ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4  (อ่าน 15118 ครั้ง)

ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 11:55:25 »
1)  C Coupe กับ E Coupe ใช้ตัวถังเดียวกัน แต่ทำไมราคาต่างกัน ทั้งๆที่ Optionในเมืองไทยพอพอกัน CC อาจจะต่างแต่ราคาไม่น่าจะต่างกันถึง 5แสน

2) ถ้าเอา Series 4 มาเทียบกับ C Coupe กับ E Coupe  Positionมันควรจะอยู่ ที่ C Coupe  แต่ทำไมราคาถึงพอพอกับ E Coupe (กำไรเกินงามรึเปล่า)

3) จากทั้ง2ข้อที่กล่าวมา  ทำให้สรุปได้ว่า Series 4 ต้องการที่จะสู้กับ E Coupe และต้องการให้คนใช้รถ คิดว่า Series4 มัน Positionเดียวกับ E Coupeเลยตั้งราคาให้เท่ากับ E Coupe ใช่หรือไม่ครับ

ทั้งหมดที่ผมพูดมา เป็นข้อสงสัยของผมล้วนๆนะครับ ไม่มีอคติใดใดทั้งสิ้นครับ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,647
    • อีเมล์
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 12:20:27 »
ข้อ 2 กับ 3 ผมคิดเหมือนเจ้าของกระทู้เลยครับ ผมว่าเป็นกลยุทธ์ในการอัพราคารถ หรือไม่ก็ขายรถคันเท่าเดิมให้ได้ราคามากขึ้นกว่าเก่า

ข้อ 1 ผมว่า MB น่าจะเป็นคนละ platform กันมากกว่านะครับ แต่เครื่องไม่ค่อยต่างเท่าไหร่มากกว่า

มารอความเห็นผู้รู้ต่อด้วยคนครับ

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 12:22:30 »
.
.
.
1. มันไม่ได้ใช้ตัวถังเดียวกันครับ มันแค่ใช้ PF ร่วมกันเท่านั้น
ซึ่งถ้าคิดแบบที่คุณว่ามา ราคาของ CLS ก็ควรจะเท่ากับ E class ด้วยสิครับ??

2. จริงๆ Series 4 มันควรจะเทียบกับ  C Coupe ถูกแล้ว
แต่เป็น C250 ซึ่ง MB ไทยเลิกขายไปแล้ว และอย่าลืมว่าราคานี้ BM รวมค่า BSI 5 ปีไปแล้ว

3. ไม่ใช่ครับ แต่คนซื้อจะต้องเอามาเทียบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ออฟไลน์ ぼくは"P.P."です

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 690
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 12:48:33 »
1).คนละเรื่องเลยครับ...มันเป็นคนละsegmentเลยหละครับ
2).อันนี้ผมไม่ทราบแต่เดาว่าอาจจะOptionมากกว่ารึเปล่า+BSI 5ปี
3).ก็อาจจะใช่ครับ ;D
Great Handling = Great Car

ออฟไลน์ burutrad

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,168
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 13:48:45 »
ราคาพอๆกันผมไป E coupe แน่นอน

ออฟไลน์ templeboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 14:20:52 »
ขอตอบไม่ตรงคำถาม...แต่อาจจะได้มุมมองอื่นบ้างครับ เรื่องราคามือสอง

C-coupe เรียกว่าเป็นรถเทวดา จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมราคาขายต่อถึงแข็งนัก ไปลองดูในเวปขายรถมือสองทั้งหลายได้ รถใช้ไป 2 ปีแล้วราคาตกไปแค่ไม่เกิน 5 แสน เรียกว่าขายต่อตอนนี้เท่าๆกับ E-coupe ที่ผ่านถนนมานานพอๆกัน...เป็นไปได้ไง!!!

Audi TTS อีกคันนี่เข้าข่ายรถเทพเจ้าละ ราคาขายต่อเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับตอนนี้...เท่ากัน!!!

ส่วน BMW นี่ไม่ต้องพูดถึง....อย่าง F10 ใช้มา 2 ปี ใครขายขาดทุนไม่ถึงล้าน ผมนับถือเลยครับ และยิ่งถ้าเก็บไว้จนหมด BSI นี่ก็ราคาพอๆกับรถญี่ปุ่นมือสองนั่นแหละครับ

ส่วนท่านที่คิดจะเล่น BMW มือสองแล้วมองว่าจะไม่ค่อยเจ็บตัว เพราะคนซื้อมือหนึ่งเจ็บตัวแทนไปแล้วนั้น...ขอให้คิดใหม่ BMW ไม่เหมือนเบนซ์ ตัวไหนตกรุ่นแล้ว ราคาจะตกลงอย่างแรงมากๆๆๆ ลองดู E90 ได้ เมื่อซัก 2 ปีก่อน ก่อนที่ F30 จะเปิดตัว ตัวก่อน LCI ยังขายกัน 1.5 ล้านบวกลบ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึง 8 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ...สรุป 2 ปีหายไป 7-8 แสนได้...นี่ขนาดรถ 'มือสาม' นะครับ ถ้าเป็นป้ายแดงก็ฮาหละครับ

ลองดูครับ...รถที่พูดมาทั้งสามคันมันพอๆกัน แต่เรื่องราคาขายต่อนี่แหละ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้กลับมาก็คือทุนในการซื้อรถคันใหม่ต่อไปนั่นแหละ

ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วคนมองว่าสร้างภาพ...ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำดี ไม่เหมือนเขา...ที่แค่ "คิดดี" ยังทำไม่ได้
ว.วชิรเมธี

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 16:20:23 »
1)  แค่แพลทฟอร์มเดียวกันมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด

2) อันนี้ถ้าวัดจริงๆก็ต้องเทียบกับ C ครับ แต่ราคามันไปทาบรัศมี E

ข้อนี้ต้องโทษหลายฝ่ายจะว่างั้นก็ได้ E ตอนแรกแพงเกินงาม โดนเกรย์แย่งลูกค้าไปแทบหมด
จนตัว Facelift MBTH เปิดราคามาได้แบบว่านะ อย่างที่เห็นๆกัน
ส่วน 4 series อ้างอิงจาก e92 ราคาโหดมาก ไม่รักกันจริง ไม่ซื้อแน่นอน
จาก 4 ประตูเหลือ 2 เพิ่มเงินอีก ล้านหรือเกือบๆล้าน ไม่แน่ใจเหมือนกัน

3) ไม่ใช่ครับ 4 series มันราคานี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เผอิญว่า E เค้าลดลงมาเองครับ เพราะต้องการมาตีตลาดเกรย์

ผิดพลาด ขอ อภัยจ๊ะ


ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 18:05:00 »
1)  แค่แพลทฟอร์มเดียวกันมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด

2) อันนี้ถ้าวัดจริงๆก็ต้องเทียบกับ C ครับ แต่ราคามันไปทาบรัศมี E

ข้อนี้ต้องโทษหลายฝ่ายจะว่างั้นก็ได้ E ตอนแรกแพงเกินงาม โดนเกรย์แย่งลูกค้าไปแทบหมด
จนตัว Facelift MBTH เปิดราคามาได้แบบว่านะ อย่างที่เห็นๆกัน
ส่วน 4 series อ้างอิงจาก e92 ราคาโหดมาก ไม่รักกันจริง ไม่ซื้อแน่นอน
จาก 4 ประตูเหลือ 2 เพิ่มเงินอีก ล้านหรือเกือบๆล้าน ไม่แน่ใจเหมือนกัน

3) ไม่ใช่ครับ 4 series มันราคานี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เผอิญว่า E เค้าลดลงมาเองครับ เพราะต้องการมาตีตลาดเกรย์

ผิดพลาด ขอ อภัยจ๊ะ



มันทำให้สงสัยไปอีกว่า แสดงว่า 3 Coupe หรือ Series 4 ศูนย์ BMWปั่นราคาเกินงามมาตั้งแต่อดีต 555 ( แต่ถ้ามาดู CC ต้องไล่ยาว ถ้า 420D หรือ 428I มา ผมว่าราคามันควรที่จะต้องลง เพราะ 325I Coupe ตัวเก่าอาจจะแย้งได้ว่า 2400กว่าCC แต่ตัวใหม่ ใช้ แค่ 2000CC มันยิ่งน่าคิดว่า BMW ควรจะลดราคาลงมา เพราะกำแพงภาษีลง)

ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 18:09:21 »
ขอตอบไม่ตรงคำถาม...แต่อาจจะได้มุมมองอื่นบ้างครับ เรื่องราคามือสอง

C-coupe เรียกว่าเป็นรถเทวดา จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมราคาขายต่อถึงแข็งนัก ไปลองดูในเวปขายรถมือสองทั้งหลายได้ รถใช้ไป 2 ปีแล้วราคาตกไปแค่ไม่เกิน 5 แสน เรียกว่าขายต่อตอนนี้เท่าๆกับ E-coupe ที่ผ่านถนนมานานพอๆกัน...เป็นไปได้ไง!!!

Audi TTS อีกคันนี่เข้าข่ายรถเทพเจ้าละ ราคาขายต่อเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับตอนนี้...เท่ากัน!!!

ส่วน BMW นี่ไม่ต้องพูดถึง....อย่าง F10 ใช้มา 2 ปี ใครขายขาดทุนไม่ถึงล้าน ผมนับถือเลยครับ และยิ่งถ้าเก็บไว้จนหมด BSI นี่ก็ราคาพอๆกับรถญี่ปุ่นมือสองนั่นแหละครับ

ส่วนท่านที่คิดจะเล่น BMW มือสองแล้วมองว่าจะไม่ค่อยเจ็บตัว เพราะคนซื้อมือหนึ่งเจ็บตัวแทนไปแล้วนั้น...ขอให้คิดใหม่ BMW ไม่เหมือนเบนซ์ ตัวไหนตกรุ่นแล้ว ราคาจะตกลงอย่างแรงมากๆๆๆ ลองดู E90 ได้ เมื่อซัก 2 ปีก่อน ก่อนที่ F30 จะเปิดตัว ตัวก่อน LCI ยังขายกัน 1.5 ล้านบวกลบ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึง 8 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ...สรุป 2 ปีหายไป 7-8 แสนได้...นี่ขนาดรถ 'มือสาม' นะครับ ถ้าเป็นป้ายแดงก็ฮาหละครับ

ลองดูครับ...รถที่พูดมาทั้งสามคันมันพอๆกัน แต่เรื่องราคาขายต่อนี่แหละ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้กลับมาก็คือทุนในการซื้อรถคันใหม่ต่อไปนั่นแหละ


เรื่องความคุ้มค่า การขายต่อ ผมไม่พูดดีกว่า เพราะต่างคนต่างความคิดครับ เพราะถ้าเทียบขายต่อ BMW ยังไงก็แพ้ แต่ถ้าวัดFeeling Handling ในการขับ Benz ก็แพ้ครับ  อาจจะบอกว่า  E coupe ,  C Coupe การขับดีขึ้น แต่ผมขับมาหมดแล้วครับ ยังไง BMW ก็ยังทิ้ง 1ช่วงตัวใหญ่ๆอยู่ครับ

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 18:25:14 »
เรื่องความคุ้มค่า การขายต่อ ผมไม่พูดดีกว่า เพราะต่างคนต่างความคิดครับ เพราะถ้าเทียบขายต่อ BMW ยังไงก็แพ้ แต่ถ้าวัดFeeling Handling ในการขับ Benz ก็แพ้ครับ  อาจจะบอกว่า  E coupe ,  C Coupe การขับดีขึ้น แต่ผมขับมาหมดแล้วครับ ยังไง BMW ก็ยังทิ้ง 1ช่วงตัวใหญ่ๆอยู่ครับ
[/quote]

แต่ผมคิดว่าเรื่อง Feeling Handling ในการขับ เป็นเรื่องความชอบของแต่ละคนนะครับ
เพราะโดยส่วนตัวผมชอบ C Coupe ( C250) มากกว่า BMW ประมาณ 3 ช่วงตัวเลย

ออฟไลน์ templeboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 20:44:31 »
แต่ผมคิดว่าเรื่อง Feeling Handling ในการขับ เป็นเรื่องความชอบของแต่ละคนนะครับ
เพราะโดยส่วนตัวผมชอบ C Coupe ( C250) มากกว่า BMW ประมาณ 3 ช่วงตัวเลย

เห็นด้วยครับ...เรื่อง Feeling การขับขี่นี่เป็นอะไรที่เป็นนามธรรมอยู่ในระดับนึง แล้วแต่บุคคลด้วย จะบังคับฝืนใจกันคงไม่เหมาะ

แต่เรื่องราคาขายต่อเป็น Fact ครับ ไม่ว่าเราจะคิดยังไง ชอบมั้ย เห็นด้วยหรือไม่....มันก็เป็นของมันแบบนั้นอย่างนั้น....ไม่เปลี่ยน (ง่ายๆ) ครับ
ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วคนมองว่าสร้างภาพ...ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำดี ไม่เหมือนเขา...ที่แค่ "คิดดี" ยังทำไม่ได้
ว.วชิรเมธี

ออฟไลน์ DanGerGarm

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 116
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 21:15:46 »
ผมว่าเถียงกันไปก็ไม่จบหรอกคับ  :)
มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกและเงินในกระเป๋า ซื้อรถระดับนี้แล้ว ถ้าเงินพอ ใช้อารมล้วนๆคับ คหสต. นะคับ
ใครแฟนค่ายไหนก็ไปค่ายนั้นคับ จะได้ไม่ต้องเสียดายเงิน ;D

syamana

  • บุคคลทั่วไป
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 22:34:38 »
มาอ่านกระทู้นี้แล้วงงๆสับสน
คือผมเข้าใจว่า 4 series Coupe ใช้ plat form เดียวกับ F30 มาเป็น F32 ซึ่งถ้าเทียบ MB แล้วจะอยู่ระหว่าง C Coupe กับ E Coupe
ถ้าราคาเปิดมาที่ 3.79 เนี่ยคนส่วนใหญ่คงคิดหนักนะเพราะว่าถ้าเลือก MB ก็จะได้ Coupe ที่มีขนาดตัวถังกว้าง แต่ถ้าเลือก 4 ก็ได้เครื่องดีเซลไปแทน
อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครชอบอะไร 

ออฟไลน์ Ongszaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 809
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2013, 23:31:10 »
ขอตอบไม่ตรงคำถาม...แต่อาจจะได้มุมมองอื่นบ้างครับ เรื่องราคามือสอง

C-coupe เรียกว่าเป็นรถเทวดา จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมราคาขายต่อถึงแข็งนัก ไปลองดูในเวปขายรถมือสองทั้งหลายได้ รถใช้ไป 2 ปีแล้วราคาตกไปแค่ไม่เกิน 5 แสน เรียกว่าขายต่อตอนนี้เท่าๆกับ E-coupe ที่ผ่านถนนมานานพอๆกัน...เป็นไปได้ไง!!!

Audi TTS อีกคันนี่เข้าข่ายรถเทพเจ้าละ ราคาขายต่อเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับตอนนี้...เท่ากัน!!!

ส่วน BMW นี่ไม่ต้องพูดถึง....อย่าง F10 ใช้มา 2 ปี ใครขายขาดทุนไม่ถึงล้าน ผมนับถือเลยครับ และยิ่งถ้าเก็บไว้จนหมด BSI นี่ก็ราคาพอๆกับรถญี่ปุ่นมือสองนั่นแหละครับ

ส่วนท่านที่คิดจะเล่น BMW มือสองแล้วมองว่าจะไม่ค่อยเจ็บตัว เพราะคนซื้อมือหนึ่งเจ็บตัวแทนไปแล้วนั้น...ขอให้คิดใหม่ BMW ไม่เหมือนเบนซ์ ตัวไหนตกรุ่นแล้ว ราคาจะตกลงอย่างแรงมากๆๆๆ ลองดู E90 ได้ เมื่อซัก 2 ปีก่อน ก่อนที่ F30 จะเปิดตัว ตัวก่อน LCI ยังขายกัน 1.5 ล้านบวกลบ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึง 8 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ...สรุป 2 ปีหายไป 7-8 แสนได้...นี่ขนาดรถ 'มือสาม' นะครับ ถ้าเป็นป้ายแดงก็ฮาหละครับ

ลองดูครับ...รถที่พูดมาทั้งสามคันมันพอๆกัน แต่เรื่องราคาขายต่อนี่แหละ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้กลับมาก็คือทุนในการซื้อรถคันใหม่ต่อไปนั่นแหละ


เรื่องความคุ้มค่า การขายต่อ ผมไม่พูดดีกว่า เพราะต่างคนต่างความคิดครับ เพราะถ้าเทียบขายต่อ BMW ยังไงก็แพ้ แต่ถ้าวัดFeeling Handling ในการขับ Benz ก็แพ้ครับ  อาจจะบอกว่า  E coupe ,  C Coupe การขับดีขึ้น แต่ผมขับมาหมดแล้วครับ ยังไง BMW ก็ยังทิ้ง 1ช่วงตัวใหญ่ๆอยู่ครับ


อันนี้ผมเห็นด้วย

เพราะที่บ้านใช้ทั้ง BMW และ Benz

Benz SLK200 R172 กับ BMW 528i F10
ผมชอบ F10 มากๆๆ  เพราะ รูช่วงล่างหนึบแบบไม่แข็ง และอัตราเร่งก็ดีมาก ประหยัดกว่า SLK เยอะมากๆๆๆๆ
ทั้งๆที่เหยียบพอๆกัน SLK ได้ 6 โลลิตร F10 ได้ 10โลลิตร

ให้ผมเลือกผมคงเลือก BMW เพราะคนซื้อรถ Premium คงไม่สนเรื่องราคาขายต่ออยู่แล้ว อยู่ที่อารมณ์ล้วนๆ กับความชอบใจ
บ้านผมเป็นบริษัท ยังไงก็หักภาษีอยู่ดี ขอให้เช่าซื้อได้เป็นพอ
ส่วนเรื่องราคาขายต่อไม่เป็นประเด็น เป็นประเด็นที่ขับดีมั้ย ซดน้ำมันมั้ย หน้าตาทางสังคมเป็นยังไง

ใจผมชอบ VW Golf , Audi A1, Lexus IS300h แต่หมดสิทธิ์ เพราะ ภาพลักษณ์ทางสังคมมันไม่ผ่านนน

ผู้ใหญ่ คนภายนอก ยังไง Benz BMW ก็ดีกว่า แต่ Benz คนรุ่นเก่าจะมองดูดีมากๆ
แรกๆบ้านผมก็จะได้เป็นสาวก Benz แล้วแต่เจอ ศูนย์ไม่รับลูกค้า เลยขับไป Europa จรัญ แล้วจองเลย
หลังจากนั้นก็ตามมาเรื่อยๆ ปีละคัน จนกลายเป็น VIP ไปแล้ว  คาดว่าวันนั้นถ้า Benz บริการดีๆ
อาจจะกลายเป็นสาวก Benz ทั้งบ้าน 5555

ตอนนี้หลังจาก น้อง SLK เข้ามาในบ้าน บ้านผมก็เริ่มเปิดใจรับ Benz มากขั้น
คันหน้ารอลุ้นระหว่าง E coupe กับ 420d เนี่ยแหละ 555

ปล. คนรู้จักเป็นคนใน Benz แต่ขับ 320d ยังฮาอยู่เลยเนี่ย 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2013, 23:35:09 โดย Ongszaa »
'19 BMW 630d GT M Sport[G32]
'24 LOTUS ELETRE R

ออฟไลน์ hadesto

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 125
    • อีเมล์
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 00:16:21 »
ขอตอบไม่ตรงคำถาม...แต่อาจจะได้มุมมองอื่นบ้างครับ เรื่องราคามือสอง

C-coupe เรียกว่าเป็นรถเทวดา จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมราคาขายต่อถึงแข็งนัก ไปลองดูในเวปขายรถมือสองทั้งหลายได้ รถใช้ไป 2 ปีแล้วราคาตกไปแค่ไม่เกิน 5 แสน เรียกว่าขายต่อตอนนี้เท่าๆกับ E-coupe ที่ผ่านถนนมานานพอๆกัน...เป็นไปได้ไง!!!

Audi TTS อีกคันนี่เข้าข่ายรถเทพเจ้าละ ราคาขายต่อเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับตอนนี้...เท่ากัน!!!

ส่วน BMW นี่ไม่ต้องพูดถึง....อย่าง F10 ใช้มา 2 ปี ใครขายขาดทุนไม่ถึงล้าน ผมนับถือเลยครับ และยิ่งถ้าเก็บไว้จนหมด BSI นี่ก็ราคาพอๆกับรถญี่ปุ่นมือสองนั่นแหละครับ


 
ส่วนท่านที่คิดจะเล่น BMW มือสองแล้วมองว่าจะไม่ค่อยเจ็บตัว เพราะคนซื้อมือหนึ่งเจ็บตัวแทนไปแล้วนั้น...ขอให้คิดใหม่ BMW ไม่เหมือนเบนซ์ ตัวไหนตกรุ่นแล้ว ราคาจะตกลงอย่างแรงมากๆๆๆ ลองดู E90 ได้ เมื่อซัก 2 ปีก่อน ก่อนที่ F30 จะเปิดตัว ตัวก่อน LCI ยังขายกัน 1.5 ล้านบวกลบ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึง 8 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ...สรุป 2 ปีหายไป 7-8 แสนได้...นี่ขนาดรถ 'มือสาม' นะครับ ถ้าเป็นป้ายแดงก็ฮาหละครับ

ลองดูครับ...รถที่พูดมาทั้งสามคันมันพอๆกัน แต่เรื่องราคาขายต่อนี่แหละ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้กลับมาก็คือทุนในการซื้อรถคันใหม่ต่อไปนั่นแหละ





ผมงงอย่างเดียวคือเอาราคารถสองประตูไปเทียบกับรถสี่ประตู BMW e90 ควรเทียบกับ Mercedes c class ตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์ครับ BMW 5 series เทียบกับ e class sedan  ครับ ทั้งนี้ถ้าเทียบรุ่นต่อรุ่นปีต่อปี จะต่างกันไม่เกิน สองแสนนะครับ
 ถ้าเอาแค่ราคาซื้อรถราคาระดับ สองกลางสามกลางรถมันจะมีให้เลือกเยอะมากมาก ก้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนละครับ ไม่งั้นรถคงขายได้แค่ยี่ห้อเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2013, 00:19:18 โดย hadesto »

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 12:02:17 »
ขอตอบไม่ตรงคำถาม...แต่อาจจะได้มุมมองอื่นบ้างครับ เรื่องราคามือสอง

C-coupe เรียกว่าเป็นรถเทวดา จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมราคาขายต่อถึงแข็งนัก ไปลองดูในเวปขายรถมือสองทั้งหลายได้ รถใช้ไป 2 ปีแล้วราคาตกไปแค่ไม่เกิน 5 แสน เรียกว่าขายต่อตอนนี้เท่าๆกับ E-coupe ที่ผ่านถนนมานานพอๆกัน...เป็นไปได้ไง!!!

Audi TTS อีกคันนี่เข้าข่ายรถเทพเจ้าละ ราคาขายต่อเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับตอนนี้...เท่ากัน!!!

ส่วน BMW นี่ไม่ต้องพูดถึง....อย่าง F10 ใช้มา 2 ปี ใครขายขาดทุนไม่ถึงล้าน ผมนับถือเลยครับ และยิ่งถ้าเก็บไว้จนหมด BSI นี่ก็ราคาพอๆกับรถญี่ปุ่นมือสองนั่นแหละครับ

ส่วนท่านที่คิดจะเล่น BMW มือสองแล้วมองว่าจะไม่ค่อยเจ็บตัว เพราะคนซื้อมือหนึ่งเจ็บตัวแทนไปแล้วนั้น...ขอให้คิดใหม่ BMW ไม่เหมือนเบนซ์ ตัวไหนตกรุ่นแล้ว ราคาจะตกลงอย่างแรงมากๆๆๆ ลองดู E90 ได้ เมื่อซัก 2 ปีก่อน ก่อนที่ F30 จะเปิดตัว ตัวก่อน LCI ยังขายกัน 1.5 ล้านบวกลบ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึง 8 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ...สรุป 2 ปีหายไป 7-8 แสนได้...นี่ขนาดรถ 'มือสาม' นะครับ ถ้าเป็นป้ายแดงก็ฮาหละครับ

ลองดูครับ...รถที่พูดมาทั้งสามคันมันพอๆกัน แต่เรื่องราคาขายต่อนี่แหละ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้กลับมาก็คือทุนในการซื้อรถคันใหม่ต่อไปนั่นแหละ


เรื่องความคุ้มค่า การขายต่อ ผมไม่พูดดีกว่า เพราะต่างคนต่างความคิดครับ เพราะถ้าเทียบขายต่อ BMW ยังไงก็แพ้ แต่ถ้าวัดFeeling Handling ในการขับ Benz ก็แพ้ครับ  อาจจะบอกว่า  E coupe ,  C Coupe การขับดีขึ้น แต่ผมขับมาหมดแล้วครับ ยังไง BMW ก็ยังทิ้ง 1ช่วงตัวใหญ่ๆอยู่ครับ


อันนี้ผมเห็นด้วย

เพราะที่บ้านใช้ทั้ง BMW และ Benz

Benz SLK200 R172 กับ BMW 528i F10
ผมชอบ F10 มากๆๆ  เพราะ รูช่วงล่างหนึบแบบไม่แข็ง และอัตราเร่งก็ดีมาก ประหยัดกว่า SLK เยอะมากๆๆๆๆ
ทั้งๆที่เหยียบพอๆกัน SLK ได้ 6 โลลิตร F10 ได้ 10โลลิตร

ให้ผมเลือกผมคงเลือก BMW เพราะคนซื้อรถ Premium คงไม่สนเรื่องราคาขายต่ออยู่แล้ว อยู่ที่อารมณ์ล้วนๆ กับความชอบใจ
บ้านผมเป็นบริษัท ยังไงก็หักภาษีอยู่ดี ขอให้เช่าซื้อได้เป็นพอ
ส่วนเรื่องราคาขายต่อไม่เป็นประเด็น เป็นประเด็นที่ขับดีมั้ย ซดน้ำมันมั้ย หน้าตาทางสังคมเป็นยังไง

ใจผมชอบ VW Golf , Audi A1, Lexus IS300h แต่หมดสิทธิ์ เพราะ ภาพลักษณ์ทางสังคมมันไม่ผ่านนน

ผู้ใหญ่ คนภายนอก ยังไง Benz BMW ก็ดีกว่า แต่ Benz คนรุ่นเก่าจะมองดูดีมากๆ
แรกๆบ้านผมก็จะได้เป็นสาวก Benz แล้วแต่เจอ ศูนย์ไม่รับลูกค้า เลยขับไป Europa จรัญ แล้วจองเลย
หลังจากนั้นก็ตามมาเรื่อยๆ ปีละคัน จนกลายเป็น VIP ไปแล้ว  คาดว่าวันนั้นถ้า Benz บริการดีๆ
อาจจะกลายเป็นสาวก Benz ทั้งบ้าน 5555

ตอนนี้หลังจาก น้อง SLK เข้ามาในบ้าน บ้านผมก็เริ่มเปิดใจรับ Benz มากขั้น
คันหน้ารอลุ้นระหว่าง E coupe กับ 420d เนี่ยแหละ 555

ปล. คนรู้จักเป็นคนใน Benz แต่ขับ 320d ยังฮาอยู่เลยเนี่ย 555

ผมงงนิดหน่อยครับที่บอกว่า " คนซื้อรถ Premium คงไม่สนเรื่องราคาขายต่ออยู่แล้ว "
แต่ดันสนใจเรื่อง " ซดน้ำมัน " ??  ;D

ผมเป็นคนนึงที่ซื้อทั้ง Benz และ BMW และไม่ได้เป็นบริษัทด้วย หักอะไรไม่ได้ซักอย่าง
แต่ผมไม่สนใจเรื่อง ซดน้ำมันเลย เพราะจ่ายไหวครับ

และที่ผมสนใจเรื่องราคาขายต่อเพราะมันเกี่ยวกับภาพลักษณ์โดยตรง
ถ้าราคามือสองมันถูกมากๆ มันจะมีเด็กแว๊นส์ๆซื้อมาใช้กันเยอะครับ
ดูอย่าง E90 ตอนนี้ถูกมาก ลูกน้องผมเป็นเด็กจบใหม่เข้ามา
ทำงานได้ 4-5 เดือน เพิ่งซื้อมือสองมา 9 แสนกว่าเอง เหลือ BSI อีกปีนึงอีกตะหาก



ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 17:19:15 »
อย่าเอาเรื่องขายต่อมาเป็นประเด็นเลยครับ ยิ่งคนซื้อรถมือ2 มันไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลยซักนิด จะแว๊น จะ ไม่แว๊น เอาแค่เราพอใจก็พอแล้ว คนขับอยู่ในรถ ดูไม่ออกหรอกว่า แว๊น หรือ ไม่แว๊น มันอยู่ที่ีการขับมากกว่า ซึ่งก็มีหมดแหละครับ  ขับดี ขับเลว อย่าเอามาเถียงกันเลยครับ   ซึ่งอันที่ผมสงสัย ก็ไม่เกี่ยวกับพวกราคาขายต่อซักนิด แค่สงสัย ราคา และ ตัวรถ เท่านั้นเอง  พอไล่กลับมาอ่านแล้ว  รู้สึกมันไปไกล    ขายต่อ ภาพลักษณ์ การขับ      - -"

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 20:06:53 »
อย่าเอาเรื่องขายต่อมาเป็นประเด็นเลยครับ ยิ่งคนซื้อรถมือ2 มันไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลยซักนิด จะแว๊น จะ ไม่แว๊น เอาแค่เราพอใจก็พอแล้ว คนขับอยู่ในรถ ดูไม่ออกหรอกว่า แว๊น หรือ ไม่แว๊น มันอยู่ที่ีการขับมากกว่า ซึ่งก็มีหมดแหละครับ  ขับดี ขับเลว อย่าเอามาเถียงกันเลยครับ   ซึ่งอันที่ผมสงสัย ก็ไม่เกี่ยวกับพวกราคาขายต่อซักนิด แค่สงสัย ราคา และ ตัวรถ เท่านั้นเอง  พอไล่กลับมาอ่านแล้ว  รู้สึกมันไปไกล    ขายต่อ ภาพลักษณ์ การขับ      - -"

ขอโทษที่นอกประเด็นกระทู้นะครับ
(แต่ตามกระทู้ผมก็ตอบไปด้านบนแล้วนะ)

แต่ที่อธิบายเพิ่มเติมเพราะมันมีประเด็นเพิ่มเติม
คือมีคนบอกว่าคนที่ซื้อรถพรีเมี่ยมไม่สนราคาขายต่อ
ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่ทั้งหมด และก็อธิบายเหตุผล (ส่วนตัว)
ว่าเพราะอะไรผมถึงคิดแบบนั้น...แค่นั้นครับ

ซึ่งใครจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยอันนี้แล้วแต่เลย เพราะอันนี้เป็น
ความคิดเห็นส่วนบุคคลครับ

ออฟไลน์ Ongszaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 809
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 20:41:40 »
ขอตอบไม่ตรงคำถาม...แต่อาจจะได้มุมมองอื่นบ้างครับ เรื่องราคามือสอง

C-coupe เรียกว่าเป็นรถเทวดา จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมราคาขายต่อถึงแข็งนัก ไปลองดูในเวปขายรถมือสองทั้งหลายได้ รถใช้ไป 2 ปีแล้วราคาตกไปแค่ไม่เกิน 5 แสน เรียกว่าขายต่อตอนนี้เท่าๆกับ E-coupe ที่ผ่านถนนมานานพอๆกัน...เป็นไปได้ไง!!!

Audi TTS อีกคันนี่เข้าข่ายรถเทพเจ้าละ ราคาขายต่อเมื่อ 2 ปีที่แล้วกับตอนนี้...เท่ากัน!!!

ส่วน BMW นี่ไม่ต้องพูดถึง....อย่าง F10 ใช้มา 2 ปี ใครขายขาดทุนไม่ถึงล้าน ผมนับถือเลยครับ และยิ่งถ้าเก็บไว้จนหมด BSI นี่ก็ราคาพอๆกับรถญี่ปุ่นมือสองนั่นแหละครับ

ส่วนท่านที่คิดจะเล่น BMW มือสองแล้วมองว่าจะไม่ค่อยเจ็บตัว เพราะคนซื้อมือหนึ่งเจ็บตัวแทนไปแล้วนั้น...ขอให้คิดใหม่ BMW ไม่เหมือนเบนซ์ ตัวไหนตกรุ่นแล้ว ราคาจะตกลงอย่างแรงมากๆๆๆ ลองดู E90 ได้ เมื่อซัก 2 ปีก่อน ก่อนที่ F30 จะเปิดตัว ตัวก่อน LCI ยังขายกัน 1.5 ล้านบวกลบ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึง 8 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ...สรุป 2 ปีหายไป 7-8 แสนได้...นี่ขนาดรถ 'มือสาม' นะครับ ถ้าเป็นป้ายแดงก็ฮาหละครับ

ลองดูครับ...รถที่พูดมาทั้งสามคันมันพอๆกัน แต่เรื่องราคาขายต่อนี่แหละ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้กลับมาก็คือทุนในการซื้อรถคันใหม่ต่อไปนั่นแหละ


เรื่องความคุ้มค่า การขายต่อ ผมไม่พูดดีกว่า เพราะต่างคนต่างความคิดครับ เพราะถ้าเทียบขายต่อ BMW ยังไงก็แพ้ แต่ถ้าวัดFeeling Handling ในการขับ Benz ก็แพ้ครับ  อาจจะบอกว่า  E coupe ,  C Coupe การขับดีขึ้น แต่ผมขับมาหมดแล้วครับ ยังไง BMW ก็ยังทิ้ง 1ช่วงตัวใหญ่ๆอยู่ครับ


อันนี้ผมเห็นด้วย

เพราะที่บ้านใช้ทั้ง BMW และ Benz

Benz SLK200 R172 กับ BMW 528i F10
ผมชอบ F10 มากๆๆ  เพราะ รูช่วงล่างหนึบแบบไม่แข็ง และอัตราเร่งก็ดีมาก ประหยัดกว่า SLK เยอะมากๆๆๆๆ
ทั้งๆที่เหยียบพอๆกัน SLK ได้ 6 โลลิตร F10 ได้ 10โลลิตร

ให้ผมเลือกผมคงเลือก BMW เพราะคนซื้อรถ Premium คงไม่สนเรื่องราคาขายต่ออยู่แล้ว อยู่ที่อารมณ์ล้วนๆ กับความชอบใจ
บ้านผมเป็นบริษัท ยังไงก็หักภาษีอยู่ดี ขอให้เช่าซื้อได้เป็นพอ
ส่วนเรื่องราคาขายต่อไม่เป็นประเด็น เป็นประเด็นที่ขับดีมั้ย ซดน้ำมันมั้ย หน้าตาทางสังคมเป็นยังไง

ใจผมชอบ VW Golf , Audi A1, Lexus IS300h แต่หมดสิทธิ์ เพราะ ภาพลักษณ์ทางสังคมมันไม่ผ่านนน

ผู้ใหญ่ คนภายนอก ยังไง Benz BMW ก็ดีกว่า แต่ Benz คนรุ่นเก่าจะมองดูดีมากๆ
แรกๆบ้านผมก็จะได้เป็นสาวก Benz แล้วแต่เจอ ศูนย์ไม่รับลูกค้า เลยขับไป Europa จรัญ แล้วจองเลย
หลังจากนั้นก็ตามมาเรื่อยๆ ปีละคัน จนกลายเป็น VIP ไปแล้ว  คาดว่าวันนั้นถ้า Benz บริการดีๆ
อาจจะกลายเป็นสาวก Benz ทั้งบ้าน 5555

ตอนนี้หลังจาก น้อง SLK เข้ามาในบ้าน บ้านผมก็เริ่มเปิดใจรับ Benz มากขั้น
คันหน้ารอลุ้นระหว่าง E coupe กับ 420d เนี่ยแหละ 555

ปล. คนรู้จักเป็นคนใน Benz แต่ขับ 320d ยังฮาอยู่เลยเนี่ย 555

ผมงงนิดหน่อยครับที่บอกว่า " คนซื้อรถ Premium คงไม่สนเรื่องราคาขายต่ออยู่แล้ว "
แต่ดันสนใจเรื่อง " ซดน้ำมัน " ??  ;D

ผมเป็นคนนึงที่ซื้อทั้ง Benz และ BMW และไม่ได้เป็นบริษัทด้วย หักอะไรไม่ได้ซักอย่าง
แต่ผมไม่สนใจเรื่อง ซดน้ำมันเลย เพราะจ่ายไหวครับ

และที่ผมสนใจเรื่องราคาขายต่อเพราะมันเกี่ยวกับภาพลักษณ์โดยตรง
ถ้าราคามือสองมันถูกมากๆ มันจะมีเด็กแว๊นส์ๆซื้อมาใช้กันเยอะครับ
ดูอย่าง E90 ตอนนี้ถูกมาก ลูกน้องผมเป็นเด็กจบใหม่เข้ามา
ทำงานได้ 4-5 เดือน เพิ่งซื้อมือสองมา 9 แสนกว่าเอง เหลือ BSI อีกปีนึงอีกตะหาก




หุหุ สนเรื่องน้ำมันคับ เพราะว่า น้ำมันใช้เยอะไปน่าเกลียด
SLK ซด 6 โลลิตร
320d ขับได้ 16 โลลิตร
อันนี้แหละเลยสน = =
บ้านผมเลยมอง Benz เป็นรถซดน้ำมันไปเลย 555

ส่วนเรื่องราคารถมันบริษัทออกไงคับ
แต่ค่าน้ำมัน เราจ่ายก่อนแล้วเบิคทีหลังเนี่ยสิ หุหุ
เวลาไป ตจว มันแว๊บไปแล้วรู้เลย ถ้าซดน้ำมัน 555

ราคาขายต่อไม่ค่อยสน เพราะ ยังไงรถใช้ 5 ปีก็ต้องเปลี่ยน หักค่าเสื่อมไม่ได้
'19 BMW 630d GT M Sport[G32]
'24 LOTUS ELETRE R

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2013, 00:09:03 »
.
.
.
งั้นผมว่าต้องเปลี่ยนเป็นคนที่ซื้อรถพรีเมี่ยมโดยผ่านบริษัทเพื่อหักภาษี
เท่านั้นล่ะครับ ที่ไม่สนราคาขายต่อ เพราะผมซื้อด้วยเงินตัวเองล้วนๆ
หักอะไรไม่ได้เลย ผมสนราคาขายต่อครับ  ;D

ส่วน 320d ไปเทียบกับ SLK เรื่องซดน้ำมันมัน ผมว่าไม่ค่อยเหมาะน่ะครับ
เครื่องดีเซล กับเครื่องเบนซิน ผมว่าลองมองพวกเครื่องบล็อคใหม่ๆของ Benz
น่าจะประหยัดกว่า เครื่องบล็อคเก่าเยอะอยู่ครับ




ออฟไลน์ keangac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
Re: สงสัย E Coupe กับ C Coupe และ Series 4
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2013, 01:44:39 »
สรุปให้เลยละกัน   รู้สึกว่าไม่จบกัน

ดีเซล แรงดึงมากมาก ประหยัดน้ำมัน ไม่สนราคาขายต่อ      ไป BMW

เบนซิน มาเรื่อยๆ ราคาขายต่อดี                                        ไป BENZ


และรบกวนคุณ raygun เข้าใจว่า จะอะไรก็แล้วแต่ ยังไงที่บ้านคุณก็สาวก BENZ  เห็นใครแสดงความคิดเห็นอะไรต่างหน่อย คุณก็แย้งทันที ผมว่าควรรับฟังและเงียบๆไปดีกว่าครับ  เพราะ เวลาคุณตอบกลับ ผมรู้สึกว่ามันชวนเดือดยังไงไม่รู้

และขอจบตรงนี้ครับ เกี่ยวกับ BENZ กับ BMW  แต่ถ้าจะแสดงความคิดเห็นตามหัวกระทู้ที่ผมโพสไป ก็ไม่มีปัญหาครับ  เพราะตอนนี้รู้สึกมันกลายเป็นกระทู้ Benz กับ BMW ไปซะแล้ว

ขอบคุณครับ  ราตรีสวัสดิ์