ผู้เขียน หัวข้อ: รถสมัยนี้แพงขึ้น หรือถูกลง ถ้าซื้อแล้วจะคุ้มมั้ย  (อ่าน 6170 ครั้ง)

ออฟไลน์ freedスプーン3300

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 440
  • freed korat
     เล่าสู่กันฟังนะครับ...เป็นแนวคิด
พอดีเห็นน้องเข้ามาถามเรื่องแจ๊ซ2011 ไม่มีระบบเสริมแรงเบรคBA
ก็เห็นพูดคุยเสนอความเห็นกันไปหลายแบบ
เลยอยากเล่าเรื่องที่ตัวเองได้มีประสปการณ์มาเอง
นำมาแลกเปลี่ยนให้เพื่อนๆ น้องๆ(คงไม่ค่อยมีพี่)และหลานๆในHLMฟัง

**แจ๊ซ2003 E/MT ของผมรุ่นแรก
ได้ซื้อมาในราคาเงินสด 572,000-(รถป้ายแดง)
ไม่มีถุงลม ไม่มีABS ไม่มีดิสเบรคหลัง
ไม่มีระบบกระจายแรงเบรคEBD ไม่มีระบบเสริมแรงเบรคBA
ไม่มีMP3   มีล้อแม๊กซ์15
เครื่องIDSI 88แรงม้า (ที่ไม่อืด)

เทียบกันแล้ว ยุคนี้ ผมว่ารถมันไม่ได้แพงขึ้นเลย
แต่มันกลับถูกลง กว่าตอนที่ผมซื้อแจ๊ซตอนนั้นมากมาย


ปัจจุบันตัวS/MT ( S M/T 590,000-) ที่ดูราคาแพงกว่ารถ(แจ๊ซ)ผมเพียง18,000-
แถมมันเป็นเครื่อง I-Vtec โอ้วแม่เจ้า..
สมัยนั้น คอนมีเครื่องV-Tecมา
รุ่นไม่มีถุงลมABS S/MT ไม่มีอะไรเลย ยังล่อไป6แสนกว่าแล้ว
แต่นี่ได้ดิส หน้า-หลัง  ได้ABS EBD ถุงลมคู่ เข็มขัดแบบดึงกลับอัตโนมัติ
มีรีโมท มีอิมโม มีแทบทุกอย่างที่แจ๊ซ2003 ที่ราคาพอๆกันไม่
ยกเว้นล้อแม๊กซ์ (ที่jazz2003มีแม๊กซ์มา แต่ก็เปลี่ยนทันทีที่ออกรถ)
เรียกว่าออฟชั่นที่ได้ คนใช้2003 ยังอิจฉาที่ไม่มี
(แม้แต่บริโอ้ ยังมีให้มากกว่าในราคาเท่าๆกัน
ที่ได้ออฟชั่นมากกว่าแจ๊ซสมัยก่อน


*************
แอบอิจฉา รถรุ่นใหม่ๆที่จ่ายไม่มากมาย
ถึงแม้ว่าจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่นก็ตาม...
ตอนนี้ ใครที่ชอบในรูปทรงของคันไปน แล้วยังคาใจว่าออฟชั่นไม่คุ้มราคา

ขอให้คิดนะครับว่า...
ราคารถที่จ่ายไปเท่ากัน สมัยก่อน ยังไม่ได้มากมายเท่ารถสมัยนี้เลย

     จงซื้อเพราะชอบ ไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยในรถเลย
เพราะสมัยนี้เขาให้มาแบบเต็มที่ ในราคาเดิมที่สมัยก่อนไม่คิดที่จะใส่มาให้
แต่ตอนนี้ เขาจัดมาให้แบบเต็มๆเลยครับ...

**ภาพบนรถผมเอง กับรถเพื่อน
ส่วนภาพล่างแจ๊ซS/MT thank ภาพจาก HJCครับ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 28, 2011, 21:54:30 โดย freedスプーン3300 »

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
เทคโนโลยีมันถูกลงมากกว่าครับ ซึ่งก็เป็นไปตามกาลเวลาของโลกเทคโนโลยี เพราะก็จะมีสิ่งไหม่ๆเข้ามาแทนที่ของเดิมมันไปเรื่อยๆ
H.

ออฟไลน์ FlavorWheel

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 345
ไม่อยากให้เข้าใจผิดกัน จริงๆมีภาษีเข้ามาซ้อนในราคารถอยู่เยอะพอสมควรนะครับ

จากปี2003 (ถ้าทะเบียนกทม.ก็ประมาณ ษx-0000 ก่อน ษห พวก ศก ศข ศค นี่ได้รับการปรับภาษีแล้ว) เพราะ
หลังจากนั้น จะมีการลดภาษี สรรพสามิตลงมา 5% สำหรับรถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบต่ำกว่า 2,000 ซีซี

และลดราคาอีก ละรอก ตอนปี 2008 ที่ลดภาษีสรรพสามิต อีก 5 % จากรถที่สามารถใช้ Gasohol E20 ได้

รวมๆ แล้ว ราคาเมื่อปี 2003 จะมี ราคาจริง ตามอัตราภาษีเดียวกับปัจจุบัน  ต้องลด ลงมาอีกไม่น้อยกว่า 10-11% ครับ
รถที่ผ่านมือ มีแต่คนบอกว่า Thumbs Down

'97 Soluna AL50 _'03 Camry ACV30 2.4Q _05'VIGO 3.0 D-cab ECTi
94' Volvo 460 GLT Sold  93' Corolla  AE101 4Auto Sold

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
เดี๋ยวนี้ C-Segment ทะลุล้านไปกี่คันแล้วล่ะครับ มันดึงราคาขึ้นกันเรื่อยๆแหละ ทั้งที่อย่างที่บอกว่าเทคโนโลยีมันจะยิ่งถูกลง

แล้วสำหรับคู่แข่งของรถตัวอย่างนะครับ ผมคุยกับเพื่อนที่เป็นบัลแกเรี่ยน บอกว่า ยาริสที่ไทย $20,000 มันบอก F*ck เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2011, 13:06:42 โดย Ruksadindan »

Chariot

  • บุคคลทั่วไป
สมัยโน้น โคโรล่า 3 ห่วง ราคา 475,000 ไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งเบรก ABS

แต่สมัยนี้อัลติสราคาราวๆ 850,000 มีให้ครบทั้งเอบีเอส ถุงลม โครงสร้างนิรภัย



หรืออย่างเชพโรเล็ต ออพตร้า 1.6 ราคา 650,000 ได้เบรกเอบีเอส กับถุงลมข้างนึงก็หรูแล้ว

มาสมัยนี้ เชพโรเล็ต ครูซ 1.8 ราคา 850,000 จัดเต็มทั้งเบรก ถุงลมคู่ ฯลฯ


ผมว่ามันก็ไปตามยุคนะ รถใหม่ ไฮเทคขึ้น ก็แพงขึ้น

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,013
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ผมมองว่าถูกลง แต่ค่าเงินลดลงครับ

อย่าลืมว่าตอนนั้นที่ Corolla E100 ราคา 4.7 แสน ค่าเงินดอลมัน 25 บาทนะครับ

ผมเชื่อว่าถ้าค่าเงิน ค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ และอื่นๆ คงที่ ราคารถจะเท่าเดิมครับ

แต่นี่ค่าเงินมันลดลงทุกปีๆ มันก็คงจะแพงขึ้นละครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,119
  • เอี๊ยดแอ๊ด

ถ้าเอาแค่รถแจ็ส เกียร์ธรรมดา เป็นเกณฑ์ตัดสิน ถือว่าคุ้มค่า

เมื่อปี 03 ราคามัน 572K แต่พอเข้าปี 05 มันลดลงมาเหลือ 535K (ของผมรุ่น E-AT ไม่มีถุงลม 570K)
โดยมีล้ออัลลอย 15" เครื่องเสียงเป็น CD 1din 4ลำโพง ก.ไฟฟ้า เบาะสูง-ต่ำ พวงสูง-ต่ำ

พอปี 08 เป็น GE ด้วยภาษีที่ถูกลง ราคาอยู่ที่ 550K
ไม่มีถุงลม ล้อกระทะ 2ลำโพง เบาะปรับสูง-ต่ำไม่ได้
แต่เพราะที่ราคานี้ ได้เครื่อง i-VTEC มี ABS วิทยุ2din MP3 AUX มันเลยคุ้มกว่ามาก
แม้ต่อมาจะปรับเป็น 560K ก็ยังคุ้มอยู่ แถมสั่งสีเหลืองได้ทุกรุ่น

ปัจจุบัน 590K แพงขึ้นกว่าเดิม 30K แต่มันก็แพงเพราะได้ถุงลมคู่หน้า
ดิสเบรค 4 ล้อ เครื่องเสียงแบบโมดูล พวงมาลัยปรับ 4 ทาง เซ็นเซอร์ 4 จุด
การที่มีออฟชั่นขนาดนี้ คงกะข่มคู่แข่งรายอื่นๆ ในรุ่น MT ด้วยกัน

------------------------------

มาพูดเรื่อง BA ที่หลายคนเครียดกันมากว่าใยถึงหายไป
มันคือตัวที่ช่วยเพิ่มแรงเบรคในกรณีที่เหยียบเต็มเท้า
ถ้ามามองถึงการขับขี่ทั่วๆไป โอกาสที่จะเบรคตัวโก่งมีกี่ครั้งกัน
เราขับจี้ท้ายชาวบ้านกันถึงขั้นต้องมี BA ไว้เผื่อกระทันหันเชียวหรือ ???
ผมเคยนั่งดูคลิปรถเจ้านึงที่เขาเทสแจ็ส 09 ตัว SV เหยียบเบรคแต็มเท้า 80-0 ได้ประมาณ 30 เมตร คิดว่ามันพอไหม?



บางทีวิศวกรฮอนด้า อาจจะพิจารณาไว้แล้วว่าระบบเบรคของแจ็สที่มีอยู่ตอนนี้
เพียงพอต่อการหยุดรถแล้วจึงไม่ต้องใส่ BA มาอีก(ไม่ก็มีอยู่ แต่ไม่ได้แจ้งเอาไว้)
หรือแม้แต่รถฟอร์ดเฟียสต้าที่หลายคนอวยๆกัน ยังไม่มี BA ปรากฎบนข้อมูลของเว็บเลย รวมถึง M2 ด้วย

และ สิ่งที่ช่วยให้ขับรถได้อย่างปลอดภัยคือ “สติ”
รถผมเอง ไม่มี ABS เคยขับๆอยู่บนถนนรามอินทรา การจราจรปานกลาง
รถบรรทุกที่อยู่ด้านหน้ามันเบรกกะทันหัน ผมกดเบรกเต็มที เสียงดังเอี๊ยด ล้อล็อค ยังไงก็ไม่รอด จูบท้ายแน่ๆ
แต่จังหวะนั้น เห็นซ้ายโล่ง เลยถอนเท้าออกจากแป้นเบรกแล้วหักหลบทันที เลยรอดตายไป
สุดท้ายต่อให้มี ABS EBD BA เบรกเองได้ เซ็นเซอร์เตือนต่างๆ ระบบความปลอดภัยสารพัด
ถ้าเราขาดสติ ของพวกนี้ก็ช่วยอะไรเราไม่ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2011, 13:00:41 โดย BestHuafoo »

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
ไม่อยากให้เข้าใจผิดกัน จริงๆมีภาษีเข้ามาซ้อนในราคารถอยู่เยอะพอสมควรนะครับ

จากปี2003 (ถ้าทะเบียนกทม.ก็ประมาณ ษx-0000 ก่อน ษห พวก ศก ศข ศค นี่ได้รับการปรับภาษีแล้ว) เพราะ
หลังจากนั้น จะมีการลดภาษี สรรพสามิตลงมา 5% สำหรับรถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบต่ำกว่า 2,000 ซีซี

และลดราคาอีก ละรอก ตอนปี 2008 ที่ลดภาษีสรรพสามิต อีก 5 % จากรถที่สามารถใช้ Gasohol E20 ได้

รวมๆ แล้ว ราคาเมื่อปี 2003 จะมี ราคาจริง ตามอัตราภาษีเดียวกับปัจจุบัน  ต้องลด ลงมาอีกไม่น้อยกว่า 10-11% ครับ

เออนะ,,, รวมๆ กัน เกือบแสนเลยมั้งครับ เหอๆ  :-\

ออฟไลน์ freedスプーン3300

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 440
  • freed korat

ไม่อยากให้เข้าใจผิดกัน จริงๆมีภาษีเข้ามาซ้อนในราคารถอยู่เยอะพอสมควรนะครับ

จากปี2003 (ถ้าทะเบียนกทม.ก็ประมาณ ษx-0000 ก่อน ษห พวก ศก ศข ศค นี่ได้รับการปรับภาษีแล้ว) เพราะ
หลังจากนั้น จะมีการลดภาษี สรรพสามิตลงมา 5% สำหรับรถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบต่ำกว่า 2,000 ซีซี

และลดราคาอีก ละรอก ตอนปี 2008 ที่ลดภาษีสรรพสามิต อีก 5 % จากรถที่สามารถใช้ Gasohol E20 ได้

รวมๆ แล้ว ราคาเมื่อปี 2003 จะมี ราคาจริง ตามอัตราภาษีเดียวกับปัจจุบัน  ต้องลด ลงมาอีกไม่น้อยกว่า 10-11% ครับ

เออนะ,,, รวมๆ กัน เกือบแสนเลยมั้งครับ เหอๆ  :-\
ถ้า 11% ก็ลดจาก 572,000- เป็น 509,080-บาทครับ. ต่างกับรุ่นS เกือบแสนจริงๆ
แลกกับABS EBD AirBag เข็มขัดดึงกลับ เครื่องI-Vtec
ดิสเบรคหลัง กุญแจรีโมท อิมโมบิไลเซอร์...

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
คิดง่ายๆ เมื่อก่อน Civic 3D ราคาประมาณ 300,000 บาท ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้ BRIO ราคา 375,000 มีหลายอย่างเพิ่มขึ้นมามากมาย
ผมว่าราคา BRIO กับ March รุ่นตำๆ ไม่แพงเลยนะ และมีภาษีอีก 20 % นะของราคาต้นทุน