Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Turin ที่ กรกฎาคม 31, 2018, 12:30:46
-
มีแรง มีเวลา ไม่มีเงิน
มีเงิน มีแรง ไม่มีเวลา
มีเวลา มีเงิน ไม่มีแรง
น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างนะครับ ... ผมชอบรถมือสอง เก่านิดๆ มาแต่ไหนแต่ไร ส่วนหนึ่งเพราะเป็นความทรงจำ แนวๆ nostalgic คือสมัยเด็กๆเคยอยากได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ตอนนี้อยากเก็บแต้มเก่าๆที่คยได้แต่มอง .. อีกส่วนคือสมัยก่อน "ไม่มีเงิน"
ก่อนหน้านี้ "เวลา" มี "เงิน" พอมี ... เคยคิดว่ามีมีเงินเยอะขึ้น ทำรถสักคันน่าจะง่ายขึ้น ... แต่กลายเป็นว่า เงินมาพร้อมกับเวลาและแรงที่หายไป หลายปัญหาของรถเก่า มันใช้เงินแก้ปัญหาไม่ได้ง่ายๆแบบนั้น
วันนี้เลยเริ่มตั้งคำถามว่า หรือเราควรมองรถที่จะ"เล่น"คันต่อไปเปลี่ยนไป มามองรถใหม่ดีกว่าไหม .. คำถามคือ สำหรับรถ"เล่น" ที่ต้องใช้
1. เกินครึ่งของเงินเก็บ (คิดเฉพาะเงินที่ขยับออกมาได้นะครับ ไม่นับ LTF/RMF/Provident fund/ที่ดิน) เพื่อซื้อเงินสด หรือ
2. เกินครึ่งของเงินส่วนที่เคยเหลือเก็บ (หักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว/ไม่มีภาระผ่อนใดๆ) ในการผ่อน
เพื่อนสมาชิก เลือกที่จะ "เล่น" ไหมครับ
หรือ แค่ต้อง "คิด" มาก ก็แปลว่าไม่ใช่ "ของเล่น" ที่เหมาะสมแล้วครับ
-
หรือ แค่ต้อง "คิด" มาก ก็แปลว่าไม่ใช่ "ของเล่น" ที่เหมาะสมแล้วครับ
ถ้าใช้คำว่า "เล่น" รถ
นอกจากเรื่องเงินแล้ว ยังมีเรื่อง เวลา ด้วยน่ะครับ
ขึ้นอยู่กับว่ารถรุ่นไหน สภาพไหน
ถ้ารุ่นเก่ามากหน่อย ราคาอาจจะถูกมาก
แต่ก็ต้องให้เวลากับมันเยอะในการตามเก็บงาน
วิ่งหาอะไหล่ เข้าออกอู่เป็นระยะ กว่าจะจบ
ต้องเผื่อเงินไว้เก็บอีกพอสมควร
พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าสนใจจะเล่นรถรุ่นไหน
ตอนนี้ ถ้าเงินเหลือ เวลาเหลือ
ผมอยากได้รถคูเป้ยุค 90 อย่างพวก 200SX Silvia RX7 อะไรแบบนี้มาเก็บมากเลย
-
จริงๆ มันจะมีอีกประเด็น คือ รถสำหรับเล่น ควรเป็นสำหรับ "เล่นเท่านั้น" หรือเป็นรถ "เล่นก็ได้ ใช้จริงก็ได้"
เคยใช้แบบ "เล่นเท่านั้น" (E30 coupe คันแรก, E36 coupe) สมัยก่อนก็ฟินดีเวลาได้ใช้ ... แต่พอมาคันหลังๆ (E30 coupe คันที่สอง, MX5 NB) พอโอกาสใช้มันน้อย ก็เริ่มสงสัยในความเหมาะสม (ยิ่งถ้าต้องใช้เงินเยอะด้วย) ยิ่งพอเอามาใช้ที ก็เจอเรื่องกวนใจที ยิ่งพาลไม่อยากใช้ .... ครั้นจะไปใช้รถแบบ "เล่นก็ได้ ใช้จริงก็ได้" เอาเข้าจริง คันที่ใช้อยู่ (Outback เครื่อง Legacy GT) ก็ไม่ฟินสักทาง
รถใหม่คันที่มองๆอยู่ ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะไปทางไหนดี .. ทางนึงคือ BRZ mt (ขับเล่นอย่างเดียว) สุดอีกทางนึงคือ Impreza WRX cvt (ใช้งานทุกวันได้)
แต่ถ้าเป็นรถเก่า ดูๆอยู่ Impreza GC, Impreza Bugeye, Silvia S14, Silvia S15, E36 M3, RX7 ... ราวๆนี้ครับ
-
เกินครึ่งของเงินเก็บ ผมว่ามันเล่นจริงจังเกินไปหน่อยละครับ ถ้าเป็นของเล่นคือต้องหายวับไปกับตาได้ไม่เดือดร้อนหรือเสียดายแม้แต่น้อยถึงเรียกของเล่น นอกจากไม่มีภาระหรือต้องรับผิดชอบใคร ก็เล่นได้จะได้ไม่คาใจ
-
ผมว่า ส่วนนึง จะตัดสินใจแบบไหน
อยู่ที่ สถานภาพ (ถ้าโสด นั่งคนเดียวบ่อยกว่า ก็อาจจะเลือกคูเป้ได้ไม่ต้องคิดมาก) และจำนวนรถที่มีอยู่ในบ้าน (ถ้าหามาเป็นรถคันที่ 2-3-4 ก็อาจจะตามใจตัวเองได้มากกว่า ไม่ต้องคิดเรื่องเอาไว้เล่นอย่างเดียวหรือใช้งานมากนัก)
ท้ายที่สุด ก็น่าจะเรื่องของสถานภาพทางการเงินด้วยครับ
คิดว่ามันฟุ่มเฟือย หรือว่า เหนื่อย ในการจะต้องเอามาใช้จ่ายในการ "เล่น" มากน้อยแค่ไหน
-
mini r53 ผมซื้อด้วยตรรกะรถของเล่นของแท้ครับ อารมณ์ล้วนๆ ใช้ในชีวิตประจำวันยาก เพราะเกียร์ธรรมดา รถติดทีเหมือนเข้าฟิตเนส แข็ง เมียนั่งแล้วบ่น ไปห้างซื้อของใส่กลับมาไม่ได้ ยิ่งไป homepro นี่ซื้อถังกะละมังอะไรกลับมาไม่ได้เลยครับ555+ แต่นอกจากที่บอกไป มันเป็นรถที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีมากๆ จากรถสมรรถนะหลายๆ คันที่ลองมา เหยียบให้รอบซัก 4000+ มันสามารถพาถึง 200 ได้อย่างรวดเร็ว
ผมเลยขอตอบจากประสบการณ์ว่า รถของเล่นมีได้ ถ้ามันไม่กระทบรายจ่ายในชีวิตครับ
1. ต้องซื้อเงินสดเท่านั้น + ของแต่ง ค่าซ่อม ก็ควรเป็นเงินสด เพื่อให้มันยังสนุกในการเล่นรถอยู่
2. ต้องไม่ใช่รถใช้งานทุกวัน เพราะเราใช้หนัก เค้น 100% performance ดังนั้นต้องให้เวลาในการซ่อมมันด้วย
พอกลับมาคิด เลยตกตะกอนให้ตัวเองว่า เราหารถที่ใช้งานได้ทุกวัน มาเป็นรถของเล่นดีกว่า แต่งเล่น บำรุงรักษามันไป เรียนรู้ระบบกลไกเครื่องยนต์มันไป ก็เป็นรถของเล่นให้ผมได้ ก็สนุกอีกแบบครับ
-
ประเมินแล้วไหวก็ลุยเลย เพราะสุดท้ายยังไงก็จะจบที่มีรถไว้เดินทางเฉยๆอยู่ดี
คหสต. เลิก"เล่น"รถนานแล้ว ตอนนี้เล่นนาฬิกา กระแสกำลังมา 8)
-
ประเมินแล้วไหวก็ลุยเลย เพราะสุดท้ายยังไงก็จะจบที่มีรถไว้เดินทางเฉยๆอยู่ดี
คหสต. เลิก"เล่น"รถนานแล้ว ตอนนี้เล่นนาฬิกา กระแสกำลังมา 8)
นาฬิกานี่เป็นความโชคดี (ของเมีย) ที่ผมข้อมือเล็กครับ ไม่ค่อยมีอะไรให้ซื้อ ... ครั้นจะซื้อพวกรุ่น reduced ก็ดูจะไม่ค่อยน่าสะสมเท่าไหร่ :P
-
เพิ่มเติมข้อมูลนิดหน่อยครับ
ไม่มีภาระผ่อน เงินเหลือต่อเดือน คือ เงินหลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านหมดแล้ว
เงินเก็บในที่นี้ คือ เงินเก็บส่วนตัว ไม่รวมเงินของเมีย (ซึ่งมีเยอะกว่าผมราวเท่าตัว)
ในแง่ไหว มันก็ไหว .. แต่อีกใจ ก็รู้สึกตะหงิดๆ
-
ผมเล่นกับรถที่ใช้ทุกวันนี่แหละครับ
สนุกกับการขัดเงามันไปเรื่อย คันเดียวจบ
-
ผมไม่อยากจะคิดเรื่องเงินเลย เพราะคิดแล้วเครียดครับ 555 :'(
ผมมีงบซื้อรถประมาณล้านกว่าบาท 1.5 - 1.7
ต้องกัดฟันเพิ่มงบเพื่อออก BRZ 2.2 ล้าน หืดขึ้นคอ
ปีนี้ก็เศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่อง รายได้หายไป 25% ด้วยครับ
อันนี้เป็นสาเหตุสำคัญเลยครับที่ทำให้เครียด ลูกค้าหายไป แต่คนขายยังเท่าเดิม (มีคู่แข่งใหม่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ)
ผมเป็นกิจการขนาดเล็ก เค้กก้อนเล็กลง แต่ต้องแบ่งจำนวนชิ้นให้ได้มากขึ้น มันก็ได้แค่รองท้องครับ ไม่อิ่ม
ผมเลี่ยง ๆ ไม่คิดถึงมัน เพราะคิดแล้วเครียด ผ่อนก็ยังพอไหวอยู่ แต่เงินเหลือน้อยลง
จะกินเที่ยวแพง ๆ ไม่ได้แล้ว ใช้เงินต้องคิดดี ๆ
ยังดีที่ไม่ต้องผ่อนอะไรแล้ว เหลือแต่รถคันนี้นี่แหละครับ
-
จะเล่น ให้นึกถึงเขา(คนข้าง ๆ)บ้าง
ผมเล่น ก็อยู่ในวงเงินที่ตั้งไว้ ถ้าหากมันจะเกิน ผมจะปล่อยออกไป และใช้เวลากับรถ น้อยกว่าคนข้าง ๆ ..
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเจอ แม้เล่นรถเก่าแต่ผมไม่เคยพาเขาไปตายกลางทาง...ปลอดภัยตลอด..
สำหรับผม คิดว่าเงิน ไม่สำคัญในการเล่นรถ แต่ ความพอดีนั่นสำคัญกว่า
หาจุดพอดีให้เจอครับ..
-
มีแรง มีเวลา ไม่มีเงิน
มีเงิน มีแรง ไม่มีเวลา
มีเวลา มีเงิน ไม่มีแรง
โดนใจมากๆครับ เป็นแบบนี้เป๊ะๆ ผมว่าของเล่นถ้าเล่นให้พอเหมาะไม่เยอะไป กำลังดีครับ มีสัก 1 ชิ้น ให้พอได้ใช้ความคิด ได้เสียแรงหรือเวลาเพื่อความสนุกของเราบ้าง และของใช้ในชีวิตประจำวันที่พอสนุกได้บ้าง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาดูแลเยอะเกินไป จะกำลังดีมากๆ
หลายโปรเจคของผมต้องปิดไป เพราะเอาเวลาไปดูแลลูกๆและครอบครัวที่เรารักแทน ยังแอบอิจฉาคุณ Turin ที่มีเวลาและครอบครัวที่เข้าใจให้เล่นของเล่นชิ้นงาม
ขอให้คุณ Turin สนุกกับของเล่นทุกๆชิ้นนะครับ
-
จะเล่น ให้นึกถึงเขา(คนข้าง ๆ)บ้าง
ผมเล่น ก็อยู่ในวงเงินที่ตั้งไว้ ถ้าหากมันจะเกิน ผมจะปล่อยออกไป และใช้เวลากับรถ น้อยกว่าคนข้าง ๆ ..
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเจอ แม้เล่นรถเก่าแต่ผมไม่เคยพาเขาไปตายกลางทาง...ปลอดภัยตลอด..
สำหรับผม คิดว่าเงิน ไม่สำคัญในการเล่นรถ แต่ ความพอดีนั่นสำคัญกว่า
หาจุดพอดีให้เจอครับ..
ขอบคุณครับ ที่ทักไว้
แต่จะว่าไปเหตุหนึ่งที่ผมเริ่มมองรถใหม่ ก็เพราะ เวลาที่ผมมีน้อยลง จะให้ใช้เวลาที่มีน้อยลงไปวิ่งเข้า-ออกอู่ ก็เกรงใจคนข้างๆ ... แต่ครั้นจะเล่นรถใหม่ ก็เกรงใจไปอีกแบบ (คนข้างๆผมเก็บเงินเก่ง ไม่ใช้จ่ายกับ"ของเล่น"เลย จะใช้เงินก้อนทีไร ผมจะเกรงใจเป็นพิเศษ แม้จะเป็นเงินส่วนของผมเองก็เถอะ)
-
ผมไม่อยากจะคิดเรื่องเงินเลย เพราะคิดแล้วเครียดครับ 555 :'(
ผมมีงบซื้อรถประมาณล้านกว่าบาท 1.5 - 1.7
ต้องกัดฟันเพิ่มงบเพื่อออก BRZ 2.2 ล้าน หืดขึ้นคอ
ปีนี้ก็เศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่อง รายได้หายไป 25% ด้วยครับ
อันนี้เป็นสาเหตุสำคัญเลยครับที่ทำให้เครียด ลูกค้าหายไป แต่คนขายยังเท่าเดิม (มีคู่แข่งใหม่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ)
ผมเป็นกิจการขนาดเล็ก เค้กก้อนเล็กลง แต่ต้องแบ่งจำนวนชิ้นให้ได้มากขึ้น มันก็ได้แค่รองท้องครับ ไม่อิ่ม
ผมเลี่ยง ๆ ไม่คิดถึงมัน เพราะคิดแล้วเครียด ผ่อนก็ยังพอไหวอยู่ แต่เงินเหลือน้อยลง
จะกินเที่ยวแพง ๆ ไม่ได้แล้ว ใช้เงินต้องคิดดี ๆ
ยังดีที่ไม่ต้องผ่อนอะไรแล้ว เหลือแต่รถคันนี้นี่แหละครับ
นั่นสิครับ จริงๆ เรื่องเงินผมแม้จะไม่ได้ติดขัดอะไร แต่ระยะหลังๆมานี้ ผมได้เห็นเค้าลางของการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เลยยังคงรู้สึกตะหงิดๆที่จะผ่่่อน 4-5 ปีเหมือนกันครับ (ถ้าซื้อ ค่อนข้างโอนเอียงไปทางสดครับ จะได้ตัดข้อผูกมัดออกไป หากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)
-
ผมผ่านรถแนวนี้มาหลายคันครับ บางทีซื้อรถใหม่มาเป็นรถใช้เล่นอย่างเดียวก็ไม่คุ้มกับราคาที่ตกไปแลกกับการขับเดือนละไม่กี่ครั้งยกเว้นมีเวลาเยอะครับ ถ้าจะหารถใหม่เน้นที่ใช้งานได้ด้วยดีกว่าแต่ถ้าจะเล่นจริงๆผมว่าปัจจุบันมีรถเก่าหลายรุ่นที่ซื้อมาเก็บแล้วไม่ขาดทุนหรืออาจจะได้กำไรด้วย บวกกับอรรถรสในการขับขี่มันก็ต่างจากรถใหม่ๆมาก
-
เรามีรถของเล่นอยู่ 2-3 คันค่ะ เน้นรถแปลกๆแต่หาอะไหล่ง่าย ตอนนี้ก็ใช้ Golf Cabrio ทั้งเล่น ทั้งขับในชีวิตประจำวันได้ ขับสนุก ไม่กินน้ำมันมาก อะไหล่เยอะ แต่ถ้าไปตจว.ก็เอารถคันใหญ่ไปแทน
-
มีแรง มีเวลา ไม่มีเงิน
มีเงิน มีแรง ไม่มีเวลา
มีเวลา มีเงิน ไม่มีแรง
โดนใจมากๆครับ เป็นแบบนี้เป๊ะๆ ผมว่าของเล่นถ้าเล่นให้พอเหมาะไม่เยอะไป กำลังดีครับ มีสัก 1 ชิ้น ให้พอได้ใช้ความคิด ได้เสียแรงหรือเวลาเพื่อความสนุกของเราบ้าง และของใช้ในชีวิตประจำวันที่พอสนุกได้บ้าง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาดูแลเยอะเกินไป จะกำลังดีมากๆ
หลายโปรเจคของผมต้องปิดไป เพราะเอาเวลาไปดูแลลูกๆและครอบครัวที่เรารักแทน ยังแอบอิจฉาคุณ Turin ที่มีเวลาและครอบครัวที่เข้าใจให้เล่นของเล่นชิ้นงาม
ขอให้คุณ Turin สนุกกับของเล่นทุกๆชิ้นนะครับ
"ครอบครัวที่เข้าใจ" ... เปล่านะคร้าบ ยังไม่ได้คุยกันครับ
ว่าแต่คิดถึง "ของเล่นเก่า" จังครับ :P
-
ทำอะไรก็อทำเลยครับ มีความสุชก้อทำไปเลย ผมก้อเคยมี (ก็มีเซงบ้าง555 )
-
ผมว่าบาลานซ์ในแต่ละปัจจัยของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ อย่างตัวเองไม่มีครอบครัว แรงมี เงินพอมี เวลาก็พอจะมีบ้าง ผมรักรถ แต่ก็ไม่ได้รักขนาดจะเทเวลาว่างที่พอจะมีไปกับรถ เลยเลือกที่จะใช้เงินที่พอจะมีไปซื้อรถ และใช้เงินจ้างคนจ้างศูนย์บริการให้ดูแลรถแทนเรา เลยไม่กล้าใช้คำว่า เล่น รถ และผมแทบไม่มีความรู้เชิงเทคนิค อะไหล่ หรือการซ่อมรถเลย เลยมองไปที่รถใหม่อย่างเดียว เมื่อไหร่ที่มันเริ่มงอแง ต้องซ่อมบ่อยขึ้น ผมก็ขาย ซื้อคันใหม่ พยายามจะคิดว่าราคาส่วนที่มันหายไป ก็คือราคาความสุขในขณะที่รถคันนั้นอยู่กับเรา แต่ในขณะที่บางคนนิยมรถเก่า ซ่อมเอง ดูแลเอง ทั้งที่มีเงินมหาศาล
ตัวเองรู้ดีที่สุด ว่าต้องบาลานซ์เงิน แรง เวลา ยังไงถึงจะแฮปปี้ครับ
-
สำหรับผม "ของเล่น" มีหลายอย่างเลย บางอย่าง มันก็เป็นเรื่องฝังใจ คาใจ ตั้งแต่เด็ก พอโตมา พอมีงบ มีเวลา ก็ไม่ลังเล ที่จะจัด ทั้งที่ บางที ได้มันมา ก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอก
1. ห้องฟังเพลง ... แต่ก่อน พ่อชอบฟังเพลง ทำห้องฟังเพลง เครื่องเสียงราคาแพง แล้วก็จะโดนแม่บ่นตลอด บางทีก็ทะเลาะกัน พอโตขึ้นมา มีเงิน มีบ้าน ก็จัดเลย ขอห้องฟังเพลงมั่ง แม้ว่า บางที จะได้เข้าไปฟัง เดือนละครั้ง ก็ตาม แต่มันก็มีความสุข ทุกครั้งที่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรด ฟังนักร้องมายืนกระซิบข้างหน้า เหมือนมีวงมาเล่นจริงๆ
2. ชุดโฮมเธียเตอร์ ... นี่ก็ประเด็นคล้ายห้องฟังเพลงนี่แหละ จัดเต็มเหมือนกันด้วยงบหกหลัก แต่เดือนนึงเปิดทีนึง แต่ก็ฟินทุกที ที่ได้ดู เอาว่า ในโรงดูไม่มันส์เท่าที่บ้านผมล่ะ
3. รถยนต์ ... อยากเล่นรถยุค 90 สมัยเด็กนะ แต่ไม่มีเวลาให้กับมันขนาดนั้น เลยเลือกรถใหม่ คันเล็ก เครื่องแรง และ ของแปลก มาใช้ รถที่ผมบอกทุกคนว่า "มันคือของเล่น" เอาไว้ขับมันส์ๆ เวลาอยากซ่าส์ อยากซิ่ง รถที่ยังหาของแต่งได้ ทำได้ตามใจอยาก
สำหรับผม ตอนนี้เรายังมีกำลัง มีแรง มีเงิน ก็ซื้อไปเถอะ ความสุขของเรา ... ดีกว่านั่งรอ แล้วถึงเวลา เราไม่สามารถทำได้ มีได้ ครับ
-
ผมโชคดี รถที่ผมชอบ ไม่ต้องออกแรงหรือออกเงินเกิกำลัง ชอบแล้วซื้อได้เลย แถมยังเป็นของเล่นที่ใช้ได้ทุกวันอีกด้วย เคยมีสองคันที่ต้องขายเพราะใช้จริงไม่ได้และไม่ชอบมากขนาดจะเก็บ ซื้อไว้ร่วมสิบปีขับไปไม่ถึงหมื่นโล
-
สำหรับผม รถไม่เกิน 50% ของรายได้ต่อปี และ จ่ายสดเท่านั้น
-
สำหรับผม ของเล่น ต้องไม่เดือดร้อนครับ
ถ้าเอาเงินเก็บมาเล่น แล้วอนาคตต้องใช้จ่ายไม่คล่องตัว ผมหางานอดิเรกอื่น ของเล่นอื่นดีกว่าครับ
-
ถ้าเป็นคำถามกลับกันว่า "ใครไม่มีเงินเก็บ แล้วไปซื้อรถยังกับของเล่นบ้าง?"
ผมว่าเพียบ!! เข้าสู่โหมดดราม่าแห่งชีวิต เหมือนเพลงพี่แอ๊ดที่ว่า "โถ่จะกินยังไม่มี"
ปล.สำหรับผม ต้นทุนเงินเก็บครึ่งๆ ผมก็กล้าซื้อเป็นของเล่น ถ้าไม่มีเป้าหมายนำเงินไปใช้เรื่องอื่นๆแล้ว
-
ถ้าเป็นคำถามกลับกันว่า "ใครไม่มีเงินเก็บ แล้วไปซื้อรถยังกับของเล่นบ้าง?"
ผมว่าเพียบ!! เข้าสู่โหมดดราม่าแห่งชีวิต เหมือนเพลงพี่แอ๊ดที่ว่า "โถ่จะกินยังไม่มี"
ปล.สำหรับผม ต้นทุนเงินเก็บครึ่งๆ ผมก็กล้าซื้อเป็นของเล่น ถ้าไม่มีเป้าหมายนำเงินไปใช้เรื่องอื่นๆแล้ว
นึกถึงโครงการรถคันแรกเมื่อไม่กี่ปีก่อนเลยครับ
ตอนซื้อลดภาษียังหืดจับ แล้วยังเอามาแต่งกันต่ออีก
-
.
.
เคยคิดแบบนี้ แต่สุดท้ายเอารถที่ใช้ทุกวันให้มันเอามาเล่นได้ด้วยดีกว่า
เพราะอย่างน้อยก็ได้ใช้ทุกวัน ซื้อแบบที่เน้นขับสนุกไปเลย
ส่วนเวลาอยากจะเล่นจริงๆ ผมเล่นมอไซค์ครับ อันนั้นคือเล่นจริงๆเลย
รื้อประกอบ ซ่อมเองได้ ทำเองได้เกือบหมด
-
เล่นแล้วจอด ก็คงต้องนอนอู่ครับ ถ้ามีเวลาก็okครับ
-
ชอบกระทู้นี้มากๆครับ อ่านมาตั้งแต่แรก
มีแรง มีเวลา ไม่มีเงิน
มีเงิน มีแรง ไม่มีเวลา
มีเวลา มีเงิน ไม่มีแรง
โดยส่วนตัว ผมว่ารถของเล่น ควรใช้เงินไม่เกิน 25% ของเงินเย็นครับ ดูปลอดภัยและไม่เจ็บหนักจนถลำลึกเกินไป
เพราะส่วนใหญ่จะเสียค่าซ่อม/แต่งไป มากกว่ามูลค่าตอนขาย มันขาดทุนอยู่แล้วแน่นอน แต่ขาดทุนกำลังดีกับของเล่นครับ
แต่ยิ่งโตยิ่ง มีเงิน ไม่มีเวลา และไม่มีแรง
อันนี้เจอจริงครับ มันกลายเป็นว่า พอได้ครอบครองรถในฝันจริงๆ แล้วเราไม่สนุกเหมือนตอนเรามีเวลาและมีแรงให้มัน
ผมว่าหารถที่เราขับสนุกได้ทุกวัน ดีที่สุดครับ
รถ90ผมก็ชอบความสวยงามของยุคนี้มากๆ แต่ขับจริงมันไม่สมบูรณ์แบบแน่นอน
ถ้างบเกิน 25% และไม่มีเวลาให้มันอย่างเต็มที่ ผมขอเก็บความฝันให้เป็น "ฝันดี" ไว้ในความทรงจำดีกว่าครับ
เพราะถ้าไม่พร้อมอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจะเกิดความทุกข์จากความกังวลครับ
คหสต ของผมครับ
-
ซื้อรถเป็น"ของเล่น" ถ้าให้สบายใจ ต้องไม่เกิน 20% ของเงินสดที่มีอยู่
ซึ่งไม่นับทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น อสังหา หรือ ทรัพย์สินอะไรก็ตาม
ถ้าซื้อรถโดยคำนวณจากกระแสเงินสดที่เรามี จะหมุนคล่องมือกว่าครับ
-
คงไม่มีโอกาสได้เล่นครับ ทั้งชีวิตผมคงซื้อได้คันนี้คันเดียวทั้งชีวิตครับ คงตายก่อนที่จะเก็บเงินซื้อคันใหม่ หรือตายก่อนผ่อนหมดครับ เพราะหมดแรงก่อนหรือโดนยึดไปก่อน
-
ถ้าพร้อมก็จัดเลย ไม่ลองกับตัวก็ไม่มีประสบการณ์อ่ะครับ
ถ้าลองแล้วเบื่ออาจจะไม่ชอบก็ได้ อยู่ในโรงจอดต่อไป
-
ก็ดีนะครับ รถใหม่อะไหล่หาง่าย ราคาไม่แพง ไม่จุกจิก
เท่าที่เห็นๆ เช่น civic rs ก็ดูน่าสนใจ มาสด้า3ก็โมยากเหลือเกิน
แต่ว่า คุณ turin จะชอบสไตล์แบบนี้รึเปล่า
หรือจะรอbrz ราคาลงอีกนิดก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ
-
เจ้าของกะทู้ดูฟีลใกล้ๆผม (ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเงินนะครับ เอาแบบฟีลเรื่องรถล้วนๆ)
ผมไม่ได้มีเงินเยอะมากมาย แต่ชอบรถมาก มีความชอบในวัยเด็กเยอะ พยายามตามเก็บรถที่เราเคยอยากได้ แต่ไม่มีปัญญา และไม่เคยคิดจะกวนเงินพ่อแม่
แต่ก่อนตอนเงินเดือนน้อย ก็กัดฟันผ่อนเอา ทำไป ซ่อมไป ใช้งานได้ด้วย ตั้งแต่ Subaru GC, GD, MX5 NC, Legacy BL5 GT ตอนนี้ขายไปหมดแล้ว แต่ก็ยังนึกถึง และบางคันก็ลืมไม่ได้ กลับมาเล่นใหม่
สำหรับผม คิดแค่ว่า พอมีเงินเก็บ ไม่ได้เดือดร้อนเงินใช้จ่าย ยังดูแลที่บ้าน ให้พ่อแม่ พอมีเงินเหลือ ก็เอามาเล่น หลายคนอาจว่าผมโง่ ใช้เงินไม่เป็น แต่ผมคิดของผมแค่ว่า ผมพอไหว ผมมีความฝันความชอบ ต้้้องให้รอตอนแก่ขนาดไหน ถึงจะได้มันมา
ชีวิตคนเราสั้นนักครับ ถ้าพร้อม ผมสนับสนุนให้ลุยตามความฝัน เพราะย้อนกลับไป ถามผมว่าผมเสียดายเงินมั๊ย? เสียดายครับ แต่ไม่เสียใจ ให้กลับไปเลือกใหม่ ผมก็ยังจะซื้อ เพราะผมมีความสุขที่ได้ขับ ได้ครอบครองมันครับ
-
ตอบคำถามอีกนิด เป็นผม จะไม่เล่นรถใหม่แบบ BRZ, WRX CVT เพราะแพง ลงทุนสูง และยังไงก็เอามาแต่งอยู่ดี ถ้ามี Outback แล้ว ผมจะหาพวก 2 ประตู เช่น 200sx, MX5 NC มาแต่งเล่น มือ 2 ราคาไม่ตกเลย...แต่ถ้าอยากขับมันๆ แนะนำ Impreza GC ครับ หาเครื่องคอแดง GD แค่นี้ก็มันสุดๆละครับ เล่นมาหลายแบบแล้ว มีไรสอบถามได้ครับ
-
ผมไม่อยู่ในฐานะจะซื้อรถเป็นของเล่นได้ ด้วยทำงานประจำ ไม่มีเวลามาดูแลรถ ดังนั้นเวลาเลือกรถจะดูที่ ตัวรถตอบโจทย์การใช้งานของผมได้ไหม
ตอนเลือกรถปลายปีที่แล้ว ใจก็อยากได้รถที่ราคาไม่แพงมาก แต่ก็มาสะดุดใจกับคำพูดของภรรยาว่า ทำไมไม่เลือกรถที่ตัวเองชอบที่สุด ทุกวันนี้เวลาอยู่หลังพวงมาลัยเจ้านี่ก็มีความสุขดี
ล่าสุดพาภรรยากับลูกไปเที่ยว เขาค้อ พบข้อดีอีกอย่างคือ ขับทางไกลแล้วมันไม่เหนื่อยเหมือนขับ B-segment
ถ้ามีเงินซื้อแล้วไม่เดือดร้อน คิดว่าให้รางวัลตัวเอง ผมว่ามันก็คุ้มนะ คนที่เข้ามาในเวปนี้ส่วนมาก็ชอบขับรถกันทั้งนั้น แล้วอะไรจะดีไปกว่าการได้ใช้รถ ได้ขับรถที่ตัวเองชอบ ตอนยังมีแรงอยู่ครับ
คนรู้จักแม่ผม แกเป็นคนประหยัดมาก มีเงินเก็บน่าจะแปดหลัก ช่วง 10 ปีหลังนี้ แกซื้อรถยุโรปมาใช้หลายคัน แต่เวลาไปตลาดถ้าไม่นั่งสองแถวไปก็ขี่มอไซด์ไป หรือไปเที่ยวไกลๆก็เหมารถตู้กันไป ผมยังสงสัยเลยว่า แกซื้อรถมาทำไม ซื้อมาแล้วก็จอดคลุมไว้ แต่พอย้อนกลับไปคิด เขามีเงินเยอะแยะ คงซื้อมาสนองความอยากของตัวเองตอนยังวัยรุ่น ตอนนี้อายุใกล้แปดสิบ ขับรถไกลๆคงจะไม่ไหวแล้ว เลยได้แต่จอดคลุมผ้าเป็นส่วนใหญ่
-
ซื้อมาแล้วครับ จอดนิ่งเลย ไม่มีเวลาขับ
-
ถ้าคิดว่าไม่ลำบากตัวเอง ไม่ลำบากคนอื่น ทั้งปัจจุบันและอนาคต ก้จัดเลยครับ อย่างน้อยก้ได้รู้
-
คนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน ถ้าคิดว่าชอบ จัดการได้ ก็จัดเลยครับ :)
ในมุมผม ผมก็เคยคิดอยากทำแบบนี้
แต่ติดที่ว่าความชอบกับความอยากมันไม่สัมพันธ์กัน
คืออยากมีอยากเก็บ แต่ก็ขรี้เกียจจะจัดการกับปัญหา
มันออกมาไม่สัมพันธ์กันแล้ว เลยต้องพับไปก่อนแนวคิดนี้ :-[
แต่อนาคต ถ้าหายเกียจคร้านเรื่องรถแล้วก็อาจจะอยากจัดอีกก็ได้ครับ ฮา
--------
ในรูปแบบพัฒนาตนเองทั่วไป การมีชีวิตอยู่ในสัก 3 สังคม
(งาน ส่วนตัว(ครอบครัว) ความชอบ)
มันก็ช่วยบาลานซ์ความคิดจิตใจ ให้มีพลังอยู่เสมอ
ผมคิดว่าดีนะครับถ้าหาตัวเองเจอว่า "รถ" นี่คือใช่ ;D
-
ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความเห็นกันครับ .. มีอะไรให้ไปนอนตกผลึกอีกหน่อยครับ 8)
ปล. คิดว่าอารมณ์ตอนี้จะออกแนว mid-life crisis 555
-
ตัวผม ถ้ามองว่า อยากได้ คงไม่ได้เอาเก่าจัด หรือรถที่เป็นตำนาน
คงมองตัว civic 3 ประตู ปี 96 สีดำสภาพเดิมๆ ที่อยู่ใน fast1 ตอนขับไปขโมยของ
ตัวนี้ฝังใจมาก เพราะตอนนั้นยังเด็ก อยากได้พ่อไม่จัดให้ 555