Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: urangutang ที่ พฤษภาคม 06, 2020, 22:05:57
-
เครื่องอืดไปไหม รวมถึงกินน้ำมันดุหรือเปล่า ผมวิ่ง ตจว ไปทำงาน จ-ศ ความเร็ว 100-120 กม/ชม
หรือว่าแนะนำให้กัดฟันไป 2.5 ดีครับ
ขอบคุณครับ
-
แล้วตอนนี้ขับอะไรอยู่ครับ ถ้าขับพวก 1.5 ลิตรก็ถือว่าสูสีกันแต่ตีนปลายก็แตะเลขสองนะครับ แถมกดปุ่ม sport ม้ันก็แซงหรือขึ้นเนินสบายๆครับ ยิ่งถ้ามาจากพวก eco car บอกเลยครับว่าทางไกลในป่าในเขาภาคเหนือขับดีกว่าสนุกกว่าเยอะมากครับ
-
ไม่แย่ เดินทางทั่วไทยได้
อืดมั้ย แล้วแต่คน บางคนบอกอืด บางคนบอกเหลือๆ
-
J32 2.0 เครื่องเดียวกัน ขับ 100-120 ได้สบายมากครับ คือรู้สึกว่ากำลังเครื่องพอดีกับความเร็วระดับนี้
แต่ถ้าอยากได้แรงเหลือๆ ไว้เผื่อเร่งแซงสบายๆ หรือขับแช่ 130-140 ประจำ 2.5 จะเหมาะกว่า
แต่อย่างที่เคยบอก ด้วยบุคลิก Teana ไม่ชวนให้ขับซิ่ง ดังนั้นคิดว่า 2.0 ก็พอ
-
แล้วตอนนี้ขับอะไรอยู่ครับ ถ้าขับพวก 1.5 ลิตรก็ถือว่าสูสีกันแต่ตีนปลายก็แตะเลขสองนะครับ แถมกดปุ่ม sport ม้ันก็แซงหรือขึ้นเนินสบายๆครับ ยิ่งถ้ามาจากพวก eco car บอกเลยครับว่าทางไกลในป่าในเขาภาคเหนือขับดีกว่าสนุกกว่าเยอะมากครับ
ตอนนี้ใช้ CITY เครื่องยนต์ 1.5l อยู่ครับ แต่อยากได้รถใหม่ที่แรงกว่านี้หน่อย
-
แล้วตอนนี้ขับอะไรอยู่ครับ ถ้าขับพวก 1.5 ลิตรก็ถือว่าสูสีกันแต่ตีนปลายก็แตะเลขสองนะครับ แถมกดปุ่ม sport ม้ันก็แซงหรือขึ้นเนินสบายๆครับ ยิ่งถ้ามาจากพวก eco car บอกเลยครับว่าทางไกลในป่าในเขาภาคเหนือขับดีกว่าสนุกกว่าเยอะมากครับ
ตอนนี้ใช้ CITY เครื่องยนต์ 1.5l อยู่ครับ แต่อยากได้รถใหม่ที่แรงกว่านี้หน่อย
ถ้าขับ 1.5 อยู่ ช่วงออกตัวจะรู้สึกหนืดๆ หนักๆ ไม่ทันใจหน่อย แต่ถ้าลอยตัวแล้วสบายกว่าครับ
อัตราเร่งกดเต็มอาจจะพอๆ กัน แต่ความนุ่ม นิ่ง เงียบ ทำให้รู้สึกว่าไต่ความเร็วและรักษาความเร็วได้สบายกว่า
-
แล้วเรื่องค่าดูแล +อู่ข้างนอก หาได้ยากไหมครับ
-
แล้วตอนนี้ขับอะไรอยู่ครับ ถ้าขับพวก 1.5 ลิตรก็ถือว่าสูสีกันแต่ตีนปลายก็แตะเลขสองนะครับ แถมกดปุ่ม sport ม้ันก็แซงหรือขึ้นเนินสบายๆครับ ยิ่งถ้ามาจากพวก eco car บอกเลยครับว่าทางไกลในป่าในเขาภาคเหนือขับดีกว่าสนุกกว่าเยอะมากครับ
ตอนนี้ใช้ CITY เครื่องยนต์ 1.5l อยู่ครับ แต่อยากได้รถใหม่ที่แรงกว่านี้หน่อย
ถ้าขับ 1.5 อยู่ ช่วงออกตัวจะรู้สึกหนืดๆ หนักๆ ไม่ทันใจหน่อย แต่ถ้าลอยตัวแล้วสบายกว่าครับ
อัตราเร่งกดเต็มอาจจะพอๆ กัน แต่ความนุ่ม นิ่ง เงียบ ทำให้รู้สึกว่าไต่ความเร็วและรักษาความเร็วได้สบายกว่า
ขอบคุณครับ พอดีผมเห็นราคา 2.0XL เหลือ 999,000 บาท น่าซื้อมากเลย แต่ในกลุ่ม l33 เชียร์ให้ไป 2.5XV (ส่วนต่าง 180,000 บาท)
-
ไม่แย่ เดินทางทั่วไทยได้
อืดมั้ย แล้วแต่คน บางคนบอกอืด บางคนบอกเหลือๆ
แสดงว่าไม่ปรู๊ดปร๊าด เน้นขับเรื่อยๆใช่ไหมครับ
-
เคยขับ J32 เครื่องเดียวกัน
ถามว่าอืดไหม ก็อืดแหละครับ ด้วยรถมันคันใหญ่กว่า city เยอะ น้ำหนักก็มากกว่า ตอนออกตัวจะหนืดๆหน่อยครับ
0-60 คุณอาจจะรู้สึกไม่ทันใจ แต่หลังจากนั้นก็โอเคครับ
มันจะกลับกันกับ city ที่ 0-60 คุณจะรู้สึกว่าพุ่งกว่าครับ
ถ้าวิ่งนอกเมืองเทียน่าผ่อนคลายได้ดีเลยล่ะครับ
ผมเห็นราคาแล้ว ส่งต่อให้ผบ ดูเหมือนกัน โดนย้อนมาว่าจะส่งมาทำไม 555
-
เอาเรื่องอืดหรือไม่ก่อน
ถ้ากดโหมดอีโค่ ขับยังไงก็อืดเพราะมันหน่วงคันเร่งไว้
ใส่โหมดธรรมดา
กดคันเร่งเพิ่มหน่อยก็ไม่อืดแล้ว แต่จะให้พุ่งเลยก็คงไม่ใช่
2.0 ขับเลย 60 ก็จะมาเรื่อยๆแล้วครับ
ถ้าเลียๆคันเร่งขับเนียนประหยัดใช้ได้เลยครับ
เครื่อง 2.5 ดีกว่าทุกด้าน แต่เวบนอกชอบติว่าไม่ทนนะครับ
ไม่เร่งรีบ 2.0 ก็พอ
-
เคยขับ J32 เครื่องเดียวกัน
ถามว่าอืดไหม ก็อืดแหละครับ ด้วยรถมันคันใหญ่กว่า city เยอะ น้ำหนักก็มากกว่า ตอนออกตัวจะหนืดๆหน่อยครับ
0-60 คุณอาจจะรู้สึกไม่ทันใจ แต่หลังจากนั้นก็โอเคครับ
มันจะกลับกันกับ city ที่ 0-60 คุณจะรู้สึกว่าพุ่งกว่าครับ
ถ้าวิ่งนอกเมืองเทียน่าผ่อนคลายได้ดีเลยล่ะครับ
ผมเห็นราคาแล้ว ส่งต่อให้ผบ ดูเหมือนกัน โดนย้อนมาว่าจะส่งมาทำไม 555
ผมปรึกษากับ ผบ เค้ากังวลเรื่องรุ่นนี้มันจะสูญพันธ์จากประเทศไทยครับ เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ
-
เคยใช้ L33 2.0 เกือบ 5 ปี เจ็ดหมื่นกว่าโล
ถ้าขับ 1.5 มาก่อน ช่วงออกตัวจะรู้สึกช้ากว่าหน่อย
พอไปกลางถึงสูง L33 รู้สึกไวกว่านิดๆ
CVT-8 ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น ปลายสองร้อยต้น ไม่หืดจับ
ใช้ ตจว. 100-120 km/h เข้าทาง CVT-8 เลยครับ
ถ้ารถไม่เยอะ เท้าเนียนๆ เดินทางไกล 17-19 km/l ไม่ยาก
แต่เข้าเมืองรถติด ก็ตัวใครตัวมันครับ
ผมอยู่จังหวัดเกือบเหนือสุด ในชีวิตประจำวันได้ 13.5-14 km/l
รถรุ่นนี้ไม่จุกจิก
-ขยันเปลี่ยน นมก. ออกตัวถนอม ใช้ยาว
-คนความรู้สึกไวอาจรู้สึกเย่อๆ หน่อย เวลารถใกล้หยุด
-การประกอบภายในโอเค ปีที่สามยังไม่มีเสียงก๊อกแก็ก
เทียบกับ G10 ป้ายแดงยังไม่ทันถอด แผงประตู คอลโซล ซันรูฟ ดังกราวเลยครับ
-
เอาเรื่องอืดหรือไม่ก่อน
ถ้ากดโหมดอีโค่ ขับยังไงก็อืดเพราะมันหน่วงคันเร่งไว้
ใส่โหมดธรรมดา
กดคันเร่งเพิ่มหน่อยก็ไม่อืดแล้ว แต่จะให้พุ่งเลยก็คงไม่ใช่
2.0 ขับเลย 60 ก็จะมาเรื่อยๆแล้วครับ
ถ้าเลียๆคันเร่งขับเนียนประหยัดใช้ได้เลยครับ
เครื่อง 2.5 ดีกว่าทุกด้าน แต่เวบนอกชอบติว่าไม่ทนนะครับ
ไม่เร่งรีบ 2.0 ก็พอ
ใจนึงก็อยากซื้อ 2.5 ครับ แต่สำหรับผมส่วนต่างราคามากเหมือนกัน ก็เลยมาถาม ถ้าในกรณีที่ 2.5 ดีกว่ามาก ถ้าซื้อก็คงกัดฟันครับ
-
เคยใช้ L33 2.0 เกือบ 5 ปี เจ็ดหมื่นกว่าโล
ถ้าขับ 1.5 มาก่อน ช่วงออกตัวจะรู้สึกช้ากว่าหน่อย
พอไปกลางถึงสูง L33 รู้สึกไวกว่านิดๆ
CVT-8 ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น ปลายสองร้อยต้น ไม่หืดจับ
ใช้ ตจว. 100-120 km/h เข้าทาง CVT-8 เลยครับ
ถ้ารถไม่เยอะ เท้าเนียนๆ เดินทางไกล 17-19 km/l ไม่ยาก
แต่เข้าเมืองรถติด ก็ตัวใครตัวมันครับ
ผมอยู่จังหวัดเกือบเหนือสุด ในชีวิตประจำวันได้ 13.5-14 km/l
รถรุ่นนี้ไม่จุกจิก
-ขยันเปลี่ยน นมก. ออกตัวถนอม ใช้ยาว
-คนความรู้สึกไวอาจรู้สึกเย่อๆ หน่อย เวลารถใกล้หยุด
-การประกอบภายในโอเค ปีที่สามยังไม่มีเสียงก๊อกแก็ก
เทียบกับ G10 ป้ายแดงยังไม่ทันถอด แผงประตู คอลโซล ซันรูฟ ดังกราวเลยครับ
วันนี้ผมไปดูรถที่ showroom มา ภายในพลาสติกเยอะเหมือนกันนะครับ + ปุ่มต่างๆวัสดุดูเกรดกลางๆ ไม่ดีไม่แย่
-
ส่วนตัวขับ Corolla 1.6 กับ Camry 2.0D4S บ่อยสุด เคยขับ l33 2.0 ของเพื่อนบ่อยครั้ง
ตอนออกตัวรู้สึกว่าออกตัวอืดเหมือนรถไม่มีแรง แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเซตมาแบบนี้ แต่พอลอยตัวแล้วแรงพอใช้งานครับ ขับไปเรื่อยๆกำลังดี เวลาเร่งแซงเติมคันเร่งไป เหมือนรถไม่รู้จะเลือกเกียร์ไหนให้ใช้ สังเกตรอบเครื่องมันจะเด้งขึ้นเด้งลง ตรงจุดนี้ ผมชอบ Camry มากกว่า หรือเพราะผมขับ CVT ไม่เป็น ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเร่งแซงคุณกดโหมด Sport แรงมาดีมากๆ เติมคันเร่งพอประมาณไม่ต้องกดสุด ไหลต่อเนื่องแปปเดียว 140-150 ตรงจุดนี้ผมว่าดีกว่า Camry รู้สึกความเร็วไหลต่อเนื่องดี (ตัวเลขใครดีกว่าผมไม่ทราบนะครับ)
การขับขี่ พวงมาลัยความเร็วสูงผมว่ามีน้ำหนักดี แต่ไวไป ไม่เหมือน Camry ที่รู้สึกเบาๆแต่ไม่ไว
ช่วงล่าง รถนิ่งมาก นิ่มมากนั่งสบาย เป็นรถที่ผมขับแล้วอยากไปนั่งแทน ความเร็วสูงก็ยังนิ่งและนิ่ม ผมว่าเทียบกับรถยุโรปค่ายนึงในช่วงปีใกล้กันได้เลย (ไม่ได้อวยนะครับ) รถเงียบมาก เก็บเสียงดีมาก
ทัศนวิสัย รู้ไม่ชอบด้านหลัง รู้สึกทึบๆ ไม่โปร่งเท่า Camry
ส่วนการกินน้ำมัน เนื่องจากเป็นรถเพื่อนไม่เคยวัดตรงๆ แต่เคยขับเส้นทางใกล้เคียงกัน แล้วเติมน้ำมันเต็มถัง เติมกลับคืน Teana แพงกว่าหลายร้อย แต่ผมขับเร็วประมาณ 100-120 ยกเว้นแรงแซง และขับเท้าค่อนข้างหนัก
สรุปคือ ขับดี นั่งสบาย ช่วงล่างนิ่งนิ่มเงียบ ออกตัวอืด ลอยตัวไปเรื่อยๆ อยากแซงกด Sport ไม่ประหยัดน้ำมันเท่าไหร่
-
เคยขับ J32 เครื่องเดียวกัน
ถามว่าอืดไหม ก็อืดแหละครับ ด้วยรถมันคันใหญ่กว่า city เยอะ น้ำหนักก็มากกว่า ตอนออกตัวจะหนืดๆหน่อยครับ
0-60 คุณอาจจะรู้สึกไม่ทันใจ แต่หลังจากนั้นก็โอเคครับ
มันจะกลับกันกับ city ที่ 0-60 คุณจะรู้สึกว่าพุ่งกว่าครับ
ถ้าวิ่งนอกเมืองเทียน่าผ่อนคลายได้ดีเลยล่ะครับ
ผมเห็นราคาแล้ว ส่งต่อให้ผบ ดูเหมือนกัน โดนย้อนมาว่าจะส่งมาทำไม 555
ผมปรึกษากับ ผบ เค้ากังวลเรื่องรุ่นนี้มันจะสูญพันธ์จากประเทศไทยครับ เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ
กังวลเรื่องนี้ ถือว่ามากไปครับ อย่างน้อย อีก 20 ปี อะไหล่สบาย ๆ ผมใช้ saab บริษัทเจ๊งไปเป็นสิบปี ผมยังใช้อยู่ ไม่ปล่อย ใช้เป็นรถคันแรกอยู่เลย...ยังไม่กังวลอะไร...
-
ถามตามตรงว่า การที่ลังเลระหว่าง 2.0 กับ 2.5 คือเรื่องราคาค่าตัวใช่หรือไม่ครับ
ถ้าหากใช่ การเลือกรุ่น 2.0 ถือว่าประหยัดค่าตัวและค่าภาษีประจำปีมากกว่า เลือก 2.0 ได้เลยครับ
แต่ถ้าหากส่วนต่างค่าตัว ไม่ต่างกันมากจนลำบากเกินไป 2.5 จะน่าใช้กว่า
และถ้าไม่วิ่งรถติดบ่อยๆ 2.5 ดูจะประหยัดน้ำมันมากกว่าด้วยซ้ำครับ เนื่องจากกำลังเครื่องสมตัวกว่า
-
สบายๆครับผมใช้อีโค่ตลอดถ้าไม่ได้ขึ้นเขา
เทียบกับรถเดิมอาจจะหงุดหงิดตอนออกตัวแต่ได้ความเงียบสงบของห้องโดยสารมาแทน รถล้านนึงเงียบเท่ารถสามล้าน(เทียบเขาได้เรื่องเดียว ::))
-
เคยขับ J32 เครื่องเดียวกัน
ถามว่าอืดไหม ก็อืดแหละครับ ด้วยรถมันคันใหญ่กว่า city เยอะ น้ำหนักก็มากกว่า ตอนออกตัวจะหนืดๆหน่อยครับ
0-60 คุณอาจจะรู้สึกไม่ทันใจ แต่หลังจากนั้นก็โอเคครับ
มันจะกลับกันกับ city ที่ 0-60 คุณจะรู้สึกว่าพุ่งกว่าครับ
ถ้าวิ่งนอกเมืองเทียน่าผ่อนคลายได้ดีเลยล่ะครับ
ผมเห็นราคาแล้ว ส่งต่อให้ผบ ดูเหมือนกัน โดนย้อนมาว่าจะส่งมาทำไม 555
ผมปรึกษากับ ผบ เค้ากังวลเรื่องรุ่นนี้มันจะสูญพันธ์จากประเทศไทยครับ เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ
เรื่องนี้น่ากังวล และต้องคิดให้เยอะๆครับ เพราะความสามารถและเวลาในการหาอะไหล่แต่ล่ะคนไม่เท่ากัน บางครั้งซื้อรถที่ขายได้น้อย ช่างศูนย์ซ่อมไม่เก่ง เสียเวลา โดนเมียด่า เสียงานเสียการ ไม่คุ้มครับ ยิ่งตอนขายนี่ลำบากมาก หาคนรับต่อไม่ได้ จะใช้ต่อก็ต้องซ่อม ยังไงก็ต้องคิดให้เยอะๆครับ
-
เคยใช้L33 2.5อยู่ 7หมื่นโล
เป็นรถที่เหมือนเรือยอร์ช ออกตัวไม่ปรืดปร้าดมาก ถ้ากดเต็มเท้า ก็พอพุ่งได้ mode ธรรมดาไม่ECo แต่ผมไม่ค่อยทำ เพราะสงสารเกียร์
ขับยาวๆ ไหวแน่นอน และสบาย นุ่มเงียบ กำลังเครื่องพอ แซงสนุก แต่ไม่ใช่สไตล์วัยรุ่นแน่ๆ
ใจผม ถ้า จขกท เปรียบ2.0 vs 2.5 ไป2.5เถอะ เดี๋ยวไม่จบครับ
-
หน้าตารถปี 2014-2016 ภายในนี่ผมมองว่ายังไม่ถึงปี 2005 ของหลายยี่ห้อแต่สมรรถนะรถดีครับ น่าใช้
ถ้าโอเคกับหน้าตาและภายใน เอา2.5 ครับไม่ได้กินกว่า 2.0 อะไรมากมาย ราคาลดแล้วถือว่าดีครับ
แต่ถ้าไม่ลดแบบนี้ขายเท่า Acv70 & G10 ก้ไม่ได้น่าสนใจครับ จริงๆขับความเร็วแบบนั้น 2.0 ก้ได้แต่แค่ว่า
2.0 มันไม่ได้ประหยัดกว่า 2.5 เท่าไหร่เลยตัวนี้ครับ ส่วนเรื่องอัตราเร่งในมุมมองของผมที่เคยขับ D seg 2.0
เทียบกับ รถ b seg 1.5 อัตราเราง 0-110 d seg ไม่เร็วกว่าครับ แต่ถ้าเลยไป d seg ขึ้นเร็วกว่าจนถึงจบ
ครับ
-
เคยใช้ L33 2.0 เกือบ 5 ปี เจ็ดหมื่นกว่าโล
ถ้าขับ 1.5 มาก่อน ช่วงออกตัวจะรู้สึกช้ากว่าหน่อย
พอไปกลางถึงสูง L33 รู้สึกไวกว่านิดๆ
CVT-8 ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น ปลายสองร้อยต้น ไม่หืดจับ
ใช้ ตจว. 100-120 km/h เข้าทาง CVT-8 เลยครับ
ถ้ารถไม่เยอะ เท้าเนียนๆ เดินทางไกล 17-19 km/l ไม่ยาก
แต่เข้าเมืองรถติด ก็ตัวใครตัวมันครับ
ผมอยู่จังหวัดเกือบเหนือสุด ในชีวิตประจำวันได้ 13.5-14 km/l
รถรุ่นนี้ไม่จุกจิก
-ขยันเปลี่ยน นมก. ออกตัวถนอม ใช้ยาว
-คนความรู้สึกไวอาจรู้สึกเย่อๆ หน่อย เวลารถใกล้หยุด
-การประกอบภายในโอเค ปีที่สามยังไม่มีเสียงก๊อกแก็ก
เทียบกับ G10 ป้ายแดงยังไม่ทันถอด แผงประตู คอลโซล ซันรูฟ ดังกราวเลยครับ
Accord Gen 10 ?? = ประกอบไม่ดี
-
รถ d seg แรงม้าต่อน้ำหนักที่เหมาะสมคือ 160 BHP+- ครับ ถ้าต่ำกว่านี้มันก็ขับได้แต่ไม่เหมาะกับขนาดรถครับ จิ้มไปที่ 2.5 จบครับ
-
อ่านจาก comment ทั้งหมด เชียร์ไป 2.5 แต่เรื่องกินจุคงต้องทำใจ เพราะผมใช้รถเยอะ
ส่วนราคาที่ต่างกัน 180,000 สำหรับเครื่องยนต์คนละตัว มากไปไหมครับ
-
2.5 คุ้มนะ แต่ซดน้ำมันน่าดูครับ 8)
-
ส่วนตัวขับ Corolla 1.6 กับ Camry 2.0D4S บ่อยสุด เคยขับ l33 2.0 ของเพื่อนบ่อยครั้ง
ตอนออกตัวรู้สึกว่าออกตัวอืดเหมือนรถไม่มีแรง แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเซตมาแบบนี้ แต่พอลอยตัวแล้วแรงพอใช้งานครับ ขับไปเรื่อยๆกำลังดี เวลาเร่งแซงเติมคันเร่งไป เหมือนรถไม่รู้จะเลือกเกียร์ไหนให้ใช้ สังเกตรอบเครื่องมันจะเด้งขึ้นเด้งลง ตรงจุดนี้ ผมชอบ Camry มากกว่า หรือเพราะผมขับ CVT ไม่เป็น ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเร่งแซงคุณกดโหมด Sport แรงมาดีมากๆ เติมคันเร่งพอประมาณไม่ต้องกดสุด ไหลต่อเนื่องแปปเดียว 140-150 ตรงจุดนี้ผมว่าดีกว่า Camry รู้สึกความเร็วไหลต่อเนื่องดี (ตัวเลขใครดีกว่าผมไม่ทราบนะครับ)
การขับขี่ พวงมาลัยความเร็วสูงผมว่ามีน้ำหนักดี แต่ไวไป ไม่เหมือน Camry ที่รู้สึกเบาๆแต่ไม่ไว
ช่วงล่าง รถนิ่งมาก นิ่มมากนั่งสบาย เป็นรถที่ผมขับแล้วอยากไปนั่งแทน ความเร็วสูงก็ยังนิ่งและนิ่ม ผมว่าเทียบกับรถยุโรปค่ายนึงในช่วงปีใกล้กันได้เลย (ไม่ได้อวยนะครับ) รถเงียบมาก เก็บเสียงดีมาก
ทัศนวิสัย รู้ไม่ชอบด้านหลัง รู้สึกทึบๆ ไม่โปร่งเท่า Camry
ส่วนการกินน้ำมัน เนื่องจากเป็นรถเพื่อนไม่เคยวัดตรงๆ แต่เคยขับเส้นทางใกล้เคียงกัน แล้วเติมน้ำมันเต็มถัง เติมกลับคืน Teana แพงกว่าหลายร้อย แต่ผมขับเร็วประมาณ 100-120 ยกเว้นแรงแซง และขับเท้าค่อนข้างหนัก
สรุปคือ ขับดี นั่งสบาย ช่วงล่างนิ่งนิ่มเงียบ ออกตัวอืด ลอยตัวไปเรื่อยๆ อยากแซงกด Sport ไม่ประหยัดน้ำมันเท่าไหร่
ช่วงล่าง L33 = เทียบได้กับรถยุโรปยี่ห้อไหน รุ่นไหน ปีไหนครับ ??
-
อ่านจาก comment ทั้งหมด เชียร์ไป 2.5 แต่เรื่องกินจุคงต้องทำใจ เพราะผมใช้รถเยอะ
ส่วนราคาที่ต่างกัน 180,000 สำหรับเครื่องยนต์คนละตัว มากไปไหมครับ
ไม่มากไปครับ เครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น & เหมาะสมกับน้ำหนักตัวรถมากกว่า + ออฟชั่นที่มากกว่าตัว 2.0 = สุนทรียะแห่งการขับขี่ ;)
-
2.0กับ2.5อัตรากินน้ำมันทางไกลไม่ต่างกันหรอกครับ พอๆกันเลย แต่อรรถรส2.5เหยียบติดเท้ากว่ามาก ผมว่า2.5ไปเลยจบๆครับ ราคาล้านนิดๆแต่ได้2.5ป้ายแดง คุ้มแล้ว
-
มันจะอืด ช่วงเร่งออกจากไฟแดง กับอืดตอนขับมา 70-80 ต่อท้ายรถคันหน้าแล้วเร่งแซงนี่แหละครับ
ตรงตาม การเทสต์ของ hlm เด๊ะเลย 0-100 กับ 80-120
-
อ่านจาก comment ทั้งหมด เชียร์ไป 2.5 แต่เรื่องกินจุคงต้องทำใจ เพราะผมใช้รถเยอะ
ส่วนราคาที่ต่างกัน 180,000 สำหรับเครื่องยนต์คนละตัว มากไปไหมครับ
ผมว่าตัวท้อป 2.5 ตอนขายจะง่ายกว่า 2.0
เกียร์ cvt วิ่งทางยาวๆเท้าเบาๆ ผมว่าขับสบาย
ส่วนตัวผมว่า ต้องมีใจชอบรถนิสสันก่อนดีกว่า ถ้าแบบลองมาแล้ว ใจไปแคมรี่ แอคคอร์ด ไม่เคยมองนิสสันเลย แต่มาซื้อเพราะราคา แล้วต้องทนใช้ไป5-7 ปี มันไม่น่าเวิคนะครับ
-
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นครับ เมื่อสักครู่จะไปจองปรากฎว่าเหลือแต่ 2.5 สีแดง
สงสัยอดแล้วครับ T_T
-
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นครับ เมื่อสักครู่จะไปจองปรากฎว่าเหลือแต่ 2.5 สีแดง
จอง L33 2.5 สีแดง แล้วเอาไปเปลี่ยนเป็นสีที่ชอบที่อู่ทำสีเลยครับ ;) ;)
-
ไม่อืดหรอกครับ ถ้า จขกท ไม่ใช่คนใจร้อนมากมายอะไร
แต่ต้องเข้าใจว่า มันไม่ใช่รถสายซิ่งอะไร
-
เคยใช้ L33 2.0 เกือบ 5 ปี เจ็ดหมื่นกว่าโล
ถ้าขับ 1.5 มาก่อน ช่วงออกตัวจะรู้สึกช้ากว่าหน่อย
พอไปกลางถึงสูง L33 รู้สึกไวกว่านิดๆ
CVT-8 ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น ปลายสองร้อยต้น ไม่หืดจับ
ใช้ ตจว. 100-120 km/h เข้าทาง CVT-8 เลยครับ
ถ้ารถไม่เยอะ เท้าเนียนๆ เดินทางไกล 17-19 km/l ไม่ยาก
แต่เข้าเมืองรถติด ก็ตัวใครตัวมันครับ
ผมอยู่จังหวัดเกือบเหนือสุด ในชีวิตประจำวันได้ 13.5-14 km/l
รถรุ่นนี้ไม่จุกจิก
-ขยันเปลี่ยน นมก. ออกตัวถนอม ใช้ยาว
-คนความรู้สึกไวอาจรู้สึกเย่อๆ หน่อย เวลารถใกล้หยุด
-การประกอบภายในโอเค ปีที่สามยังไม่มีเสียงก๊อกแก็ก
เทียบกับ G10 ป้ายแดงยังไม่ทันถอด แผงประตู คอลโซล ซันรูฟ ดังกราวเลยครับ
Accord Gen 10 ?? = ประกอบไม่ดี
ผมไม่กล้าฟันธงแบบนั้นครับ
แต่เทียบกับ G10 ที่ใช้อยู่ ยังไม่ถึงหมื่นกิโล วิ่งทางขรุขระหน่อย คอลโซล แผงประตู ซันรูฟ ดังชัดเจน
-
หาสีดำไม่ได้เลย สงสัยต้องเปลี่ยนใจไปรุ่นอื่นแล้วครับ :'( :'( :'(
-
หาสีดำไม่ได้เลย สงสัยต้องเปลี่ยนใจไปรุ่นอื่นแล้วครับ :'( :'( :'(
ติดสติกเกอร์ "คันนี้ สีดำ" ;) ;) ;)
-
เคยใช้ L33 2.0 เกือบ 5 ปี เจ็ดหมื่นกว่าโล
ถ้าขับ 1.5 มาก่อน ช่วงออกตัวจะรู้สึกช้ากว่าหน่อย
พอไปกลางถึงสูง L33 รู้สึกไวกว่านิดๆ
CVT-8 ช่วยให้ไหลลื่นขึ้น ปลายสองร้อยต้น ไม่หืดจับ
ใช้ ตจว. 100-120 km/h เข้าทาง CVT-8 เลยครับ
ถ้ารถไม่เยอะ เท้าเนียนๆ เดินทางไกล 17-19 km/l ไม่ยาก
แต่เข้าเมืองรถติด ก็ตัวใครตัวมันครับ
ผมอยู่จังหวัดเกือบเหนือสุด ในชีวิตประจำวันได้ 13.5-14 km/l
รถรุ่นนี้ไม่จุกจิก
-ขยันเปลี่ยน นมก. ออกตัวถนอม ใช้ยาว
-คนความรู้สึกไวอาจรู้สึกเย่อๆ หน่อย เวลารถใกล้หยุด
-การประกอบภายในโอเค ปีที่สามยังไม่มีเสียงก๊อกแก็ก
เทียบกับ G10 ป้ายแดงยังไม่ทันถอด แผงประตู คอลโซล ซันรูฟ ดังกราวเลยครับ
Accord Gen 10 ?? = ประกอบไม่ดี
ผมไม่กล้าฟันธงแบบนั้นครับ
แต่เทียบกับ G10 ที่ใช้อยู่ ยังไม่ถึงหมื่นกิโล วิ่งทางขรุขระหน่อย คอลโซล แผงประตู ซันรูฟ ดังชัดเจน
อ่านแล้วปวดใจ = อยากให้ Honda ประกอบ Accord ได้ดีเหมือนตอน Gen 7 ?? หรือประกอบได้แน่นหนาเหมือนทางพี่โต
-
2.5 อัตราเร่งดี ทางไกลไม่ต่างจาก 2.0 แต่ในเมืองกินกว่ากันชัดเจน และ มือสองขายต่อง่ายกว่า
2.5 มีแต่คนอยากหามือสองสภาพดีๆ แต่หายาก ส่วนใหญ่เป็น 2.0 กัน
-
ไม่ได้ขับ teana แต่ใช้ camry 2.0 d4s อยู่ ผมว่าไป 2.5 ดีกว่าครับ 2.0 คือพอไหม มันพอแหละ ตัวเลข camry ผมก็ไม่ได้แย่ ใกล้เคียงกับ 1.8 บางตัวด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ d-seg 2.0 ขาดคือ แรงบิด ด้วยน้ำหนักมันเยอะออกตัวก็อืดหน่อย ต้องกดลึก คือเอาง่ายๆมันค้องรอรอบรอแรงบิดแรงม้านั้นแหละครับ เทียบตัวเลขแรงม้าต่อน้ำหนักมันอาจจะดูไม่แย่ ขับคนเดียวอาจไม่ชัด แต่ถ้านั่งเต็ม 4 พร้อมของหลังรถนี่อืดลงไปพอสมควรเพราะแรงบิดมันน้อยไปหน่อยในรอบต่ำ แต่ถ้าไม่ได้ใจร้อนก็ใช้ได้ครับ
-
ส่วนตัวขับ Corolla 1.6 กับ Camry 2.0D4S บ่อยสุด เคยขับ l33 2.0 ของเพื่อนบ่อยครั้ง
ตอนออกตัวรู้สึกว่าออกตัวอืดเหมือนรถไม่มีแรง แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเซตมาแบบนี้ แต่พอลอยตัวแล้วแรงพอใช้งานครับ ขับไปเรื่อยๆกำลังดี เวลาเร่งแซงเติมคันเร่งไป เหมือนรถไม่รู้จะเลือกเกียร์ไหนให้ใช้ สังเกตรอบเครื่องมันจะเด้งขึ้นเด้งลง ตรงจุดนี้ ผมชอบ Camry มากกว่า หรือเพราะผมขับ CVT ไม่เป็น ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเร่งแซงคุณกดโหมด Sport แรงมาดีมากๆ เติมคันเร่งพอประมาณไม่ต้องกดสุด ไหลต่อเนื่องแปปเดียว 140-150 ตรงจุดนี้ผมว่าดีกว่า Camry รู้สึกความเร็วไหลต่อเนื่องดี (ตัวเลขใครดีกว่าผมไม่ทราบนะครับ)
การขับขี่ พวงมาลัยความเร็วสูงผมว่ามีน้ำหนักดี แต่ไวไป ไม่เหมือน Camry ที่รู้สึกเบาๆแต่ไม่ไว
ช่วงล่าง รถนิ่งมาก นิ่มมากนั่งสบาย เป็นรถที่ผมขับแล้วอยากไปนั่งแทน ความเร็วสูงก็ยังนิ่งและนิ่ม ผมว่าเทียบกับรถยุโรปค่ายนึงในช่วงปีใกล้กันได้เลย (ไม่ได้อวยนะครับ) รถเงียบมาก เก็บเสียงดีมาก
ทัศนวิสัย รู้ไม่ชอบด้านหลัง รู้สึกทึบๆ ไม่โปร่งเท่า Camry
ส่วนการกินน้ำมัน เนื่องจากเป็นรถเพื่อนไม่เคยวัดตรงๆ แต่เคยขับเส้นทางใกล้เคียงกัน แล้วเติมน้ำมันเต็มถัง เติมกลับคืน Teana แพงกว่าหลายร้อย แต่ผมขับเร็วประมาณ 100-120 ยกเว้นแรงแซง และขับเท้าค่อนข้างหนัก
สรุปคือ ขับดี นั่งสบาย ช่วงล่างนิ่งนิ่มเงียบ ออกตัวอืด ลอยตัวไปเรื่อยๆ อยากแซงกด Sport ไม่ประหยัดน้ำมันเท่าไหร่
ช่วงล่าง L33 = เทียบได้กับรถยุโรปยี่ห้อไหน รุ่นไหน ปีไหนครับ ??
Mercedes-Benz E-Class W212 ตัวก่อน Facelift ครับ วัดจากความรู้สึกตัวเองล้วนๆ ใกล้เคียงแต่ไม่ได้เหมือนกัน เรื่องความนิ่งของช่วงล่าง ความสบายในการเดินทาง ความเงียบ ที่ได้มา แต่กับราคาที่ซื้อห่างกันหลายเท่าตัว ยังไงก็คุ้มครับ ในความเร็วทั่วไป หรือไม่เกิน 120-140 ความเร็วมากกว่านั้นยังไม่เคยลองครับ อาจจะดูเวอร์ไปนิดนึงนะครับที่เทียบรถยุโรปได้ แต่ต้องไปลองดูจริงๆ
เพิ่มเติมอีกเรื่องคือเครื่องเสียงติดรถที่ให้มา เสียงไม่ได้ดีมากอะไรขนาดนั้น อยู่ในเกณฑ์โอเค ไม่ห่วยเท่า JBL ใน Camry 2.0D4S (ตัวก่อนปัจจุบัน) ผมปรับยังไงก็ไม่เพราะ ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละคนด้วยนะครับ
-
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นครับ เมื่อสักครู่จะไปจองปรากฎว่าเหลือแต่ 2.5 สีแดง
สงสัยอดแล้วครับ T_T
หวังว่าคงไม่เสียใจเพราะมารออ่านคอมเม้นเพื่อนๆชาว HLM นะครับ 555
-
หาสีดำไม่ได้เลย สงสัยต้องเปลี่ยนใจไปรุ่นอื่นแล้วครับ :'( :'( :'(
ติดสติกเกอร์ "คันนี้ สีดำ" ;) ;) ;)
8) 8) 8)
-
ไม่อืดหรอกครับ ถ้า จขกท ไม่ใช่คนใจร้อนมากมายอะไร
แต่ต้องเข้าใจว่า มันไม่ใช่รถสายซิ่งอะไร
แต่เท่าที่อ่าน comment ถ้าซื้อคงไป 2.5 ครับ ท่องไว้ว่าเหลือดีกว่าขาด ;D
-
2.5 อัตราเร่งดี ทางไกลไม่ต่างจาก 2.0 แต่ในเมืองกินกว่ากันชัดเจน และ มือสองขายต่อง่ายกว่า
2.5 มีแต่คนอยากหามือสองสภาพดีๆ แต่หายาก ส่วนใหญ่เป็น 2.0 กัน
ถ้ายังมีสีดำ 2.5XV เหลืออยู่ คงจัดเลยครับ
-
ไม่ได้ขับ teana แต่ใช้ camry 2.0 d4s อยู่ ผมว่าไป 2.5 ดีกว่าครับ 2.0 คือพอไหม มันพอแหละ ตัวเลข camry ผมก็ไม่ได้แย่ ใกล้เคียงกับ 1.8 บางตัวด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ d-seg 2.0 ขาดคือ แรงบิด ด้วยน้ำหนักมันเยอะออกตัวก็อืดหน่อย ต้องกดลึก คือเอาง่ายๆมันค้องรอรอบรอแรงบิดแรงม้านั้นแหละครับ เทียบตัวเลขแรงม้าต่อน้ำหนักมันอาจจะดูไม่แย่ ขับคนเดียวอาจไม่ชัด แต่ถ้านั่งเต็ม 4 พร้อมของหลังรถนี่อืดลงไปพอสมควรเพราะแรงบิดมันน้อยไปหน่อยในรอบต่ำ แต่ถ้าไม่ได้ใจร้อนก็ใช้ได้ครับ
ครับ อยากลองใช้รถแรงๆบ้างครับ
-
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นครับ เมื่อสักครู่จะไปจองปรากฎว่าเหลือแต่ 2.5 สีแดง
สงสัยอดแล้วครับ T_T
หวังว่าคงไม่เสียใจเพราะมารออ่านคอมเม้นเพื่อนๆชาว HLM นะครับ 555
ไม่หรอกครับ ที่ช้าเพราะผมลังเล ยังตัดสินใจไม่ได้ด้วย
-
กัดฟันไป2.5 จะได้ไม่เสียใจภายหลัง โดยเฉพาะเวลานั่ง 5 คนจะแซงทีมีเหนื่อย
-
ผมใช้ 2.0 อยู่ครับ ถ้าเป็นคนไม่รีบเรื่อยๆเน้นสบายๆ ผมชอบครับ ส่วนใหญ่เอาไว้ไปเชียงใหม่ กทม น้ำมันถังเดียวถึงครับ ครูสยาวๆ จะเปลืองช่วงเชียงใหม่ลำปางเพราะขึ้นดอย เฉลี่ยตามหน้าปัด 16.2 โลลิตร ประหยัดดีครับ ส่วนใหญ่ไปกัน3-4 คนครับ ในเมือผมว่าเปลืองเอาเรื่องเหมือนกัน 7โลลิตรมีตลอด
-
ถ้าขับไม่โหด 2.0ไม่อืดหรอกครับ
แต่ซื้อทั้งที ถ้าไหวนะ2.5ไปเลย
ออฟชั่นดีกว่า เครื่องเหมาะสมกับขนาดรถ ขับทางไกลเวลาแซงหายห่วงสบายกว่าเยอะ
-
ไม่ขับเร็วไปเรื่อยๆ 2.0 ก็เหลือๆ ประหยัดน้ำมันกว่า
แต่ถ้าไม่ติดขัดเรื่องเงิน และขับตจว.บ่อยๆ 2.5 ทีเดียวจบ เวลาแซง ไม่ต้องลุ้นครับ
-
ไม่อืดขนาดมีปัญหาในการใช้งานครับ แน่นอนว่าไม่ปรู้ดปร้าด อย่าคิดเยอะครับ อย่างมากไปลองขับดูครับ น่าจะพอหาได้
-
ต้องถามว่าเพิ่มเงินส่วนต่างอีก 180,000 จะอึดอัดไหม ? ถ้าคำตอบคือไม่ก็จิ้มไปที่ตัว 2.5 เลยจะได้ไม่คาใจ !!
ส่วนตัวเคยใช้ทั้ง A32 กับ A33 เครือง 2.0 ก็อืดทั้งคู่แต่ถ้าขับตามความเร็วที่กฎหมายกำหนดก็ชิวๆ
ขับขึ้นเหนือล่องใต้ ขึ้นเขาขึ้นดอย ถนนสองเลนสวนกัน แซงรถพ่วงก็ทำได้ขอให้กะจังหวะดีๆ
กล้าๆกดคันเร่งมิดๆทุกเวลาแซง อย่าไปค่อยๆกดมันก็พอไหวอยู่
สองคันขับมาทั้งหมดรวมกันเกือบสามแสนโล รับได้และพอใจกับสมรรถนะโดยรวมครับ
เคยขับ L33 ของเพื่อนระยะสั้นๆไปเขาใหญ่ รู้สึกว่าอัตราเร่งดีกว่า A33 ของเราอีก
คหสต. ถ้าเป็นผมเก็บเงินส่วนต่าง 180,000 ไว้เติมน้ำมันได้หลายปีเลย เศรษฐกิจตอนนี้ขอประหยัดไว้ก่อนสักนิส ....
-
:D ;D ราคาตอนนี้ดีงามและมีจำกัด หมดแล้วหมดเลย ไม่ผลิตแล้วนะครับ ยังไงก็คุ้ม แต่คุ้มมากคุ้มน้อยแล้วแต่ละคนนะครับ
>รถพวกนี้ผลิตมานานและจอดรอเจ้าของมานานแล้ว ตรวจรถให้ดี ทำใจไว้ระดับหนึ่ง ซื้อของใน outlet อย่าคาดหวังว่าเหมือน counter
>คุยกับแฟนให้ชัด ออกมายางเสื่อม น้ำเข้า แบตเสื่อม ยางรถเสียทรง ต้องเคลม หรือเสียเวลาบ้างถ้างานไม่ได้สำคัญมาก บอกก่อนจะได้ชัด ไม่งั้น ฉันบอกแล้ว...
>คุยกับคนขายเรื่องรับประกันกับการดูแลรถต่อนี้ไปให้ชัด Nissan ขายน้อยลง รถน้อยลง ศูนย์ก็น้อยลง มองอะไรไว้ก่อนก้ดี
>การที่ขายไม่ออก หยุดผลิตมานานแล้ว แล้วมาเท มันต้องมีส่วนที่เป็นข้อเสีย ถ้ารับได้หรือไม่ตรงกับเรามองก็จบ ของถุกไม่มีในโลก มีแต่ของเหมาะสมกับราคา รับได้ก็จบ ไม่งั้นคนทั้งโลกก็ใช้รถมือสองกันหมดแล้ว ราคาถูกกว่ามือ 1 ต้นทุนเวลาคนไม่เท่ากันครับ บางคนทั้งวันได้ 300 บางคนได้ 10000 ไม่มีผิดถูก มีแต่เข้าใจ แล้วเลือกที่ใช่
โชคดีกับรถใหม่ครับ ส่วนตัวเชียร์ 2.5 ครับ จากประสพการณ์
>>>เป็นผมจะไปซื้อ Honda 1.5T แทน ลดไป 1แสนตอนนี้ ประกันฟรี ดอกเบี้ย 1.59 จบกว่า ราคาตัวรถแพงกว่า แสนกว่า แต่ดอกเบี้ยถูกกว่า แต่ไม่ต้องกังวลอะไร แฟนไม่บ่น555
-
:D ;D ราคาตอนนี้ดีงามและมีจำกัด หมดแล้วหมดเลย ไม่ผลิตแล้วนะครับ ยังไงก็คุ้ม แต่คุ้มมากคุ้มน้อยแล้วแต่ละคนนะครับ
>รถพวกนี้ผลิตมานานและจอดรอเจ้าของมานานแล้ว ตรวจรถให้ดี ทำใจไว้ระดับหนึ่ง ซื้อของใน outlet อย่าคาดหวังว่าเหมือน counter
>คุยกับแฟนให้ชัด ออกมายางเสื่อม น้ำเข้า แบตเสื่อม ยางรถเสียทรง ต้องเคลม หรือเสียเวลาบ้างถ้างานไม่ได้สำคัญมาก บอกก่อนจะได้ชัด ไม่งั้น ฉันบอกแล้ว...
>คุยกับคนขายเรื่องรับประกันกับการดูแลรถต่อนี้ไปให้ชัด Nissan ขายน้อยลง รถน้อยลง ศูนย์ก็น้อยลง มองอะไรไว้ก่อนก้ดี
>การที่ขายไม่ออก หยุดผลิตมานานแล้ว แล้วมาเท มันต้องมีส่วนที่เป็นข้อเสีย ถ้ารับได้หรือไม่ตรงกับเรามองก็จบ ของถุกไม่มีในโลก มีแต่ของเหมาะสมกับราคา รับได้ก็จบ ไม่งั้นคนทั้งโลกก็ใช้รถมือสองกันหมดแล้ว ราคาถูกกว่ามือ 1 ต้นทุนเวลาคนไม่เท่ากันครับ บางคนทั้งวันได้ 300 บางคนได้ 10000 ไม่มีผิดถูก มีแต่เข้าใจ แล้วเลือกที่ใช่
โชคดีกับรถใหม่ครับ ส่วนตัวเชียร์ 2.5 ครับ จากประสพการณ์
>>>เป็นผมจะไปซื้อ Honda 1.5T แทน ลดไป 1แสนตอนนี้ ประกันฟรี ดอกเบี้ย 1.59 จบกว่า ราคาตัวรถแพงกว่า แสนกว่า แต่ดอกเบี้ยถูกกว่า แต่ไม่ต้องกังวลอะไร แฟนไม่บ่น555
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ ตอนนี้หารถ Teana ไม่น่าจะได้แล้ว ผมเล็งๆ Accord 1.5T ไว้เหมือนกัน แต่หักส่วนลดแล้วราคาต่างกัน 2แสนนะครับ
-
:D ;D ราคาตอนนี้ดีงามและมีจำกัด หมดแล้วหมดเลย ไม่ผลิตแล้วนะครับ ยังไงก็คุ้ม แต่คุ้มมากคุ้มน้อยแล้วแต่ละคนนะครับ
>รถพวกนี้ผลิตมานานและจอดรอเจ้าของมานานแล้ว ตรวจรถให้ดี ทำใจไว้ระดับหนึ่ง ซื้อของใน outlet อย่าคาดหวังว่าเหมือน counter
>คุยกับแฟนให้ชัด ออกมายางเสื่อม น้ำเข้า แบตเสื่อม ยางรถเสียทรง ต้องเคลม หรือเสียเวลาบ้างถ้างานไม่ได้สำคัญมาก บอกก่อนจะได้ชัด ไม่งั้น ฉันบอกแล้ว...
>คุยกับคนขายเรื่องรับประกันกับการดูแลรถต่อนี้ไปให้ชัด Nissan ขายน้อยลง รถน้อยลง ศูนย์ก็น้อยลง มองอะไรไว้ก่อนก้ดี
>การที่ขายไม่ออก หยุดผลิตมานานแล้ว แล้วมาเท มันต้องมีส่วนที่เป็นข้อเสีย ถ้ารับได้หรือไม่ตรงกับเรามองก็จบ ของถุกไม่มีในโลก มีแต่ของเหมาะสมกับราคา รับได้ก็จบ ไม่งั้นคนทั้งโลกก็ใช้รถมือสองกันหมดแล้ว ราคาถูกกว่ามือ 1 ต้นทุนเวลาคนไม่เท่ากันครับ บางคนทั้งวันได้ 300 บางคนได้ 10000 ไม่มีผิดถูก มีแต่เข้าใจ แล้วเลือกที่ใช่
โชคดีกับรถใหม่ครับ ส่วนตัวเชียร์ 2.5 ครับ จากประสพการณ์
>>>เป็นผมจะไปซื้อ Honda 1.5T แทน ลดไป 1แสนตอนนี้ ประกันฟรี ดอกเบี้ย 1.59 จบกว่า ราคาตัวรถแพงกว่า แสนกว่า แต่ดอกเบี้ยถูกกว่า แต่ไม่ต้องกังวลอะไร แฟนไม่บ่น555
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ ตอนนี้หารถ Teana ไม่น่าจะได้แล้ว ผมเล็งๆ Accord 1.5T ไว้เหมือนกัน แต่หักส่วนลดแล้วราคาต่างกัน 2แสนนะครับ
ครับผมค่อยๆหาไป สำหรับผมรถที่คุ้มตอนนี้คือรถใหม่ที่ลดแยะๆ ไม่ใช่รถที่ทิ้งกระจาด นอกจากว่าเป็นคนที่ซื้อเสื้อตัวที่ถูกที่สุดในร้านทุกครั้ง
น้องที่ทำงานเอาพลาสติกปิดกระจกหลัง ถามไปบอกรออะไหล่ 1-2เดิอน ตัวคนเดียวไม่เป็นไร ถ้าแม่นั่ง ลูกไป รร หรือส่งแฟน ถ้าชีวิตมันลงตัวอยู่แล้วอย่าไปหลงกับของราคาตำ่กว่าที่ต้องพึ่งโชคชะตา มีความสุขกับรถที่ซื้อมาใหม่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นคันไหนก็ตาม