทอดกันไปเรื่อยๆแก้ไขไม่ได้ คนเข้าใจถูกก็จะมีเพียงหิบมือเพียงน้อยนิดถ้าเทียบกันคนทั้งประเทศ ครั้นจะทำเป็นแคมเปญจราจรนั้นก็ไม่ง่ายเลยที่จะจูงใจให้คนไทยทั้งประเทศรับรุ้และทำตาม อาจจะมีคนลงทุนหลายร้อยล้านให้คนทั้งประเทศรวมถึงต่างจังหวัดไกลๆได้รับรู้ แต่ด้วยความคุ้นเคยที่ทำมาทั้งชีวิตก็จะกลับมาเป้นเหมือนเดิมอีกละ
ผมว่ารณรงค์ให้มีน้ำใจต่อกันง่ายกว่าเยอะ เห็นคนอื่นเปิดไฟเี้ลี้ยให้ชลอไห้ทางเค้าอย่างเร่งมาปิด ง่ายกว่ากันเยอะมาก
-
ถ้าจะเปลี่ยนคงยาก แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้ ต้องรนรงณ์กันอีกนาน ไม่ใช่เฉพาะ แต่ที่เรียนหรือ หัดขชับรถใหม่เท่านั้น พวกเราๆท่านๆ ทั้งหลายในที่นี้ด้วยก็เหมือนกัน และอีกอย่าง การขอบคุณ เวลาที่เขาให้ทางเราไปแล้ว ที่เมืองนอก เวลาที่เราให้ทางเขาไปแล้ว จะมีหลายวิธี ที่แสดงการขอบคุณ
๑. เปิดไฟฉุดเฉิน กระพริบ ๒ ครั้ง
๒. ยกมือซ้ายมือ ถ้าเป็นกลางวัน เพราะรถที่อังกฤษ ไม่ติดฟิลม์ จึงมองเห็น ภายในรถ
๓. ยกมือขาวมือ ออกมานอกกระจก ก็ถ์อว่าเป็นการขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง
๔. เมือเขาให้ทาง ออกที่จะออกจากซอยมาถนนหลัก ก็จะโค้งน้อยๆ หรือแบบเบาๆ ก็จะเป็นการขอบคุณอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน
ช่วยกันได้คับ กับการมีน้ำใจในการขับรถ และที่สำคัญอื่นใด เคารพกฏจราจร ทั้งคนที่ใช้รถ และคนที่เดินข้างถนนคับ
-
ยากมากๆครับ
เอาเรื่องอื่นให้สำเร็จก่อนดีกว่าครับ เช่น การไม่เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อจะไปตรง ที่ต่างจังหวัดยังเป็นกันเยอะเลย
แต่ถ้าเรา diffไฟเพื่อให้ทางเนี่ย ถ้าเราเริ่มแล้วกลายเป็นศื่อสารผิดเนี่ยอันตรายเลยนะครับ มันยากกว่าตรงนี้
ซึ่งผมมองเหมือนที่ข้างบนตอบกันคือ ถ้ามันใช้แล้วเข้าใจก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้ครับ
-
ผมใช้วิธีโบกมือเอาอ่ะครับ เปลี่ยนมันคงยาก เพราะเราเข้าใจกันแบบนี้ไปแล้ว
-
ของผมไม่กระพิบครับ แต่จะกดแช่ไว้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ซักนิดอ่ะครับ
ส่วนถ้าจะให้เขาไปก่อนผมก็จะชะลอจนรถเกือบหยุดนิ่งครับ หรือไม่ก็หยุดนิ่งไปเลยครับ แล้วค่อยกระพิบไฟ พร้อมกับโบกมือ
ให้เขาผ่านไปก่อน ส่วนตอนกลางคืนนั้นจะสาดไฟไปก่อน แล้วบีบแตรซัก 2 ปิ๊น ครับ กันเหนียว อิอิ
-
ถ้าใครเคยขับรถบนถนน 2 เลนในต่างจังหวัดบ่อย ๆ จะนึกภาพออกนะครับ ว่าการดิฟไฟใส่ นี่มีประโยชน์มาก
1. ขอแซง
2. เตือนกันล่วงหน้าไกล ๆ หากอีกฝั่งนึงแซงมา
3. บอกเลนที่สวนว่าข้างหน้ามีเตารีด หรือ อุบัติเหตุ ให้ระวังด้วย
ผมว่าจะเปลี่ยนแบบนี้คงยากนะครับ มัวแต่ดิฟไฟใส่กันว่ามาเลย ๆ จะชนกันตายเอามากกว่า ถ้าอยากจะให้เปลี่ยนจริง ๆ คงต้องออกเป็นกฏหมายนะครับ
ป.ล. ค่านิยมบางอย่างมันก็เฉพาะแต่ละพื้นที่ ไม่เหมือนกันก็ไม่ได้แปลว่าผิดนะครับ :)
-
มีคนที่คิดแบบผมอยู่หรือเนี่ย งั้นก็พอมีหวังครับ
จากที่ประสบมาในอเมริกาก็พบว่าการกระพริบไฟเพื่อให้ทางมันชัดเจน และแสดงความสุภาพได้จริงๆ
ซึ่งหากผมขับ แม้ในไทยก็จะทำตามแบบอารยะประเทศต่อไป
และอีกอย่าง แตรมีให้ใช้ ก็บีบมันสิครับ มันไม่ได้ถึงกับ offensive ขนาดนั้นหรอกนอกจากท่านจะคิดไปเอง
ถ้าจะให้ผมเขียน ultimatum เรื่องกระพริบไฟคงต้องสาธยายไปถึงหลักปรัชญาว่าทำไมแบบไทยๆมันใช้ไม่ได้เรื่อง
เพิ่มเติม (อ้างอิงที่ตอนแรกไม่เห็น): มัวแต่ดิฟไฟใส่กันว่ามาเลย ๆ จะชนกันตายเอามากกว่า ถ้าอยากจะให้เปลี่ยนจริง ๆ คงต้องออกเป็นกฏหมายนะครับ
ผมว่า ถ้าแต่ละฝ่ายยิงใส่เพื่อไม่ให้ทางจะชนกันตายมากกว่าครับ
1. ขอแซง
2. เตือนกันล่วงหน้าไกล ๆ หากอีกฝั่งนึงแซงมา
ส่วนข้อแรก เป็นมารยาทสากลอยู่แล้วครับ ข้อสอง จริงๆควรจะเป็นประโยชน์จาก DRL มากกว่า ซึ่งรถบางคันอย่างเล็กซัสรุ่นก่อนๆหน่อยก็ใช้หลอดไฟสูงลดกำลังนี่ล่ะครับเป็น DRL ข้อสามเคยเจอในไทย มืดๆ ไปต่ออีกนิดเจอแมงกะไซสลบอยู่ข้างทาง เลือดอาบ ดีนะไปกับเพื่อนไม่งั้นหลอน ส่วนข้อปฏิบัติสากลไม่ทราบครับ
-
ถ้าใครเคยขับรถบนถนน 2 เลนในต่างจังหวัดบ่อย ๆ จะนึกภาพออกนะครับ ว่าการดิฟไฟใส่ นี่มีประโยชน์มาก
1. ขอแซง
2. เตือนกันล่วงหน้าไกล ๆ หากอีกฝั่งนึงแซงมา
3. บอกเลนที่สวนว่าข้างหน้ามีเตารีด หรือ อุบัติเหตุ ให้ระวังด้วย
ผมว่าจะเปลี่ยนแบบนี้คงยากนะครับ มัวแต่ดิฟไฟใส่กันว่ามาเลย ๆ จะชนกันตายเอามากกว่า ถ้าอยากจะให้เปลี่ยนจริง ๆ คงต้องออกเป็นกฏหมายนะครับ
ป.ล. ค่านิยมบางอย่างมันก็เฉพาะแต่ละพื้นที่ ไม่เหมือนกันก็ไม่ได้แปลว่าผิดนะครับ :)
เิพิ่มให้ครับ ในหลายๆที่ ถ้าเป็นถนนสี่เลน ถ้ารถฝั่งตรงข้ามเปิดไฟสูงมา โดยเราดูแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ มีโอกาสสูงว่ามีด่านข้างหน้าครับ จงลดความเร็วซะ เอิ๊ก
โดยส่วนตัวผมว่าใช้แบบนี้มันก็ดีแล้วครับ เสียอย่างเดียว คือเวลาตอน จะ"ให้ทาง" อย่างที่จขกท. ว่าเนี่ยแหละครับ ไม่รู้จะทำไงดี แต่ถ้าเปลี่ยน เวลาจะขอทางก็คงลำบาก แตรมันก็ไม่ค่อยเวิคนะผมว่า แหะๆ
-
เมืองไทย
ถ้าบีบแตรหนึ่งครั้ง แลกกับการโดนปืนจ่อใส่หัว หนึ่งครั้ง พร้อมลูกกระสุน คุณยังจะกล้าบีบไหม?
แต่ปกติ ถ้าผมเจอพวกขับรถงี่เง่า ผมจะบีบแตรแช่ยาวไปเลย คือ ด่า
กระพริบไฟให้ทาง ผมก็ทำครับ แต่นั่นคือ เฉพาะว่า ให้ทางจริงๆ ชะลอให้รถใกล้หยุดสนิท แล้วกระพริบไฟ
เขาจะรู้ความหมายกันดีอยู่แล้วครับ ยังมคนใช้ในความหมายนี้กันอยู่ ไม่ต้องกลัว
-
ถ้าในความหมายของการใช้แตรกับการดริฟไฟในครอบครัวผม
ทั้งคู่ หมายถึง "ขอทาง" ครับ โดยที่จะใช้แตกต่างกันไปแล้วแต่โอกาส
ถ้าถามความคิดของผมกับแม่หรอ
แม่ว่า จะใช้ทำไมดริฟไฟ ดริฟกลางวันหา... อะไร ใครจะไปเห็น
ผมล่ะว่า เอออ ไอ้แตรหนะ ไม่ต้องบีบบ่อยก็ได้ สงวนไว้หน่อย เกิดไปเจอ แว๊นซ์ไผ่เขียว ขึ้นมาล่ะ... ยุ่งเลย
ปล. ถ้าเป็นให้ทางคนอื่นเวลาเลี้ยวตามแยก จะใช้วิชากวักมือให้ไปแทนครับ
-
แล้วแต่ความเข้าใจของแต่ละบุคคล
ผมเข้าใจว่า กระพริบไฟ แสดงว่า เขาให้ทาง > ยกไฟค้าง แสดงว่า มึงอย่าออกนะ
>กระพริบไฟ ขอทาง กับ บอกทาง
ขอทาง - บางทีกระพริบแล้ว เจอคันหน้าเปิดไฟเลี้ยวขวาใส่ แต่บางคันเปิดไฟตัดหมอกใส่ ถนนหลักประเทศไทยตอนนี้เป็นอย่างนี้ ยังดีกว่าเลนส์สวนยกไฟค้างใส่ โคตรอันตราย
บอกทาง - ว่าแค่หน้ามีอุบัติเหตุ กับ ทางหลวง กระพริบให้ระวังอันตราย
แตร เป็นการ "ด่า" มากกว่า "เตือน"
^กระพริบไฟตอนกลางวัน มันเห็นนะครับ
-
มันคนละวัฒนธรรมกัน จะไปเปลี่ยนคงไม่มีทาง เข้าเมืองตาหลิ่ว หลิ่วตาตามดีกว่า
จะไปทำอะไรผิดแปลกจากเค้าโดยที่ไปรณรงค์กับคนในเน็ต ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ฝช้รถไม่ได้มาอ่านหรอก
ผมจึงเห็นว่า มันเป็นยังไงก็ปล่อยมันอย่างนั้น เพราะไปเปลี่ยนไม่ได้แน่ๆ
แต่ละที่ก็สื่อไม่เหมือนกัน เช่นทำมือโอเค คนก็รู้ว่าทำอย่างไร แต่ถ้าไปทำที่บลาซิลมันแปลว่า ตูด ซึ่งเป็นการด่าเค้า
ดังนั้นสังคมไหนทำอย่างไร เราก็ทำตามไปอย่างนั้น การไปทำผิดแปลกจะเป็นภัยมากกว่า
ส่วนการเตือนว่ามีด่านหรือข้างหน้ามีอุบัติเหตุ มันจะรู้โดนจิตสำนึกครับ ถ้ารถ สวนมา 2 คันดิฟให้ เราก็เบาไว้ก่อนเลย
-
มันคนละวัฒนธรรมกัน จะไปเปลี่ยนคงไม่มีทาง เข้าเมืองตาหลิ่ว หลิ่วตาตามดีกว่า
จะไปทำอะไรผิดแปลกจากเค้าโดยที่ไปรณรงค์กับคนในเน็ต ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ฝช้รถไม่ได้มาอ่านหรอก
ผมจึงเห็นว่า มันเป็นยังไงก็ปล่อยมันอย่างนั้น เพราะไปเปลี่ยนไม่ได้แน่ๆ
แต่ละที่ก็สื่อไม่เหมือนกัน เช่นทำมือโอเค คนก็รู้ว่าทำอย่างไร แต่ถ้าไปทำที่บลาซิลมันแปลว่า ตูด ซึ่งเป็นการด่าเค้า
ดังนั้นสังคมไหนทำอย่างไร เราก็ทำตามไปอย่างนั้น การไปทำผิดแปลกจะเป็นภัยมากกว่า
ส่วนการเตือนว่ามีด่านหรือข้างหน้ามีอุบัติเหตุ มันจะรู้โดนจิตสำนึกครับ ถ้ารถ สวนมา 2 คันดิฟให้ เราก็เบาไว้ก่อนเลย
เห็นด้วยอย่างมากเลยครับ +1
-
ถ้าผมจะให้ทาง ผมจะชะลอรถ พอใกล้หยุดผมจึงกระพริบไฟบอกว่าให้ไปได้ จริงๆผมก็ไม่รู้ธรรมเนียมหรือค่านิยมอะไรหรอกครับ แต่เห็นพ่อผมทำบ่อยๆ ผมก็จำเอามาทำตามบ้าง
แต่ก็มีหลายๆครั้งเิวลาที่ผมจะเลี้ยวขวาออกจากซอยเพื่อข้ามไปยังอีกเลนนึง เดี๋ยวจะนึกว่าผมขับตัดข้ามเกาะกลางถนน ที่ใช้ประจำก็ซอยสุขุมวิท 77 หรืออ่อนนุชน่ะครับ ผมก็ทำตามปกติวิสัยที่รถคันอื่นทำ คือเปิดไฟเลี้ยว รถจนแน่ในว่าว่างจึงโผล่ออกไป
ทีนี้บางทีโผล่ออกไปเต็มคันแล้วแต่รถอีกฝั่งยังไม่ว่าง จึงไม่สามารถเลี้ยวได้เต็มคัน ยังจอดขวางถนนอยู่ แต่รถเลนที่วิ่งสวนมาทางขวานั้นก็น่าจะเห็นรถที่จอดรถเพื่อจะเลี้ยวขวา ซึ่งรถมันก็ไม่ใช่คันเล็กๆ แต่พวกก็ยังยกไฟสูงใส่ ซึ่งไม่ใช่นัยยะการให้ทางแน่นอน แต่มันคือมึงกำลังขวางกูอยู่นะ เพราะไม่มีท่าทีที่จะหยุดรถเลย แบบนี้อ่ะคับ เจอบ่อย
ผมอาจจะผิด ที่กีดขวางการจราจร แต่จะให้พุ่งไปชนกับรถที่กำลังมาทางซ้ายหรือไง
-
เห็นด้วยครับ +11111111
ควรรณรงค์ ครับ "กระพริบไฟคือให้ทาง" คำขวัญนี้โดนใจผมมาก ๆครับ
ผมพยายามทำเท่าที่จะทำได้มา เกือบ 20 ปี แล้ว ส่วนใหญ่ได้ผลในกรณีที่เป็นทางร่วมทางแยก และขับไม่เร็วเท่าไร
มี 50 : 50 ที่เข้าใจครับ ส่วนใหญ่จะงง ๆ ไม่กล้าขับออกมา
มีหลายครั้งกระพริบให้ทาง รอตั้งนานก็ไม่ยอมขับออกมา และก็มีหลายครั้ง โดนด่า และชูนิ้วกลางให้ด้วย
ส่วนกรณีที่จะไม่ให้ทาง ผมจะเปิดไฟสูงเลยครับ ส่วนใหญ่คือเราขับมาเร็ว แล้วมีรถขับจี้ตูดอยู่ หากหยุดให้ทางโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงผมใช้ไฟสูงเลย
แต่ที่ทำให้อารมณ์เสียมากที่สุด คือ พอเราให้ทางรถข้างหน้า ไอ้รถที่ตามหลังชอบเปิดไปสูงใส่พร้อมบีบแตรไล่เราด้วย กรณีนี้วิธีที่ผมใช้คือขับช้า ๆ เลย
ให้มันแซงแล้วเปิดไฟบีบแตรใส่มันบ้าง (รถตู้ Taxi รถเมล์ โดยเฉพาะแถวรามคำแหงทั้งเส้นเลยครับ)
ส่วนเรื่องการบีบแตร เพิ่งโดนมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตรงทางโค้งแถวฟิวเจอร์รังสิต เราขับมาในช่องเราปกติ มีรถมอเตอร์ไซด์แซงซ้ายปาดหน้าเรามาออกขวาแล้ววกกลับเข้าซ้าย เราเลยบีบแตรเตือนเบา ๆ 1 ที พี่แกชลอรถยกเท้าให้ แล้วขับหนีไป ลูกผมนั่งมาด้วยถามผมว่าทำไม เราไม่รู้จะตอบยังไงดี
จะขับตามไปถามสักหน่อย ขับตามไปไม่ทัน
-
ต้องปรับเยอะครับ
ปกติ...ผมก็นิสัยคนไทย แต่จะมี 2 แบบ
คือ 2 ทีไม่ให้ไป ถ้าเราชะลอ แล้วกระพริบ 1 ที คือ เชิญ
แตรก็บีบนะ มีแต่คนว่าผมบีบแตรเยอะ ด้วย แต่บางทีบางเหตุการณื ผมว่ามันไม่ร้ายแรงถึงขนาดบีบแตร ผมจะบีบ แตร เช่นเวลากระชั้นชิดแล้ว เชื่อว่าทุกคน ก็เป็น
ถ้าจะปรับนะครับ การขับขี่ ทุกอย่างต้องเริ่มจาก รร. สอนขับรถเลย และ ทำให้เป็นกิจลักษณะ ไม่ใช่ว่า วันนี้นายก. นึกครึ้มใจ อยากสอน ก็ตั้งโต๊ะเปิด รับ แต่มันต้องมีกออกหลักสูตร อย่างถูกต้องจาก กระทรวง และกรมขนส่ง พร้อมการตรวจสอบคุณถาะด้วย
-
บีบแต่ก็มีหลายอารมณ์นะครับ ผมก็บีบประจำเวลาสิบลอเค้าหลบให้แซงบนเขา ก็เห็นเค้าบีบตอบกลับมองดูหน้าตาก็ยิ้มแย้มดี
บีบด่าก็คงจะอีกอารมณ์นึงนะครับ คงจะโดนเบียดตกเขาฮิกินะ ตายไปแล้ว
ส่่วนเรื่องดิฟไฟสูงนี่ เนื่องจากเป็นคนที่เดินทางต่างจังหวัดบ่อยมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ถึงเห็นประโยชน์ของมันมากนะครับ ที่ใช้เป็นการขอทาง
สมัยก่อนทางในไทยมันไม่ได้ดีเหมือนสมัยดี ท่านที่มีอายุ ??? หน่อยคงจะทราบกัน คือถนนมันเป็นสองเลน ไม่มีไหล่ทาง
เวลาจะแซงกันทีก็ต้องวัดดวงกันไป ซึ่งก็จะมีการใช้ไฟสูงนี่แหละ ดิฟใส่อีกเลนเพื่อจะขอทาง หรือ ไล่ให้กลับเข้าเลน
ผมก็ไม่เคยไปเมืองนอกด้วย ก็เลยนึกไม่ค่อยออกว่า ถ้าขับกันมา 120 แซงสิบล้อบนถนนสองเลน ออกมาแล้วเจอรถอยู่เลนสวน จะเตือนเค้าให้ชะลอจะทำยังไงถ้าไม่ดิฟไฟใส่
หรือเราขับอยู่แต่มีรถแซงสวนมาในเลนเรา จะเดือนเค้ายังไงถ้าไม่ดิฟไฟใส่ตั้งแต่เนิ่น ๆ
-
เอาแบบว่าด้วย กม.
พรบ.จราจรทางบก ลักษณะที่ 3 หมวดที่ 2 การขับแซงและผ่านขึ้นหน้า
หมวด 2
การขับแซงและผ่านขึ้นหน้า
มาตรา 44(5) ผู้ขับขี่ซึ่งประสงค์จะขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นในทางเดินรถ ซึ่งไม่ได้แบ่งช่องทางเดินรถไว้ ต้องให้สัญญาณโดยกระพริบไฟหน้าหลายครั้ง หรือให้ไฟสัญญาณยกเลี้ยวขวา หรือให้เสียงสัญญาณดังพอที่จะ ให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถคันหน้าให้สัญญาณตอบตามมาตรา 37 (3) หรือมาตรา 38 (3) และเมื่อเห็นว่าไม่เป็นการกีด ขวางรถอื่นที่กำลังแซงแล้ว จึงจะแซงขึ้นหน้าได้
ส่วนตัวขอทาง จะดิฟไฟ 1-2 ครั้ง ไม่ว่าจะแซงหรือผ่านทางแยกหรือยูเทอร์น ถ้าให้ทางจะหยุดให้เขาไปเลยครับ หรือเขากระพริงไฟขอมาส่วนใหญ่ก็หยุดใหญ่ครับ
-
ที่จริงนะ ผมคิดว่าการบีบแตร กับการกระพริบไฟ ผมคิดว่า ถ้ากระพริบไฟขอทางนี่ ยังสุภาพกว่าบีบแตรนะครับ
-
กระพิบไป
มีอยู่2แบบ
ที่ผมใช้คือ
แบบที่1 ให้ทางตอนที่ ผมช้าอยู่ หรือ จอดอยู่ กระพิบให้ไปหรือใช้มือโบกๆ ครับ
แบบที่2 คือ ขับมาเร็วหน่อย กระพิบไฟ คือขอไปก่อน ถ้าเค้ายังออกมาอีกค่อยบีบแตร และกระพิบไฟ อีก อะครับไม่รู็ถูกไหม
แตรไม่ค่อยใช้ เท่าไรเหมือนด่าอะคับ ;D ;D
-
เมืองไทย
ถ้าบีบแตรหนึ่งครั้ง แลกกับการโดนปืนจ่อใส่หัว หนึ่งครั้ง พร้อมลูกกระสุน คุณยังจะกล้าบีบไหม?
โอ เป็นบ้านเถื่อนเมืองโจรจริงๆครับ
บวกกับการที่บางส่วนที่ไม่ยอมปรับทัศนคติ แม้การเริ่มจากกลุ่มเล็กๆที่เป็นปึกแผ่น จะให้ฝรั่งมองเราเท่าเทียมกับเขามันก็ยากครับ
-
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตามที่ทำให้ของเราไม่เหมือนประเทศอื่น แต่ในเมื่อชินกันอย่างนี้แล้วการไปแก้ 180 องศาแบบนี้ไม่สมควรเพราะโอกาสที่จะเข้าใจกันไม่ทั่วถึงมีสูง
เป็นหน้าที่ของชาวต่างชาติที่มาขับรถในไทยที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบของไทยเอง
ที่น่าจะแก้มากกว่าคือ เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อถึงสี่แยกแล้วจะไปตรง (เห็นบ่อยมาก)