Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YIM ที่ เมษายน 22, 2011, 16:12:12
-
พอดีวิ่งที่ความเร็ว 110 แล้วเครื่องดับกลางอากาศเลย (โชคดีที่ตั้งสติได้ แล้วค่อยๆ เบรค ไม่งั้นคงซวย) พอลงมาดู น้ำมันเครื่องแห้งสนิทเลย งงมาก เพราะเพิ่งเช็คน้ำมันเครื่องรั่ว+อุด seal ตรง timing ไปไม่ถึงเดือน แล้วทำไมไฟน้ำมันเครื่องไม่โชว์ก็ไม่รู้
ตอนนี้รถอยู่อุบล กำลังให้เขาเช็คอยู่ว่าเป็นยังไง แต่ถ้าแพงคงไม่ซ่อมแล้ว
สงสัยต้องไปดู Sunny Neo G10, Mercedes W202 ไม่ก็ Camry XV20 เสียแล้วกระมัง :'(
Oh my Galant!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
-
ขออย่าให้เป็นอะไรมากครับ เคยยางระเบิดเลนส์ขวาสุดเหมือนกัน ;D
ดีแล้วครับคนขับไม่เป็นอะไร รถซ่อมได้คนซ่อมยากครับถ้าเป็นอะไรไป :D
-
w202 หาตัว C240 นะครับ ไม่จุกจิก
-
4G63 T EvoIII
-
4G63 T EvoIII
เป็นฤกษ์ดีได้เปลี่ยนเครื่องครับ
-
4G63 T EvoIII
คือ ข้ากระผม
- ขับ M/T ไม่เป็น
- ถ้าต้องซ่อมรถอีก 20000-30000 เตี่ยผมเตะแน่
สภาพแบบนี้ ถ้าอยากได้ 2.0 Liters Turbo จริงๆ ก็คงต้องเป็น Neo แล้วแอบไปยัด SR20DET แทนละครับ ไม่งั้นสงสัยเตี่ยถีบ
-
ยกออกแล้ววางใหม่ ยังไงก็ถูกกว่าซื้อรถใหม่ครับ
4G-63 มีให้เลือกเต็มเซียงกง
ถ้าต้องจ่าย 2-3 หมื่นแล้วจะโดนคุณพ่อบ่น
ผมว่า W202 คือสิ่งที่ต้องโยนทิ้งไปเป็นอันแรกเลย
แค่บิลค่าซ่อมเช็คระยะตามปกติ ก็ 2-3 หมื่นทุกครั้งแล้ว
-
ขับmtไม่เป็นก็หัดได้หนิคร้าบ
ยังไงความคิดผมmtมันส์ที่ซู้ดดด
-
ยกออกแล้ววางใหม่ ยังไงก็ถูกกว่าซื้อรถใหม่ครับ
4G-63 มีให้เลือกเต็มเซียงกง
ถ้าต้องจ่าย 2-3 หมื่นแล้วจะโดนคุณพ่อบ่น
ผมว่า W202 คือสิ่งที่ต้องโยนทิ้งไปเป็นอันแรกเลย
แค่บิลค่าซ่อมเช็คระยะตามปกติ ก็ 2-3 หมื่นทุกครั้งแล้ว
อันนี้คือซ่อมศูนย์ หรืออู่นอก+อะไหล่เซียงกงครับ
คือพูดจริงๆ ผมก็ไม่ได้มีตังค์อะไร คือเป็นเซลล์ แล้วอยากหารถที่วิ่งทางไกลไม่จุกจิก ค่าดูแลถูกๆ แล้วเห็นเขาว่าอะไหล่เทียม+เซียงกงของ MB มันถูก ก็เลยดูๆ อยู่ละครับ เห็น 124 ค่าซ่อมก็ไม่ได้ดุมากมายนี่ครับ หรือว่าช่างอู่นอกที่รับซ่อม MB เขาจะฟันกันหนักครับ?
อีกประเด็นที่ไม่อยากลงเครื่อง เพราะเครื่องที่จะลง ก็อายุเกิน 10 ปีทั้งนั้นนี่ครับ เพราะ Mitsubishi เลิกทำเครื่องหันเกียร์ไปทางซ้ายตั้งแต่ช่วงปี 96 แล้วนี่ครับ เครื่องที่น่าจะลงได้ น่าจะเป็นของ RVR ซึ่งก็เก่าน่าดูเหมือนกันน่ะครับ
-
124 ไม่จุกจิกครับ ยิ่งถ้าเป็นรุ่น E หลัง (ก่อนไมเนอร์เชนจ์) ยิ่งไม่จุกจิกเลย
เพราะไม่มีระบบไฟฟ้าอะไรจะให้เสีย
แต่พอเป็น 202 แล้ว จุกจิกตั้งแต่เรื่องแอร์ ECU และระบบไฟฟ้าทั้งคัน
เพราะมันถูกบังคับให้ใช้สายไฟแบบ Recycle ทำให้พลาสติกแห้งกรอบแตก
กระปุกพวงมาลัยหลวมง่าย และอื่นอื่นอีกมากมาย
ถ้าทำอู่นอกก็ถูกกว่าที่ผมบอกไว้เยอะครับ ที่บอกไปเป็นราคาเข้าธนบุรีฯ
จริงจริง อะไหล่เซียงกงของ 202 ก็อายุอานามระดับ 10 ปีเหมือนกัน แล้วก็หายากกว่ารถญี่ปุ่นอีก
ส่วนอะไหล่เทียมหรือเทียบ ส่วนตัวผมเองไม่แนะนำ เพราะมักไม่ได้มาตรฐาน
แล้วก็ไม่ทนทานอีกด้วย เท่ากับว่าเสียเงินทีละนิดแต่เสียบ่อยบ่อย
ถ้าอยากหารถวิ่งทางไกลสบาย ทนทาน ไม่จุกจิก ค่าดูแลรักษาถูก
ผมว่ามองรถญี่ปุ่น Toyota, Honda ดีกว่า สบายใจครับ ยุโรปยังไงก็ปวดหัวกว่าเยอะ
-
แสดงว่า ถ้าผมจะเล่น MB ก็ต้องไปเล่น W124 ปีเก่าๆ ไม่ก็ไปเล่นรถญี่ปุ่นปีใหม่ๆ ไปเลยดีกว่าใช่ไหมครับ
ตอนนี้รอคำตอบจากที่อู่อยู่ แต่ก็คงจะไปวิ่งหารถใหม่ช่วงปลายๆ เดือนครับ ตอนนี้ให้คุณแม่ดูให้อยู่
ขอบคุณทุกความเห็นด้วยนะครับ
-
แนะนำครับ w124 โคตรอึด ทน จริงๆครับ
-
ถ้าคุณรับมือ Galant กับเครื่องตัวนี้ไม่ได้
อย่าสนใจ C-Class ครับ
แต่ W124 นั้นพอได้
ต้องไม่ลืม..จริงอยู่ว่าอะไหล่หลายรายการถูก..หลายรายการนั่นคืออะไร พวกกรองน้ำมัน กรองอากาศ
ช่วงล่างต่างๆน่ะถูก แต่อย่างอื่นแพงนะ..ตัวจ่ายน้ำมันของ Bosch KE-Jet ในรถรุ่นเก่าๆ เบิกใหม่ 40,000 บาทนะ
และด้วยอายุรถของมัน แม้อะไหล่หลายชิ้นถูกจริง แต่ต้องไม่ลืมว่ามันมีเรื่องให้ต้องเปลี่ยนต้องทำเยอะนะ
ถ้าต้องการทางเลือกที่เซฟเงิน..Galant คุณมีปัญหาที่เครื่อง แ้ก้ตรงจุดก็คือเปลี่ยนเฉพาะเครื่องครับ
4G63 เกียร์อัตโนมัติก็มี ตัวเครื่องก็ประสิทธิภาำพไม่เลว ไม่ต้องมีเทอร์โบก็ได้ เพราะถ้าจะเอาเทอร์โบ
และเป็นเกียร์ออโต้และเครื่องกับเกียร์หันทางเดียวกับรถเดิม..6A12T ครับ..V6 งานเข้าเวลาทำแน่ๆ
รถคันนี้ขายไป คุณจะได้เงินมาไม่พอไปจับรถคันอื่นที่ไว้ใจได้เท่า ดีเท่า และแรงเท่า Galant คุณ
ที่วาง 4G63 และทำช่วงล่างดีๆ คุณรับได้ไหม
ถ้าต้องการเปลี่ยนรถใหม่ขึ้น และใช้งานหนักตามแบบที่กล่าวมา ไม่ต้อง Sunny NEO หรอกครับ
ผมจะแนะให้คุณลอง Sunny B14 ปีท้ายๆดูก่อน มันทนทานใช้ได้ ราคามือสองไม่แรง คุณสามารถ
วางเครื่อง SR20DE เกียร์อัตโนมัติก็ได้ หรือใช้เครื่องเดิมก็พอไหว รถกินน้ำมันกว่าเพื่อนร่วมรุ่นนะครับ
แต่คบแก๊สได้ครับ
สำหรับคนที่ใช้งานหนัก ไม่ต้องการเปลืองค่าซ่อม เดินทางบ่อย ควรใช้รถที่หาอะไหล่ไม่ยาก และไม่ต้อง
ใช้ช่างเฉพาะทางในการซ่อมครับ
-
ถ้าคุณรับมือ Galant กับเครื่องตัวนี้ไม่ได้
อย่าสนใจ C-Class ครับ
แต่ W124 นั้นพอได้
ต้องไม่ลืม..จริงอยู่ว่าอะไหล่หลายรายการถูก..หลายรายการนั่นคืออะไร พวกกรองน้ำมัน กรองอากาศ
ช่วงล่างต่างๆน่ะถูก แต่อย่างอื่นแพงนะ..ตัวจ่ายน้ำมันของ Bosch KE-Jet ในรถรุ่นเก่าๆ เบิกใหม่ 40,000 บาทนะ
และด้วยอายุรถของมัน แม้อะไหล่หลายชิ้นถูกจริง แต่ต้องไม่ลืมว่ามันมีเรื่องให้ต้องเปลี่ยนต้องทำเยอะนะ
ถ้าต้องการทางเลือกที่เซฟเงิน..Galant คุณมีปัญหาที่เครื่อง แ้ก้ตรงจุดก็คือเปลี่ยนเฉพาะเครื่องครับ
4G63 เกียร์อัตโนมัติก็มี ตัวเครื่องก็ประสิทธิภาำพไม่เลว ไม่ต้องมีเทอร์โบก็ได้ เพราะถ้าจะเอาเทอร์โบ
และเป็นเกียร์ออโต้และเครื่องกับเกียร์หันทางเดียวกับรถเดิม..6A12T ครับ..V6 งานเข้าเวลาทำแน่ๆ
รถคันนี้ขายไป คุณจะได้เงินมาไม่พอไปจับรถคันอื่นที่ไว้ใจได้เท่า ดีเท่า และแรงเท่า Galant คุณ
ที่วาง 4G63 และทำช่วงล่างดีๆ คุณรับได้ไหม
ถ้าต้องการเปลี่ยนรถใหม่ขึ้น และใช้งานหนักตามแบบที่กล่าวมา ไม่ต้อง Sunny NEO หรอกครับ
ผมจะแนะให้คุณลอง Sunny B14 ปีท้ายๆดูก่อน มันทนทานใช้ได้ ราคามือสองไม่แรง คุณสามารถ
วางเครื่อง SR20DE เกียร์อัตโนมัติก็ได้ หรือใช้เครื่องเดิมก็พอไหว รถกินน้ำมันกว่าเพื่อนร่วมรุ่นนะครับ
แต่คบแก๊สได้ครับ
สำหรับคนที่ใช้งานหนัก ไม่ต้องการเปลืองค่าซ่อม เดินทางบ่อย ควรใช้รถที่หาอะไหล่ไม่ยาก และไม่ต้อง
ใช้ช่างเฉพาะทางในการซ่อมครับ
อันนี้เห็นด้วยครับ ผมมี B14 อยู่เหมือนกัน คบแก๊สแล้ว ปัจจุบันวิ่งไปแล้ว 270,000 เครื่องยังเป็นของเดิมครับ อะไหล่ถูกมาก แต่ต้องเป็นเครื่อง 1500 นะครับ อัตราเร่งพอไปวัดได้ แต่ปลายหดหายนิดนึง กินน้ำมัน 10-12 กม/ลิตร ครับ
ราคาตอนนี้หาได้แถว 150,000-180,000 บาทครับสำหรับปี 96 ขึ้นไป
-
คือ แหะๆๆๆ อายจัง
คือว่าดูท่าทางเครื่องจะไม่เป็นอะไร แต่ระบบไฟฟ้าท่าทางจะมีปัญหา แหะๆๆๆ ไอ้ผมก็ทำไก่ตื่นไปได้ แหะๆๆๆ :P
แต่ก็ตั้งใจว่าภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ คงจะพยายามบอกลามันเสียที ถ้าทำได้ครับ
ในใจตอนนี้ ถ้า W202 ไม่ OK ก็คงจะไปดู Neo 1.8+LPG ครับ รถมันใหม่หน่อย
เพราะสำหรับผมรถที่ "ต้องการความรักในการเลี้ยงดู" ไม่เหมาะกับอาชีพผม ณ เวลานี้ครับ ยังไงก็ขอบคุณที่เป็นห่วงมากๆ ครับ
-
ในใจตอนนี้ ถ้า W202 ไม่ OK ก็คงจะไปดู Neo 1.8+LPG ครับ รถมันใหม่หน่อย
ตอนแรกก็งงนึกว่าโปรตอนนีโอมันจะใส่ SR ได้ไง อ๋อ ซันนี่นีโอ
ก็เลือกดีๆล่ะครับ หรือไม่ลองไปหา 203 ปีแรกๆก็ได้นะ
-
ในใจตอนนี้ ถ้า W202 ไม่ OK ก็คงจะไปดู Neo 1.8+LPG ครับ รถมันใหม่หน่อย
ตอนแรกก็งงนึกว่าโปรตอนนีโอมันจะใส่ SR ได้ไง อ๋อ ซันนี่นีโอ
ก็เลือกดีๆล่ะครับ หรือไม่ลองไปหา 203 ปีแรกๆก็ได้นะ
อันนั้นไม่ไหวละครับ ตังค์ไม่ถึง
คือไม่ได้เจาะจงว่า MB เพียงแต่อยากหารถใช้งานซ่อมง่ายๆ แล้วเห็นเขาว่าอะไหล่ MB ถูก ก็เลยมาเหล่ๆ เท่านั้นละครับ เรื่องบำรุงรักษาน่ากลัวมั้ยครับ เอ๊ย น่ากลัวอยู่แล้ว แต่น่ากลัว ม้าก มาก มั้ยครับ
เอ แล้วถ้าเป็น E36 ปีท้ายๆ หรือ E46 ปีต้นๆ ซ่อมบำรุงเป็นไงครับ เห็นราคามันถูกกว่า MB ในรุ่นใกล้ๆ กันลงมาอีกเป็นแสนเลย
-
แต่ละคันที่บอกมาไม่ได้ซ่อมถูกหรือปลอดปัญหาไปกว่า W202 เลย 55
-
แต่ละคันที่บอกมาไม่ได้ซ่อมถูกหรือปลอดปัญหาไปกว่า W202 เลย 55
งั้นกลับไปดู N16 ก็ได้ ไม่ก็ XV20 ครับ
นึกว่ารถยุโรปรุ่นเก่าจะง่ายๆ เสียอีก เฮ้อ
-
Cefiro A32+LPG , A33+LPG ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีนะครับ อิอิ
-
E36 ซ่อมถูกกว่าคันอื่นหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถูกเท่ารถญี่ปุ่น
E46 นี่ เตรียมค่าบำรุงรักษาตามระยะ ไว้ปีละ 60,000 - 90,000 บาทได้เลย
W203 แก้ปัญหาพวกที่เคยมีใน W202 ได้ แต่ไปเจอปัญหาใหม่อื่นอื่น
ที่พอรวนขึ้นมาแล้ว เสียเงินได้หนักหนากว่าเดิมมาก คันของเพื่อนคนสนิท
ที่ผมขับเป็นประจำตั้งแต่ออกป้ายแดงนี่ พอไปจอดเสียกลางทางหลายครั้ง
แล้วจ่ายเงินค่าซ่อมทีละหลายหมื่น ทั้งทั้งที่รถยังวิ่งไปไม่ถึง 30,000 กม. เลย
ส่วน A32 ผมไม่ทราบว่าเป็นยังไง แต่ประสบการณ์ตรงทั้ง A31 และ A33
ซ่อมกันหัวหกก้นขวิด จ่ายเงินค่าบำรุงรักษาปีนึงระดับ 40,000-50,000 บาททั้งคู่
ตอนสุดท้ายก่อนขายไปนี่ วิ่งครบ 140,000 กม. แล้วช่างมาบอกว่าครบระยะ
ที่ต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนทั้งหมด รวมไปถึงปั๊มน้ำ ท่ออลูมิเนียม ท่อยาง
หม้อน้ำ วาล์วน้ำ ฯลฯ รวมรวมแล้วราคาเกือบแสนนึง ก็เลยโบกมือลากันซะเลย
หา C-Segment ญี่ปุ่น สี่สูบ 1.6-1.8 ใช้เถอะครับ สบายใจ
ถ้าไม่เกี่ยง ลองมอง Civic EK, ES ก็ได้นะ ใช้อะไหล่ Hamp
สบายกระเป๋าไปเลย ถูกซะยิ่งกว่าอะไรดี
หรือถ้าไม่เกี่ยงหนักกว่าเดิม ใช้ Mazda Protege แบบผม
เข้าศูนย์บริการ ถ้าไม่ใช่ระยะหนักเช่น 40,000กม. 80,000กม. 120,000กม.
จ่ายเงินค่าซ่อมทีนึงพันกว่าบาท ช่วงแรกแรกจ่ายหลักร้อยด้วยซ้ำไป
สบายใจสบายกระเป๋ากว่ากันเยอะครับ
-
E36 ซ่อมถูกกว่าคันอื่นหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถูกเท่ารถญี่ปุ่น
E46 นี่ เตรียมค่าบำรุงรักษาตามระยะ ไว้ปีละ 60,000 - 90,000 บาทได้เลย
W203 แก้ปัญหาพวกที่เคยมีใน W202 ได้ แต่ไปเจอปัญหาใหม่อื่นอื่น
ที่พอรวนขึ้นมาแล้ว เสียเงินได้หนักหนากว่าเดิมมาก คันของเพื่อนคนสนิท
ที่ผมขับเป็นประจำตั้งแต่ออกป้ายแดงนี่ พอไปจอดเสียกลางทางหลายครั้ง
แล้วจ่ายเงินค่าซ่อมทีละหลายหมื่น ทั้งทั้งที่รถยังวิ่งไปไม่ถึง 30,000 กม. เลย
ส่วน A32 ผมไม่ทราบว่าเป็นยังไง แต่ประสบการณ์ตรงทั้ง A31 และ A33
ซ่อมกันหัวหกก้นขวิด จ่ายเงินค่าบำรุงรักษาปีนึงระดับ 40,000-50,000 บาททั้งคู่
ตอนสุดท้ายก่อนขายไปนี่ วิ่งครบ 140,000 กม. แล้วช่างมาบอกว่าครบระยะ
ที่ต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนทั้งหมด รวมไปถึงปั๊มน้ำ ท่ออลูมิเนียม ท่อยาง
หม้อน้ำ วาล์วน้ำ ฯลฯ รวมรวมแล้วราคาเกือบแสนนึง ก็เลยโบกมือลากันซะเลย
หา C-Segment ญี่ปุ่น สี่สูบ 1.6-1.8 ใช้เถอะครับ สบายใจ
ถ้าไม่เกี่ยง ลองมอง Civic EK, ES ก็ได้นะ ใช้อะไหล่ Hamp
สบายกระเป๋าไปเลย ถูกซะยิ่งกว่าอะไรดี
หรือถ้าไม่เกี่ยงหนักกว่าเดิม ใช้ Mazda Protege แบบผม
เข้าศูนย์บริการ ถ้าไม่ใช่ระยะหนักเช่น 40,000กม. 80,000กม. 120,000กม.
จ่ายเงินค่าซ่อมทีนึงพันกว่าบาท ช่วงแรกแรกจ่ายหลักร้อยด้วยซ้ำไป
สบายใจสบายกระเป๋ากว่ากันเยอะครับ
โอ้ว ซ่อมถูกนะครับ พี่เนย
-
ขอบคุณครับคุณเนย และคุณ baeyongcai
งั้นผมกลับไปเหล่ C-Segment ดีกว่า
Neo ติดแก๊ส ฮิๆๆๆ (จริงๆ อยากได้ Almera Young แต่มันเก่าไปหน่อยไหมหนอ ยุโรปจริงๆ)
คือรถคันนี้ต้องซ่อมง่าย ซ่อมถูก ติด LPG ได้ และหาอะไหล่ง่ายแม้จะอยู่ต่างจังหวัด
-
NEO ก็พอไปได้ในเรื่องของตัวรถ เครื่องยนต์รุ่นนี้ติด LPG ได้ครับ
ช่วงล่างไม่ได้ดีนัก ยิ่งถ้าลงจาก Protege มาขับจะรู้สึกถึงความแตกต่าง
แต่ถ้าเทียบกับ Civic Dimension ผมว่า NEO ดีกว่าตรงที่ไม่กระเด้งกระดอน
ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับงบประมาณ แต่การซ่อมบำรุงที่ง่าย ถูก และต่างจังหวัดต้องหาอะไหล่ได้
มันชี้ไปที่ Corolla, Civic เป็นหลัก Sunny B14 ก็พอได้ B14 อะไหล่มือสองยังมีให้เลือกเยอะ
พยายามอยู่กับรถ 4 สูบก็พอ ติดแก๊สใช้เงินน้อยกว่าหน่อยนึง ค่าบำรุงรักษาถูกกว่าด้วย
-
อีกอย่างนึงที่จะช่วยประหยัดค่าซ่อมได้อีกมากๆคือ เช็คน้ำมันเครื่องทุกครั้งก่อนเดินทางไกลครับ เปิดฝากระโปรงโลด *-*
-
ควรเช็ครถดีดีครับ