Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Nut_K ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 09:31:56
-
ที่มา : http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02car01070254§ionid=0210&day=2011-02-07 (http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02car01070254§ionid=0210&day=2011-02-07)
คลังถกผู้ประกอบการยานยนต์หวังบูรณาการจัดเก็บภาษีใหม่ เน้นลดความซับซ้อน โปร่งใสขึ้น ค่ายรถค้านแหลก ย้ำ "ปิกอัพ" และ "พีพีวี" ไม่ควรแตะ ขู่ย้ายฐาน หวั่นกระทบทั้งระบบลามไปถึงชิ้นส่วน
แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ภายหลังเข้าหารือร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งกรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร เพื่อรวมกันหารือเรื่องบูรณาการจัดเก็บภาษีของทั้ง 3 หน่วยงาน เพื่อลดขั้นตอนความซ้ำซ้อน ลดความยุ่งยาก และให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นการบริการระดับ "ท็อปเซอร์วิส"
โดยวางกรอบการปรับปรุงไว้เบื้องต้น 3 ระยะ และคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือนจากนี้น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน พร้อมทั้งจะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารืออีกครั้ง
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบนั้น ทางกรมสรรพสามิตมองว่า สาเหตุที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่นั้น เนื่องจากโครงสร้างภาษีเดิมที่มีการเริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 นั้นมีความซับซ้อน โดยเฉพาะมีการจัดเก็บมากถึง 43 อัตรา
"จากการหารือในที่ประชุม ท่าทีของคลังและสรรพสามิตมีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์นั้นไม่น่าจะมีการปรับใหญ่ทั้งระบบ แต่ต้องปรับบ้างเพื่อให้เหมาะสม และลดความเหลื่อมล้ำในเชิงความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง" แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับผู้ประกอบการต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า รัฐต้องชัดเจนมากกว่านี้ ทั้งรูปแบบ กรอบวิธีการปฏิบัติ ไม่ใช่เร่งทำโดยลืมนึกถึงการเตรียมตัวของผู้ประกอบการ ว่าพร้อมมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะรายละเอียดกรอบที่รัฐจะนำ 3 เรื่องค่ามาตรฐานไอเสีย มาตรฐานความปลอดภัย และอัตรา สิ้นเปลืองเป็นประเด็นหลักในการจัดเก็บ
ประกอบกับในปี 2555 ประเทศไทยจะประกาศใช้ค่ามาตรฐานยูโร 4 ซึ่งรถยนต์ผลิตออกสู่ตลาดในปีดังกล่าวจะต้องผ่านมาตรฐานดังกล่าว ยิ่งทำให้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ มีความกังวลมากขึ้น เพราะหากมีการประกาศปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งระบบแล้ว ในเชิงปฏิบัติจะสามารถทำได้จริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามต่อในประเด็นความชัดเจนเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่นั้น ทางกระทรวงการคลังยังให้การยืนยันว่า การจัดเก็บภาษีในส่วนของรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ปัจจุบันจัดเก็บในอัตราที่ 3% และรถอนุพันธ์อย่างพีพีวีเก็บในอัตรา 20% รวมทั้งรถยนต์ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) 17% นั้น คงจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการประชุม ครั้งนี้ทั้งโตโยต้าและอีซูซุได้แทคทีมยืนยันไม่ควรแตะต้องปิกอัพและพีพีวี โดยมีการขู่ย้ายฐานผลิต
นายมาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จำกัด มองว่า จีเอ็มมีนโยบายค่อนข้างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว ทั้งนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการสำคัญ คือ 1.ความเชื่อมั่นต่อกลุ่มผู้ลงทุนใหม่ ที่อาจจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น รวมถึงความน่าสนใจในการลงทุนของประเทศไทยอาจจะลดลง เนื่องจากขณะนี้ได้มีการใช้เอฟทีเอเป็น 0% อาจทำให้บางค่ายที่จะลงทุนตัดสินใจย้ายการลงทุนไปประเทศเพื่อนบ้านแทน
2.การที่ค่ายรถยนต์จะตัดสินใจลงทุนผลิตรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่งนั้นจะต้องมีการเตรียมการลงทุนล่วงหน้า 3-5 ปี ดังนั้นการที่รัฐบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวน่าจะไม่เกิดผลดีมากนัก ประกอบกับรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ถือเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวแรก ถ้าเปลี่ยนแปลงเชื่อว่าน่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในวงกว้าง ทั้งผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนด้วย
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท และคาดว่าเครื่องยนต์ดังกล่าวก็จะรองรับการผลิตรถปิกอัพดัดแปลง หรือพีพีวี ที่จะแนะนำออกสู่ตลาดในอนาคตด้วย
-
ศึกยกที่ 1 เริ่ม !
-
เห็น ฐานฯ ลงเมื่อ สัปดาห์ก่อนว่า ทาง ผบห.ฮอนด้าเห็นด้วย ถ้า.....
จะปรับโครสร้างการเก็บ ภาษีใหม่ ตาม การก่อมลพิษ และ การบริโภค น้ำมัน
ซื่งเป็นสิ่งที่หลายๆประเทศ นั้นทำกันไปกอนหน้านี้แล้ว
-
น่าจะระบุให้ชัดไปเลยว่า ถ้าเปลี่ยนคือลดลง ไม่ได้เพิ่มขึ้น จะได้ลดแรงต้านลงไปอีก
-
posttoday ก็ลงไว้ว่า Mitsubishi ไม่เห็นด้วย
แต่ก็ไม่ย้ายฐานการผลิตไปไหน
-
ผู้ผลิตรถกระบะ มักจะไม่เห็นด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ
เพราะถ้าเก็บในแบบที่ตั้งธงกันมาอย่างนี้จริงๆละก็ แน่นอนว่า
ผลกระทบจะโดนพวกเขาเต็มๆ
-
ฮอนด้าเห็นด้วยเพราะไม่มีกระบะสินะ :D
-
สำหรับผู้ประกอบการต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า รัฐต้องชัดเจนมากกว่านี้ ทั้งรูปแบบ กรอบวิธีการปฏิบัติ ไม่ใช่เร่งทำโดยลืมนึกถึงการเตรียมตัวของผู้ประกอบการ ว่าพร้อมมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะรายละเอียดกรอบที่รัฐจะนำ 3 เรื่องค่ามาตรฐานไอเสีย มาตรฐานความปลอดภัย และอัตรา สิ้นเปลืองเป็นประเด็นหลักในการจัดเก็บ
เมื่อใหร่จะใด้ใช้รถที่เข้ามาตราฐานนี้สักที.....กฎหมายไทย
-
ตอนนี้กระบะ กระบะแค็บ มันเสียภาษีแค่ 3 %
และ 4 ประตู 12 % ถ้าจำไม่ผิด
ถ้ามีการปรับอัตราภาษีใหม่
ยังงัยก็คาดว่า ต้องเพิ่มจากเดิมแน่นอนไม่มากก็น้อย ต้องออกมากดดันรัฐบาลไว้ก่อน
เป็นงัยล่ะขาใหญ่บ้านเรา
แตะต้องได้ที่ไหน
ตอน E10 E20 ก็หลอกให้ฟอร์ดโฟกัสรอเก้อมาแล้วรอบนึง ขาใหญ่ไม่พร้อมกฏหมายยังไม่ประกาศใช้ 555
แต่เวลาตัวเองได้ผลประโยชน์ (Hybrid 10%) เงียบกริบ
-
จะเก็บเท่าไหร่ก็เก็บไป ;D
แต่ได้โปรดให้เข้าคลังนะ อย่าได้เข้ากระเป๋าใคร
-
จะเก็บเท่าไหร่ก็เก็บไป ;D
แต่ได้โปรดให้เข้าคลังนะ อย่าได้เข้ากระเป๋าใคร
โดนครับ +1 แต่เสริมนิดหน่อยว่าไปพัฒนาขนส่งมวลชนด้วย ไม่ใช่เอาไปดองไว้ในคลัง
ผมคิดว่า ถ้าจะเก็บ จะรื้อโครงสร้าง ก็ควรจะ "เก็บให้น้อยลง" ไม่ใช่ "เก็บให้มากขึ้น"
เพราะแค่นี้ รถก็แพงโขอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องเก็บตามมาตราฐานไอเสีย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง อันนี้สนับสนุนครับ
และอีกข้อ เรื่องนี้ผมคัดค้านการเก็บภาษีตาม "แรงม้า" เพราะเดี๋ยวนี้ รถซีซีน้อยลง แต่ม้ามากขึ้น
-
ถ้าจะเปลี่ยนโครงสร้างจริงต้องประกาศก่อนบังคับใช้เป็นปีๆเพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาศเตรียมตัว
-
ประกอบกับในปี 2555 ประเทศไทยจะประกาศใช้ค่ามาตรฐานยูโร 4 ซึ่งรถยนต์ผลิตออกสู่ตลาดในปีดังกล่าวจะต้องผ่านมาตรฐานดังกล่าว ยิ่งทำให้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ มีความกังวลมากขึ้น เพราะหากมีการประกาศปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งระบบแล้ว ในเชิงปฏิบัติจะสามารถทำได้จริงหรือไม่
สำหรับผู้ประกอบการต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า รัฐต้องชัดเจนมากกว่านี้ ทั้งรูปแบบ กรอบวิธีการปฏิบัติ ไม่ใช่เร่งทำโดยลืมนึกถึงการเตรียมตัวของผู้ประกอบการ ว่าพร้อมมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะรายละเอียดกรอบที่รัฐจะนำ 3 เรื่องค่ามาตรฐานไอเสีย มาตรฐานความปลอดภัย และอัตรา สิ้นเปลืองเป็นประเด็นหลักในการจัดเก็บ
ตกลงมันยังไงครับเนี่ย ผมไม่เห็นมันจะเสียหายกับผู้ใช้อย่างเราๆ หรือว่าประเทศชาติตรงไหนเลยนะ อัพเกรดมาตรฐานมลพิษ กับคิดจากอัตตราสิ้นเปลืองเนี่ย
แล้วเรื่องชัดเจนไม่ชัดเจน มันตรงไหนละเนี่้ย
สงสัยค่ายญึ่ปุ่นพวกนี้ ทำเครื่องดีเซลกระบะ ให้เข้ากับมาตรฐานพวกนี้ไม่ทันกันหรือเปล่า ?? อีกอย่างนึงด้วย น้ำมันที่เราใช้ล่ะ ?? สะอาดพอมั้ย ?
เอะอะอะไรก็ไปบ้าจี้ตามพวกญี่ปุ่นพวกนี้อีก
-
โตโยต้าอะยังพอเข้าใจว่าย้ายฐานออกจากบ้านเราได้ แต่จะทำจริงเรอะ? แล้วไอ้โรงงานบ้านโพธิ์นั่นน่ะ เพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่ปีก็เอาไว้ผลิตกระบะทั้งนั้น เพราะงั้น ปรับขึ้นมามันก็ไม่กล้าทำหรอกครับ ทุบหม้อข้าวตัวเองทั้งนั้น
แล้วอีซูสุน่ะยิ่งไม่ต้องพูดเลย หมดจากไทยจะไปขายที่ไหนครับ? หรือจะรับงานวิศวกรรมให้กับ GM อย่างเดียวงั้นหรือ?
ผมไม่เข้าใจว่าจะโฆษณาว่าตัวเองรักสิ่งแวดล้อมทำไม ถ้าอย่างตอนนี้ที่ถึงเวลาเราจะเริ่มเก็บภาษีโดยคำนึงเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเอามาเป็นหลักแทน? รถที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมมากนักก็ย่อมควรที่จะได้รับส่วนลดภาษีน้อยๆ ซึ่งโตโยต้าเองก็มีโปรดักที่มีศักยภาพมากพอจะนำเข้ามาได้อีกหลายตัว แม้ตลาดปิกอัพจะแผ่วลงไป แต่เชื่อเถอะว่า ไลฟ์สไตล์คนต่างจังหวัด ยังไงก็ยังต้องการรถปิกอัพอยู่ แค่มันอาจจะน้อยลงบ้างถ้าหากราคามันแพงขึ้น ลาววีโก้คันละล้านสองบาทไทย เค้ายังใช้กันเยอะแยะไป
ถ้าเราเด็ดขาดมากพอ ศึกษาให้รอบคอบแล้วประกาศใช้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเถอะครับ เค้าไม่ผลิตกระบะในบ้านเรา แต่เราอาจจะได้เห็นรถพลังงานสะอาดมาวิ่งเพ่นพ่านบนถนนบ้านเรามากขึ้นแทน
ก็คงดีกว่าให้มาเจอพวกวีโก้ ดีแม็ก นาวาร่า บ้าพลังขับกร่างบนถนนทุกวี่ทุกวันล่ะนะ ถ้าคิดในแง่ร้ายหน่อย
-
เอะอะอะไรก็ขู่ ตกลงนี่มันบ้านใครเมืองใครอ่ะ นี่ถ้าพี่เบิ่มเค้าไม้พร้อมบ้านนี้เมืองนี้ก็ออกกะติกาอะไรไม่ได้ว่างั้น..................