Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กันยายน 30, 2015, 22:27:02
-
พอดีวันนี้ฝนตกอากาศเย็นก็เลยปิดแอร์ครับ รถผมจะมีบอกว่าใช้น้ำมันต่อชั่วโมงเท่าไร ปกติขึ้นว่า 1.6-1.7 L/Hour เวลาจอด ทีนี้พอผมปิดแอร์ มันเหลือแค่ 1.0-1.1 L/Hour ก็เลยลองขับไปทั้งๆ ที่ไม่เปิดแอร์น่ะแหละ ปรากฏว่ากินน้ำมันน้อยลงประมาณ 1.2 km/l เลยครับ แถมรถยังออกตัวแบบพรวดๆ อีกต่างหาก ก่อนหน้านี้คิดว่ารถหนักหน้ายางกว้างเลยออกตัวยาก กลายเป็นพอปิดแอร์ ออกตัวพุ่งจนตกใจเลย
เลยสงสัยว่าแอร์รถผมมันกินน้ำมันมากผิดปกติมั้ยครับ แล้วมันมีวิธีแก้อาการรถหน่วงเพราะเปิดแอร์มั้ย
-
ตอบเรื่อง หน่วงเพราะเปิดแอร์ละกันครับ ไม่มีวิธีแก้ครับ พอเราเปิดแอร์มันจะสับคลัทคอมแอร์เพื่อให้มันทำงาน ก็เอาเครื่องยนต์มาปั่นนี่แหละครับ
-
เจ้าต้า ecoboost ผมก็กินประมาณนี้แหล่ะครับ
ถ้าเครื่องอุ่นแล้วจอดเฉยๆ 1.5-1.9 ปิดแอร์ 1.1-1.5 ถ้าเครื่องเย็นก็ 3/2.5
ต้า 1.6 ของเพื่อนจะประมาณ 2.4/1.9
s80 d3 ได้ 1.5/0.9 สตาร์ทเฉยๆประหยัดกว่า 3 สูบอีก
ปล.ขอถามเพิ่มเติม นอกจาก ford กับ volvo แล้วมีเจ้าไหนทำอัตราการกินน้ำมันตอนอยู่นิ่งออกมาอีกบ้างครับ
-
เอาแบบมโนของตัวเองนะ..
รถใหญ่ ค่าเปลี่ยนแปลงน้อย รถเล้กค่าจะเปลี่ยนเยอะ เพราะกำลังมันน้อย แต่รถใหญ่ค่าการใช้ก็จะสูงกว่า......
หากเป็นเครื่อง สามพัน ค่าแทบจะไม่แตกต่าง บอกก่อนว่ามโนครับ
-
ผมเคยทดลอง แบบ HLM กับ Civic FD จอดเฉยๆเปิดแอร์เย็นสุด 1ชม.
เติมนำ้มันกลับประมาณ 400cc
แต่ไม่เคยลองแบบ ติดเครื่องอย่างเดียวโดยไม่เปิดแอร์
-
เคยลองกับ Ford Kuga 1.6 Ecoboost ที่นิวซีแลนด์
จอดปิดฮีตเตอร์ 1.1-1.2 l/h เปิดฮีตเตอร์ 1.6-1.7 l/h
-
มันต่างกันเยอะจริงๆครับ ผมเคยเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ถ้าขับรถอยู่ที่นั่นช่วงอากาศเย็นๆหน่อยไม่มีใครเปิดแอร์ในรถ เพราะฉะนั้นจะเห็นความแตกต่างเยอะพอสมควร แต่อากาศที่นั่นเย็น น้ำมันหดตัว เพราะฉะนั้นจะไม่ประหยัดเท่าอากาศอุณหภูมิอย่างบ้านเราครับ แต่เพราะอุณหภูมิอย่างบ้านเรา เราจึงต้องเปิดแอร์ เอาง่ายๆผมขับรถไฮบริดอยู่ตอนนี้ เวลาขับไปไหนใกล้ๆผมจะไม่เปิดแอร์ แบตผมชาร์จเต็ม ระยะการวิ่งระหว่างเปิดแอร์กับไม่เปิดนี่ต่างกันเยอะอยู่พอสมควร แล้วคิดดูสิครับว่าถ้าเป็นเครื่องยนต์ มันต้องใช้น้ำมันเยอะขนาดไหนในการปั่นไฟให้กับระบบแอร์
-
ฟอร์ดเหรอครับ บอกconsumtionเป็นliters/hourได้ด้วย แปลกดีครับ
-
เฟียสต้าผมตอนคอมแอร์ไม่ทำงานมันอยู่ 0.8-0.9 ล./ชม.
แต่พอคอมแอร์ทำงานก็ยังได้แค่ 1.1-1.3 ล./ชม. เองนะครับ
ไม่เคยได้เกิน 1.5
-
เคยลองทดสอบกับรถ HV
ถ้าเปิดแอร์จาก 80-160 กดเตมเท้า แบตจากเตมๆ (6หลอด เหลือ 3 หลอดเลยทีเดียว)
แต่ถ้าปิดแอร์ กดคันเร่งแบบเดิม ทำ 2-3 รอบ กว่าแบตจะลดไปเหลือ 3 หลอดเท่ากัน
ถ้าเปนรถที่ใช้ทำมันทั่วไปน่าจะอยากที่ จขกท. และท่านอื่นๆว่าแหละครับ
-
เจ้าต้า ecoboost ผมก็กินประมาณนี้แหล่ะครับ
ถ้าเครื่องอุ่นแล้วจอดเฉยๆ 1.5-1.9 ปิดแอร์ 1.1-1.5 ถ้าเครื่องเย็นก็ 3/2.5
ต้า 1.6 ของเพื่อนจะประมาณ 2.4/1.9
s80 d3 ได้ 1.5/0.9 สตาร์ทเฉยๆประหยัดกว่า 3 สูบอีก
ปล.ขอถามเพิ่มเติม นอกจาก ford กับ volvo แล้วมีเจ้าไหนทำอัตราการกินน้ำมันตอนอยู่นิ่งออกมาอีกบ้างครับ
รถผม MG6 ครับ อยากประหยัดน้ำมัน แต่ปิดแอร์ทุกวันคงไม่ไหว ร้อน 555
-
เอาแบบมโนของตัวเองนะ..
รถใหญ่ ค่าเปลี่ยนแปลงน้อย รถเล้กค่าจะเปลี่ยนเยอะ เพราะกำลังมันน้อย แต่รถใหญ่ค่าการใช้ก็จะสูงกว่า......
หากเป็นเครื่อง สามพัน ค่าแทบจะไม่แตกต่าง บอกก่อนว่ามโนครับ
ยืนยันว่าจริงครับ
เหมือนอัตตราเร่งที่รถเล็กเปิดกับปิดแอร์จะต่างกันชัดเจน ในขณะที่รถเครื่องใหญ่นี่แทบไม่ต่างเลยครับ
ลองมากับตัว
-
รถคันเก่าSunny Neo ปุ่มปิดคอมแอร์ = Power Booster
ปิดทุกครั้งตอนเร่งแซง รถแรงขึ้นอย่างรู้สึกได้
-
focus mk3 2.0 L ที่รอบเดินเบา อุณหภูมิภายนอก 30 องศาC
ปิดแอร์ 0.9-1.0 Litre/Hour
เปิดแอร์ 1.1-1.3 Litre/Hour
-
Audi A8 อ่านได้ตอนเปิดแอร์จะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเกือบๆครึ่งลิตรต่อชั่วโมงครับ ตั้งอุณหภูมิไว้ที่21องศาครับ
-
เฟียสต้าผมตอนคอมแอร์ไม่ทำงานมันอยู่ 0.8-0.9 ล./ชม.
แต่พอคอมแอร์ทำงานก็ยังได้แค่ 1.1-1.3 ล./ชม. เองนะครับ
ไม่เคยได้เกิน 1.5
ผมก็ได้ประมาณนี้นะ ตัว1.6
-
ไม่รู้ว่าปกติไหม
แต่ครูซ ที่ผมขับ กินกว่านี้เยอะครับ เรียกว่ายกซดเลยหล่ะ
-
เจ้าต้า ecoboost ผมก็กินประมาณนี้แหล่ะครับ
ถ้าเครื่องอุ่นแล้วจอดเฉยๆ 1.5-1.9 ปิดแอร์ 1.1-1.5 ถ้าเครื่องเย็นก็ 3/2.5
ต้า 1.6 ของเพื่อนจะประมาณ 2.4/1.9
s80 d3 ได้ 1.5/0.9 สตาร์ทเฉยๆประหยัดกว่า 3 สูบอีก
ปล.ขอถามเพิ่มเติม นอกจาก ford กับ volvo แล้วมีเจ้าไหนทำอัตราการกินน้ำมันตอนอยู่นิ่งออกมาอีกบ้างครับ
Audi VW Seat Skoda