ขออนุญาตแชร์ความเห็นในฐานะเจ้าของรถ TOYOTA Camry 2012 2.0 G เลขไมล์ปัจจุบัน 16,XXX km ออกรถเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 55 ซึ่งถือว่าเป็นล็อตแรกๆ ที่เปิดตัวนะครับ
เดิมทีเดียวที่บ้านไม่ค่อยใช้รถตลาด ที่ใช้งานอยู่จะเป็น
- NISSAN NEO 1.6 AT + LPG ( ปี 2001 ) ขายออกเพื่อซื้อ Camry คันนี้
- NISSAN TIIDA 5Dr. 1.6 AT (ปี 2006 ) ใช้งานปรกติ
- Mazda 3 1.6 AT + LPG ( ปี 2005 ) ใช้งานปรกติ
เมื่อต้นปี 55 ต้องการจะให้รางวัลตัวเอง และครอบครัว(คุณพ่อ คุณแม่) เป็นรถ D-Segment 1 คัน ตัวผมเองอายุ 31 ปี ตำแหน่งงานเป็น Middel Management (Sales Manager) ซึ่งก็ถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของรถ size นี้
ผมเป็นคนชอบรถมาตั้งแต่เด็ก ศึกษาเรื่องรถมาโดยตลอด รถที่ใช้อยู่ส่วนตัวคือ Mazda 3 1.6 + LPG ซึ่งเป็นอะไรที่ห่างไกลจากความเป็นรถตลาดมากพอสมควร แม้เครื่องยนต์ตอบสนองไม่ดีนัก แต่พวงมาลัยที่แม่นยำ หนักหน่วง และช่วงล่าง เฟิร์มๆ ก็ทำให้ขับสนุกเหลือเชื่อ
เมื่อจะซื้อรถ D-Segment ซักคัน ก็น่าจะเป็น NISSAN TEANA เพราะที่บ้านก็ใช้ NISSAN หลายคัน แถมในเว็บที่เกี่ยวกับรถยนต์ นักท่องเว็บทุกท่านก็ทราบดีว่า กระแสของ TEANA ดีกว่าในแง่สมรรถนะ ผมเองก็เป็นประเภท เฉยๆกับโตโยต้า ถึงขั้นเบื่อ
แล้วทำไมเลือก Camry ?? 1. ในบริบทนั้น ( พ.ค. 55 ) ACCORD และ TEANA ใกล้ตกรุ่น
2. ผมรู้สึกว่า Camry โมเดลนี้สวย
(สงสัยเริ่มแก่) คือมันสวยแบบเมียหลวงอ่ะครับ นิ่งๆ เรียบๆ ไม่หวือหวา แต่ สง่า
3. ไม่ชอบ เกียร์ CVT เป็นการส่วนตัว
4. เกิดอยากลองใช้รถตลาดขึ้นมากระทันหัน อยากรู้ทำไมคนขับกันลึ่มๆ
5. จากข้อ 4 เป็น D-Segment คันแรก ที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรง จึงต้องการความมั่นใจในแบรนด์และศูนย์บริการ (รถราคาล้านกว่าๆ คงไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ)
6. ข้อนี้อาจจะแปลกๆ ผมรู้สึกชอบ ที่ Camry 2012 2.0 G วาง เครื่องยนต์เดิม + เกียร์ Auto 4 speed เพราะเครื่องและเกียร์ตัวนี้ได้พิสูจน์ตัวมันเองมายาวนาน (โดยเฉพาะพี่ๆ แท็กซี่สนามบิน) ถ้าผมขับใช้งานปรกติ มันควรรับใช้ผมได้ไม่ต่ำกว่า 300,000 km แบบไม่ต้องลุ้น
7. เมื่อเครื่องยนต์และเกียร์ AUTO 4 Speed เดิม ที่พิสูจน์ตัวเองมาเป็นระยะเวลานาน ในด้าน Reliability ถูกนำมาปรับจูนใหม่ แล้ววางบนตัวถังและระบบรองรับที่ได้รับการปรับปรุง (ACV 50 เบากว่า ACV 40 ประมาณ 80 kg) ทำให้การขับขี่ เป็นที่พึงพอใจแล้วสำหรับผม (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
8. อัตราเร่ง เพียงพอ ถึงเกินพอในรุ่น 2.0 รถมีแรงบิดมาให้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง แม้ตัวจะใหญ่ แต่ขับได้อย่างไม่อึดอัด จนรู้สึกแปลกใจในความคล่องและปราดเปรียว คือมันไม่ได้แรงเหมือนรถ D-Segment เครื่อง 2.5 หรือ ตัว HV นะครับ แต่สามารถ ออกตัว เร่งแซง แม้แต่กระชากรถ ในบางจังหวะ ที่ต้องการ Power แบบปัจจุบันทันด่วน ถือเป็นเครื่อง 2.0 ที่ขยันเกินตัว TOP SPEED เกิน 200 km/Hr หรือถ้าจะขับเรื่อยๆ ก็สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ที่ 14.5 km/l (E20) ที่ความเร็ว cruise speed 110 km/Hr
9. ราคาขายต่อในอนาคตซึ่งค่อนข้างมั่นใจ ว่าดีกว่าเพื่อนๆ ในกลุ่ม
ข้อเสีย - อย่างที่เราๆ ท่านๆทราบก็คือ Option ที่ถูกตัดออกหลายรายการ แต่ผมเฉยๆ เพราะนี่เป็น Entry Level D-Segment Car คันแรกของผม เอาแบบบ้านๆ เลยก็คือ ได้ขับ Camry ตอนอายุ สามสิบก็ดีใจมากมายแล้ว
ตอบคำถาม จขกท. ยังมั่นใจว่า Toyota สามารถรักษาแชมป์ไว้ได้ แต่การแข่งขัน น่าจะสนุกขึ้น โดยยอดขายรวมจะยังทิ้งห่าง เบอร์สอง อย่างน้อย 1 เท่าตัวครับ
PS. เมื่อไร MAZDA 6 มา อาจมีการนอกใจเกิดขึ้นครับ หึหึ