Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Tonaka ที่ เมษายน 16, 2011, 19:50:07
-
ข้อสงสัยของผมมีอยู่ว่า ทำไมสมัยก่อนรถบรรทุกส่วนใหญ่ที่คนไทยเอามาต่อตัวถังใช้กันเนี่ย
เวลาสร้างมักจะเอาส่วนหัวรถต้ังแต่หน้ารถไปจนถึงกระจกหน้ามาต่อลองคัสซี แต่ทว่าตั้งแต่ส่วนห้องโดยสารเป็นต้นไปก็มักจะต่อเป็นไม้ซะงั้น
เหตุผลเรื่องนี้ผมอยากรู้มานานมากแล้ว พยายามหาจากในอินเตอร์เนตก็ไม่เจอสักที เจอแต่รูป อย่างเช่นคันนี้อ่ะครับ
-
สมัยก่อนไม้ราคาถูกกว่าเหล็กครับ หาได้โดยทั่วไป ไม่มีเหตุผลอะไรหรอก สมัยก่อนสร้างบ้านไม้ทั้งหลังถูกกว่าบ้านปูนอีก บ้านใครเป็นปูนเนี่ยเศรษฐีเลยนะ
-
คือ... สงสัยตรงที่หัวเก๋งหน่ะครับ ทำไมไม่เอาให้ครบทั้งห้องโดยสาร + ประตูมาต่อ อ่ะครับ
หรือว่าต่อเป็นไม้จะกว้างกว่า??
-
รถบรรทุกสมัยก่อนเขาขายเฉพาะหัวกับคัสซี่ส่วนกระบะต้องมาต่อเอาเอง
-
แสดงว่าส่วนกระบะก็ไม่ได้มีผลต่อเรื่องความแข็งแรงใช่ไหมครับ
แล้วสมัยนี้เป็นอย่างไรครับ มี Flatbed เป็นเหล็กติดมาด้วยเลยหรือเปล่า
-
คือ... สงสัยตรงที่หัวเก๋งหน่ะครับ ทำไมไม่เอาให้ครบทั้งห้องโดยสาร + ประตูมาต่อ อ่ะครับ
หรือว่าต่อเป็นไม้จะกว้างกว่า??
หลักๆคือทำยังไงให้รถมันราคาถูกที่สุดน่ะแหละ ปกติรถออกมาจากโรงงานสมัยนั้นมันจะมีแค่กระจกบังลมหน้าอยู่แล้ว พวกห้องโดยสารเนี่ยถือเป็นอุปกรณ์สั่งพิเศษครับ สังเกตได้ว่ารถสมัยนั้นจะมีบางคันที่มีห้องโดยสารเป็นเหล็กเหมือนกันแต่น้อย เพราะมันแพงกว่าเยอะ แอร์ก็ไม่มีอยู่แล้ว
แสดงว่าส่วนกระบะก็ไม่ได้มีผลต่อเรื่องความแข็งแรงใช่ไหมครับ
แล้วสมัยนี้เป็นอย่างไรครับ มี Flatbed เป็นเหล็กติดมาด้วยเลยหรือเปล่า
ถ้ารถบรรทุกออกมาจากโรงงานเลยมันจะมีแต่หัวเก๋งครับ ด้านท้ายเป็นแชชซีส์เปล่าๆเลย แล้วแต่ทางลูกค้าจะสั่งว่าจะต่อตัวถังด้านหลังเป็นอะไร
-
เก่ามากจริงๆครับ แต่ความปลอดภัยจะไม่มีเลยน่ะสิ
-
คุณ tg ตอบถูกแล้วละครับ รถบรรทุก หรือ รถ 10 สมัยก่อนโรงงานเค้าจะไม่ได้ทำกระบะด้านหลังมาให้
นะ ครับ จะราบเรียบ แล้วเจ้ารถของจะต้องมาต่อเติมเอง แล้วที่เป็นไม้นะเพราะหาง่ายและสามารถออกแบบ
และประกอบง่ายครับ จึงเกิดช่างในการทำกะบะขึ้นมาครับ ซึ่งจะเป็นหมือนในหนังสาระแนสิบล้อครับ
ซึ่งลวดลายก็มักจะเป็นตัวละครในรามเกียรติ์ อันนี้แพงหน่อย และก็รูปองค์พระปฐมเจดี นี้ที่จังหวัดนครปฐม
ฮิดมาก โดยจะใช้โลหะมาทำนะครับ ผมเห็นนะฝีมือช่างสมัยก่อนละเอีอดมากเเละที่สำคัญผมว่า มันเป็น
Thailand only อย่างหนึ่งนะ
-
อีซูซุหัวยาว หรือ ลักยิ้ม....เมื่อก่อนที่บ้านตอนเป็นดีลเลอร์ Isu ใหม่ๆ
ขายคันละ 130,000.- กระบะต้องไปต่อที่สุโขทัย เป็นกระบะไม้ ไม้แดง ไม้สัก
กระบะไม้มันทนทาน และ ตอนนั้นมันก็ถูกว่าเหล็ก ถอดขายได้
กระบะไม้สมัยก่อนสวยมาก มีเทพพนม หัวลิเก ดั้มกระเทย (ดั้มไม้)
(กระบะเหล็กเพิ่งมานิยมในช่วง 30 ปีที่แล้ว ...ร้านดังก็มีที่สวนแตง นครปฐม พนัสนิคม สามมิตร ช่วงหลัง 10 กว่าปีที่แล้ว ส.สุชัยดังที่สุด)
-
หัวยาวรุ่นนี้ผมใช้เป็นรถบรรทุกปุ๋ยเข้าที่ร้านประจำ บรรทุกได้เยอะกว่ารถบรรทุกในรุ่นปัจจุบัน
บางคันได้ถึง20ตัน ส่วนรุ่นปัจจุบันได้แค่15-16ตันเอง
-
มันทนขนาดนั้นเลยหรอครับ
จำได้ว่าตอนสมัยเด็กเมื่อ 15-16 ปีก่อนก็ยังเห็นวิ่งกันเยอะอยู่ ปัจจุบันก็ยังพอเห็นอยู่บ้าง
สมัยนั้นอีสุสุ หัวยาวนี่ เค้าต่อกันเป็นรถใหม่เลยใช่ไหม
-
จริงๆแล้วรถใหญ่ออกจากโรงงานมีทั้งแบบแชสซีส์คือมีหัวถึงแค่กระจกหน้ากับแผงหน้าปัดต่างๆ
กับแบบมีหัวเก๋งครบหรือเรียกว่าหัวเต็มหน่ะครับ
สมัยก่อนที่นิยมแบบหัวไม่เต็มเพราะถูกกว่า ร้อนน้อยกว่า(ไม่มีแอร์) กับได้ที่บรรทุกเพิ่มมาอีกนิดนึงด้วยครับ
ตอนนี้บริษัทผมยังมีอีซูซุหัวยาวแบบหัวเก๋งเต็มอยู่สองคัน ยัง้งานได้ปกติครับ
ส.สุชัยดังมากสมัยก่อนเศรษฐกิจล่มปี40 จำได้ว่าก่อนหน้าปี40ไปบ่อยมากๆ ยังเคยนั่งสิบล้อที่มีแต่หัวเก๋งเอาไปต่อดัมพ์อยู่บ่อยๆครับ
-
หัวยาวยังทนทานดีครับ เดี๋ยวนี้มักเอามาทำกระบะพื้นเรียบ ไว้ขนรถเกี่ยวข้าว
ไอ้จะไปแบกหินแบกทรายน่ะไม่ไหวแล้ว ตัวรถน่ะทน แต่เครื่องดันไม่ไหวหรอก