Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Superpong ที่ กันยายน 27, 2021, 09:26:32
-
รถที่ใส่สตรัทโหลด ช่วงนี้หากเจอน้ำท่วม มีเทคนิคเอาตัวรอดยังไงกันบ้างครับ
-
รถโหลดต่างจากรถแตนๆ 1-2 นิ้ว
ถ้ามันท่วม อย่าห่วงรถโหลดเลยครับ รถเดิมๆ ก็ไม่รอดครับ เพราะน้ำมันมาทีละ 1 นิ้วหรอกครับ มันมาทีเป็นฟุต หรือ ครึ่งเมตร
ตอนนั้น มองหา ออฟโรด หรือ กระบะ อย่างเดียวเลย ถึงจะรอด
-
ช่วงนี้ ก็จอดเฝ้าบ้านไป
หรือ ถ้าบนถนน แล้วเจอ เราขับรถอะไร เรารู้ตัวอยู่ละ เห็นน้ำท่วม ก็กลับรถ ไม่เสี่ยงลุ้น ครับ
จริงๆรถโหลด หลายรุ่น ท่อรับอากาศอยู่สูง อาจจะลุยน้ำได้ลึกกว่า พวกรถไม่โหลด แต่ท่อรับอากาศอยู่ต่ำเสียอีก (รถยุโรปแพงๆทั้งหลาย)
อย่าง Pulsar ที่ใช้ เป็นอันรู้กันว่า ถ้าต้องลุยน้ำลึก ให้จอดข้างทาง เปิดฝากระโปรง ถอดท่อรับอากาศหน้ารถออก แค่นั้น ไปได้เกินครึ่งล้อ (แต่ถ้าไม่ถอด แค่ไฟตัดหมอก ก็ลุ้นน้ำเข้าเครื่องละ)
-
สครัทปรับเกลียวมันปรับสูงขึ้นได้ครับแต่น่าจะแข็งกว่าสากกระเบือ :-X
เอาแบบลงทุนต่ำก็เก็บโข๊คเดิมสปริงเดิมไว้ครับหน้าฝนก็จับใส่ ถ้าจะลุยน้ำได้ดีขึ้นแบบลงทุนต่ำก็ใส่ยูรีเทนรองสปริงให้สูงขึ้นนิ้วครึ่ง
หน้าฝนไม่เหมาะกับการขับรถเร็วอยู่แล้วครับ หมดฝนค่อยโหลดใหม่
-
ไม่เอาออกจากบ้านตั้งแต่แรกครับ
-
สครัทปรับเกลียวมันปรับสูงขึ้นได้ครับแต่น่าจะแข็งกว่าสากกระเบือ :-X
เอาแบบลงทุนต่ำก็เก็บโข๊คเดิมสปริงเดิมไว้ครับหน้าฝนก็จับใส่ ถ้าจะลุยน้ำได้ดีขึ้นแบบลงทุนต่ำก็ใส่ยูรีเทนรองสปริงให้สูงขึ้นนิ้วครึ่ง
หน้าฝนไม่เหมาะกับการขับรถเร็วอยู่แล้วครับ หมดฝนค่อยโหลดใหม่
ผมว่า คุณน่าจะเข้าใจผิดนะครับ
สตรัทปรับเกรียว ที่มันปรับ สูง-ต่ำ ตัวรถ(หรือโหลดตัวรถ) มันไม่ได้บีบสปริงนะครับ มันสไลด์กระบอก ปรับความสูง-ต่ำ ตัวรถ ค่า k สปริง เท่าเดิม
แต่เกรียวหรือเกรียวบีบสปริง มัน ก็ไม่ได้ทำให้รถสูงขึ้น หรือ เตี้ยลง แต่มันปรับค่า k สปริง ซึ่งมันก็คนละจุด
-
ไม่ใส่สตรัทเจอน้ำท่วมยังพังเลยครับ ทางที่ดี อย่าลุยครับ
-
แก้ปัญหาด้วยการไม่เสี่ยงไปครับ ไม่คุ้ม
-
สครัทปรับเกลียวมันปรับสูงขึ้นได้ครับแต่น่าจะแข็งกว่าสากกระเบือ :-X
เอาแบบลงทุนต่ำก็เก็บโข๊คเดิมสปริงเดิมไว้ครับหน้าฝนก็จับใส่ ถ้าจะลุยน้ำได้ดีขึ้นแบบลงทุนต่ำก็ใส่ยูรีเทนรองสปริงให้สูงขึ้นนิ้วครึ่ง
หน้าฝนไม่เหมาะกับการขับรถเร็วอยู่แล้วครับ หมดฝนค่อยโหลดใหม่
ผมว่า คุณน่าจะเข้าใจผิดนะครับ
สตรัทปรับเกรียว ที่มันปรับ สูง-ต่ำ ตัวรถ(หรือโหลดตัวรถ) มันไม่ได้บีบสปริงนะครับ มันสไลด์กระบอก ปรับความสูง-ต่ำ ตัวรถ ค่า k สปริง เท่าเดิม
แต่เกรียวหรือเกรียวบีบสปริง มัน ก็ไม่ได้ทำให้รถสูงขึ้น หรือ เตี้ยลง แต่มันปรับค่า k สปริง ซึ่งมันก็คนละจุด
ถ้าเป็นสไลด์กระบอกก็ใช่ดังที่ท่านว่าครับ
แต่ถ้าเป็นแบบไม่สไลด์กระบอก (เช่น Tein Superstreet) ก็เป็บที่เจ้าของเม้นต์ว่าไว้ครับ ยิ่งปรับสูง ยิ่งไปเพิ่ม preload
-
สครัทปรับเกลียวมันปรับสูงขึ้นได้ครับแต่น่าจะแข็งกว่าสากกระเบือ :-X
เอาแบบลงทุนต่ำก็เก็บโข๊คเดิมสปริงเดิมไว้ครับหน้าฝนก็จับใส่ ถ้าจะลุยน้ำได้ดีขึ้นแบบลงทุนต่ำก็ใส่ยูรีเทนรองสปริงให้สูงขึ้นนิ้วครึ่ง
หน้าฝนไม่เหมาะกับการขับรถเร็วอยู่แล้วครับ หมดฝนค่อยโหลดใหม่
ผมว่า คุณน่าจะเข้าใจผิดนะครับ
สตรัทปรับเกรียว ที่มันปรับ สูง-ต่ำ ตัวรถ(หรือโหลดตัวรถ) มันไม่ได้บีบสปริงนะครับ มันสไลด์กระบอก ปรับความสูง-ต่ำ ตัวรถ ค่า k สปริง เท่าเดิม
แต่เกรียวหรือเกรียวบีบสปริง มัน ก็ไม่ได้ทำให้รถสูงขึ้น หรือ เตี้ยลง แต่มันปรับค่า k สปริง ซึ่งมันก็คนละจุด
แล้วแต่รุ่นครับ บางรุ่นมันปรับได้โดยขันเกลียวสไลด์กระบอกได้ แต่บางรุ่นมันไม่ได้
และบางทีผมก็บีบสปริงเพื่อให้แข็งขึ้นนะครับ ;)
-
ต่อให้ offlroad ถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากเสียเงินซ่อมหลังลุยน้ำ อย่าเอาไปลุยครับ ไม่เช่นนั้นค่าใช้จ่ายจะตามมาแบบ จุกๆ คนเล่น offroad จะรู้ดีลุยมาที ขากลับยังไงก็ต้องถอดล้างทั้งหมด ไม่งั้นยาว
-
ผมเพิ่งรู้ว่ามีคนถอดสตรัทไปปรับเพื่อหนีน้ำท่วมกันด้วย เป็นผมผมจอดดีกว่ารถคันไหนที่โหลด
-
- ปิดแอร์
- ขับไหลไปเรื่อยๆไม่หยุด
- สวดมนต์
จบ
-
เป็นผมไม่เสี่ยงหรอกนะครับ รถพังทีค่าซ่อมไม่ถูกหรอก ใครอยากลุยน้ำก็ช่างเค้า เราไม่เสี่ยงหรอก
-
ตอบแบบกำปั้นทุบดิน เอาตัวรอดด้วยการหลีกเลี่ยงไม่ขับไปครับ
แต่ถ้าจะเอาตามเหตุผลจริงๆ ถ้ามันท่วมสูงมากรถปกติก็ไม่รอดเหมือนกันอ่ะครับ
-
ต้องพังซักครั้งครับ สมัยทำงานแรกๆ ผมขับ FD แล้วน้ำท่วมสูงในนิคม เลยครึ่งล้อ เลยปลายท่อนะครับ ขับเข้ามาโรงงาน ควันขาวเลยแหละ เพราะน้ำเข้าไปในท่อ ดีว่ารถไม่ดับ
หลังจากวันนั้นมาคิดได้ ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไปครับ โดนหักเงิน หรือ ต้องเสียเวลาไปซ่อมรถ ก็ไม่คุ้มแล้วครับ
-
ต้องพังซักครั้งครับ สมัยทำงานแรกๆ ผมขับ FD แล้วน้ำท่วมสูงในนิคม เลยครึ่งล้อ เลยปลายท่อนะครับ ขับเข้ามาโรงงาน ควันขาวเลยแหละ เพราะน้ำเข้าไปในท่อ ดีว่ารถไม่ดับ
หลังจากวันนั้นมาคิดได้ ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไปครับ โดนหักเงิน หรือ ต้องเสียเวลาไปซ่อมรถ ก็ไม่คุ้มแล้วครับ
ใช่ครับ
-
เหมือนทุกท่านครับ คือเลือกได้ให้เลี่ยง
จำเป็นต้องผ่านไปจริงๆ ก็ขับความเร็วคงที่ เลี้ยงผ่านไปเรื่อยๆ
-
เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่าครับ รอน้ำลดได้รอ ถ้าท่วมสูงทางกลับบ้านแบบนานๆที หาที่พักนอนอาจดีกว่า ถึงเวลาเปลี่ยนรถคันใหม่ก็เอาให้สูงขึ้นสักนิด
เคยเอากะบะไปลุยน้ำท่วมครึ่งล้อ ก็ไปได้ ไม่ดับ ลุยอยู่ประมาณสัปดานึง แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนนึงไดร์ชาร์จหรือไดสต๊าดเสีย ช่างสันนิฐานว่ามันไปแช่น้ำตอนลุยช่วงนั้น ยังไม่นับช่วงล่างที่ต้องไปแช่น้ำอีก แถมเสี่ยง น้ำซึมพรมเปียก
-
ของผมมี suv ไซส์กลางยังไม่เสี่ยงครับ เรียกบริการพวกรถ ppv ตามแอ็พดีกว่า