ผู้เขียน หัวข้อ: ทดสอบอัตราสิ้นเปลือง Nissan Kicks E Power ใช้งานจริง วิ่งทางไกล  (อ่าน 12573 ครั้ง)

ออฟไลน์ Simplify

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
พอดีผมเจอมีคนทดสอบอัตราสิ้นเปลือง Nissan Kicks E Power โดยใช้ Eco Mode ในการขับขี่ วิ่งจริงในสภาพการจราจรจากถนนบางนาตราด กม.4 ไปชลบุรี ขับโดยใช้ One Pedal

ระยะทางขาไป 66.7 กม. เติมน้ำมัน E20 (20.51 บาท/ลิตร) ขาไปใช้น้ำมันไป 3.8 ลิตร ได้อัตราสิ้นเปลือง 17.5 กม./ลิตร

คำนวณค่าใช้จ่ายน้ำมันได้เท่ากับ 1.19 บาท/กม.

ส่วนขากลับจากชลบุรีมากรุงเทพ เห็นผู้ทดสอบว่าขากลับรถติดมาก ขับด้วย S Mode ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขากลับใช้น้ำมัน E20 (20.49 บาท/ลิตร) ไป 5.8 ลิตร คำนวณอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 13.8 กม./ลิตร คำนวณค่าใช้จ่ายน้ำมันได้เท่ากับ 1.48 บาท/กม. ถ้าขากลับใช้ Eco Mode เหมือนกันจะได้เปรียบเทียบได้ดีกว่านี้

ผมคิดว่าใช้ตัวเลขช่วงขาไปน่าจะใกล้เคียงกับการขับทางไกลแบบเรื่อยๆมากกว่านะครับ



ผมว่าส่วนมากผู้ที่ซื้อรถน่าจะเปรียบเทียบอัตราสิ้นเปลืองจาก Eco Sticker กันหรือเปล่าครับ เพราะไปเดินงาน Motor Show ก็เห็นติดอยู่ข้างรถทุกคัน จำมาเปรียบเทียบกันได้สะดวกดี ส่วนผลจากการใช้งานจริงก็คงต้องรอคนใช้หลากหลายเส้นทางมาเปรียบเทียบกันอีกทีนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2020, 16:38:44 โดย Simplify »

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,245
ผมนึกว่าepowerช่วงรถติดๆจะกินพอๆกับเดินทางไกลซะอีก

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
ถ้าไม่ได้คาดหวังแบบเวอร์ๆ ตามการปั่นกระแส
ผมคิดว่าได้เท่านี้ก็ดีแล้ว เมื่อเทียบกับอัตราเร่ง
และราคารถ จริงๆแล้ว ถ้าเป็นการเดินทางแบบ
กลุ่มเพื่อนที่มีรถอีกคันเกาะตามกันไปในสภาพ
การจราจรเดียวกันแล้วเปรียบเทียบอัตราการกิน
น้ำมันด้วย ก็จะเห็นผลงานของระบบ e-power
ได้ชัดเจนมากขึ้นครับ

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
    • อีเมล์
ไม่ได้คาดหวังจะประหยัดเลย ได้เท่านี้กับสมรรถนะรถ เพียงพอแบบเหลือๆ คิดเสียว่ารถ 1.2 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแทนเกียร์cvt ตัวอืด ได้อัตราเร่งดีขึ้นมากๆแล้ว อยากทราบรถติดในเมืองหนักๆมากกว่า นอกเมืองคิดว่าคันเร่งไวๆแบบนั้น ไม่มีใครขับ 100 ตลอดแน่

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,884
ถ้าเราเอาตัวเลขแรงม้า และแรงบิดมาเทียบกับรถน้ำมัน ผมก็ถือว่าประหยัดเลยแหละ โดยเราอย่าไปดูที่มันกี่ CC.

แต่ถ้าเอา CC. มาเทียบกับรถน้ำมัน มันก็คงจะสู้ไม่ได้ แต่กลับกัน รถที่มี CC. เท่านี้ก็คงเทียบแรงม้าและแรงบิดกับ Kick ไม่ได้เช่นกัน

หรือจะเอาขนาดตัวรถเป็นที่ตั้ง ถ้าอย่างงั้น ก็คงต้องไปดูที่ CX3 ดีเซลซึ่งไม่มีขายเป็นรถใหม่แล้ว ที่เหลืออยู่ก็คงเป็นคำตอบว่า Kick ทำได้ดีกว่าเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยเป็นส่วนๆไป

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
Kick ถ้าดู Power band ช่วงรอบต้น (ซึ่งเป็นช่วงใช้งานปกติของคนทั่วไป) พละกำลังมันพอๆกับเครื่อง 2400 NA หรือไม่ก็ 1.5 Turbo
แต่ได้อัตราสิ้นเปลืองประมาณนี้ ผมว่าโอเคเลยคับ

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,176
  • slower is better
ในการใช้งานจริงบนความเร็วตามกฎหมาย​ มันแรงกว่า 1.5-1.6Turbo แต่ประหยัดกว่าก็ถือว่าสำฤทธิ์​ผลแล้วครับ

ออฟไลน์ kunimihero

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 147
ไม่ประหยัดอย่างที่คิด แต่แรงจริงๆครับ

ออฟไลน์ p.pooh

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 141
จากที่อ่านๆใน youtube มีแต่คนคาดหวังจะให้มันกินน้ำมันเท่า honda wave
ผมว่าขนาดนี้ก็ OK นะ ไม่ได้แย่มาก แถมตอนต้นออกตัวไว กระชับ มันได้ใช้งานจริง เท่านี้ก็ผ่านแล้ว เรื่องความชอบอื่นๆ อยู่ที่ส่วนตัวบุคคลแล้ว

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,488
จากที่อ่านๆใน youtube มีแต่คนคาดหวังจะให้มันกินน้ำมันเท่า honda wave
ผมว่าขนาดนี้ก็ OK นะ ไม่ได้แย่มาก แถมตอนต้นออกตัวไว กระชับ มันได้ใช้งานจริง เท่านี้ก็ผ่านแล้ว เรื่องความชอบอื่นๆ อยู่ที่ส่วนตัวบุคคลแล้ว

เอาเท่าเวฟเลยหรือครับ

ผมที่จองไป  ไม่ได้หวังมากมายนัก  ไป-กลับ ปากช่อง  1-1.25 บาท  พอใจแล้ว   

ออฟไลน์ Simplify

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
มีผู้ทดสอบใช้งานในสิงคโปร์ ใช้ S Mode ขับแบบใช้งานในชีวิตประจำวัน ระยะทาง 42.5 กม. ใน 3 วัน ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 21.4 Km/l


ออฟไลน์ Odd_yim

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 439
    • อีเมล์
ดู ๆ แล้ว ก็น่าจะไล่ ๆ กับ March และ Almera ที่ใช้เครื่องรุ่นเดียวกันนะครับ แต่อัตราเร่งนี่คนละเรื่องเลย

ออฟไลน์ siamskunk

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 425
อยากดูอัตราสิ้นเปลืองในเมืองมากกว่า Kicks น่าจะเหมาะกับการใช้งานในเมืองจราจรหนาแน่นมากกว่าวิ่งทางไกล

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,530
ในคลิปบอก วิ่งขากลับระยะ 80 กม. ใช้เวลา 2-3 ชม. นี่รถติดแบบโคตรติด ได้อัตราสิ้นเปลือง 13.8 โลลิตร ก็บุญมากมายแล้วครับ

แต่ทางไกลน่าจะดีกว่านี้นิดนึงก็ไม่ได้ 5555+

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
hype กันเกินไป ในเมื่อทางปฎิบัติมันก็คือไฮบริดเติมน้ำมันแบบ C-HR นั่นล่ะครับ

ทั้งนี้ต้องยอมรับสมรรถนะช่วงความเร็วใช้งานจริง

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,186
hype กันเกินไป ในเมื่อทางปฎิบัติมันก็คือไฮบริดเติมน้ำมันแบบ C-HR นั่นล่ะครับ

ทั้งนี้ต้องยอมรับสมรรถนะช่วงความเร็วใช้งานจริง

พี่เองก็ hype CHR เกินไป ทุกคนในนี้ก็รู้ว่ามันต้องเติมน้ำมันแบบ chr
แต่แค่ชื่นชมว่ามันขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
ไม่ได้สลับมอเตอร์กับเครื่องยนต์ แบบรถไฮบริดทั่วๆไป

ไม่งั้นจะมีศัพท์ปลั๊กอินไฮบริดมาทำไม ที่เค้าแยกเรียกเพื่อจะได้เข้าใจได้ง่ายแค่นั้นเอง

ออฟไลน์ มะหมู อู๊ดๆ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 264
    • อีเมล์
อืมม นึกว่ารถติดๆจะทำได้ดีกว่านี่นะเนี่ย สรุปคือจุดเด่นอยู่ที่แรงสินะ

ว่าแต่ถ้ารถติดๆhybrid จะพี่โตทำได้ดีกว่านี้ไหมครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
hype กันเกินไป ในเมื่อทางปฎิบัติมันก็คือไฮบริดเติมน้ำมันแบบ C-HR นั่นล่ะครับ

ทั้งนี้ต้องยอมรับสมรรถนะช่วงความเร็วใช้งานจริง

ไม่เกินนะครับ
ระบบนี้มันเหนือกว่า ของ C-HR ในบางเรื่อง คือ อัตราเร่งที่เป็นแบบรถไฟฟ้าเลย
จะด้อยกว่า จุดเดียวตรง ความเร็วปลาย เพราะมันไม่ได้ใช้เครื่องยนต์มาลงล้อเลยครับ

ส่วนการประหยัดผมว่า ภาพรวม สูสีนะ

แต่ที่ชัดเจนคือ ต้นทุนมันถูกกว่า  C-HR เพราะมันเป็น EV แบกเครืืองปั่น
คงขายดีกว่า CH-R แน่นอน ละครับ

ส่วน CH-R ก็นอนอยู่ท้ายตารางไปนะ แพ้เค้าไป

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,243
    • อีเมล์
หลายคนคาดหวังกับความประหยัด บอกเลยว่าผิด

ผมว่าจุดเด่น น่าจะเป็นเรื่อง response ของรถ ที่มีให้ใช้งานตลอดมากกว่า

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
เป็นนิสสันนี่ก็หนักใจ รถไม่แรงคนก็ด่า พอแรงแต่ไม่ประหยัด 20 โลลิตรคนก็ด่าอีก ผมว่าคงต้องเลือกอ่ะ อยากประหยัดไปอัลเมร่า อยากขับสนุกมา kick ถ้าทั้งสนุกทั้งประหยัดยังไม่มี  ;D

ออฟไลน์ headcutterz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
    • อีเมล์
แพงกว่า city 1.0 t ตั้งเยอะ ขนาดห้องโดยสารก็พอ ๆ กัน ความหรูหราภายในก็พอ ๆ กัน คลาสรถก็พอ ๆ กัน จะจ่ายเงินเพิ่มทำไมตั้งหลายแสนแบกค่ามอเตอร์กับแบตเตอรี่ไปด้วย ทั้งที่อัตรเร่งกับการประหยัดน้ำมันไม่ได้ต่างกันเลยครับ

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
    • อีเมล์
แพงกว่า city 1.0 t ตั้งเยอะ ขนาดห้องโดยสารก็พอ ๆ กัน ความหรูหราภายในก็พอ ๆ กัน คลาสรถก็พอ ๆ กัน จะจ่ายเงินเพิ่มทำไมตั้งหลายแสนแบกค่ามอเตอร์กับแบตเตอรี่ไปด้วย ทั้งที่อัตรเร่งกับการประหยัดน้ำมันไม่ได้ต่างกันเลยครับ
งั้นผมซื้อ hrv มาก็ไม่ต้องซื้อดิ city ดีกว่า ภายในก็พอๆกัน อัตราเร่ง city ดีกว่าเยอะ กรรม

ออฟไลน์ Nismo De Alpina

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
  • Whatever brews your coffee.
ไปลองมาแล้วครับ บอกได้ว่าอัตราเร่งมันสุดมาก คือลักษณะของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีคำว่ารอรอบแบบ
รถเครื่อง Turbo และไม่ต้องหงุดหงิดใจกับเกียร์ CVT โง่ๆที่ต่อให้ผู้ผลิตบอกว่าพัฒนามาดียังไงก็ไม่มี
ทางสู้แรงบิด+อัตราเร่งและการถ่ายทอดกำลังได้ดีเท่าของมอเตอร์ไฟฟ้าได้เลย คือยังไงดีจะบอกว่าทุกครั้ง
ที่กระทืบคันเร่งไม่มีคำว่ารอแป๊บนะ ไม่เลย พุ่งเลยเหมาะกับสายมุดสายโยกมากๆ ขับในเมืองรถเยอะๆนี่แบบ
เห้ยย เจ๋งว่ะ ใครที่ชอบรถที่มีอัตราเร่งดีๆ และยังไม่ลองของให้ไปลองขับเลยครับแล้วดูว่ามันเป็นอย่างที่ผมพูดไหม

ส่วนอัตราสิ้นเปลืองผมไม่ค่อยได้สนใจมากนัก เท่าที่ทาง HLM ทดสอบมาก็กินระดับ Eco car ผมถือว่าพอละ
อ้อกับอีกอย่างนึงอยากให้ปลายมันไหลไปตัดที่ 180 Km/h ได้นี่จะดีมากๆ เพราะ 160 นี่ยังขัดใจผมนิดๆ 
ทั้งหมดนี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะ ชอบไม่ชอบก็เงินท่านตัดสินใจกันเอง และถือว่าเรากำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค EV
แต่ยังไม่พร้อมเรื่องการชาร์จไฟ ส่วนผมคิดว่าอยากโดนมันซะละ  ::)
Eventually i've made my home country,Thailand.

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
แพงกว่า city 1.0 t ตั้งเยอะ ขนาดห้องโดยสารก็พอ ๆ กัน ความหรูหราภายในก็พอ ๆ กัน คลาสรถก็พอ ๆ กัน จะจ่ายเงินเพิ่มทำไมตั้งหลายแสนแบกค่ามอเตอร์กับแบตเตอรี่ไปด้วย ทั้งที่อัตรเร่งกับการประหยัดน้ำมันไม่ได้ต่างกันเลยครับ

ไม่ใช่ละครับ รถมันสูงกว่า ใหญ่กว่า แรงกว่า และเป็น แฮทแบค
มันเทียบเท่า HR-V 
ที่แน่ๆ มัน คือ รถ EVs ( HEV )

An electric vehicle (EV) is a vehicle that uses one or more electric motors or traction motors for propulsion. An electric vehicle may be powered through a collector system by electricity from off-vehicle sources, or may be self-contained with a battery, solar panels, fuel cells or an electric generator to convert fuel to electricit

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2020, 13:08:15 โดย mamaman »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
ไปลองมาแล้วครับ บอกได้ว่าอัตราเร่งมันสุดมาก คือลักษณะของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีคำว่ารอรอบแบบ
รถเครื่อง Turbo และไม่ต้องหงุดหงิดใจกับเกียร์ CVT โง่ๆที่ต่อให้ผู้ผลิตบอกว่าพัฒนามาดียังไงก็ไม่มี
ทางสู้แรงบิด+อัตราเร่งและการถ่ายทอดกำลังได้ดีเท่าของมอเตอร์ไฟฟ้าได้เลย คือยังไงดีจะบอกว่าทุกครั้ง
ที่กระทืบคันเร่งไม่มีคำว่ารอแป๊บนะ ไม่เลย พุ่งเลยเหมาะกับสายมุดสายโยกมากๆ ขับในเมืองรถเยอะๆนี่แบบ
เห้ยย เจ๋งว่ะ ใครที่ชอบรถที่มีอัตราเร่งดีๆ และยังไม่ลองของให้ไปลองขับเลยครับแล้วดูว่ามันเป็นอย่างที่ผมพูดไหม

ส่วนอัตราสิ้นเปลืองผมไม่ค่อยได้สนใจมากนัก เท่าที่ทาง HLM ทดสอบมาก็กินระดับ Eco car ผมถือว่าพอละ
อ้อกับอีกอย่างนึงอยากให้ปลายมันไหลไปตัดที่ 180 Km/h ได้นี่จะดีมากๆ เพราะ 160 นี่ยังขัดใจผมนิดๆ 
ทั้งหมดนี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะ ชอบไม่ชอบก็เงินท่านตัดสินใจกันเอง และถือว่าเรากำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค EV
แต่ยังไม่พร้อมเรื่องการชาร์จไฟ ส่วนผมคิดว่าอยากโดนมันซะละ  ::)

ออกมาหลัง City นิดเดียว ไม่งั้น ผมสอยมาแล้วครับ ราคาแค่นี้ สมรรถ ขนาดนี้
ที่แน่ๆ ญี่ปุ่น ขายดีไปแล้ว ถล่มทลาย อะไหล่เชียงกง มหาศาล

ออฟไลน์ headcutterz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
    • อีเมล์
hrv มันพื้นฐาน platform เดียวกันจริงแต่รถมันขยับทุกอย่างออกไปให้เหนือกว่าไงครับ มันก็สมราคาที่จ่ายเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายใน ขนาดตัวถัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครับ    แต่กับ kicks มันไม่ได้ขยับขึ้นไปจาก b segment จนรู้สึกแตกต่างเหมือนจาก jazz city ไป hrv ครับ    ที่คาดหวังก็คือัตราเร่งกับความประหยัดนี่แหละ คนซื้อรถเอาจริง ๆ ดูที่เงินในกระเป๋าเป็นหลักครับ แล้วค่อยมาดูเรื่องรูปแบบรถว่าจะเอา sedan หรือ cross over   เลยคิดว่าจ่ายเงินเพิ่มไปหลายแสน+ ค่าบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในระยะยาว (รวมทั้งระบบสมมุติว่าต้องเปลี่ยนแต่ละชิ้นราคาเป็นแสนๆ ) มันควรจะคุ้มค่ากว่านี้หรือเปล่าสำหรับคนที่จะไปเลือกซื้อ  อันนี้ผมพูดในแง่คนจะซื้อจริง ๆ นะครับ  รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือก แต่ทำได้แค่นี้มันไม่ดึงดูดให้ซื้อเลยครับ

แพงกว่า city 1.0 t ตั้งเยอะ ขนาดห้องโดยสารก็พอ ๆ กัน ความหรูหราภายในก็พอ ๆ กัน คลาสรถก็พอ ๆ กัน จะจ่ายเงินเพิ่มทำไมตั้งหลายแสนแบกค่ามอเตอร์กับแบตเตอรี่ไปด้วย ทั้งที่อัตรเร่งกับการประหยัดน้ำมันไม่ได้ต่างกันเลยครับ
งั้นผมซื้อ hrv มาก็ไม่ต้องซื้อดิ city ดีกว่า ภายในก็พอๆกัน อัตราเร่ง city ดีกว่าเยอะ กรรม

ออฟไลน์ มะหมู อู๊ดๆ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 264
    • อีเมล์
hrv มันพื้นฐาน platform เดียวกันจริงแต่รถมันขยับทุกอย่างออกไปให้เหนือกว่าไงครับ มันก็สมราคาที่จ่ายเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายใน ขนาดตัวถัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครับ    แต่กับ kicks มันไม่ได้ขยับขึ้นไปจาก b segment จนรู้สึกแตกต่างเหมือนจาก jazz city ไป hrv ครับ    ที่คาดหวังก็คือัตราเร่งกับความประหยัดนี่แหละ คนซื้อรถเอาจริง ๆ ดูที่เงินในกระเป๋าเป็นหลักครับ แล้วค่อยมาดูเรื่องรูปแบบรถว่าจะเอา sedan หรือ cross over   เลยคิดว่าจ่ายเงินเพิ่มไปหลายแสน+ ค่าบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในระยะยาว (รวมทั้งระบบสมมุติว่าต้องเปลี่ยนแต่ละชิ้นราคาเป็นแสนๆ ) มันควรจะคุ้มค่ากว่านี้หรือเปล่าสำหรับคนที่จะไปเลือกซื้อ  อันนี้ผมพูดในแง่คนจะซื้อจริง ๆ นะครับ  รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือก แต่ทำได้แค่นี้มันไม่ดึงดูดให้ซื้อเลยครับ

แพงกว่า city 1.0 t ตั้งเยอะ ขนาดห้องโดยสารก็พอ ๆ กัน ความหรูหราภายในก็พอ ๆ กัน คลาสรถก็พอ ๆ กัน จะจ่ายเงินเพิ่มทำไมตั้งหลายแสนแบกค่ามอเตอร์กับแบตเตอรี่ไปด้วย ทั้งที่อัตรเร่งกับการประหยัดน้ำมันไม่ได้ต่างกันเลยครับ
งั้นผมซื้อ hrv มาก็ไม่ต้องซื้อดิ city ดีกว่า ภายในก็พอๆกัน อัตราเร่ง city ดีกว่าเยอะ กรรม

ผมเข้าใจนะครับ ลองนึกภาพดู ถ้าตอนนี้เรามี noteใหม่ 1.0T ที่ภายในตกแต่งแบบ almera ราคา 6.5แสน ภายใน kicks ก็แทบไม่ต่างอะไรจากนี้เลย (ผมมองว่าพื้นที่ภายในkicks ดีกว่าalmeraก็แค่Headroom) เกรดวัสดุก็ดูพอๆกัน เราจะจ่ายเงินเพิ่มอีกเกือบ 4แสน เพื่อไปเอารถที่ยกสูงขึ้นนิดหน่อย ได้เครื่องยนต์เป็นไฟฟ้า แรงกว่า แต่กินน้ำมันได้ใกล้เคียงกัน บางคนก็อาจจะมองว่ามันไม่คุ้ม

อย่างที่ผมเคยคอมเมนต์ไว้ ผมอยากให้kicks ปรับปรุงภายในหน่อย ยิ่งตัวภายในดำ ผมมองว่าคอนโซลalmeraยังดูดีกว่า แล้วรถราคา 1ล้าน ผมคิดว่ามันมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวด้วย kicks ควรมีเบาะหลังที่ปรับเอนได้สักหน่อย แล้วก็ที่วางแขนเบาะหลัง มันจะช่วยเพิ่มความสบายในการเดินทาง

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
hrv มันพื้นฐาน platform เดียวกันจริงแต่รถมันขยับทุกอย่างออกไปให้เหนือกว่าไงครับ มันก็สมราคาที่จ่ายเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายใน ขนาดตัวถัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครับ    แต่กับ kicks มันไม่ได้ขยับขึ้นไปจาก b segment จนรู้สึกแตกต่างเหมือนจาก jazz city ไป hrv ครับ    ที่คาดหวังก็คือัตราเร่งกับความประหยัดนี่แหละ คนซื้อรถเอาจริง ๆ ดูที่เงินในกระเป๋าเป็นหลักครับ แล้วค่อยมาดูเรื่องรูปแบบรถว่าจะเอา sedan หรือ cross over   เลยคิดว่าจ่ายเงินเพิ่มไปหลายแสน+ ค่าบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในระยะยาว (รวมทั้งระบบสมมุติว่าต้องเปลี่ยนแต่ละชิ้นราคาเป็นแสนๆ ) มันควรจะคุ้มค่ากว่านี้หรือเปล่าสำหรับคนที่จะไปเลือกซื้อ  อันนี้ผมพูดในแง่คนจะซื้อจริง ๆ นะครับ  รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือก แต่ทำได้แค่นี้มันไม่ดึงดูดให้ซื้อเลยครับ

แพงกว่า city 1.0 t ตั้งเยอะ ขนาดห้องโดยสารก็พอ ๆ กัน ความหรูหราภายในก็พอ ๆ กัน คลาสรถก็พอ ๆ กัน จะจ่ายเงินเพิ่มทำไมตั้งหลายแสนแบกค่ามอเตอร์กับแบตเตอรี่ไปด้วย ทั้งที่อัตรเร่งกับการประหยัดน้ำมันไม่ได้ต่างกันเลยครับ
งั้นผมซื้อ hrv มาก็ไม่ต้องซื้อดิ city ดีกว่า ภายในก็พอๆกัน อัตราเร่ง city ดีกว่าเยอะ กรรม

คุณ เอา Eco car มาเทียบ กับ Cross over มันก็ผิดแล้วครับ
ถ้าทำความคิดคนที่จะซื้อ Sedan -B segemnt มา ก็คงไม่มีใครซื้อ kicks ครับ
คนที่ จะซื้อ Sedan -B segemnt เค้าคงไม่มา ซื้อ ฺB-Cross over แน่นอน ครับ
แล้ว kicks ไม่ใช่ Eco car oะครับ จะได้เอา ความประหยัดแบบ Eco car มาเทียบ เพราะ เค้าไม่ได้บอกว่ารถเค้าเป็น Eco car

kicks  หากพยายาม เทียบเอา ความคุ้มค่า มันคงไม่มี
แต่สิ่งที่ Almera หรือ City  แตกต่างจาก kicks  โดยสิ้นเชิงคือ
รูปทรง ของ Cross Over , ความสูง จากพื้น , ความแรง
ดังนั้น คนที่จะซื้อ Almera หรือ City  ก็ย่อมไม่ซื้อ kicks เพราะมองไปที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก
และคนซื้อ kicks ก็ไม่ไปซื้อ Almera หรือ City   เพราะมองไปที่ ความทันสมัย และความแรง

ขึ้นชื่อว่า EVs ไม่มีถูกครับ ขนาด BEV MG ZS ได้เปรียบ ชาวบ้าทุกอย่างยังขาย 1.2 m เลย

มันก็คล้ายๆ ซือ Civic ตัว Top แล้วไม่ซื้อ Accord ตัวเริ่ม นั่นละครับ ขนาดรถมันก็ต่างกันนิดเดียว เครื่องCivic  1.5T ยังแรงกกว่า Accord ตัวเริ่ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2020, 14:31:41 โดย mamaman »

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,704
hype กันเกินไป ในเมื่อทางปฎิบัติมันก็คือไฮบริดเติมน้ำมันแบบ C-HR นั่นล่ะครับ

ทั้งนี้ต้องยอมรับสมรรถนะช่วงความเร็วใช้งานจริง

ไม่เกินนะครับ
ระบบนี้มันเหนือกว่า ของ C-HR ในบางเรื่อง คือ อัตราเร่งที่เป็นแบบรถไฟฟ้าเลย
จะด้อยกว่า จุดเดียวตรง ความเร็วปลาย เพราะมันไม่ได้ใช้เครื่องยนต์มาลงล้อเลยครับ

ส่วนการประหยัดผมว่า ภาพรวม สูสีนะ

แต่ที่ชัดเจนคือ ต้นทุนมันถูกกว่า  C-HR เพราะมันเป็น EV แบกเครืืองปั่น
คงขายดีกว่า CH-R แน่นอน ละครับ

ส่วน CH-R ก็นอนอยู่ท้ายตารางไปนะ แพ้เค้าไป

hybrid แบบ e-power เทียบกับ hybrid แบบ Toyota มันไม่ได้ด้อยกว่าแค่ความเร็วปลายนะครับ
แต่มันด้อยกว่าเรื่องอัตราสิ้นเปลืองด้วย  แต่ที่มันเด่นคืออัตราเร่ง กับต้นทุนถูกกว่าเท่านั้นเลย

ถ้าดูที่ญ๊่ปุ่น e-power มาทีหลังระบบของ Toyota และมันขายดีก็จริง แต่การยอมรับในการใช้งาน
ความประหยัดโดยภาพรวม คนญี่ปุ่นก็ยังให้ Toyota อยู่ เพราะถ้ามันเหนือกว่าทุกด้านจริง hybrid
แบบ toyota ก็ควรจะขายไม่ได้เลยแม้แต่คันเดียว และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง Toyota เองก็สามารถ
ทำระบบ hybrid แบบ e-power มาแทนได้อย่างง่าย ๆ เช่นกัน

ส่วน Kicks e-power นี้ อย่าเอาไปเทียบกับ C-HR เลยครับ ถ้าจะเทียบก็ Cross นั่นแหละ
เพราะรถมันก็สร้างขึ้นมาต่างพื้นฐานกัน คันนึงใช้ของจากรถกลุ่ม b-seg eco (ขนาดห้องเครื่อง
คงคอนเซ็ปท์ยังเปลือยสี ED เหมือนกันเลย) แต่อีกคันมาจาก c-seg การแบกโครงสร้าง แบก
น้ำหนักมันต่างกันอยู่  ยิ่ง C-HR มันเป็นรถแนวอินดี้ด้วย ถ้าจะเทียบก็ต้อง Juke นั่นแหละครับที่
ดูจะมาแนวเดียวกัน

เอาจริง ๆ แล้ว ผมคิดว่า Kicks มันก็ไม่เลว ในแง่ concept รถ พื้นฐานรถและราคา ทำออกมาได้
ขนาดนี้ในราคานี้ก็ดีมากแล้ว ผมมองว่ารถพวกนี้มันเป็นรถที่มีบุคลิกชัดเจน เหมาะมาก ๆ กับคนเฉพาะกลุ่ม
ไม่ใช่รถที่สร้างขึ้นมาเพื่อครอบคลุมคนทุกรุ่น ทุกวัย ทุกค่านิยม แบบพวกซีดานหรือแฮทช์แบคมหาชน
ที่พวกเราชอบใช้แว่นตาแบบเดิม ๆ ไปวิจารณ์มันนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2020, 16:04:48 โดย Symphonic »

ออฟไลน์ Mp4_007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 786
hype กันเกินไป ในเมื่อทางปฎิบัติมันก็คือไฮบริดเติมน้ำมันแบบ C-HR นั่นล่ะครับ

ทั้งนี้ต้องยอมรับสมรรถนะช่วงความเร็วใช้งานจริง

ไม่เกินนะครับ
ระบบนี้มันเหนือกว่า ของ C-HR ในบางเรื่อง คือ อัตราเร่งที่เป็นแบบรถไฟฟ้าเลย
จะด้อยกว่า จุดเดียวตรง ความเร็วปลาย เพราะมันไม่ได้ใช้เครื่องยนต์มาลงล้อเลยครับ

ส่วนการประหยัดผมว่า ภาพรวม สูสีนะ

แต่ที่ชัดเจนคือ ต้นทุนมันถูกกว่า  C-HR เพราะมันเป็น EV แบกเครืืองปั่น
คงขายดีกว่า CH-R แน่นอน ละครับ

ส่วน CH-R ก็นอนอยู่ท้ายตารางไปนะ แพ้เค้าไป
ผมไม่คิดว่ามันจะขายดีกว่า chr นะ ยิ่งมี cross มาดึงยอดแล้วด้วย   โอเคยอดเดือนแรกๆ มันก็ต้องเยอะกว่า chr อยู่แล้ว   ดูอย่าง cx30สิ ผมว่ามันดูดีกว่า  kick เยอะเลย (หมายถึงภายนอกภายใน)มันยังขายได้ มาก กว่า chr แค่หลักน้อยคันเอง   ดูหรูดูแพงกว่าเยอะ  พอมาดู kick ภายในดูไม่สมราคาเลย  แค่นั้นก็ทำให้หลายคนเบือนหน้าหนี  ไม่อยากทดลองขับแล้ว 
รถอะไรที่ในเว็บชอบ ยอดขายมักไม่ค่อยดี สวนทางกันกับคนส่วนใหญ่ 
แต่ก็จะรอดูมันจะเป็นอย่างนั้นไหม