ผมว่าตัวอย่างยังไงก็ไม่จบ อยู่ที่ใจรักมากกว่า พื้นฐานแล้ว คงเลือกเอารถดีไว้ก่อน ในงบที่มีอยู่ แล้วเอามาแต่งเพิ่มเติมทีหลัง
ขอยกตัวอย่างตัวเองเลยดีกว่า ผมออก accord G8 กะมาแต่ง vip ก็เอาตัว 2.0 ก็พอ ขับชิลๆ ออกมาก็ซัด ล้อ 20 โหลดชุดโช๊ค เครื่องเสียงเต็ม ชุดแต่ง เบ็ดเสร็จก็แพงว่าตัว 2.4 พอสมควร ไม่ได้แต่งเครื่องอยู่อย่างเดียว หากทำเครื่องก็คงอีกสัก 1-2 แสน อยู่ที่จะทำ step ไหน
ตอนนี้ออก F30 standard เพียวๆ ขับยังไงก็ดีกว่า accord ที่ทำช่วงล่าง+เปลี่ยนล้อ แบบเต็มๆ คือถึงรถจะใหญ่กว่า แต่การควบคุมสู้ F30 ไม่ได้เลย ถึงแม้จะโหลดลงมา แต่นิ่งสู้ F30 ไม่ได้เลย ขับเร็ว ถึงรถจะใหญ่และโหลดมา แต่มั่นคงสู้ F30 ไม่ได้เลย การควบคุมรถต่างชั้นกันอยู่พอสมควรครับ ก็เข้าใจได้ ทำไม BMW มันถึงแพงกว่า accord ถึง 2 เท่า ทั้งๆ ที่เล็กกว่า พอขับแล้ว คำตอบชัดเจนมากครับ
ดังนั้น เลือกยังไงก็เอารถเดิมๆ ที่ดีที่สุดในงบก่อน แล้วมาแต่งเพิ่มทีหลังครับ
จะเอา D-segment มาเทียบกับ C-segment มันก็ยังงัยอยู่
แต่จากที่ผมอ่านข้อมูลที่คุณบอก แค่ล้อ 20 กับโหลด ก็ไม่ได้ถือว่าแต่งช่วงล่างอะไรหรอกนะครับ เหมือนทำเพื่อความสวยงามมากกว่า
แต่ถ้าจะทำ suspension tuning จริงๆ รายละเอียดมันเยอะ ทั้งเรื่องมุมล้อ roll center ระบบขับเคลื่อน การเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวถัง(ลด chassis flex) การกระจายน้ำหนัก(สามารถทำ corner weight ได้กรณีเป็นปรับเกลียว) เรื่อง unsprung weight รวมถึง aero dynamics ด้วย
รถ segment ต่างกัน target group ก็ต่างกัน ถ้าเทียบ c-segment ทั้งคู่ วิ่ง circuit ผมถือหางรถเบากว่าครับ ถ้าเน้นทางตรงวิ่งเร็วผมถือหางรถหนักกว่า
รถคุณ แม็ก 20 ปรับมุม toe-in รองรับหน้ายางที่กว้างขึ้นหรือยังล่ะครับ รถมันจะได้ไม่เลื้อย
ถ้าจะขับเร็วน่ะ แค่มุม caster ของ bmw ก็มีผลมากแล้ว
ไม่นับมุมที่เหลือ กับ แรงดันลมยางที่่เหมาะสมอีก
ที่ bmw มันแพงเพราะเด่นเรื่อง lightweight technology ที่นำมาใช้กับช่วงล่าง และตัวถังที่มีความแข็งแกร่งแต่น้ำหนักเบา แค่นี้ก็กินขาดเรื่องการขับขี่แล้ว
ยังไม่รวมถึงการ set พวงมาลัยและมุมล้อ กับ ระบบขับเคลื่อนอีก เช่น เฟืองท้าย เกี่ยร์ การกระจายแรงบิด
ฟังหูไว้หูแล้วกันนะครับ มาแชร์ให้ฟัง เพราะว่าผมก็แต่งรถเหมือนกัน แค่จะบอกว่ารายละเอียดการ tune รถมันมากกว่าที่คุณทำอยู่เท่านั้นเอง