สองคลิปนี้ให้ความรู้สึกต่างกันนะ
ฝั่ง Koenigsegg ก่อนขับนี่ใส่ชุดเต็ม จนเรารู้สึกว่า น่ากลัว เข้าถึงยาก ฝีมือไม่มีอุปกรณ์ไม่พร้อมอย่าทำ...
ส่วน Bugatti ใส่เสื้อเชิตธรรมดาให้ความรู้สึกว่ามันง่าย ใครๆก็ขับได้ กับความเร็วขนาดนี้ ....
555 อาจจะมองแบบนั้นก็ได้ สำหรับ Bugatti นะ
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วผมเชื่อเลยว่า กับความเร็ว 300 km/h ขึ้นไป มันไม่ง่ายสำหรับมือใหม่ นะครับ ตามด้านล่างครับ เขาเป็นอดีตนักขับ F1 นะครับ ส่วนเรื่องชุด สถานะที่ ทีมงาน มันคงแล้วแต่ theme ที่เขาอยากให้ออกมามากกว่า ไม่ได้เน้นว่า ต้องเป็น circuit จ๋า หรือทางการมาก ผมมองน่ะ
คนขับ Chiron คือ Juan Pablo Montoya อดีตนักขับ F1 ใช่ไหมครับ คลับคล้ายคลับคลา
ใช่ครับ
คนขับต้องมีฝีมือด้วยครับ รถแรงอย่างเดียวไม่พอ แต่ปกติส่วนใหญ่เจ้าของรถเหล่านี้ ไม่ค่อยอัดความเร็วสูงกันบ่อยๆเท่าไร ส่วนมากคงเน้นขับโชว์หล่อในเมือง โชว์เสียงเครื่องยนต์ V8 V12
ใช่ครับ คนขับรถแบบนี้ ความเร็วขนาดนี้ ปิด traction วิ่ง ฝีมือไม่ธรรมดาหรอกครับ
ส่วน Koenigsegg V8 vs Bugatti W16 เครื่องยนต์ต่างกันตั้ง 1 เท่าลูกสูบ ทำได้ขนาดนี้ ผมว่า Koenigsegg มันสุดยอดแล้วครับ
อันนั้นก็ใช่ครับ แต่ผมหมายถึง"สื่อสารการตลาดครับ"
เพราะคลิปนี้ นำเสนอรถ 2ยี่ห้อที่สามารถทำความเร็วได้ระดับ 400 กม/ชม . ซึ่งสื่อโฆษณาที่จะให้กลุ่มลูกค้ารับรู้ได้นั้น สื่อออกมาต่างกันตามที่ผมบอกด้านบน
ถ้าผมมีเงินพอที่จะซื้อ 2 คันนี้ได้ และผมต้องเลือก คันใดคันนึง ผมเลือก Bugatti แบบไม่ต้องลังเลเลย เพราะมันสื่อถึงความหรูหรา และแรง พร้อมกับขับขี่ที่ง่าย ไม่รู้สึกว่าความเร็ว ระดับ400 กม/ชม. มันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนทั่วไป (ไม่จำเป็นต้องเป็นนักขับมืออาชีพเท่านั้นที่ทำได้)
คือถ้าอยากวิ่ง 400 เนี่ย ขับได้เลยหลังเลิกงาน ไม่ต้องลงไปเปลี่ยนชุดใส่หมวก ให้วุ่นวาย ...