Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nnss ที่ พฤษภาคม 25, 2021, 16:49:30
-
พอดีช่วงนี้มีแววว่าจะ WFH ไปยาวๆทำให้ใช้รถค่อนข้างน้อยมากๆ แล้วมาคิดว่าทำ ป1 ราคาเต็มๆจะไม่คุ้ม
พอดีจำได้ว่ามีประกันรถเปิดปิดแบบเติมชั่วโมงอยู่เจ้านึง น่าจะตอบโจทย์ตรงนี้ แต่ไม่รู้เงื่อนไขเท่าไหร่
สอบถามมีใครเคยใช้ประกันเปิดปิดแบบนี้บ้างไหมครับ เรื่องทุนประกัน การเคลมยากไหม ลืมปิดเปิดเขามีหลักการอะไร
เห็นช่วงหลังเขามีกล่องไว้เสียบกับช่อง usb รถแล้วกันคนลืมเปิดปิด ประมาณว่าสตาร์ทรถก็ไฟเข้ากล่องเปิด ดับรถไฟตัดกล่องปิด
คิดว่าจะคุ้มค่าเงินไหมครับ คิดว่าจะเติมแบบ 30-90 วันไปเรื่อยๆจนถึงวันที่ต้องกลับไปใช้รถทุกวัน ถึงเวลานั้นค่อยไปเริ่มทำประกันเต็มๆทีเดียว
-
ผมว่าคุ้มอยู่นะ ผมก็มองๆไว้ เหมาะกับคนมีรถหลายคันด้วยครับ
-
ลองดูตัวตามไมล์ ของทิพยะเผื่อด้วยครับ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้
-
สนใจอยู่เหมือนกันครับ
-
มีใครเคยใช้แล้วได้ลองคำนวณจุดคุ้มทุนบ้างมั๊ยครับว่าใช้รถถึงจุดไหนแล้วจะเริ่มไม่คุ้ม เห็นโฆษณามานานแต่ผมก็ยังไม่เห็นภาพอยู่ดีว่าจะถูกลงสักแค่ไหน
-
ใช้อยู่กับรถสองคันที่บ้านครับ (อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวใช้ครั้งแรกทั้งสองคัน และยังไม่เคยเคลมอะไรนะครับ) เพราะรถทั้งสองคันใช้น้อยครับ คันนึง 9 ปี อีกคันนึง 8 ปี ทั้งสองคันวิ่งมาเฉลี่ยแค่ 6-7 หมื่นโลเอง
ข้อดี
1. เบี้ยถูก 4900 เองครับ ผมใช้แบบเติมชั่วโมงท๊อปอัพเอาครั้งละ 400 ได้ 50 ชม. (ตกชม.ละ 8 บาทรับได้)
2. ระบบหลังบ้านเค้าถือว่าโอเคครับ ตอบไลน์ไว พนักงานพูดจาเป็นมิตรดี มีโทรมาเตือนถ้าชั่วโมงใกล้หมด
3. สะดวกดีเวลาต่อชั่วโมง เข้าเค้าเตอร์เซอร์วิชตามร้านสะดวกซื้อก็โชว์บาร์โค๊ดให้เขายิงจ่าย (มีค่าธรรมเนียม 20 บาท) หรือตัดบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ผ่านแอปครับ
4. อันนี้ชอบมาก เหมือนคุณว่าสตราทเครื่องเวลาประกันก็เดิน ดับเครื่องเวลาประกันก็หยุด (ถ้าใช้งานในเมืองนะครับ ถ้าใช้นอกเมืองเดี๋ยวมาบอกเป็นข้อเสีย)
ข้อเสีย
1. ระบบเปิดปิดมีรวนบ้างเวลาออกนอกเมืองหรือขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ รถดับเครื่องเวลาก็จะรันต่อไป ต้องคอยเช็คคอยปิดเอง หรือบางทีอยู่ในเมืองสตราทรถแล้ว กว่าจะเข้าระบบอีกพักโตก็มีให้เห็นบ้างแต่ไม่บ่อยครับ
2. ต่อจากข้างบน ระบบจะคืนชั่วโมงบ้างไม่คืนชั่วโมงบ้าง
3. เท่าที่อ่านมาการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก 3000 - 5000 (แล้วแต่รูปแบบว่าเราจะใช้เปิดปิดรายชั่วโมงหรือเปิดปิดรายแพ็คเกจ ถ้าอย่างหลังค่าส่วนแรกก็แพงหน่อย) แต่ผมยังไม่เคยเคลมนะครับ ถ้าเคลมแล้วจะมาแจ้งอีกทีว่าคุยง่ายหรือคุยยาก
สรุปมันก็เป็นอีกนวตกรรมแหละครับ ถ้าปรับตัวและยอมรับบ้างว่ามันคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก มันก็มีเอ๋อๆ เบลอๆ บ้างในแบบของมัน แต่โดยรวมสำหรับผมข้อดีมากกว่าข้อเสียครับ (ถ้าใช้รถน้อยนะ ถ้าใช้รถเยอะใช้ปะกันแบบปกติเถอะครับ)
-
ใช้อยู่กับรถสองคันที่บ้านครับ (อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวใช้ครั้งแรกทั้งสองคัน และยังไม่เคยเคลมอะไรนะครับ) เพราะรถทั้งสองคันใช้น้อยครับ คันนึง 9 ปี อีกคันนึง 8 ปี ทั้งสองคันวิ่งมาเฉลี่ยแค่ 6-7 หมื่นโลเอง
ข้อดี
1. เบี้ยถูก ผมใช้แบบเติมชั่วโมงท๊อปอัพเอาครั้งละ 400 ได้ 50 ชม. (ตกชม.ละ 8 บาทรับได้)
2. ระบบหลังบ้านเค้าถือว่าโอเคครับ ตอบไลน์ไว พนักงานพูดจาเป็นมิตรดี มีโทรมาเตือนถ้าชั่วโมงใกล้หมด
3. สะดวกดีเวลาต่อชั่วโมง เข้าเค้าเตอร์เซอร์วิชตามร้านสะดวกซื้อก็โชว์บาร์ให้เขายิงจ่าย หรือตัดบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ผ่านแอปครับ
4. อันนี้ชอบ เหมือนคุณว่าสตราทเครื่องเวลาประกันก็เดิน ดับเครื่องเวลาประกันก็หยุด (ถ้าใช้งานในเมืองนะครับ ถ้าใช้นอกเมืองเดี๋ยวมาบอกเป็นข้อเสีย)
ข้อเสีย
1. ระบบเปิดปิดมีรวนบ้างเวลาออกนอกเมืองหรือขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ รถดับเครื่องเวลาก็จะรันต่อไป ต้องคอยเช็คคอยปิดเอง หรือบางทีอยู่ในเมืองสตราทรถแล้ว กว่าจะเข้าระบบอีกพักโตก็มีให้เห็นบ้างแต่ไม่บ่อยครับ
2. ต่อจากข้างบน ระบบจะคืนชั่วโมงบ้างไม่คืนชั่วโมงบ้าง
3. เท่าที่อ่านมาการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก 3000 - 5000 (แล้วแต่รูปแบบว่าเราจะใช้เปิดปิดรายชั่วโมงหรือเปิดปิดรายแพ็คเกจ ถ้าอย่างหลังค่าส่วนแรกก็แพงหน่อย) แต่ผมยังไม่เคยเคลมนะครับ ถ้าเคลมแล้วจะมาแจ้งอีกทีว่าคุยง่ายหรือคุยยาก
สรุปมันก็เป็นอีกนวตกรรมแหละครับ ถ้าปรับตัวและยอมรับบ้างว่ามันคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก มันก็มีเอ๋อๆ เบลอๆ บ้างในแบบของมัน แต่โดยรวมสำหรับผมข้อดีมากกว่าข้อเสียครับ (ถ้าใช้รถน้อยนะ ถ้าใช้รถเยอะใช้ปะกันแบบปกติเถอะครับ)
สอบถาม400บาท 50ชม ต้องใช้ภายในกี่วันครับราคานี้
-
ใช้อยู่กับรถสองคันที่บ้านครับ (อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวใช้ครั้งแรกทั้งสองคัน และยังไม่เคยเคลมอะไรนะครับ) เพราะรถทั้งสองคันใช้น้อยครับ คันนึง 9 ปี อีกคันนึง 8 ปี ทั้งสองคันวิ่งมาเฉลี่ยแค่ 6-7 หมื่นโลเอง
ข้อดี
1. เบี้ยถูก ผมใช้แบบเติมชั่วโมงท๊อปอัพเอาครั้งละ 400 ได้ 50 ชม. (ตกชม.ละ 8 บาทรับได้)
2. ระบบหลังบ้านเค้าถือว่าโอเคครับ ตอบไลน์ไว พนักงานพูดจาเป็นมิตรดี มีโทรมาเตือนถ้าชั่วโมงใกล้หมด
3. สะดวกดีเวลาต่อชั่วโมง เข้าเค้าเตอร์เซอร์วิชตามร้านสะดวกซื้อก็โชว์บาร์ให้เขายิงจ่าย หรือตัดบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ผ่านแอปครับ
4. อันนี้ชอบ เหมือนคุณว่าสตราทเครื่องเวลาประกันก็เดิน ดับเครื่องเวลาประกันก็หยุด (ถ้าใช้งานในเมืองนะครับ ถ้าใช้นอกเมืองเดี๋ยวมาบอกเป็นข้อเสีย)
ข้อเสีย
1. ระบบเปิดปิดมีรวนบ้างเวลาออกนอกเมืองหรือขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ รถดับเครื่องเวลาก็จะรันต่อไป ต้องคอยเช็คคอยปิดเอง หรือบางทีอยู่ในเมืองสตราทรถแล้ว กว่าจะเข้าระบบอีกพักโตก็มีให้เห็นบ้างแต่ไม่บ่อยครับ
2. ต่อจากข้างบน ระบบจะคืนชั่วโมงบ้างไม่คืนชั่วโมงบ้าง
3. เท่าที่อ่านมาการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก 3000 - 5000 (แล้วแต่รูปแบบว่าเราจะใช้เปิดปิดรายชั่วโมงหรือเปิดปิดรายแพ็คเกจ ถ้าอย่างหลังค่าส่วนแรกก็แพงหน่อย) แต่ผมยังไม่เคยเคลมนะครับ ถ้าเคลมแล้วจะมาแจ้งอีกทีว่าคุยง่ายหรือคุยยาก
สรุปมันก็เป็นอีกนวตกรรมแหละครับ ถ้าปรับตัวและยอมรับบ้างว่ามันคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก มันก็มีเอ๋อๆ เบลอๆ บ้างในแบบของมัน แต่โดยรวมสำหรับผมข้อดีมากกว่าข้อเสียครับ (ถ้าใช้รถน้อยนะ ถ้าใช้รถเยอะใช้ปะกันแบบปกติเถอะครับ)
Top upแบบนี้ต้องมีจ่ายเงินก้อนแรกเป็นตัวหลักก่อนมั๊ยครับ
-
ใช้อยู่กับรถสองคันที่บ้านครับ (อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวใช้ครั้งแรกทั้งสองคัน และยังไม่เคยเคลมอะไรนะครับ) เพราะรถทั้งสองคันใช้น้อยครับ คันนึง 9 ปี อีกคันนึง 8 ปี ทั้งสองคันวิ่งมาเฉลี่ยแค่ 6-7 หมื่นโลเอง
ข้อดี
1. เบี้ยถูก ผมใช้แบบเติมชั่วโมงท๊อปอัพเอาครั้งละ 400 ได้ 50 ชม. (ตกชม.ละ 8 บาทรับได้)
2. ระบบหลังบ้านเค้าถือว่าโอเคครับ ตอบไลน์ไว พนักงานพูดจาเป็นมิตรดี มีโทรมาเตือนถ้าชั่วโมงใกล้หมด
3. สะดวกดีเวลาต่อชั่วโมง เข้าเค้าเตอร์เซอร์วิชตามร้านสะดวกซื้อก็โชว์บาร์ให้เขายิงจ่าย หรือตัดบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ผ่านแอปครับ
4. อันนี้ชอบ เหมือนคุณว่าสตราทเครื่องเวลาประกันก็เดิน ดับเครื่องเวลาประกันก็หยุด (ถ้าใช้งานในเมืองนะครับ ถ้าใช้นอกเมืองเดี๋ยวมาบอกเป็นข้อเสีย)
ข้อเสีย
1. ระบบเปิดปิดมีรวนบ้างเวลาออกนอกเมืองหรือขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ รถดับเครื่องเวลาก็จะรันต่อไป ต้องคอยเช็คคอยปิดเอง หรือบางทีอยู่ในเมืองสตราทรถแล้ว กว่าจะเข้าระบบอีกพักโตก็มีให้เห็นบ้างแต่ไม่บ่อยครับ
2. ต่อจากข้างบน ระบบจะคืนชั่วโมงบ้างไม่คืนชั่วโมงบ้าง
3. เท่าที่อ่านมาการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก 3000 - 5000 (แล้วแต่รูปแบบว่าเราจะใช้เปิดปิดรายชั่วโมงหรือเปิดปิดรายแพ็คเกจ ถ้าอย่างหลังค่าส่วนแรกก็แพงหน่อย) แต่ผมยังไม่เคยเคลมนะครับ ถ้าเคลมแล้วจะมาแจ้งอีกทีว่าคุยง่ายหรือคุยยาก
สรุปมันก็เป็นอีกนวตกรรมแหละครับ ถ้าปรับตัวและยอมรับบ้างว่ามันคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก มันก็มีเอ๋อๆ เบลอๆ บ้างในแบบของมัน แต่โดยรวมสำหรับผมข้อดีมากกว่าข้อเสียครับ (ถ้าใช้รถน้อยนะ ถ้าใช้รถเยอะใช้ปะกันแบบปกติเถอะครับ)
สอบถาม400บาท 50ชม ต้องใช้ภายในกี่วันครับราคานี้
ไม่จำกัดว่าต้องภายในกี่วันครับ เคยทิ้งรถไว้ 1 เดือนก็เติมไว้ 50 ชม. ก็ผ่านมาแล้วไม่มีปัญหาครับ (พอดีคุณน้าไปต่างประเทศเลยเติมชม.ทิ้งไว้ครับ)
-
ใช้อยู่กับรถสองคันที่บ้านครับ (อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวใช้ครั้งแรกทั้งสองคัน และยังไม่เคยเคลมอะไรนะครับ) เพราะรถทั้งสองคันใช้น้อยครับ คันนึง 9 ปี อีกคันนึง 8 ปี ทั้งสองคันวิ่งมาเฉลี่ยแค่ 6-7 หมื่นโลเอง
ข้อดี
1. เบี้ยถูก ผมใช้แบบเติมชั่วโมงท๊อปอัพเอาครั้งละ 400 ได้ 50 ชม. (ตกชม.ละ 8 บาทรับได้)
2. ระบบหลังบ้านเค้าถือว่าโอเคครับ ตอบไลน์ไว พนักงานพูดจาเป็นมิตรดี มีโทรมาเตือนถ้าชั่วโมงใกล้หมด
3. สะดวกดีเวลาต่อชั่วโมง เข้าเค้าเตอร์เซอร์วิชตามร้านสะดวกซื้อก็โชว์บาร์ให้เขายิงจ่าย หรือตัดบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ผ่านแอปครับ
4. อันนี้ชอบ เหมือนคุณว่าสตราทเครื่องเวลาประกันก็เดิน ดับเครื่องเวลาประกันก็หยุด (ถ้าใช้งานในเมืองนะครับ ถ้าใช้นอกเมืองเดี๋ยวมาบอกเป็นข้อเสีย)
ข้อเสีย
1. ระบบเปิดปิดมีรวนบ้างเวลาออกนอกเมืองหรือขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ รถดับเครื่องเวลาก็จะรันต่อไป ต้องคอยเช็คคอยปิดเอง หรือบางทีอยู่ในเมืองสตราทรถแล้ว กว่าจะเข้าระบบอีกพักโตก็มีให้เห็นบ้างแต่ไม่บ่อยครับ
2. ต่อจากข้างบน ระบบจะคืนชั่วโมงบ้างไม่คืนชั่วโมงบ้าง
3. เท่าที่อ่านมาการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก 3000 - 5000 (แล้วแต่รูปแบบว่าเราจะใช้เปิดปิดรายชั่วโมงหรือเปิดปิดรายแพ็คเกจ ถ้าอย่างหลังค่าส่วนแรกก็แพงหน่อย) แต่ผมยังไม่เคยเคลมนะครับ ถ้าเคลมแล้วจะมาแจ้งอีกทีว่าคุยง่ายหรือคุยยาก
สรุปมันก็เป็นอีกนวตกรรมแหละครับ ถ้าปรับตัวและยอมรับบ้างว่ามันคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก มันก็มีเอ๋อๆ เบลอๆ บ้างในแบบของมัน แต่โดยรวมสำหรับผมข้อดีมากกว่าข้อเสียครับ (ถ้าใช้รถน้อยนะ ถ้าใช้รถเยอะใช้ปะกันแบบปกติเถอะครับ)
Top upแบบนี้ต้องมีจ่ายเงินก้อนแรกเป็นตัวหลักก่อนมั๊ยครับ
รถผมกับรถคุณน้าผม เรทก้อนแรกเท่ากันครับคือ 4900 (รถญี่ปุ่นซิตี้คาร์-อีโคคาร์เล็กๆ อายุการใช้งานตามที่ผมบอกไปข้างต้นครับ) ที่สำคัญได้ป.1 ด้วยครับ
-
ถ้าจอดรถข้างทางถ้ามีรถมาชน ประกันจะจ่ายไหมครับเพราะเรายังไม่ได้ขับ
-
ถ้าจอดรถข้างทางถ้ามีรถมาชน ประกันจะจ่ายไหมครับเพราะเรายังไม่ได้ขับ
เท่าที่เคยถามก่อนซื้อประกันเปิดปิดตัวนี้ หากเป็นยานพาหนะที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกมาชนเรา (ไม่ใช่เราไหลไปชนเขานะครัย) คุ้มครองแม้จะดับเครื่องอยู่ครับ แต่หากชนแล้วหนีเราก็ต้องวุ่นวายหน่อยคือไปหาหลักฐานมาเช่นกล้องวงจรปิดไรงี้ครับ
-
ลองดูตัวตามไมล์ ของทิพยะเผื่อด้วยครับ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้
เติมไมล์ของทิพย์แอบแพงครับ 5,000 โล ล่อไป 9,000 บาทแล้ว
ถ้า 10,000 โลก็ 14,000 ผมแทบได้ประกันธรรมดาเลย (ปีละประมาณ 17,000++)
ตอนนี้ดูน่าสนใจคือเปิดปิดแบบ 120 วัน 360 ชั่วโมงครับ ราคาประมาณ 3000+- 300 (ตามทุนประกันเพิ่มแสนละ 300)
-
ผมใช้อยู่นะ มันมีเอ๋อๆบ้างนานๆที แต่เขาบอกว่าจะคืนชั่วโมงให้เวลามันเอ๋อ แนะนำให้เสียบตลอด มันจะเก็บข้อมูลไว้ในเครื่อง แล้วต่อได้เมื่อไหร่จะอัพเดททีหลัง ซึ่งผมขับรถไม่เยอะเท่าไหร่ เลยไม่กระทบมาก
ผมมองว่าคุ้มดี รอบหน้าคงซื้อแบบ 365 วัน 960ชม จบๆ ประหยัดดี
-
น่าสงสัยตอนที่รถจอดแล้วดันมีอุบัติเหตุนี่หล่ะครับ ...
-
น่าสงสัยตอนที่รถจอดแล้วดันมีอุบัติเหตุนี่หล่ะครับ ...
เท่าที่เคยถามก่อนซื้อประกันเปิดปิดตัวนี้ หากเป็นยานพาหนะที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกมาชนเรา (ไม่ใช่เราไหลไปชนเขานะครับ) คุ้มครองแม้จะดับเครื่องอยู่ครับ แต่หากชนแล้วหนีเราก็ต้องวุ่นวายหน่อยคือไปหาหลักฐานมาเช่นกล้องวงจรปิดไรงี้ครับ
-
ผมก็ใช้อยู่ครับ จะครบ 1 ปีแล้ว
เดิมใช้ ป.1 ปกติเบี้ย 12,000-14,000 บาทมาตลอด
รถ Altis ปี2012 ทุน 3 แสน
ผมได้โปร 3,900 บาท จ่ายครั้งแรกมี 50 ชม. แถมให้
หลังจากนั้นก็ 50 ชม. 400 บาท ครับ
ข้อดี
1.คุ้มค่าสำหรับรถใช้น้อย วิ่งน้อย
2.จอดรถทิ้งไว้ ดับเครื่องก็คุ้มครอง แต่ต้องหาเลขทะเบียนคู่กรณีที่มาชนเราให้ได้
3.แอปจะเตือนเราทุกครั้งที่เราบิดกุญแจ ON ใครเอารถเอาไปใช้งานก็รู้หมด
4.ดูตำแหน่งเราผ่านแอปได้ แต่ก็ได้แค่คร่าวๆ ไม่ค่อยแม่นเท่าไร
ข้อเสีย
1.ตัว TVI ที่เสียบ USB มีทำงานผิดอยู่ 7-8 ครั้งได้ ดับเครื่องไปแล้ว แต่เวลายังเดินต่อ
แต่ตัวแอป จะแจ้งเตือนในมือถือ ถ้าเวลาเดินไปถึง 2 ชม.
2.เวลาที่เสียไปฟรีๆ จะได้คืนตามวิธีการคำนวนของบริษัทฯ แต่ได้คืนช้าไปหน่อย แล้วมีได้คืนไม่ครบบ้าง
3.ถ้าไม่มีคู่กรณี เสียค่าเปิดเคลม 3,000 บาท ครับ
-
อ่านเงื่อนไขดีๆนะครับ แล้วอย่าลืมมา ปิด-เปิด ด้วยนะครับ