ผู้เขียน หัวข้อ: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย  (อ่าน 14768 ครั้ง)

ออฟไลน์ tu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
    • อีเมล์
Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:01:33 »
ผมอยากสอบถามเรื่องการใช้งานตัว Alphard/ Vellfire Hybrid X ว่าที่ผ่านมามีสมาชิกท่านใดได้ใช้แล้วมีปัญหาจุกจิกบ้างมั้ย

ผมจองตัว Vellfire Hybrid X ไป ตอนนี้รอเรื่องเคลียรถออกจากท่าเรือครับ เพราะวุ่นวายกับอัตราภาษีใหม่ คุยกับหลายๆคนก็เตือนว่าระวังจุกจิกเลยค่อนข้างกังวลบ้าง แต่ว่าได้ราคาดีมากเลยคิดว่าก็น่าจะคุ้ม (ทางเกรย์ที่จองไม่ปรับราคาขึ้นแต่บอกว่าถ้าอยากเอาTop เครื่อง 2.5 จะให้ราคาพิเศษและรับรถได้เลย แต่ว่าผมเห็นว่าส่วนต่างเอาไปซื้อ Eco car ได้อีกคันเลยเฉยๆครับ)

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:47:24 »
ผมกับน้องสาว ใช่ ตัวธรรมดาตั้งแต่ล๊อตแรก ปีนึงแล้วไม่มีปัญหาใดๆ ผมซื้อโตต้าไทย น้องสาวซื้อเกรยไม่มีปัญหาทั้งคู่

คนรู้จักที่สนิท แนะนำไปเค้าไปซื้อ ไฮบริดจากเกรย์ ก็ไม่เจอปัญหาอะไร เค้าใช้เยอะด้วยก็ไม่มีอะไรให้บ่น

อยากทราบราคาว่ารุ่นXไฮบริด(เข้าใจว่ารุ่นล่างสุด เบาะเปน8ที่นั่ง) ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ครับ

ออฟไลน์ tu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:57:29 »
ผมกับน้องสาว ใช่ ตัวธรรมดาตั้งแต่ล๊อตแรก ปีนึงแล้วไม่มีปัญหาใดๆ ผมซื้อโตต้าไทย น้องสาวซื้อเกรยไม่มีปัญหาทั้งคู่

คนรู้จักที่สนิท แนะนำไปเค้าไปซื้อ ไฮบริดจากเกรย์ ก็ไม่เจอปัญหาอะไร เค้าใช้เยอะด้วยก็ไม่มีอะไรให้บ่น

อยากทราบราคาว่ารุ่นXไฮบริด(เข้าใจว่ารุ่นล่างสุด เบาะเปน8ที่นั่ง) ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ครับ

ขอบคุณมากครับ

ของผมที่จองไปเป็นตัว 7 ที่นั่งครับ ราคาตอนที่ผมจองไปต่ำกว่า 3 ล้านพอสมควรครับ แต่เห็นทาง Showroom แจ้งว่าภาษีใหม่ปรับขึ้นมาค่อนข้างเยอะแต่ผมยังได้ราคาเดิมเพราะว่าญาติๆผมซื้อรถกับเค้าไปเยอะครับเค้าเลยยอมราคาที่จองไป

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,640
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:58:28 »
ผมว่ารถมันยังใหม่นะและเป็นรถญี่ปุ่นด้วยไม่ใช่รถยุโรป    ไม่น่ามีปัญหาอะไรจุกจิกตามสไตล์โตโยต้า   คงต้องใช้งานระยะยาวถึงบอกได้               ผมก็แอบสนใจเหมือนกันแต่งบประมาณตอนนี้  ไม่ถึงแต่ก็ไม่กล้าเล่นตัวไฮบริดเพราะเสียขึ้นมานี่แพงเลย  อยากได้ตัวธรรมดามากกว่าแต่ดู รีวิวคุณ Nikle pk  แล้วอยากได้ตัว 2.5 ZG  ที่มีระบบเรดาห์จัง    แต่ว่ามันเป็นไฮบริดทุกรุ่นหรือเปล่าไม่แน่ใจ รุ่นมันเยอะเหลือเกิน

ออฟไลน์ tu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:35:08 »
ผมว่ารถมันยังใหม่นะและเป็นรถญี่ปุ่นด้วยไม่ใช่รถยุโรป    ไม่น่ามีปัญหาอะไรจุกจิกตามสไตล์โตโยต้า   คงต้องใช้งานระยะยาวถึงบอกได้               ผมก็แอบสนใจเหมือนกันแต่งบประมาณตอนนี้  ไม่ถึงแต่ก็ไม่กล้าเล่นตัวไฮบริดเพราะเสียขึ้นมานี่แพงเลย  อยากได้ตัวธรรมดามากกว่าแต่ดู รีวิวคุณ Nikle pk  แล้วอยากได้ตัว 2.5 ZG  ที่มีระบบเรดาห์จัง    แต่ว่ามันเป็นไฮบริดทุกรุ่นหรือเปล่าไม่แน่ใจ รุ่นมันเยอะเหลือเกิน

ส่วนใหญ่ตัว Top Radar นั้นไม่ใช่ Hybrid ครับ ราคาที่ญี่ปุ่นตัว Hybrid X กับ ZG ต่างกันแค่ 70,000 Yen พอมาเมืองไทยได้เปรียบเรื่องภาษีHybrid เลยต่างกัน 4-5 แสนเลยครับ ผมเข้าใจว่า Grey เลยเอาตัว Hybrid X มาทำราคาต่ำเลยเพราะOption น้อยกว่า

ออฟไลน์ arya

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:45:12 »
ขอตอบทางกระทู้นี้ เลยนะครับ คุณ tu จะได้เป็นประโยชน์กับท่านอื่นด้วยๆ

ที่ใช้มาถึงตอนนี้ 18,xxx โล แล้ว ยังไม่มีปัญหาใดๆ นะครับ ขับดี เครื่องเงียบ กินน้ำมันเฉลี่ย 12-13 โล/ลิตร ถือว่าประหยัดมาก ในภาพรวมที่บ้านทุกคนพอใจมากครับ เรียกว่าใช้คุ้มเลยครับ

บอกเพิ่มเติมนิดนึง ทริคเล็กๆน้อยๆ เวลาใช้งานครับ

1. ประตูหลัง แม้จะไม่ไฟฟ้า แต่เวลาปิดลงมาปิดเบาๆ ก้อพอครับ เพราะ มันมีระบบดูดไฟฟ้าด้วย งงเบย ไม่มีปิดไฟฟ้า แต่มีดูดไฟฟ้ามา ฮ่าๆๆๆ

2. เวลาจะล็อคประตู ไม่จำเป็นต้องคอยให้ประตูข้างซ้าย-ขวา ไฟฟ้าปิด ก่อน แล้วถึงล็อคประตูทั้งหมดนะครับ เสียเวลาาาา (ตอนแรกไม่รุ้ ต้องยืนคอยให้ประตูสไลด์มาปิดให้เรียบร้อย ผมถึงค่อยสัมผัสมือจับประตูให้ล็อครถ)  ***พึ่งมาค้นพบว่า รถมันสามารถให้เราสัมผัสมือจับประตูให้ล็อคประตูรถทั้งหมดได้เลย โดยไม่ต้องคอยให้ประตูสไลด์ซ้าย-ขวาเลื่อนมาเก็บจนสุด และหลังจากประตูสไลด์เลื่อนมาเก็บเรียบร้อยแล้ว รถมันจะล็อคทั้งหมดให้เองโดยอัตโนมัติ
 (ชอบระบบนี้มากๆๆๆ คนคิด นี่เข้าใจการใช้งานจริงได้ดีมากๆ)

เป็นทริคเล็กๆน้อยๆ ที่ช่วยให้ใช้งานรถได้สะดวกมากขึ้น  แต่หากท่านใดรู้แล้ว ก้อต้องขออภัยถ้ามาปล่อยไก่คับ แฮะๆๆๆ

และผมเข้าเซอร์วิส ที่เกรย์ที่ซื้อมาครับ ไม่มีปัญหาใดๆ จริงๆจะเข้าเซอร์วิสที่โตโยต้า ก้อได้ แต่ไปเข้าที่เกรย์จะได้สบายใจครับ


ยินดีกับรถใหม่ด้วยครับ  :D :D :D

รบกวนคุณ tu พอแง้มราคามาทางหลังไมค์ และ เกรย์ที่ซื้อด้วยได้มั้ยครับ กำลังเชียร์ๆ คนรุ้จักอยู่ครับ เพราะเกรย์ที่ผมซื้อ เค้าก้อปรับราคาไปแล้ว จะลองมาเทียบกันดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2016, 10:54:49 โดย arya »

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 10:54:46 »
ใช้อัลพาดไฮบริด. ของโตโยต้าไทยครับ.  3 เดือน. วิ่ง. 4,000 โล
ไม่มีปันหาใดๆครับ. 
อัตราสิ้นเปลือง. ผมขับเร็วอยู่. 12 โล/ลิตร
ขับแบบรีบๆ. เร่งๆ.  8.2.   โล/ลิตร

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 13:52:50 »
ปัญหาที่น่ากังวลก็คือพวกการเสื่อมสภาพ
ของระบบไฮบิรดล่ะครับ ที่ค่าซ่อมราคาโหดเอาเรื่อง
อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องราคาขายต่อที่อาจจะตกมากหน่อย

นอกนั้นมันเหมือนกัน ใช้งานสบายๆ
เดินทางนุ่มๆไม่ต่างกันแทบทุกรุ่นล่ะครับ

ปล.ยินดีด้วยครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ w212cdi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 718
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 16:00:43 »
ปัญหาที่น่ากังวลก็คือพวกการเสื่อมสภาพ
ของระบบไฮบิรดล่ะครับ ที่ค่าซ่อมราคาโหดเอาเรื่อง
อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องราคาขายต่อที่อาจจะตกมากหน่อย

นอกนั้นมันเหมือนกัน ใช้งานสบายๆ
เดินทางนุ่มๆไม่ต่างกันแทบทุกรุ่นล่ะครับ

ปล.ยินดีด้วยครับ
ถ้าส่วนต่างที่ได้มา คิดแล้วคุ้มค่ากับค่าบำรุงรักษาและราคาที่ตกมากกว่า  เลือก hybrid ก็ได้ครับ

 

ออฟไลน์ mile

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 263
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 21:04:02 »
ใช้ไปเหอะครับไม่มีปัญหาอะไรหรอก  จะนำเข้าจากเกรย์หรือโตโยต้า  มันก็คือรถ CBU เหมือนกันผมก็ใช้ vellfire ZRG อยู่ครับรถเกรย์เหมือนกันตอนนี้ขับมา 40000โลแล้วยังไม่พบปัญหาอะไรเลย  ไปเที่ยวก็สบายความปลอดภัยก็ครบถ้วน  เดินทางไกลผมขับประมาณ 110-120 ก็ได้อยู่ที่ 12โลลิตรซึ่งถ้ามองดีๆๆวิ่งความเร็วเท่านี้กินน้อยกว่า suv นิดหน่อยแต่ความสบายของผู้โดยสารเยอะกว่ามาก  บอกได้เลยว่าคุ้มครับ

ออฟไลน์ tu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 21:18:09 »
ขอบคุณทุกท่านครับ

ตอนแรกจะหนีไปออก BMW 3GT เพราะขี้เกียจรอรถอีก1เดือน แต่ว่าคิดดูแล้วไม่อยากจะต้องซื้อรถอีกเพราะว่าลูกกำลังจะคลอดและตอนนี้รถที่บ้านก็มีแต่SUV ทั้ง VW Toureg และ Harrier และก็กินน้ำมัน 6-7 km/l ทุกคันเลยอยากได้ที่safeน้ำมันหน่อย

ออฟไลน์ Eakkypoo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 21:24:27 »
ผมคนนึงไว้ใจ hybrid ของ โตโยต้าที่สุดครับ
อย่าไปคิดถึงราคาขายต่อ คุณจะสบายใจกับมันมากครับ
ถึงเวลาบำรุงรักษาก็เปลี่ยนไปตามอายุครับ
ขายก็ถือว่าใช้คุ้มมากแล้ว

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 21:49:51 »
ผมใช้ Alphard Executive Lounge Hybrid รับรถมาต้นปีครับวิ่งไป  17,000 กิโลได้ครับ
ปกติดีทุกอย่างครับกินน้ำมัน 12-13 โดยประมาณถ้าไม่เหยีบมากถ้าซิ่งๆหน่อยก็ 11 กลางๆครับ

โดยรวมตอนนี้ปกติดีหลักๆไฮบริดเกียร์อย่าข้างเกียร์ D ไว้นานครับมีผลต่อระบบถ้าติดไฟแดงแล้วใส่ N ดีกว่าไม่งั้นปั๊มเบรค ABS จะเสียไวมากครับ
ถ้าผมไม่ได้ราคาตัว  Executive Lounge Hybrid พอดีได้ราคาดีมากๆเลยรีบเอามาจะไป 3.5 ก็ราคาแรงเกิน

โดยถ้าโจทย์ผมไม่ได้อยากได้  Executive Lounge ผมจะเลือกเครื่องธรรมดาครับ
จริงอยู่ว่า  Executive Lounge เครื่อง Hybrid แพงสุดในไลน์ที่ญี่ปุ่นไม่นับตัวโครตพิเศษ (Royal lounge hybrid)
แต่พอมาไทยด้วยภาษีคิดไม่เหมือนกันกลายเป็น 3.5 แพงสุดทั้งที่จริงๆราคาออปชั่นเท่ากันที่ญี่ปุุ่น Hybrid แพงสุดครับ

ที่นี่ถ้าถามถึงเหตุผลถ้าผมยังไม่ได้ซื้อและไม่ได้ราคาถูกกว่าปกติมาผมจะเลือกจากเหตุผลตามนี้ครับ
1.ระยะทางต่อปีรวมทั้งจำนวนปีที่ใช้ครับ
2.ขับเองบ่อยแค่ไหนหรือมีคนขับให้
3.คิดว่าจะขายตอนอายุรถกี่ปี
4.เข้าใจการใช้งานพอสมควรไม๊ถ้าเลือกไฮบริดกรณีนี้ถ้ามีคนขับใช้เวลาทำความเข้าใจนิดนึงครับ
5.ถ้าวิ่งน้อยและจอดนานๆบ่อยตัวทิ้งได้เลยครับแบตจะเสื่อมเร็วมากๆไม่แนะนำตรงกันข้ามถ้าวิ่งหนักมากๆก็ไปไวเหมือนกัน

สรุปถ้าไม่ต้องการ Executive Lounge (จริงๆราคาทั่วไปในไทยพอๆกับไฮบริด)เล่นตัวรองลงมาพวก Alphard SC Vellfire ZG
ใช้งานระยะยาววิ่งเยอะหรือน้อยสบายใจกว่าครับระยะยาวการดูแลระบบถูกกว่าและปัญหากรณีถ้าเกิดจะแก้ไขได้ง่ายกว่าครับ
จริงๆตัวไฮบริดรุ่นใหม่ทนขึ้นมมากครับปรับปรุงหลายส่วนแต่ผมเลือกที่จะตัดปัญหาดีกว่าไฮบริดต้องดูแลมากกว่าหน่อยครับ

สำหรับผมถ้าต้องการออปชั่นเกือบเต็มขาดแค่รายละเอียดภายในนิดหน่อยตัว 2.5 SC / ZG คุ้มค่าเงินมากครับออปชั่นเกือบเต็มแล้วได้ชุดแต่งกันชนสปอร์ตด้วยไฟหน้าหลังลมดำบางคันที่เข้ามาสั่งออปชั่นเพิ่มแบบตัว Executive Lounge คือ + ลำโพง JBL 17 ลำโพง มาด้วยก็น่าสนครับถ้าไม่ซีเรียสก็ทำเองร้าน

ข้างนอกดีๆที่ทำมาหลายคันก็มีเยอะครับส่วนรุ่นรองลงมาก็เลือกตามความเหมาะสมการใช้งานครับคุ้มทุกรุ่นเป็นรถที่ดีมากๆครับใช้งานได้หลากหลายขับก็ดีด้วยคุ้มกับการลงทุนเงินที่จ่ายเพื่อรถราคานี้น่าจะต้นๆตอนนี้แล้วเป็นไปได้ผมแนะนำว่าเพิ่มออปชั่น Radar ไปด้วยครับได้ใช้แน่ๆรถมันขับนิ่มมากมีเผลอเหมือนกันเตือนช่วยได้เยอะครับ

ขอให้ได้รถถูกใจครับ ส่วนฟิล์มแนะนำ 3M Crystalline C40 รอบคันสวยและกันร้อนดีครับ


ออฟไลน์ tu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
    • อีเมล์
Re: Toyota Alphard/ Vellfire Hybrid X จุกจิกมั้ย
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:19:53 »
ผมใช้ Alphard Executive Lounge Hybrid รับรถมาต้นปีครับวิ่งไป  17,000 กิโลได้ครับ
ปกติดีทุกอย่างครับกินน้ำมัน 12-13 โดยประมาณถ้าไม่เหยีบมากถ้าซิ่งๆหน่อยก็ 11 กลางๆครับ

โดยรวมตอนนี้ปกติดีหลักๆไฮบริดเกียร์อย่าข้างเกียร์ D ไว้นานครับมีผลต่อระบบถ้าติดไฟแดงแล้วใส่ N ดีกว่าไม่งั้นปั๊มเบรค ABS จะเสียไวมากครับ
ถ้าผมไม่ได้ราคาตัว  Executive Lounge Hybrid พอดีได้ราคาดีมากๆเลยรีบเอามาจะไป 3.5 ก็ราคาแรงเกิน

โดยถ้าโจทย์ผมไม่ได้อยากได้  Executive Lounge ผมจะเลือกเครื่องธรรมดาครับ
จริงอยู่ว่า  Executive Lounge เครื่อง Hybrid แพงสุดในไลน์ที่ญี่ปุ่นไม่นับตัวโครตพิเศษ (Royal lounge hybrid)
แต่พอมาไทยด้วยภาษีคิดไม่เหมือนกันกลายเป็น 3.5 แพงสุดทั้งที่จริงๆราคาออปชั่นเท่ากันที่ญี่ปุุ่น Hybrid แพงสุดครับ

ที่นี่ถ้าถามถึงเหตุผลถ้าผมยังไม่ได้ซื้อและไม่ได้ราคาถูกกว่าปกติมาผมจะเลือกจากเหตุผลตามนี้ครับ
1.ระยะทางต่อปีรวมทั้งจำนวนปีที่ใช้ครับ
2.ขับเองบ่อยแค่ไหนหรือมีคนขับให้
3.คิดว่าจะขายตอนอายุรถกี่ปี
4.เข้าใจการใช้งานพอสมควรไม๊ถ้าเลือกไฮบริดกรณีนี้ถ้ามีคนขับใช้เวลาทำความเข้าใจนิดนึงครับ
5.ถ้าวิ่งน้อยและจอดนานๆบ่อยตัวทิ้งได้เลยครับแบตจะเสื่อมเร็วมากๆไม่แนะนำตรงกันข้ามถ้าวิ่งหนักมากๆก็ไปไวเหมือนกัน

สรุปถ้าไม่ต้องการ Executive Lounge (จริงๆราคาทั่วไปในไทยพอๆกับไฮบริด)เล่นตัวรองลงมาพวก Alphard SC Vellfire ZG
ใช้งานระยะยาววิ่งเยอะหรือน้อยสบายใจกว่าครับระยะยาวการดูแลระบบถูกกว่าและปัญหากรณีถ้าเกิดจะแก้ไขได้ง่ายกว่าครับ
จริงๆตัวไฮบริดรุ่นใหม่ทนขึ้นมมากครับปรับปรุงหลายส่วนแต่ผมเลือกที่จะตัดปัญหาดีกว่าไฮบริดต้องดูแลมากกว่าหน่อยครับ

สำหรับผมถ้าต้องการออปชั่นเกือบเต็มขาดแค่รายละเอียดภายในนิดหน่อยตัว 2.5 SC / ZG คุ้มค่าเงินมากครับออปชั่นเกือบเต็มแล้วได้ชุดแต่งกันชนสปอร์ตด้วยไฟหน้าหลังลมดำบางคันที่เข้ามาสั่งออปชั่นเพิ่มแบบตัว Executive Lounge คือ + ลำโพง JBL 17 ลำโพง มาด้วยก็น่าสนครับถ้าไม่ซีเรียสก็ทำเองร้าน

ข้างนอกดีๆที่ทำมาหลายคันก็มีเยอะครับส่วนรุ่นรองลงมาก็เลือกตามความเหมาะสมการใช้งานครับคุ้มทุกรุ่นเป็นรถที่ดีมากๆครับใช้งานได้หลากหลายขับก็ดีด้วยคุ้มกับการลงทุนเงินที่จ่ายเพื่อรถราคานี้น่าจะต้นๆตอนนี้แล้วเป็นไปได้ผมแนะนำว่าเพิ่มออปชั่น Radar ไปด้วยครับได้ใช้แน่ๆรถมันขับนิ่มมากมีเผลอเหมือนกันเตือนช่วยได้เยอะครับ

ขอให้ได้รถถูกใจครับ ส่วนฟิล์มแนะนำ 3M Crystalline C40 รอบคันสวยและกันร้อนดีครับ

ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะมากๆครับ
ผมใช้เฉลี่ยเดือนละ 1,000-1,200 กม. ปีละประมาณ15,000 กม. ครับ คันนี้ผมกะใช้งานประมาณ 7-8 ปี จะขับเองเป็นส่วนใหญ่ ถ้าใช้คนขับผมใช้ VW Caravelle แทนครับ ที่จริงที่บ้านมี Toyota Vellfire โฉมเก่าอีกคัน แต่กินน้ำมันพอควรเลยอยากลอง Hybrid ดูบ้างเพราะใช้ในเมืองหรือเดินทางใกล้ๆครับ

ส่วนฟิล์มจอง 3M Crystalline ไปตอนmotor show แล้วครับ  เครื่องเสียงก็เตรียมดูไว้แล้วครับผม