Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NgoH ที่ มีนาคม 22, 2011, 12:44:19
-
ผมเจอบ่อยครับ ขับรถออกต่างจังหวัด แต่ผมว่าเป็นการหาเงินมากว่า ทางนอกเมืองแถวพัทยาเห็นบ่อยครับ
ผมขับรถเข้ากรุงเทพฯ พระสงฆ์รูปนั้น คนนั้นซิ โบกรถฝั่งขาเข้า พอผมจอดรถ ก็เดินเข้ามา
พระสงฆ์ ขอติดรถไปด้วยจะไปจันทบุรี
ผม จะไปจันทรีต้องไปโบกอีกฝั่งหนึงซิ
พระสงฆ์ งั้นขอค่ารถหน่อยจะไปเองก็ได้
ผม มาทำอะไรแถวนี้
พระสงฆ์ มาปักกลดแถวนี้
สนทนากันอีกยาว
ผมบ่นในใจ พระปลอมแน่ๆ พระเดินธุดง พกเงินไม่ได้
ของชำร่วย (ด้ายมงคล) เพียบเลย เอาไว้ขายให้เชื่อหรือไงเนี่ยะ
สุดท้าย แฟนให้ไปเถอะ สุรปต้องให้100 บาท
ผมขับรถช้าๆดู ปรากฏ โบกคันหลังอีก เอ๊ะยังไง โดนต้มแล้ว
ผมเคยเจอแถวสกลอีก แต่ตอนนี้ของจริง มีกลด อุปกรณ์ธุดง พร้อม แค่โบกขออาศัยติดรถบก บิทบาตน้ำดืมเท่านั้น
แต่การเดินธุดง ต้องเดินด้วยเท้าจะมีศรัทธามากกว่า
เพราะอะไรต้องมาโบกรถผมด้วย เลือกโบกยังไง
อาจรถใครมีพวงมาลัยห้อยหน้ารถ คงจะศรัทธาพระสงฆ์มั้ง
ไม่ผมไม่ชอบพระสงฆ์มีเงินใช้เลย ทำให้มีกิเลสเยอะ สมัยปู่ญ่า ใครพาให้วะ
-
ว่าพระ มันไม่ดีนะครับพี่ มันบาปกรรม เราถือว่าเราทำบุญทำทานดีกว่าครับ อย่าไปคิดอะไรมากเลย ;)
-
ผมยอมเป็นมารศาสนา เพราะไอ้พวกเวรจัญไรพวกนี้แหละครับ
-
ศาสนาจะเสื่อมเพราะไอ้คนพวกนี้แล
เห็นหน่ายจิต
-
ไม่เคยจอดรับเลย เพราะมีสีกาเต็มรถ
(ภรรยา น้องสาว หรือบางทีก็แม่)
-
ผมเจอบ่อยครับ ขับรถออกต่างจังหวัด แต่ผมว่าเป็นการหาเงินมากว่า ทางนอกเมืองแถวพัทยาเห็นบ่อยครับ
ผมขับรถเข้ากรุงเทพฯ พระสงฆ์รูปนั้น คนนั้นซิ โบกรถฝั่งขาเข้า พอผมจอดรถ ก็เดินเข้ามา
พระสงฆ์ ขอติดรถไปด้วยจะไปจันทบุรี
ผม จะไปจันทรีต้องไปโบกอีกฝั่งหนึงซิ
พระสงฆ์ งั้นขอค่ารถหน่อยจะไปเองก็ได้
ผม มาทำอะไรแถวนี้
พระสงฆ์ มาปักกลดแถวนี้
สนทนากันอีกยาว
ผมบ่นในใจ พระปลอมแน่ๆ พระเดินธุดง พกเงินไม่ได้
ของชำร่วย (ด้ายมงคล) เพียบเลย เอาไว้ขายให้เชื่อหรือไงเนี่ยะ
สุดท้าย แฟนให้ไปเถอะ สุรปต้องให้100 บาท
ผมขับรถช้าๆดู ปรากฏ โบกคันหลังอีก เอ๊ะยังไง โดนต้มแล้ว
ผมเคยเจอแถวสกลอีก แต่ตอนนี้ของจริง มีกลด อุปกรณ์ธุดง พร้อม แค่โบกขออาศัยติดรถบก บิทบาตน้ำดืมเท่านั้น
แต่การเดินธุดง ต้องเดินด้วยเท้าจะมีศรัทธามากกว่า
เพราะอะไรต้องมาโบกรถผมด้วย เลือกโบกยังไง
อาจรถใครมีพวงมาลัยห้อยหน้ารถ คงจะศรัทธาพระสงฆ์มั้ง
ไม่ผมไม่ชอบพระสงฆ์มีเงินใช้เลย ทำให้มีกิเลสเยอะ สมัยปู่ญ่า ใครพาให้วะ
เรื่องแบบนี้คุยกันยาวครับ
พระมี2แบบครับ
1 พระดี
2 พระเลว
คนก็มี2แบบครับ
1 คนดี
2 คนเลว
การทำบุญก็มี2แบบครับ
ทำแล้วมี ทุกข์
ทำแล้วมี สุข
ก็เลือกเอาก็แล้วกันครับ นานาจิตตัง ครับ
-
ผมก็เคยคิดแบบนี้นะครับ
แต่ถ้าทบทวนดีๆ การทำบุญมันควรจะทำให้จิตใจเรามีความสุขนะครับ
การที่เราไม่สบายใจในการทำบุญ แล้วมานั่งคิดเสียดาย ไม่น่าทำเลย ทำไมพระรูปนั้นถึงทำอย่างนี้
ผมว่า ใจเราจะทุกข์ไปเองเปล่าๆ
ขอให้คิดซะว่า เราทำบุญจากใจเราครับ ให้ใจเราได้เป็นสุขเถอะครับ ไม่ว่าเขาจะเอาเงินเราไปทำอะไร ถือว่าเราให้ทานเขาแล้วครับ
ถ้าเขาไม่เดือดร้อน ก็คงไม่มาขอหรอกครับ ดีกว่าให้เขาไปเป็นโจรครับ...
-
ผมก็เคยคิดแบบนี้นะครับ
แต่ถ้าทบทวนดีๆ การทำบุญมันควรจะทำให้จิตใจเรามีความสุขนะครับ
การที่เราไม่สบายใจในการทำบุญ แล้วมานั่งคิดเสียดาย ไม่น่าทำเลย ทำไมพระรูปนั้นถึงทำอย่างนี้
ผมว่า ใจเราจะทุกข์ไปเองเปล่าๆ
ขอให้คิดซะว่า เราทำบุญจากใจเราครับ ให้ใจเราได้เป็นสุขเถอะครับ ไม่ว่าเขาจะเอาเงินเราไปทำอะไร ถือว่าเราให้ทานเขาแล้วครับ
ถ้าเขาไม่เดือดร้อน ก็คงไม่มาขอหรอกครับ ดีกว่าให้เขาไปเป็นโจรครับ...
เห็นด้วยนะครับแบบนี้ การให้ทานคือการขจัดความตระหนี่ ขัดเกลาจิต ส่วนที่เค้าจะเอาไปทำอะไรนั้นเป็นสิ่งที่เค้าผู้นั้นจะรับผลที่เค้าได้ก่อเอาไว้เอง
-
การทำบุญ ทำทาน ทำแล้วมีความสุขไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเถอะครับ
แต่ถ้าถูกบังคับ หรือว่าทำแล้วทุกข์ก็อย่าไปทำเลย
-
ผมก็เคยคิดแบบนี้นะครับ
แต่ถ้าทบทวนดีๆ การทำบุญมันควรจะทำให้จิตใจเรามีความสุขนะครับ
การที่เราไม่สบายใจในการทำบุญ แล้วมานั่งคิดเสียดาย ไม่น่าทำเลย ทำไมพระรูปนั้นถึงทำอย่างนี้
ผมว่า ใจเราจะทุกข์ไปเองเปล่าๆ
ขอให้คิดซะว่า เราทำบุญจากใจเราครับ ให้ใจเราได้เป็นสุขเถอะครับ ไม่ว่าเขาจะเอาเงินเราไปทำอะไร ถือว่าเราให้ทานเขาแล้วครับ
ถ้าเขาไม่เดือดร้อน ก็คงไม่มาขอหรอกครับ ดีกว่าให้เขาไปเป็นโจรครับ...
ใช่เลยครับ พี่
-
แต่มันอาจเอาผ้าเหลืองบังหน้าหากินได้นะครับ
เราสมควรช่วยกันแก้ไขศาสนาให้อยู่ในสังคมปัจจุบัน ให้อยู่ที่ควรจะเป็นและเหมาะสม ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลย
จริงอยู่การทำบุญเป็นสิ่งดี แต่การหลอกลวงเป็นสิ่งเลว ไม่ควรปล่อยปะละเลย อาจเป็นช่องทางของมิจฉาชีพได้
อยากจะตีแผ่ให้สังคมตรวจสอบดูเท่านั้น ผมก็เคยบวช ไม่เคยมีสักนิดที่มาขอเงินข้างทางอย่างนี้
ถ้าเรามิอาจวิจารณ์การกระทำของพระได้ เหมือนเราสงเสริมเขา มันอาจช่วยทำร้ายศาสนาทางอ้อมได้นะครับ
-
พ่อผมไม่เคยจอดรับเลยครับเพราะว่า
ถ้าอยากสบาย ก็นอนอยู่วัด ไม่ต้องออกมาเดิน
แต่ว่าถ้ามองอีกด้าน ถ้าท่านบาดเจ็บ/ป่วย เราจะทำยังไง
-
รักษาตัวรอดเป็นยอดดีครับ
เพื่อนเคยเจอ รับพระขึ้นรถทางระหว่างอำเภอ พูดโน้มน้าวให้ใส่ซอง เจอไป 100 นึง
อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละคนน่ะครับ
-
ผมเคยเจอะและก็เคยรับด้วยครับ
ผมขับรถจากปราจีนบุรีจะไปเมืองกาญจน์ ช่วงค่ำๆ ประมาณหกโมงเย็น ผ่านเส้น รังสิต-นครนายก เจอะหลวงพี่โบก ผมก็จอดรับ หลวงพี่แจ้งว่าจะไปบางบัวทอง ผมก็บอกว่าผมไปแค่แยกนพวงศ์ นะ หลวงพี่อาจจะต้องลงที่แยกนพวงศ์ ก็ OK หลวงพี่ท่านก็ไปกับผมจนถึงแยกนพวงศ์ ผมพาเข้าไปส่งที่ปั้ม เจ้าของปั้มซื้อก็ซื้อน้ำเปล่าถวายด้วย
ผมทำแล้วสบายใจ หลวงพี่ท่านก็ไม่ได้เชิญทำบุญหรือถวายปัจจัยอะไร
-
อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ถ้าเจอพระขอเงินตรงๆผมไม่ให้หรอก ถ้าผมอยากทำบุญผมก็จะไปให้เองที่วัด
แต่เดี๋ยวนี้ผมชอบทำทานกับสัตว์มากกว่านะเพราะสัตว์มันไม่โกหกคน
-
ต้องพิจารณาเอานะครับ โดยส่วนใหญ่พระที่ธุดงค์(ผมหมายความถึงพระจริงๆ)ท่านจะเตรียมเครื่องอัฐบริขารอย่างพร้อม ไม่รับปัจจัย ไม่ฉัน(กิน)อาหารพร่ำเพรื่อ
หากจะโบกรถ ก็มีเหตุจำเป็นจริงๆ อาจบาดเจ็บหรือไม่สบาย ให้สังเกตุที่จีวรสังคาติจะไม่รุ่มร่าม คนที่ไม่ได้คุ้นเคยอาจจะดูไม่ออก จะจอดรับหรือไม่ต้องพิจารณาดูนะครับ
-
ว่าพระ มันไม่ดีนะครับพี่ มันบาปกรรม เราถือว่าเราทำบุญทำทานดีกว่าครับ อย่าไปคิดอะไรมากเลย ;)
ไม่ได้หรอกครับ คำว่าพระด่าไม่ได้เนี่ย ผมว่าน่าจะหมดยุคแล้วนะ ถ้าพระทำดีทำตัวน่าเลื่อมใสอันนั้นไปด่าก็คงไม่ใช่ แต่พระไม่ดีเกาะผ้าเหลืองหากินไปวันๆเนี่ย...
ไม่พูดละกัน
ไม่ใช่แค่ทำบุญทำทานหรอกครับ แต่การทำแบบนี้มันทำให้ศาสนาดูไม่น่าเคารพ (พระจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้)
-
เคยเหมือนกันครับ
จากลำปางไปเชียงใหม่ แต่ผมไม่ได้วิ่ง Super Highway นะ วิ่งไปทางลี้ (แบบอยากเปลี่ยนบรรยากาศ สรุป คิดผิดจริงๆ กว่าจะได้ดูแพนด้า ตอนนั้นยังไม่มีลูกเลย)
แดดเปรี้ยงร้อนมาก ขับไปกับ (อดีต)แฟน เจอพระรูปหนึ่งเดินอยู่ ไม่ใช่พระธุดงค์หรอกครับ คงไปทำธุระหรือรับกิจนิมนต์มา
เห็นพระท่านโบกคันหน้าแต่ก็ไม่จอด เลยโบกคันผมแล้วผมเลยจอด พระท่านเลยขอโดยสารไปวัด (อยู่ที่ไหนจำไม่ได้แล้ว รู้สึกว่าจะเป็นทางผ่าน ก็เลยโอเค)
ให้ (อดีต)แฟนไปนั่งหลังแล้วให้พระนั่งหน้าคู่กับผม ขับไปเป็นสิบกิโล (ไกลนะเนี่ย ร้อนมากด้วย) ก็ถึงทางแยก ท่านบอกว่าลงตรงนี้แหละ โยมต้องไปทางขวา วัดอาตมาจะไปทางซ้าย
พอพระท่านลงไปแล้วก็เดินต่อ ไวเท่ากระพริบตา ผมก็เลยเลี้ยวซ้ายไปแล้วบอกกับพระท่านว่าเดี๋ยวผมไปส่งดีกว่าหลวงพ่อ
พระท่านคงเกรงใจ ผมบอกไม่เป็นไร พาไปส่งวัดอีกสามสี่กิโล ไปส่งหน้าโบสถ์เลย พระท่านบอกให้รอเดี๋ยว กลับกุฏิแล้วก็ยี่นพระเครื่องมาองค์หนึ่ง ท่านบอกว่าไว้ป้องกันตัว (ย้ายบ้านหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้)
อย่างที่ด้านบนหลายๆท่านบอก ถ้าคิดว่าทำดีแล้วสุขใจก็ถือว่าทำดีกับเนื้อนาบุญที่ดี การบริจาคทานมาจากใจไม่มีใครบังคับ ถ้าคิดว่าผู้รับไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ทำ เพราะทำแล้วใจเป็นทุกข์ก็คงไม่ใช่บุญ
กรณีของผม ทำให้ผมดูช่วงช่วงกับหลินฮุยอย่างมีความสุขมากขึ้น กินไก่ย่างแบบมีความสุข แค่นี้ก็เรียกว่าสวรรค์อยู่ในอกจริงๆแล้วครับ
เอวังด้วยประการละฉะนี้
-
ผมก็เคยเจอครับ แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่
ตัดปัญญหาไปเลย โดยการไม่จอด ;D
กลัวเหมือนกัน
^^"
-
เราจอดรถถามท่านได้ครับ... เพราะถ้าเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เราช่วยตามความเหมาะสม ก็ถือว่าได้ทำดี
แต่ถ้าขอเงิน จะเป็นพระจริงพระปลอม ก็ต้องดูใบสุทธิ เพราะตามพระพุทธบัญญัติ ท่านเอาเงินเราไปท่านอาบัติ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ข้อที่ 9 ในวรรค 3
ถ้าเอาไปแล้วต้องสละ และปลงอาบัติ ถึงจะถูกต้อง
ส่วนใหญ่นักบวชที่เราเห็นเราไม่รู้ว่าเป็นพระภิกษุจริงหรือไม่? เห็นคนห่มผ้าเหลืองใช่ว่าจะเป็นพระภิกษุ
เพราะในสมัยพุทธกาลก็มีอลัชชี (พวกมารศาสนา) แอบเข้ามาทำลายพระพุทธศาสนา โดยการหาลาภสักการะ หาเงินหาทอง
ในปัจจุบันก็มีเหมือนกัน
อยากเน้นให้ทุกท่านเข้าใจพระพุทธศาสนามากขึ้น ไม่ใช่เอะอะก็ว่าสมัยนี้สังคมไม่ดี พระเสื่อมลง
เหล่าหมู่สงฆ์ไม่เคยเสื่อม เพราะท่านอยู่ในศีล 227 แต่คนต่างหากที่เสื่อม
-
ป้่าผมเคยจอดรับพระแถวๆเมืองกาญจน์นะ แล้วโดนตำรวจเรียกตรวจข้างหน้า ปรากฎว่าเป็นพระมาจากพม่า ไม่มีใบรับรอง ตอนนี้ป้าผมเลยโดนคดีเลย
แต่ผมไม่ได้จะบอกว่าไม่ให้รับพระนะครับ แต่อยากให้ระวังไว้หนะครับ :D
-
ผมเคยเจอครับพระสงฆ์โบกรถ แต่ผมไม่ได้จอดรับ พอผมขับรถผ่านไปเท่านั้น ยกเท้าใส่โวยวายใหญ่เลย
ผมพูดกับแม่ดีแล้วที่ไม่จอดรับ
-
เรื่องแบบนี้คุยกันยาวครับ
พระมี2แบบครับ
1 พระดี
2 พระเลว
คนก็มี2แบบครับ
1 คนดี
2 คนเลว
การทำบุญก็มี2แบบครับ
ทำแล้วมี ทุกข์
ทำแล้วมี สุข
ก็เลือกเอาก็แล้วกันครับ นานาจิตตัง ครับ
[/quote]
เยี่ยมเลย ชอบๆ ;)
-
เคย 2 ครั้ง ครั้งแรกแถวสังขละบุรีพอส่งเสร็จ หลวงพี่บอกครั้งหน้ามาเที่ยว พักที่วัดได้นะสวยด้วย
วัดถ้ำลิเจีย ครั้งสองจากบ่อพลอย ท่านจะไปด่านช้าง ผมไปไม่ถึงด่านช้างนะห่างเกือบ 10 กม.
ท่านบอกไม่เป็นไรโยม เดี๋ยวโบกต่อก็ได้ รับขึ้นรถ ถึงทางเข้าบ้านจอดส่ง ท่านบอกไหนๆและอีกหน่อย
ผมก็ได้ๆ พอถึงด่านช้าง ท่านบอกอีกนิด ก็ไปต่อ พอถึงที่ขอบิณทบาท กระติกใส่น้ำหลายร้อยบาทอยู่
ผมเลยให้แฟนถวายไป สองร้อย วันหลังเลยไม่กล้ารับแล้วพระธุดงค์