Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TCP ที่ ตุลาคม 26, 2019, 18:34:25
-
https://www.toyota.co.th/sales_volume/search/0_09_2018_09_2019
ยอดขายรถยนต์ในประเทศ เดือนกันยายน 2562 รวมทั้งหมด 76,195 คัน
ต่ำกว่า กันยายน 61 (88,706 คัน) ถึง .. -14.10% !!!
จะเป็นข่าวดังแค่ไหน ก็.. รอดูกัน ก็ละกัน
-
เป็นไปได้ไหมว่าคนส่วนใหญ่รอรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันเยอะมากทุก segment ในช่วงนี้ไปถึงช่วงปลายปี
-
เป็นไปได้ไหมว่าคนส่วนใหญ่รอรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันเยอะมากทุก segment ในช่วงนี้ไปถึงช่วงปลายปี
ยอดลดลงแทบทุกยี่ห้อ ไม่น่าจะเกี่ยวกับรอรถรุ่นใหม่
-
เป็นไปได้ไหมว่าคนส่วนใหญ่รอรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันเยอะมากทุก segment ในช่วงนี้ไปถึงช่วงปลายปี
ยอดลดลงแทบทุกยี่ห้อ ไม่น่าจะเกี่ยวกับรอรถรุ่นใหม่
คิดว่าเกี่ยวครับ เพราะรถรุ่นที่จะออกใหม่ปลายปี เป็นรถทำยอดทั้งนั้น
-
ผมว่าน่าจะกระทบจาก เงินได้ปกติของคนทั่วไปด้วยครับ office ผมเลย์คนออกในระยะ 1 ปีครึ่งนี้ไป 155 คนแล้วครับ
-
น่าจะเกี่ยวกันหมดทั้งเศรษฐกิจทั้งรอรุ่นใหม่แหละครับ
-
สถานการณ์ไม่เหมือนกันนะครับ
ปีที่แล้ว. มีall new ของรุ่นยอดนิยมมั้ย
-
ซับฯเค้าหยุดโรงงานกันเลยก็ไม่แปลกนะ
-
เงินบาทแข็ง
ค่าแรงแพง
นักลงทุนย้ายฐาน
ส่งออกตก
-
กันยายน 2561 รวมทั้งหมด 88,706 คัน
กันยายน 2562 รวมทั้งหมด 76,195 คัน
ส่วนต่าง 12,513 คัน
ตัวเลขมันไม่ได้ต่างจนน่ากลัวขนาดนั้น ส่วนต่างเกือบ 50% มาจากกลุ่มกระบะเกือบ 7,000 คัน ในนี้เป็นยอด isuzu เกือบ 3000 คันที่หายไป
ถามว่าทำไมยอดกลุ่มกระบะโดยเฉพาะของ isuzu ยี่ห้อเดียวถึงลดลงเกือบ 3000 คัน เพราะคนรอกระบะ isuzu ตัวใหม่เปิดตัวครับ
กลุ่มลูกค้าที่รอซื้อกระบะต่างก็รอดูกระบะคันใหม่ของ isuzu ทั้งนั้นครับ การที่ยอดขายจะลดลงเยอะก็ไม่แปลกอะไร
การดูแค่ตัวเลขไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าไหร่นะครับ เราต้องทำตัวเลขนั้นมาทำการวิเคราะห์ด้วย
-
เป็นไปได้ไหมว่าคนส่วนใหญ่รอรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันเยอะมากทุก segment ในช่วงนี้ไปถึงช่วงปลายปี
ยอดลดลงแทบทุกยี่ห้อ ไม่น่าจะเกี่ยวกับรอรถรุ่นใหม่
คิดว่าเกี่ยวครับ เพราะรถรุ่นที่จะออกใหม่ปลายปี เป็นรถทำยอดทั้งนั้น
จะออกรุ่นใหม่กันทุกยี่ห้อเลยหรือ
-
สงสัยชะลอไว้รอซื้อตอนสิ้นปี
-
เคยบอกแล้วว่ามันขายได้น้อยลงจริงๆ บางคนก็เถียงเอาๆ
-
ไม่ดีหรอเห็นชอบบ่นรถเยอะมากทำให้รถติด
-
คิดอะไรได้แบบนั้นครับ
ส่วนตัวผมเฉยๆ ไม่มีนัยยะสำคัญอะไรเลย
-
ตอนนี้ที่บ้านมีรถเฉลี่ยคนละ 1.4 คัน แล้ว
คือมีของใครของมันคันนึง
และก็มีรถกระบะ 1 กับ 7 ที่นั่ง 1 ไว้นานๆใช้ที
อายุรถก็ 1-12 ปี ซึ่งมันยังขับได้ดีอยู่ทั้งนั้น
เทียบสมัยก่อนที่บ้านนึงมีแค่คันเดียวเอง
ผมมองว่ามันเป็นช่วงอิ่มตัวมากกว่า
-
เงินหายาก เพราะอะไร ไปหาเอาเอง และแนวโน้มใอ้ที่หายากๆ ก็จะยากไปอีก
คนที่คิดใด้ ไม่อยากเจ็บตัว ลำบากต้องเอาของเก่ามาใช้ ก็อยู่เฉยๆ ใช้เก่าๆไป
วัยรุ่นสร้างตัว อยากใด้ไหม่ เอาไรซื้อละ เงินมันหาไม่ใด้ ไม่มีให้หา
ชนชั้นกลางทั้งหลาย ขออยู่นิ่งๆ ใช้เท่าที่จำเป็น เศรษฐกิจไม่เดิน ไม่มีการ ซื้อ ขาย
เศรษฐกิจโลกไม่ดี อันนี้ส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยใหนละ
-
รอรุ่นใหม่ ผมว่าไม่เกิน 1%
แต่แบบผมนี่สิ เกิน 10% คือมันควรเปลี่ยนรถแล้วทั้ง 2 คัน เพราะ 2xx,xxx กม.ไปแล้ว แต่ดูจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เลยขับๆไปก่อน ถ้าไม่พังคาเท้าคงยังไม่ซื้อใหม่
-
ยังไม่เท่าไรครับ เดี๋ยวจะหนักกว่านี้ ไม่เฉพาะรถ ตราบใดที่ สภาพการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่
ปีก่อน เผาหลอก ปีนี้เผาจริง ปีหน้าเริ่มทัวร์นรก...
ผมเตรียมตัวรับมือตั้งแต่ปี 47 แล้วตั้งแต่คุณสนธิ เอาประชาธิปไตยลงถนนโน่น
ผมปลอดภัย
-
ภาวะมันอึนๆ คนจำนวนหนึ่งเค้าไม่อยากขยับตัวมาก อะไรสิ้นเปลืองก็รอๆไปก่อน .. อย่างผมอยากได้ BRZ เงินสดในมือก็พอ หรือจะผ่อนเงินเดือนก็สบายๆ ยังดึงๆไปก่อนเลยครับ
-
ช่วง 5 ปีรัฐบาลทหารไทยไม่มี FTA เลย พึ่งส่งออกกับท่องเที่ยวมาตลอด แถมยังโดนตอดเรื่องแรงงานสิทธิมนุษยชนอีก ล่าสุดเมื่อวันศุกร์โดนทรัมป์ตัด GSP แล้วเป็นผลมาจากปี 2559 พอเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยก็เริ่มๆ FTA แต่คงไม่ดีขึ้นเร็วนัก ต้องค่อยๆ
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คสช โทษหนี้ครัวเรือนที่สูงมาจากรถคันแรก แต่ผ่านมากี่ปีแล้วหนี้ครัวเรือนกลับยังสูงอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะลด ผลจากรถคันแรกน่าจะหมดไปแล้ว แถมรายได้ก็ไม่เพิ่มขายของก็ไม่ดี ปีนี้พระเอก 2 ตัวที่เคยช่วยรัฐบาลมาตลอดหลายปีโดนสงครามการค้าทำให้ส่งออกหด ท่องเที่ยวก็ชะลอตัวลงเพราะโตมาจนไปไม่ไหวละ GDP ปีนี้ถึงได้ออกมาเละค่อนข้างแน่ ที่ผ่านๆ มาหลายปีรัฐบาลทหารกินบุญเก่าจากท่องเที่ยว ส่งออกมานาน GDP ถึงได้ออกมาดีตลอด ตอนนี้ไม่มีตัวช่วยแล้ว
หนี้ครัวเรือนสูงคนจะเอาเงินที่ไหนซื้อรถใหม่ รายได้ไม่เพิ่ม หนี้มาก เหลือบริโภคน้อย กระทบเป็นลูกโซ่ไป คนรวยมีเงินจริง แต่บริโภคน้อย เศรษฐกิจถึงแย่แบบนี้
ไทยก็เปรียบเหมือนบริษัทที่ไม่หาลูกค้าใหม่เลยมา 5 ปีแล้วกินรายได้จากลูกค้าเก่ามาตลอด รายได้มีแต่เท่าเดิมกับลดลง พอเลือกตั้งก็เริ่มหาลูกค้าใหม่ แต่ฟื้นไม่เร็วนัก แล้วยังมีเรื่องรถไฟฟ้าอีก กระทบยอดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยซัมมิทพอสมควร ไหนจะยัง GSP ที่โดนไปเมื่อวันศุกร์ ไม่แน่ใจว่ามีพวกชิ้นส่วนรถยนต์ด้วยหรือไม่ ถ้าโดนด้วยยอดรถในอนาคตน่าจะแย่ลงอีก
GDP = C+I+G+X-M ไทยเป็นประเทศส่งออก X ด้องไปแล้ว C ก็ห่วยแตก I ไม่ต้องพูดถึงเอกชนไม่ลงทุนมานานแล้วเก็บเงินสด กำลังการผลิตก็เหลือ นี่ยังไม่พูดถึง structure ที่ไทยผ่านช่วงแรงงานสูงสุดไปแล้วนะ หลังจากนี้มีแต่จะ down ลง เศรษฐกิจไทยมองแล้วส่ายหัว
เชื่อผมเถอะ คนเดิมถ้าแก้ได้ เขาคงแก้ไปนานแล้ว 5 ปีที่ผ่านมาเราถอยหลังค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แกใช้แต่นักการเงินฝ่ายเดียว แทนที่จะระดมสมองจากทั้งหมด ถ้าไม่มีคนใหม่มา ก็โบกมือลาได้เลย ปีนี้ส่งออกเวียดนามแซงเราแล้วนะจ้ะ ไม่เกิน 10 ปี per capita เวียดนามน่าจะสูงกว่าไทย ตอนนี้รอ FTA อย่างเดียว ว่าพี่แกจะคิดได้เมื่อไรว่าจะเร่งทำ และมีความสามารถพอไหม ผมเชื่อว่าไม่อีกนั่นแหละ เห็นแต่โม้แหละที่เก่ง
-
ต่อไป รถไฟฟ้าเปิดบริการได้ทั่วกรุงเทพฯ แล้วยอดขายรถใหม่น้อยลง คือเศรษฐกิจไม่ดีหรือเปล่าครับ ...
-
เรื่องศก. ผมไม่ค่อยชำนาญการมากนัก ไม่ขอพูดละกัน แต่อยากจะบอกว่า ผมเป็น distributor กับเวียดนามอยู่ ผมสงสัยว่าทำไมคนไทยเราชอบ overrated ประเทศนี้จังเลย ไม่ใช่เพิ่งเป็น เป็นมาเป็นสิบปีแล้ว ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและกีฬา ส่วนเรื่อง GDP per capita มีประเด็นนึงที่น่าคิดคือ "เวียดนามประชากรมากกว่าเรา 30 ล้านคน"
ส่วนเรื่องยอดขายรถ ก็ตามนั้นแหละครับ ผมว่าก็ดี มีแพลนจะเปลี่ยนรถอยู่ เงื่อนไขจะได้โอเค
-
ปลายปีรถใหม่เปิดตัวก็จริง แต่คนไม่มีเงินซื้อก็เท่านั้น
ใช้คันเก่าซ่อมคันเก่าใช้ไปก่อน ในแวดวงคนรู้จักคือซื้อกันตั้งแต่สมัยลดภาษีแสนบาทก็ยังไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนเลย
-
ผมเอายอด 9 ยี่ห้อแรก ทั้งของปีนี้ ปีที่แล้ว และความคิดเห็น มาโพสต์เพิ่มนะครับ
อันดับ..ยี่ห้อ........ยอดขาย............ปีนี้ vs ปีที่แล้ว
.....................ก.ย.61....ก.ย.62
1....Toyota.....28,760...24,595.....ลดลงหลายพันคัน
2....Isuzu.......13,030...10,660.....ลด 2 พันกว่าคัน > มีอ้างว่า รอรุ่นใหม่ออก
3....Honda.....11,282...10,363.....ลดลงแค่ไม่ถึงพันคัน
4....Mitsu........7,128.....7,583.....ยอดดีกว่าเดิมเล็กน้อย
5....Nissan.......6,266.....5,105.....ยอดตกลงพันคัน คิดเป็น 18%
6....Mazda.......5,880.....4,561.....ยอดตกลงพันกว่าคัน คิดเป็น 22%
7....Ford..........6,029.....3,478.....ยอดตกลง 2 พันกว่าคัน คิดเป็น > 40% !!!
8....Suzuki.......2,271.....1,905.....ยอดตกลง 16%
9....Chevrolet..1,470.......935.....ยอดตกลง 36% !!!
เอาไปดูละกัน ...
-
ผมว่าก็ดีแล้ว จริงๆรถใช้งานได้นาน คนโดนกระตุ้นมากๆ ก็เลยอยากเปลี่ยนก่อนเวลา
ลดความฟุ้งเฟ้อลงบ้าง ปกติเหมือนหนูถีบจักร ขยันทำงานเอาไปสร้างหนี้ให้นายทุนรวย
-
ผมคิดว่า "ความเป็นจริง" ที่พวกเรารู้อยู่แก่ใจดีและมันค่อย ๆ ส่งผล โดยที่พวกเราไม่ได้คิดปรับตัวกันเท่าไหร่ก็คือ
"ความสามารถในการแข่งขัน" ซึ่งช่องห่างระหว่างประเทศที่มีความแข่งชันสูงกับเรา มันจะห่างอย่างเร็วขึ้น
โดยเฉพาะในยุคที่ technology disruption เข้ามาแล้ว
เรื่องพวกนี้ส่งผลถึงเศรษฐกิจโดยตรง และคนที่จะแก้ได้ ไม่ใช่ชี้นิ้วไปที่หน้าที่ของคนกลุ่มคนใดกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียว
เหมือนที่ผ่าน ๆ มา แต่ทุกอย่างมันต้องอาศัยกำลังคนทุกคนอย่างพวกเรานี่แหละครับ ที่จะต้องช่วยกันสร้างมูลค่าเพิ่ม
จากการทำงานของพวกเราทุกคน พวกเราต้องขยันขึ้น ต้องเก่งขึ้น ต้องทำเพื่อภาพรวมมากขึ้นครับ ถึงจะพา
ประเทศนี้ให้ดีขึ้นได้ เพราะถ้าพวกเราทุกคนยังทำอะไร ๆ แบบเดิม สร้างปัญหาแบบเดิม ๆ เหมือนที่พวกเราเห็นในข่าว
ทุกวันนี้ แล้วโยนหน้าที่ไปให้ภาครัฐอย่างเดียว ยังไงก็ไม่รอดครับ
-
เป็นไปได้ไหมว่าคนส่วนใหญ่รอรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันเยอะมากทุก segment ในช่วงนี้ไปถึงช่วงปลายปี
ยอดลดลงแทบทุกยี่ห้อ ไม่น่าจะเกี่ยวกับรอรถรุ่นใหม่
คิดว่าเกี่ยวครับ เพราะรถรุ่นที่จะออกใหม่ปลายปี เป็นรถทำยอดทั้งนั้น
จะออกรุ่นใหม่กันทุกยี่ห้อเลยหรือ
ถึงจะไม่ซื้อ Isuzu ก็จะรอดูครับ มีส่วนแน่นอน
-
ผมคิดว่า "ความเป็นจริง" ที่พวกเรารู้อยู่แก่ใจดีและมันค่อย ๆ ส่งผล โดยที่พวกเราไม่ได้คิดปรับตัวกันเท่าไหร่ก็คือ
"ความสามารถในการแข่งขัน" ซึ่งช่องห่างระหว่างประเทศที่มีความแข่งชันสูงกับเรา มันจะห่างอย่างเร็วขึ้น
โดยเฉพาะในยุคที่ technology disruption เข้ามาแล้ว
เรื่องพวกนี้ส่งผลถึงเศรษฐกิจโดยตรง และคนที่จะแก้ได้ ไม่ใช่ชี้นิ้วไปที่หน้าที่ของคนกลุ่มคนใดกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียว
เหมือนที่ผ่าน ๆ มา แต่ทุกอย่างมันต้องอาศัยกำลังคนทุกคนอย่างพวกเรานี่แหละครับ ที่จะต้องช่วยกันสร้างมูลค่าเพิ่ม
จากการทำงานของพวกเราทุกคน พวกเราต้องขยันขึ้น ต้องเก่งขึ้น ต้องทำเพื่อภาพรวมมากขึ้นครับ ถึงจะพา
ประเทศนี้ให้ดีขึ้นได้ เพราะถ้าพวกเราทุกคนยังทำอะไร ๆ แบบเดิม สร้างปัญหาแบบเดิม ๆ เหมือนที่พวกเราเห็นในข่าว
ทุกวันนี้ แล้วโยนหน้าที่ไปให้ภาครัฐอย่างเดียว ยังไงก็ไม่รอดครับ
+1 ครับ
ยอมรับครับ ว่าส่วนหนึ่งของความอึนๆของผม มากจากรู้สึกว่าตื่นขึ้นมาวันนึงแล้วเพิ่งรู้สึกตัวว่าประสบการณ์ทำงาน 20 ปี มันไม่พอที่จะพาบริษัทไปสู้กับคนอื่นในอีก 5 ปี 10 ปีได้ มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ ซึ่งก็ไม่รู้จะทำได้ขนาดไหน เรื่องฟุ่มเฟือยเลยยังดึงไว้อยู่ รอดูจังหวะชีวิตในอีกสัก 3 เดือน 6 เดือน
-
ที่คุยๆกับคนรู้จักหลายคน ปีนี้ยาวจนปีหน้า น่าจะรัดเข็มขัดกันหมด ตั้งรับเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกปีหน้า
-
จะเร่งยอดขายให้โตขึ้นเรื่อยเพื่อให้เศรษฐกิจโตตาม ผมละไม่เห็นด้วยเลย เพราะสร้างสภาวะมลพิษจากขยะ ควันพิษ ปัญหาที่จอดรถ การจราจรที่อาจทำให้รถติดยิ่งกว่าเดิม รวมไปถึงการทำให้เราจะต้องมาพึ่งพาแต่ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์เพียงอย่างเดียวจนไม่คิดว่าจะมีช่องทางอื่นมาเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างานให้กับแรงงานคนไทย อย่างปัจจุบันที่ประเทศไทยเราทำตัวเป็นดีทรอยแห่งที่2 เมื่อเกิดการที่ยอดขายตกลงหรือย้ายฐานการผลิต ก็ทำให้กระทบในหลายภาคส่วนเลยทีเดียว
-
ผมคิดว่า "ความเป็นจริง" ที่พวกเรารู้อยู่แก่ใจดีและมันค่อย ๆ ส่งผล โดยที่พวกเราไม่ได้คิดปรับตัวกันเท่าไหร่ก็คือ
"ความสามารถในการแข่งขัน" ซึ่งช่องห่างระหว่างประเทศที่มีความแข่งชันสูงกับเรา มันจะห่างอย่างเร็วขึ้น
โดยเฉพาะในยุคที่ technology disruption เข้ามาแล้ว
เรื่องพวกนี้ส่งผลถึงเศรษฐกิจโดยตรง และคนที่จะแก้ได้ ไม่ใช่ชี้นิ้วไปที่หน้าที่ของคนกลุ่มคนใดกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียว
เหมือนที่ผ่าน ๆ มา แต่ทุกอย่างมันต้องอาศัยกำลังคนทุกคนอย่างพวกเรานี่แหละครับ ที่จะต้องช่วยกันสร้างมูลค่าเพิ่ม
จากการทำงานของพวกเราทุกคน พวกเราต้องขยันขึ้น ต้องเก่งขึ้น ต้องทำเพื่อภาพรวมมากขึ้นครับ ถึงจะพา
ประเทศนี้ให้ดีขึ้นได้ เพราะถ้าพวกเราทุกคนยังทำอะไร ๆ แบบเดิม สร้างปัญหาแบบเดิม ๆ เหมือนที่พวกเราเห็นในข่าว
ทุกวันนี้ แล้วโยนหน้าที่ไปให้ภาครัฐอย่างเดียว ยังไงก็ไม่รอดครับ
โดนใจสุดๆครับ ถ้าเราเอาแต่นั่งรอให้รัฐบาลไม่ว่าจะฝั่งไหนแก้ แต่ตัวเองไม่ทำอะไร มันก็จะอยู่อย่างนี้ครับ
-
กันยายน เป็นช่วง low season ด้วยนะครับ
-
รถญี่ปุ่นยอดขายตกลง อันนี้ผมไม่แปลกใจ เพราะ ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยเอื้ออำนวยการค้าขายเท่าไหร่
แต่ที่น่าตกใจคือ ยอดขายรถพรีเมี่ยม ค่อยๆขยับขึ้นเรื่อยๆ ???
-
กันยายน เป็นช่วง low season ด้วยนะครับ
ผมเพิ่งกลับมาย้อนอ่านกระทู้เก่าๆ ก็วันนี้นะครับ
เห็นคอมเม้นต์นี้ เลยจะขอตอบว่า ... ไม่น่ามีส่วน .. เพราะมันก็เดือนกันยายน เหมือนกันทั้ง 2 ปีครับ
(ผมเอายอดขาย กันยายน 62 เทียบกับ กันยายน 61 ครับ)