Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: pode ที่ มิถุนายน 08, 2009, 07:55:09
-
ผมเพิ่งถอย new teana 2.5XV เมื่อวานตอนตรวจเช็คเครื่องยนต์ ญาติคนหนึ่งของผมเห็นเครื่องยนต์ เขาลงความเห็นว่า เครื่องteana รุ่น 2500 ใหม่นี้จัดวางห้องเครื่อง แน่นและชิดกันเกินไป ทำให้ระบายความร้อนช้า ดูแลรักษา และซ่อมเครื่องยนต์ยาก โดยญาติผมเขาไปเปรียบเทียบกับ คัมรี่ 2.4 extremo ใหม่ที่เขาใช้อยู่เครื่องยนต์ค่อนข้างจัดวางมีพื้นที่โล่งกว่า
จึงอยากถามพี่จิมมี่และผู้รู้ว่ามันจริงไหม ที่
1.ทำให้ระบายความร้อนช้า เครื่องยนต์พังเร็ว
2.การซ่อม เปลี่ยนอะไหล่ ยุ่งยาก
3.การจัดวางหม้อน้ำไว้ด้านหน้า ถ้าเอาไปชนด้านหน้ามา ทำให้หม้อน้ำและที่อยู่ข้างเคียงพังง่ายและค่าใช้จ่ายเยอะกว่าที่ควรจะเป็น
-
อยากจะถามคุณน้องกลับไปว่า
มีรถคันไหนในตลาดกลุ่มนี้บ้าง ที่เอาหม้อน้ำไว้ด้านข้าง? (ไม่นับพวกเอาไว้ด้านหลังนะ)
การซ่อม เปลี่ยนอะไหล่ จะยุ่งยากหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับตำแหน่งติดตั้งของสิ่งที่คุณจะต้องเปลี่ยนมันด้วย
-
-ไม่น่าจะเกียวเรื่องระบายความร้อนช้าอะครับ รถมันระบายความร้อนด้วยน้ำ รถยุโรปหรือรถยังปิดกันมิดชิด อัดกันเต็มกห้องเครื่องมากกว่านะครับ
ก็ยังไม่มีปัญหาเรื่องความร้อน และคงไม่พังเร็ว น่าจะดูกันที่ขนาดของหม้อน้ำมากกว่า รถเมืองหนาวหม้อน้ำเล็กมาวิ่งเมืองไทยแอร์ไม่เย็น ความร้อนขึ้น อย่างรถที่บ้านcamry เปิดแอร์ 24 ยังหนาว แตฺ่ำBenz e200 cdi ต้องเปิดความเย็นอยู่ที่21-22 ถึงจะเย้นใกล้เคียงกับcamryอะครับ เลยคิดว่าไม่ต้องกังวนว่าเครืื่องจะพังเร็ว แต่ก็ตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอนะครับ
-ผมว่ามันก็ยากทุกคันนะครับ ขึ้นอยุ่กับว่าอะไหล่ชิ้นนั้นอยู่ตรงไหน และและความเชียวชาญของคนที่เปลี่ยน ขนาดผมเปลี่ยนไฟหรี่ของbt-50 ใช้เวลาในการเปลี่ยน2ชั่วโมง ต้องมุดใต้ท้องรถถอดแผ่นกัน ใช้นิ้วคลำ+ความรู้สึกในการถอดและเปลี่ยนเข้าไปใหม่จนสุดท้ายผมรู้ว่าใช้ช่างผู้มีประสบการณ์ในการเปลี่ยนดีกว่า ดั้งนั้นคนเปลี่ยนคนซ่อมถ้าไม่ใช้เราซ่อมเองอย่ากังวลเลยครับ ให้เป็นหน้าที่ของช่างผู้มีประสบการณ์ดีกว่า
-ไม่รู้เป็นประโยคคำถามหรือเป็นการบอกเล่าครับ...แต่เท่าที่รู้ ขับชนซ่อมยังไงก็มีแต่ค่าใช้จ่าย ถ้าไม่ทำประกันนะครับ....
ขอให้มีความสุขกับรถใหม่ อย่าเพิ่งไปกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นนะคับ ขับรถดีมีวินัย ดูแลรถของเราดีๆ มันก็จะอยู่กับเราไปนานๆ........
-
ขอตอบกันแบบไม่เกรงใจนะ
ญาติคุณคนนั้น ทำงานอยู่แผนกวิศวกรรมยานยนต์ หรือเปล่าล่ะ?
ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ อย่างมั่วเลย
Camry รุ่นเดียวกันนี้ ห้องเครื่องของมันก็วางเครื่อง 3.5 V6 ได้
คุณว่า พื้นที่ที่เหลือ ตอนวางเครื่อง V6 นี้
# มันจะพอรับความร้อนจากเครื่อง 3.5
# มันเหลือพื้นที่ ดูแลรักษา/ซ่อมบำรุงเครื่อง
เหมือนที่มันว่างตอนวางเครื่อง 2.4 มั้ยล่ะครับ ?
ปล. ไว้ตอน Camry Hybrid ออก คุณลองเอาคำถามเดิมไปพูดสิครับว่า
" เอาเครื่อง 2.4 + มอเตอร์ไฟฟ้า ใส่เข้าไปอีก มันจะเหลือพื้นที่ระบายความร้อนพอหรือเนี่ย "
-
ไม่เกรงใจจิงด้วย.... ;D
-
ขอบคุณคับ ผมจะได้มีเหตุผลไปเถียงเค้าคืน อิอิอิ
-
ก็เหมือนที่ท่านอื่นตอบแหละครับ คือมันไม่เกี่ยวกัน หม้อน้ำมันก็อยู่ข้างหน้าเกือบทุกยี่ห้อเลยครับ ดีนะที่คุณไม่เจอพวกที่มี intercooler อีก มันจะ2เด็ง แต่ทั้งหมดนี้ก็อยู่ข้างหน้าและถ้าชนแรงพอตัวก็เจอแน่ๆ
สำหรับห้องเครื่องแน่นๆ ให้ดู jazz yaris vios และโดยเฉพาะ civic ที่แม้แต่ค้ำโช๊คหน้าคุณยังไม่มีปัญญาติดเลย เพราะห้องเครื่องมันอยู่ใต้ คอนโซลเลยละ หรือใต้กระจกว่างั้น ซึ้งรถเหล่านี้เป็นรถตลาดแล้ว แต่ไม่มีใครมีปัญหาเลย อีกถ้าจะว่ากันจริงๆแล้ว ผมว่า teana วางห้องเครื่องโล่งพอควรแล้วนะ แล้วเรื่องการซ่อมเป็นหน้าที่ช่างครับ เค้ามีเครื่องมือพิเศษอยู่อย่าเป็นห่วงไปเลย
อีกอย่าง ทีหลังไปดูรถครับ เลิกพาญาติคนนี้ไปได้แล้ว เพราะเค้าอาจจะพาคุณถอยหลังเข้าคลองได้ง่าย อันที่เค้าพูดไม่ใช่ประเด็นเลยครับที่จะซื้อรถยิ่งเป็นรถระดับนี้ด้วยแล้ว ถ้ากลัวซ่อมซื้อรถให้ถูกลงก็ดีนะครับผมว่า เราจะมีความสุขกับการใช้รถได้มากขึ้น มีปัญหาจริงๆก็เปลี่ยนเลยครับ อิอิ เอ่อ... แล้วเค้ามาพูดทำไมเนี้ยซื้อรถไปแล้วนิ ทำให้คุณไม่สบายใจไปเลย เหอๆ
-
ผมล่ะกลับชอบรถที่ห้องเครื่องแน่ๆนะ ;D
-
ขอตอบกันแบบไม่เกรงใจนะ
ญาติคุณคนนั้น ทำงานอยู่แผนกวิศวกรรมยานยนต์ หรือเปล่าล่ะ?
ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ อย่างมั่วเลย
Camry รุ่นเดียวกันนี้ ห้องเครื่องของมันก็วางเครื่อง 3.5 V6 ได้
คุณว่า พื้นที่ที่เหลือ ตอนวางเครื่อง V6 นี้
# มันจะพอรับความร้อนจากเครื่อง 3.5
# มันเหลือพื้นที่ ดูแลรักษา/ซ่อมบำรุงเครื่อง
เหมือนที่มันว่างตอนวางเครื่อง 2.4 มั้ยล่ะครับ ?
ปล. ไว้ตอน Camry Hybrid ออก คุณลองเอาคำถามเดิมไปพูดสิครับว่า
" เอาเครื่อง 2.4 + มอเตอร์ไฟฟ้า ใส่เข้าไปอีก มันจะเหลือพื้นที่ระบายความร้อนพอหรือเนี่ย "
เห็นด้วยเลยครับ
ญาติคนนั้นเค้าคิดได้ไงเนี่ยยยยย
งงจริงๆ
-
รถผม volvo s40
ห้องเครื่องแน่นปั๋ง
ความร้อนไม่เคยเกิน ครึ่งหนึ่งของ เกจ์วัดความร้อน
ความเห็นส่วนตัวผม 2.5 teana ดีกว่า 2.4 camry
-
เค้าใช้ Camry เึค้าก็ต้องหาเรื่องไม่ดีมาว่า Teana อยู่แล้วครับ ;D
ล้อเล่นนะ (แต่อาจจะจริง :o)
ยังไงผมก็นอนยันว่า Teana ดีกว่า Camry ยิ่ง 2.5 ยิ่งดีใหญ่
-
คนเค้าอาจจะ อิจฉา บวกกับบ้ายี่ห้อครับ
ผมเห็นมาเยอะแล้ว
-
เรื่องความร้อนมันแทบไม่รู้สึกหรอกครับ ถ้าพัดลมกะหม้อน้ำำทำงานปรกติ
แต่ห้องเครื่องแน่นservice ยาก นี่ มันก็มีส่วนครับ ผมเคยเอาPassat Tdi ไปเปลี่ยน Timing Belt ช่างต้องเปิดกันชนข้างนึง แล้วพับออก ถึงจะเปลี่ยนได้ เห็นแล้ว เหนื่อยจริง ๆ
เครื่อง 6 สูบ หายี่ห้อที่ซ่อมง่าย ๆไม่มีหรอกครับ แค่เปลี่ยนปะเก็นฝาครอบวาล์วก็งานเยอะกว่า สี่สูบเยอะครับ อย่าไปเทียบกับCamry 2.4 เลย มันหนังคนละม้วนกันครับ
-
โห แล้วไปดูห้องเครื่องรถยุโรป แกไม่ช๊อคไปเลยหรือครับ
-
ถ้าอย่างนั้น ไอ้เจ้านี่ก็น่าจะโอเวอร์ฮีตทันทีที่รถติด..หรือว่าไงดีครับ?
-
ภูมิปัญญาชาวบ้านดีนะครับนั้น
-
ขอโทษนะครับขอพูดตรงๆๆด้วยคนนะในการออกแบบรถยนต์รุ่นใดรุ่นนึงเค้าก็มีขั้นตอนในการคิดคำนวนต่างๆออกมารองรับทุกๆๆชิ้นส่วนอยู่แล้วก็แล้วแต่ว่าใครใช้มาตราฐานอะไร (บางเจ้าแค่ ISO 9000 + TPS +การเรียนแบบ TS บางส่วน ขณะที่เจ้าอื่น ISO 9000 + TS16949) ถามว่ามีอะไรต่างกันไหมคำตอบคือไม่เพราะว่าพื้นฐานการคิดการทำงานคล้ายกันมากแล้วในขั้นตอนทดลองประกอบอย่างน้องทุกเจ้าจะต้องมีการทดลองประกอบ 5 ขั้นตอนขึ้นไปแล้วแต่ละขั้นตอนหลังจากทดลองประกอบแล้วจะต้องนำผลการทดลองประกอบมาประชุมสรุปผลและทำการปรับปรุงอย่างละเอียดทุกขั้นตอนก่อนปล่อยเพราะฉนั้นมั่นใจได้เลยครับว่ามันไมน่าจะมีปัญหาใดๆในระยะรับประกัน ความคิดแบบญาติคุณเนี้ยอคติกับรถยี้ห้ออื่นมา โดยส่วนตัวผมทำงานที่ SNA , SNB ปัจจุบันผมก็ทำ Part ส่ง TMT ด้วยเหมือนกัน(เป็น Part Safety ด้วย)ก็เลยอยากสรุปว่ารถทุกเจ้าที่ผลิดออกมาเนี้ยดีแน่ๆผมยืยยันแค่ระบบผลิตนะแต่เป็นไปได้ว่าเรื่องหน้าตาหรืออุปกรณ์ที่อยู่ใน Teana ไม่คุ้นเคยเมื่อนำมาเทียบกันอันนี้ครับมันคนละเรื่องมันเป็นเรื่องของเทคโนโลยี การออกแบบที่คิดมาอยางดีแล้วว่ามันจะไม่ทำให้เกิดปัญหาตอนนี้ผมคิดว่าญาติคุณคงไม่เปิดใจรับยี้ห้ออื่นใช่หรือไม่ครับ????
-
ถ้าไม่รถเสียไอ้ห้องเครื่องแน่นๆนี่มันก็คงจะไม่เป็นไรหรอกครับ เคยมีประสบการณ์กับรุ่น cefiro a32 ครับไดสตาร์ทมันเสียที่ลานจอดรถของห้างครับ เรียกศูนย์ nissan มาดูกว่าจะถอดไดสตาร์ทออกมาได้นี่รื้อกันเหนื่อยเลยครับต้องถอดท่อทางเดินอากาศออกมาด้วย เล่นเอาแทบแย่ครับเพราะอากาศมันร้อนอ้าวสุดๆ แต่ถ้าเป็นรุ่นอื่นที่มันห้องเครื่องมันไม่แน่นนี่ง่ายกว่ากันเยอะครับ ซึ่งถ้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์เราก็คงไม่เห็นความแตกต่างครับ เพราะเราก็แค่นั่งรอในห้องแอร์สบายๆ แต่นี่ต้องรอช่างเปลี่ยนอยู่ในลานจอดรถที่สุดร้อนอบอ้าวครับ