Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Arado_kung ที่ เมษายน 29, 2011, 21:58:06
-
โดนมาเมื่อตอนสายๆครับ ขับเจ้า G8 เข้ากรุงเทพ ก็เปิด cruise control มาประมาณ 100 นึง พอถึงด่านก็โดนตำรวจเรียกครับ ข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ผมถามว่าเท่าไหร่บอก 102 กม./ชม. กล้องมันตั้งไว้ 100 นึง 102 ต้องเสียค่าปรับ ขอผ่อนผันให้ไปคุยกับนายตำรวจคุมด่านเอาเอง ไปคุยแล้วบอกว่ามันเขตเทศบาลวิ่งได้แค่ 80 กล้องอนุโลมไว้ 100 นึงแล้ว เอ่อ ถนนเส้นนี้ตรูวิ่งมาเป็นชาติยังไม่เคยเจอป้ายจำกัดความเร็วเขตเทศบาลเลยนะ สรุปยังไงก็ไม่ยอมต้องจ่ายค่าปรับ จ่ายไป 400 บาท พร้อมใบเสร็จเรียบร้อย ถือซะว่าทำทานให้หมามันไปละกันนะคุณตำรวยหัวขวด มีรถโดนเป็น 10 คันเลย ท่าทางรายได้คงงาม ส่งยอดให้นายได้ล่ะ ปกติถ้าโดนจับเรื่องความเร็วแม่ผมจะสมน้ำหน้าไปซะทุกครั้ง แต่ครั้งนี้แม่ผมยังบอกเลยว่าทุเรศ พร้อมทั้งแผ่เมตตาให้นายตำรวจท่านนั้นไปเรียบร้อย 5555
ปล. ขับมา 140 แล้วโดนจะไม่ว่าซักคำ นี่ตรูมา 100 นะเฟ้ย
-
กล้องของเขาต้องเพี้ยนแน่ๆเลยครับ เพราะไมล์ของ G8 อ่อนกว่าความจริงประมาณ5-8กม./ชม. (เปรียบเทียบกับ GPS 3เครื่องที่เคยใช้)
และ ที่ทุเรศที่เห็นบ่อยๆคือ กล้องไฟแดง 1-2 วินาที มันยังเอา เซ็งไหม
-
อะไรกันเนี่ย แค่นี้ก็ให้กันไม่ได้
----------------------------------
มันก็สมควรโดนนะครับไอ้กล้องตรงไฟแดงอ่ะ เพราะบางทีไฟยังไม่เขียวเหลืออีก 1-2 วินาที ก็พุ่งพรวดออกไป
แล้วถ้าเกิดอีกฝั่งหยุดรถไม่ทันก็เลยต้องวิ่งฝ่าไฟแดงออกไป อะไรจะเกิดขึ้นละครับ เค้าก็ทำเพื่อให้เราจำจะได้ไม่ทำอีก
เพื่อความปลอดภัยของตัวเราด้วยนะครับ
-
ผมก็โดนมาครับส่งถึงที่บ้านสองอาทิตย์ติด 117กมเซงเหมือนกันโทรไปคุยบอกกฎหมายกำหนด 90 ผ่อนให้ ไม่เกิน 120 เลยถามว่าโดนได้ยังไงเพราะก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์โดน 124กมยังยอมรับได้เพราะเกินจริงๆแต่117เนี่ยไม่ไหวซื้อรถมาขับ90หลับในพอดีเค้าเลยยอมลองโทรไปคุยดูครับว่างจัดไอ้พวกขนหินขนทรายหล่นกระเด็นใส่รถไม่จับเดือดร้อนคนอื่นจริงๆ ;D
-
จขกท.โดนตรงเส้นไหนอ่ะครับ ผมวิ่งแถบๆนี้บ่อยจะได้ระวังๆไว้
:D :D
-
จขกท.โดนตรงเส้นไหนอ่ะครับ ผมวิ่งแถบๆนี้บ่อยจะได้ระวังๆไว้
:D :D
รังสิต-นครนายก ขาเข้า เส้นเมนเลยล่ะครับ
-
วันนี้เมื่อตอนบ่ายๆ ขณะขับรถกลับจากกรุงเทพฯ มาเชียงใหม่ ก็เจอเหมือนกันครับ บังเอิญผมเห็นมีตำรวจแอบอยู่ที่เกาะกลางถนนพร้อมกล้อง (ไม่รู้เค้าจับความเร็วหรือเปล่า) ผมก็ขับมาประมาณ 130 ได้ (ตาม ๆ รถคันหน้าไป ใน GPS โชว์ 122 ) แต่ก็ไม่มีด่านนะครับ ตอนนี้ก็รอดูว่าจะมีใบสั่งส่งมาที่บ้านหรือเปล่า :'( :'(
-
จขกท.โดนตรงเส้นไหนอ่ะครับ ผมวิ่งแถบๆนี้บ่อยจะได้ระวังๆไว้
:D :D
รังสิต-นครนายก ขาเข้า เส้นเมนเลยล่ะครับ
เอ๊ะ ทำไม่ผมไม่เคยโดนเนี่ย
-
ที่ๆคุณแม่ผมเคยโดน ทางด่วนที่ต่อจากmoterway เข้ากรุงเทพ โดน ที่ความเร็ว125
(เลขไมล์ผมเพี้ยนประมาณ 3-4 กิโลเมตรความเร็วตอนนั้นน่าจะ 128-129) เซ็งเลย นั่งคิดในใจ เท้าคนนะโวย ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ จะได้คุ้มได้ตลอด บ้างที มันต้องเร่งแซงกันบ้าง (ทีตอนอยู่บนmoterway เร็วกว่านี้ตั้งเยอะ ไม่มีคนจับกัน ;D)
ตอนนั้นมีสังเกตบ้างครับ รถ airport วิ่งช้ากันมาก เลยงง เล็กน้อยทำไมเข้ารู้ง่ะ
-
จขกท.โดนตรงเส้นไหนอ่ะครับ ผมวิ่งแถบๆนี้บ่อยจะได้ระวังๆไว้
:D :D
รังสิต-นครนายก ขาเข้า เส้นเมนเลยล่ะครับ
เอ๊ะ ทำไม่ผมไม่เคยโดนเนี่ย
อยากโดนมั่งเหรอครับ เหอๆ ผมโดนประมาณ 11 โมงกว่าๆนะ
-
ผมขับ 160-180 แต่โดนจับความเร็วที่ 140 ยังเซงมากๆ ไปเที่ยวพัทยากับแฟน วันธรรมดา 4 เลน จะให้ผมขับ 100เดียวหรอออ
-
ตั้งแต่ ธัญบุรีถึงรังสิต ไม่ได้มีแต่ทุ่งนาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้กลายเป็นเขตชุมชนแล้ว ขับถึงช่วงนี้ก็ช่วยลดความเร็วนิดนึงครับ
กฏหมายเรื่องความเร็วของไทยถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว
นอกเมือง 90 กม./ชม. อยู่ในค่าเฉลี่ย ถ้าไม่รวม Autobahn ต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80-110
ในเขตเมืองหรือเทศบาล 80 กม./ชม. ถือว่าสูงมาก ต่างประเทศ 40-60 เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
-
ตั้งแต่ ธัญบุรีถึงรังสิต ไม่ได้มีแต่ทุ่งนาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้กลายเป็นเขตชุมชนแล้ว ขับถึงช่วงนี้ก็ช่วยลดความเร็วนิดนึงครับ
กฏหมายเรื่องความเร็วของไทยถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว
นอกเมือง 90 กม./ชม. อยู่ในค่าเฉลี่ย ถ้าไม่รวม Autobahn ต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80-110
ในเขตเมืองหรือเทศบาล 80 กม./ชม. ถือว่าสูงมาก ต่างประเทศ 40-60 เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
เอ่อ ขนาดรถทัวร์ยังขับ 100 นึงเลยครับ รถตู้วินรีบซึ่งไปตายมากันที 130-140 ตำรวจไม่จับ มาซัดแต่รถส่วนตัวกับรถบรรทุก ถ้าจับความเร็วขนาดนี้โดนกันบานเลยครับ ตอนที่ผมโดนก็มีคนโดนเป็น 10 คันแล้ว เพราะนี่มันเป็นความเร็วระดับเดินทางโดยส่วนใหญ่เลยนะ
-
จขกท.โดนตรงเส้นไหนอ่ะครับ ผมวิ่งแถบๆนี้บ่อยจะได้ระวังๆไว้
:D :D
รังสิต-นครนายก ขาเข้า เส้นเมนเลยล่ะครับ
เอ๊ะ ทำไม่ผมไม่เคยโดนเนี่ย
อยากโดนมั่งเหรอครับ เหอๆ ผมโดนประมาณ 11 โมงกว่าๆนะ
ป่าวคร้าบๆๆๆ ไม่อยากโดน อิอิ แสดงว่าเย็นๆแล้วไม่จับ วันนั้นกลับมาจากลพบุรี ผมขับได้อุบาทมาก เพราะปวด... ทั้งแซงไหร่ทางทั้งอะไรต่อมิอะไร
-
ตั้งแต่ ธัญบุรีถึงรังสิต ไม่ได้มีแต่ทุ่งนาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้กลายเป็นเขตชุมชนแล้ว ขับถึงช่วงนี้ก็ช่วยลดความเร็วนิดนึงครับ
กฏหมายเรื่องความเร็วของไทยถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว
นอกเมือง 90 กม./ชม. อยู่ในค่าเฉลี่ย ถ้าไม่รวม Autobahn ต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80-110
ในเขตเมืองหรือเทศบาล 80 กม./ชม. ถือว่าสูงมาก ต่างประเทศ 40-60 เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
เอ่อ ขนาดรถทัวร์ยังขับ 100 นึงเลยครับ รถตู้วินรีบซึ่งไปตายมากันที 130-140 ตำรวจไม่จับ มาซัดแต่รถส่วนตัวกับรถบรรทุก ถ้าจับความเร็วขนาดนี้โดนกันบานเลยครับ ตอนที่ผมโดนก็มีคนโดนเป็น 10 คันแล้ว เพราะนี่มันเป็นความเร็วระดับเดินทางโดยส่วนใหญ่เลยนะ
บนถนน ตัวอย่างที่ดีก็มีให้ดูเยอะแยะ
ตัวอย่างที่ไม่ดีก็มีให้ดูอยู่บ่อยๆ
แล้วแต่จะเลือกเป็นแบบไหน
การที่ตำรวจจับใครหรือไม่จับ จะมี 2 3 4 มาตรฐานก็แล้วแต่มันก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีใช่ไหมครับ
แต่ถ้าเราทำผิดแล้วยืดอกรับผิดแบบลูกผู้ชาย ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีนะ
กรณีนี้ กฏหมายกำหนดไว้ 80 แต่ตำรวจอนุโลมให้ถึง 100 แล้วยังเกินอีกก็คือผิดจริงๆแหละ
แต่ถ้ามีกรณีวัดความเร็วได้ 82 แล้วมาจับ บอกว่าเกิน 80 ผมจะช่วยรุมด่าตำรวจด้วย
ถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศแถวยุโรป ญี่ปุ่น หรือ ประเทศที่เจริญแล้ว
ลองสังเกตวินัยจราจรของคนที่นั่นดูนะครับ
แล้วจะรู้ว่าถนนที่ 99.99 % เคารพกฏจราจร มันน่าขับแค่ไหน
ถ้าไม่เริ่มที่ตัวเรา บนถนนเมืองไทยก็จะยังเป็นแบบนี้แหละ ไม่มีวันที่จะน่าขับเหมือนประเทศอื่น ;)
-
ตั้งแต่ ธัญบุรีถึงรังสิต ไม่ได้มีแต่ทุ่งนาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้กลายเป็นเขตชุมชนแล้ว ขับถึงช่วงนี้ก็ช่วยลดความเร็วนิดนึงครับ
กฏหมายเรื่องความเร็วของไทยถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว
นอกเมือง 90 กม./ชม. อยู่ในค่าเฉลี่ย ถ้าไม่รวม Autobahn ต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80-110
ในเขตเมืองหรือเทศบาล 80 กม./ชม. ถือว่าสูงมาก ต่างประเทศ 40-60 เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
เอ่อ ขนาดรถทัวร์ยังขับ 100 นึงเลยครับ รถตู้วินรีบซึ่งไปตายมากันที 130-140 ตำรวจไม่จับ มาซัดแต่รถส่วนตัวกับรถบรรทุก ถ้าจับความเร็วขนาดนี้โดนกันบานเลยครับ ตอนที่ผมโดนก็มีคนโดนเป็น 10 คันแล้ว เพราะนี่มันเป็นความเร็วระดับเดินทางโดยส่วนใหญ่เลยนะ
บนถนน ตัวอย่างที่ดีก็มีให้ดูเยอะแยะ
ตัวอย่างที่ไม่ดีก็มีให้ดูอยู่บ่อยๆ
แล้วแต่จะเลือกเป็นแบบไหน
การที่ตำรวจจับใครหรือไม่จับ จะมี 2 3 4 มาตรฐานก็แล้วแต่มันก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีใช่ไหมครับ
แต่ถ้าเราทำผิดแล้วยืดอกรับผิดแบบลูกผู้ชาย ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีนะ
กรณีนี้ กฏหมายกำหนดไว้ 80 แต่ตำรวจอนุโลมให้ถึง 100 แล้วยังเกินอีกก็คือผิดจริงๆแหละ
แต่ถ้ามีกรณีวัดความเร็วได้ 82 แล้วมาจับ บอกว่าเกิน 80 ผมจะช่วยรุมด่าตำรวจด้วย
ถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศแถวยุโรป ญี่ปุ่น หรือ ประเทศที่เจริญแล้ว
ลองสังเกตวินัยจราจรของคนที่นั่นดูนะครับ
แล้วจะรู้ว่าถนนที่ 99.99 % เคารพกฏจราจร มันน่าขับแค่ไหน
ถ้าไม่เริ่มที่ตัวเรา บนถนนเมืองไทยก็จะยังเป็นแบบนี้แหละ ไม่มีวันที่จะน่าขับเหมือนประเทศอื่น ;)
ถนนเส้นนั้นน่ะ ป้ายเริ่มเข้าเขตจำกัดความเร็วมันยังไม่มีเลย เมืองนอกที่คุณยกตัวอย่างมาน่ะ ป้ายบอกพวกนี้อันเท่าฝาบ้านแถมมีป้ายเล็กๆเป็นระยะอีก เมืองไทยถ้ามีป้ายก็อันนิดนึงแถมติดไว้ซะไกลโคตรมองยังแทบจะไม่เห็นเลย ไม่ต้องอะไรมากหรอกขนาดป้ายบอกเลนเลี้ยวตามสี่แยก ลูกศรบนพื้นถนนกับป้ายไม่ตรงกันก็มี ไม่ก็ป้ายอยู่ใกล้แยกเกินไปเปลี่ยนเลนไม่ทันอีก ป้ายจราจรเมืองไทยหลายๆจุดเหมือนสักแต่ว่าติดไปงั้นๆแหละ ไอ้การที่รถโดนแบบผมเป็น10คันก็แปลว่าการสื่อความไม่ได้เรื่องแล้วครับ ขนาดทางหลวงจับความเร็วคิวยังไม่ยาวขนาดนี้เลย
-
ตั้งแต่ ธัญบุรีถึงรังสิต ไม่ได้มีแต่ทุ่งนาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้กลายเป็นเขตชุมชนแล้ว ขับถึงช่วงนี้ก็ช่วยลดความเร็วนิดนึงครับ
กฏหมายเรื่องความเร็วของไทยถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว
นอกเมือง 90 กม./ชม. อยู่ในค่าเฉลี่ย ถ้าไม่รวม Autobahn ต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80-110
ในเขตเมืองหรือเทศบาล 80 กม./ชม. ถือว่าสูงมาก ต่างประเทศ 40-60 เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
เอ่อ ขนาดรถทัวร์ยังขับ 100 นึงเลยครับ รถตู้วินรีบซึ่งไปตายมากันที 130-140 ตำรวจไม่จับ มาซัดแต่รถส่วนตัวกับรถบรรทุก ถ้าจับความเร็วขนาดนี้โดนกันบานเลยครับ ตอนที่ผมโดนก็มีคนโดนเป็น 10 คันแล้ว เพราะนี่มันเป็นความเร็วระดับเดินทางโดยส่วนใหญ่เลยนะ
บนถนน ตัวอย่างที่ดีก็มีให้ดูเยอะแยะ
ตัวอย่างที่ไม่ดีก็มีให้ดูอยู่บ่อยๆ
แล้วแต่จะเลือกเป็นแบบไหน
การที่ตำรวจจับใครหรือไม่จับ จะมี 2 3 4 มาตรฐานก็แล้วแต่มันก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีใช่ไหมครับ
แต่ถ้าเราทำผิดแล้วยืดอกรับผิดแบบลูกผู้ชาย ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีนะ
กรณีนี้ กฏหมายกำหนดไว้ 80 แต่ตำรวจอนุโลมให้ถึง 100 แล้วยังเกินอีกก็คือผิดจริงๆแหละ
แต่ถ้ามีกรณีวัดความเร็วได้ 82 แล้วมาจับ บอกว่าเกิน 80 ผมจะช่วยรุมด่าตำรวจด้วย
ถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศแถวยุโรป ญี่ปุ่น หรือ ประเทศที่เจริญแล้ว
ลองสังเกตวินัยจราจรของคนที่นั่นดูนะครับ
แล้วจะรู้ว่าถนนที่ 99.99 % เคารพกฏจราจร มันน่าขับแค่ไหน
ถ้าไม่เริ่มที่ตัวเรา บนถนนเมืองไทยก็จะยังเป็นแบบนี้แหละ ไม่มีวันที่จะน่าขับเหมือนประเทศอื่น ;)
ถนนเส้นนั้นน่ะ ป้ายเริ่มเข้าเขตจำกัดความเร็วมันยังไม่มีเลย เมืองนอกที่คุณยกตัวอย่างมาน่ะ ป้ายบอกพวกนี้อันเท่าฝาบ้านแถมมีป้ายเล็กๆเป็นระยะอีก เมืองไทยถ้ามีป้ายก็อันนิดนึงแถมติดไว้ซะไกลโคตรมองยังแทบจะไม่เห็นเลย ไม่ต้องอะไรมากหรอกขนาดป้ายบอกเลนเลี้ยวตามสี่แยก ลูกศรบนพื้นถนนกับป้ายไม่ตรงกันก็มี ไม่ก็ป้ายอยู่ใกล้แยกเกินไปเปลี่ยนเลนไม่ทันอีก ป้ายจราจรเมืองไทยหลายๆจุดเหมือนสักแต่ว่าติดไปงั้นๆแหละ ไอ้การที่รถโดนแบบผมเป็น10คันก็แปลว่าการสื่อความไม่ได้เรื่องแล้วครับ ขนาดทางหลวงจับความเร็วคิวยังไม่ยาวขนาดนี้เลย
ทางหลวงเมืองไทย มีไว้ติดป้ายโฆษนาเท่านั้นครับ ป้ายบอกทางเป็นกับแกล้ม ไว้แก้เหงา
-
อืมกรณีนี้ผมว่าด้านตำรวจคงจะผิดในเรื่องที่ไม่มีป้ายจำกัดความเร็วที่ชัดเจนครับ...แต่ด้านคนขับผมว่าก็ขับเร็วเกินเหมือนกันถ้าเป็นเขตเทศบาลขับถึง 100 นี่เร็วแล้วนะครับจริงๆด้านพวกเราคนขับก็น่าจะคิดถึงตรงนี้ด้วยว่าถนนที่เราขับอยู่นั้นมันเป็น เขตเทศบาล หรือ highway หรือ moterways นะครับ
ส่วนอันที่ไฟแดง 1-2 วินี่ผมเห็นด้วยว่าต้องจับและอยากให้โทษหนักด้วยเพราะชนกันตายมาหลายรายแล้ว ผมคิดว่าคุณก็รู้ว่าไฟแดงคือหยุดจะมาเหลือ 1-2 วิออกก่อนก็ได้นี่มักง่ายเกินครับอย่ามาขับรถเลยดีกว่า
จริงๆผมว่าคนบ้านเราขับรถเร็วนะครับในเขตเมืองยัง 80-100 เคยเห็นรา่ยการที่เอาคนไทยที่ไปแข่งเกมส์โชว์ที่ aus ประมาณว่าให้ไปให้ถึงจุดหมายในเวลาที่กำหนดปรากฏว่าตกรอบหมดเพราะขับรถเร็วเกินกำหนดในเขตเมือง (ถ้าจำไม่ผิดถ้าจำไม่ผิด 60 km/h)ทุกคน ย้ำ!ว่า ทุกคน
-
ตั้งแต่ ธัญบุรีถึงรังสิต ไม่ได้มีแต่ทุ่งนาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้กลายเป็นเขตชุมชนแล้ว ขับถึงช่วงนี้ก็ช่วยลดความเร็วนิดนึงครับ
กฏหมายเรื่องความเร็วของไทยถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว
นอกเมือง 90 กม./ชม. อยู่ในค่าเฉลี่ย ถ้าไม่รวม Autobahn ต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80-110
ในเขตเมืองหรือเทศบาล 80 กม./ชม. ถือว่าสูงมาก ต่างประเทศ 40-60 เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
เอ่อ ขนาดรถทัวร์ยังขับ 100 นึงเลยครับ รถตู้วินรีบซึ่งไปตายมากันที 130-140 ตำรวจไม่จับ มาซัดแต่รถส่วนตัวกับรถบรรทุก ถ้าจับความเร็วขนาดนี้โดนกันบานเลยครับ ตอนที่ผมโดนก็มีคนโดนเป็น 10 คันแล้ว เพราะนี่มันเป็นความเร็วระดับเดินทางโดยส่วนใหญ่เลยนะ
บนถนน ตัวอย่างที่ดีก็มีให้ดูเยอะแยะ
ตัวอย่างที่ไม่ดีก็มีให้ดูอยู่บ่อยๆ
แล้วแต่จะเลือกเป็นแบบไหน
การที่ตำรวจจับใครหรือไม่จับ จะมี 2 3 4 มาตรฐานก็แล้วแต่มันก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีใช่ไหมครับ
แต่ถ้าเราทำผิดแล้วยืดอกรับผิดแบบลูกผู้ชาย ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีนะ
กรณีนี้ กฏหมายกำหนดไว้ 80 แต่ตำรวจอนุโลมให้ถึง 100 แล้วยังเกินอีกก็คือผิดจริงๆแหละ
แต่ถ้ามีกรณีวัดความเร็วได้ 82 แล้วมาจับ บอกว่าเกิน 80 ผมจะช่วยรุมด่าตำรวจด้วย
ถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศแถวยุโรป ญี่ปุ่น หรือ ประเทศที่เจริญแล้ว
ลองสังเกตวินัยจราจรของคนที่นั่นดูนะครับ
แล้วจะรู้ว่าถนนที่ 99.99 % เคารพกฏจราจร มันน่าขับแค่ไหน
ถ้าไม่เริ่มที่ตัวเรา บนถนนเมืองไทยก็จะยังเป็นแบบนี้แหละ ไม่มีวันที่จะน่าขับเหมือนประเทศอื่น ;)
ยังดีที่มีคนคิดแบบนี้ครับ แต่ตำรวจเคร่งกว่าเมกาอีกนะ ส่วนใหญ่เขาอนุโลมให้ 10MPH (16กม.) แต่นี่ + มา 12 ก็โดนแล้ว
แต่คงไม่เสมอต้นเสมอปลาย จะไปเสมอปลายเดือนซะมากกว่า
-
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ
คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ
โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ
โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ
ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง
ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ
สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด
ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100 ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว
ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา เป็นระเบียบมาก
ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้
เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที สรุป คือโดนปรับ $300
ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้ หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่ ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน
กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150 รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60 ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ
ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110
ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ
ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ
-
กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- อีกครั้งนึง พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60 ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ
คิดไปมาก็น่ารักดีนะครับ แต่จะนึกถึงเพลงนี้ด้วยน่ะสิ
The Hit Girls - Bad Reputation (John Murphy's) Kick-ass intro version (http://www.youtube.com/watch?v=P9QQFQc1GqE#)
-
"-อีกครั้งนึง พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60 ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ"
เจ็บเลยครับ เคสนี้ อารมณ์ประมาณว่า เมืองไทยใครจะขับยังไงก็ได้ เป็นผมคงอายไปเรย(แต่ดีกว่าเสียค่าปรับนะ อิอิ) ตำรวจมันก็เป็นเหมือนกันหมดครับ ชอบซุ่มจับ แต่ในหลายๆประเทศเขาก็มีความคิดว่า ก็ไม่เห็นเป็นไร หากเราไม่ทำผิด ใครจะมาจับ และก็คิดว่าเป็นการดีเสียด้วย เพราะหากมีใครทำผิดย่อมโดนจับ ทำให้สังคมปลอดภัยและมีระเบียบมากขึ้น(อันนี้ประสบการณ์จากการไปอยู่ญี่ปุ่นครับ โดนตำรวจเรียกตรวจวีซ่าประจำ)
แต่กับสังคมประเทศเรามันไม่ใช่แบบนั้นครับ ทุกคนผิดหมด ยกเว้นตัวเอง พอทำผิดก็โทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง พอโดนจับก็บ่นว่าทำไมไม่หยวน พอหยวนให้ ก็เอาไปเล่าว่า ตำรวจมันไม่จับกูวะ กลายเป็นสองมาตรฐาน ตัวเองไม่เคยยอมรับผิดครับ(ผมก็เป็นนะ 55555)
จริงๆแล้ว ไอ้เรื่องความเร็วเนี่ย มันเป็นกฎหมายครับผม ทุกคนต้องทราบเวลาไปสอบใบขับขี่ ถึงไม่โดยละเอียด แต่ก็ควรทราบว่า ในไทย เต็มที่บนถนนหลวง ยังไงๆก็ไม่เกิน 90 km/h ครับ ผมโดนจับเดือนละ 2 ครั้ง ส่งไปรษณย์มาถึงบ้านเลยครับ แต่ก็จ่ายทุกครั้งนะครับ เพราะถือว่าเราพลาดเอง คิดจะทำผิด ย่อมต้องทำใจรับผลของมันด้วยครับ
-
สังเกตุดูจากหลายความเห็น ในหลายๆประเทศผมไม่เคยเห็นที่ไหนมีกฎหมายที่สามารถขับได้เกิน 120 เลย
แล้วแบบนี้รถยนต์บ้านๆทั้งหลายที่ผลิตออกมาขายทำไมถึงยังผลิตให้วิ่งได้เป็น 180up ทั้งนั้น ในเมื่อไม่มีกฎที่ไหนสามารถขับได้เกิน 120 เลย
ถ้าจะให้เปรียบเทียบมันก็เหมือนกับมีกฎหมายห้ามมีปืนในครอบครอง แต่ร้านขายปืนดันสามารถขายปืนให้ชาวบ้านได้อย่างถูกกฎหมาย
ในเมื่อวิ่ง 120up ผิดกฎหมาย ทำไมไม่ออกกฎไปเลยว่าห้ามผลิตรถวิ่งได้เกิน 120 130 140 ก็ว่าไป แต่รถบ้านทั่วไปในตอนนี้มัน 180 up ทั้งนั้นแบบนี้มันเว่อร์ไปไหม
เพราะถึงผลิตมาวิ่่งได้ 250 เอามาวิ่งจริงก็ห้ามวิ่งเกิน 120 อยู่ดี เหมือนมันแก้ปัญหาที่ปลายเหตุยังไงไม่รู้
หรือไม่ก็เหมือนสนับสนุนให้แหกกฎทางอ้อมว่าเราผลิตรถออกมาวิ่งได้ 180up ถ้าคุณอยากวิ่งเร็วกว่ากฎหมายก็ไปแอบแหกกฎกันเอาเอง
ผมละงงจริงๆ ใครก็ได้มาช่วยเอาหญ้าออกจากปากผมที
-
สังเกตุดูจากหลายความเห็น ในหลายๆประเทศผมไม่เคยเห็นที่ไหนมีกฎหมายที่สามารถขับได้เกิน 120 เลย
แล้วแบบนี้รถยนต์บ้านๆทั้งหลายที่ผลิตออกมาขายทำไมถึงยังผลิตให้วิ่งได้เป็น 180up ทั้งนั้น ในเมื่อไม่มีกฎที่ไหนสามารถขับได้เกิน 120 เลย
ถ้าจะให้เปรียบเทียบมันก็เหมือนกับมีกฎหมายห้ามมีปืนในครอบครอง แต่ร้านขายปืนดันสามารถขายปืนให้ชาวบ้านได้อย่างถูกกฎหมาย
ในเมื่อวิ่ง 120up ผิดกฎหมาย ทำไมไม่ออกกฎไปเลยว่าห้ามผลิตรถวิ่งได้เกิน 120 130 140 ก็ว่าไป แต่รถบ้านทั่วไปในตอนนี้มัน 180 up ทั้งนั้นแบบนี้มันเว่อร์ไปไหม
เพราะถึงผลิตมาวิ่่งได้ 250 เอามาวิ่งจริงก็ห้ามวิ่งเกิน 120 อยู่ดี เหมือนมันแก้ปัญหาที่ปลายเหตุยังไงไม่รู้
หรือไม่ก็เหมือนสนับสนุนให้แหกกฎทางอ้อมว่าเราผลิตรถออกมาวิ่งได้ 180up ถ้าคุณอยากวิ่งเร็วกว่ากฎหมายก็ไปแอบแหกกฎกันเอาเอง
ผมละงงจริงๆ ใครก็ได้มาช่วยเอาหญ้าออกจากปากผมที
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country#Countries_A-D (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country#Countries_A-D)
บางประเทศเช่นเยอรมันนี ไม่จำกัดความเร็วบนเอาโต้บาห์นครับ หรืออย่างอินเดียบางรัฐก็ไม่ได้จำกัดเอาไว้
ทำผิดก็โดนปรับไปครับ ผิดคือผิด แต่ถามว่าแล้วความเร็วสูงที่เกินจากกฎหมายกำหนดมีไว้ทำไร?
ถ้าหากมีใครต้องมีเหตุฉุกเฉินมันก็ต้องใช้ไงครับ แต่ต้องแบกรับความเสี่ยงในการถูกจับปรับเอานั่นแหละ
-
สังเกตุดูจากหลายความเห็น ในหลายๆประเทศผมไม่เคยเห็นที่ไหนมีกฎหมายที่สามารถขับได้เกิน 120 เลย
แล้วแบบนี้รถยนต์บ้านๆทั้งหลายที่ผลิตออกมาขายทำไมถึงยังผลิตให้วิ่งได้เป็น 180up ทั้งนั้น ในเมื่อไม่มีกฎที่ไหนสามารถขับได้เกิน 120 เลย
ถ้าจะให้เปรียบเทียบมันก็เหมือนกับมีกฎหมายห้ามมีปืนในครอบครอง แต่ร้านขายปืนดันสามารถขายปืนให้ชาวบ้านได้อย่างถูกกฎหมาย
ในเมื่อวิ่ง 120up ผิดกฎหมาย ทำไมไม่ออกกฎไปเลยว่าห้ามผลิตรถวิ่งได้เกิน 120 130 140 ก็ว่าไป แต่รถบ้านทั่วไปในตอนนี้มัน 180 up ทั้งนั้นแบบนี้มันเว่อร์ไปไหม
เพราะถึงผลิตมาวิ่่งได้ 250 เอามาวิ่งจริงก็ห้ามวิ่งเกิน 120 อยู่ดี เหมือนมันแก้ปัญหาที่ปลายเหตุยังไงไม่รู้
หรือไม่ก็เหมือนสนับสนุนให้แหกกฎทางอ้อมว่าเราผลิตรถออกมาวิ่งได้ 180up ถ้าคุณอยากวิ่งเร็วกว่ากฎหมายก็ไปแอบแหกกฎกันเอาเอง
ผมละงงจริงๆ ใครก็ได้มาช่วยเอาหญ้าออกจากปากผมที
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country#Countries_A-D (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country#Countries_A-D)
บางประเทศเช่นเยอรมันนี ไม่จำกัดความเร็วบนเอาโต้บาห์นครับ หรืออย่างอินเดียบางรัฐก็ไม่ได้จำกัดเอาไว้
ทำผิดก็โดนปรับไปครับ ผิดคือผิด แต่ถามว่าแล้วความเร็วสูงที่เกินจากกฎหมายกำหนดมีไว้ทำไร?
ถ้าหากมีใครต้องมีเหตุฉุกเฉินมันก็ต้องใช้ไงครับ แต่ต้องแบกรับความเสี่ยงในการถูกจับปรับเอานั่นแหละ
ถูกต้องที่สุดครับผม เมื่ออยากจะทำผิด กรูณารับความเสี่ยงไปด้วยครับ อย่าเอาแต่รับผลดีที่เกิดจากการกระทำผิด แต่จงทำใจที่จะรับความเสี่ยงที่จะตามมาจากการกระทำผิดนั้นด้วยครับ ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงครับ
-
แล้วถ้ายกตัวอย่างถนนในประเทศไทยหละครับ มีเส้นไหนบ้างที่สามารถวิ่งได้แบบ unlimite
ถ้าไม่มี ทำไมตัวกฎหมายถึงไม่จำกัดความเร็วกับตัวผู้ผลิตรถเลย แทนที่จะไปแก้ที่ปลายเหตุโดยการดักจับความเร็ว
เรื่องบางสถานการณ์ก็จำเป็นต้องใช้ความเร็วอันนี้พอเข้าใจครับ แต่มันก็ไม่ค่อย make sense เพราะสุดท้ายมันก็ขัดกับตัวกฎหมายอยู่ดี
-
แล้วถ้ายกตัวอย่างถนนในประเทศไทยหละครับ มีเส้นไหนบ้างที่สามารถวิ่งได้แบบ unlimite
ถ้าไม่มี ทำไมตัวกฎหมายถึงไม่จำกัดความเร็วกับตัวผู้ผลิตรถเลย แทนที่จะไปแก้ที่ปลายเหตุโดยการดักจับความเร็ว
เรื่องบางสถานการณ์ก็จำเป็นต้องใช้ความเร็วอันนี้พอเข้าใจครับ แต่มันก็ไม่ค่อย make sense เพราะสุดท้ายมันก็ขัดกับตัวกฎหมายอยู่ดี
ที่กฎหมายจำกัดความเร็วก็เพื่อความสงบของคนส่วนใหญ่ครับ ถ้าปล่อยให้ขับยังไงก็ได้อุบัติเหตุมันจะมีเยอะมากแล้วคนที่อันตรายก็คือเราๆท่านๆนี่แหละครับ ขับรถอยู่ดีๆก็มีรถจากไหนวิ่งมาชนตู๊มแล้วเราก็จะกลายเป็น" โกโก้ครั๊น " คือกฎหมายจราจรเค้ามีไว้เพื่อควบคุมให้การเดินทางของคนส่วนใหญ่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และผู้บังคับใช้กฎหมายคือตำรวจ การบังคับใช้กฎหมายประเภทนี้อยู่ที่ดุลพินิจของตำรวจครับ ถ้าตำรวจเห็นว่ามีเหตุจำเป็นเค้าจะไม่ปรับคุณก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณขับ 40 แล้วขับรถเซมาเซไป เค้าก็จะปรับคุณอยู่ดีครับ ;D
-
เรื่องจำกัดความเร็วตัวรถ ถ้ามองแบบตรงๆ ผมว่าจะไปโทษรัฐมันไม่ถูกนะครับ ของทุกอย่างมันมี 2 ด้านครับ อยู่ที่คนใช้
รถก็เป็นยานพาหนะตัวนึงที่ช่วยให้มนุษย์สะดวกขึ้น กฏเค้าก็มีบอกอยู่แล้ว แต่เราพยายามคิดเข้าข้างตัวเองมากกว่า
ถ้าจะต้องจำกัดทุกอย่างทีมีความสารถในการทำผิดกฏหมาย คนเราคงไม่ต้องทำอะไรแล้วมั้งครับ
ผมก็ไม่เคยเห็นฝรั่งที่ไหนเค้าร้องเรียนกับตำรวจเรื่องแบบนี้นะ ปกติฝรั่งมันขี้ฟ้องจะตาย
-
คุณ โดนแถวไหนหละครับ คลองต้นๆ หรือว่า กลางๆ หรือว่าปลายๆ เพราะว่า เส้นนี้กลายเป็นชุมชนเยอะมากแล้วนะครับ ถ้าขับซัก 60-80 อาจจะไม่โดนก็ได้
แต่แปลกดีกับคำถามของใครบางคนที่บอกว่า จำกัดความเร็ว งั้นก็ไม่ต้องผลิตรถที่ วิ่งได้ความเร็วสูงๆ เกิน 120 ออกมาขายซิ
ุ
ผมกลับคิดว่า ฝรั่งหรือว่าประเทศที่เค้า กำหนดความเร็วไม่เกิน 120 เค้่าก็ปฏิบัติได้ ไม่เหนมีปัญหาอะไร ทั้งที่ถนนเค้าก็ดี ขับรถก็ปฏิบัติตามกฏระเบียบดี ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดอุบัติเหตุ(สภาพถนน/การออกแบบโค้ง/วินัยคนขับรถ) ดีกว่าประเทศไทยเยอะ แต่ประเทศไทย ปัจจัยที่ทำใ้ห้เกิดอุบัติเหตุมันเยอะกว่า ก็ยังจะพยายามขับเร็วกันจัง
-
แล้วถ้ายกตัวอย่างถนนในประเทศไทยหละครับ มีเส้นไหนบ้างที่สามารถวิ่งได้แบบ unlimite
ถ้าไม่มี ทำไมตัวกฎหมายถึงไม่จำกัดความเร็วกับตัวผู้ผลิตรถเลย แทนที่จะไปแก้ที่ปลายเหตุโดยการดักจับความเร็ว
เรื่องบางสถานการณ์ก็จำเป็นต้องใช้ความเร็วอันนี้พอเข้าใจครับ แต่มันก็ไม่ค่อย make sense เพราะสุดท้ายมันก็ขัดกับตัวกฎหมายอยู่ดี
บนถนนทางหลวงไม่มีครับ มีแต่สนามแข่งครับ
บนทางหลวงถ้าวิ่งเร็ว ยังไงก็โดนครับ
แนะนำนะครับ
ถ้าไม่อยากถูกจับ อย่าขับเร็วกว่า ที่เขากำหนดครับ เท่าไรไม่รู้นะครับ บางแห่งเขาไม่มีเครื่องวัดครับ มีแต่ ตร.ยืนมองครับ
อย่าขับชิดขวานาน ๆ แซงแล้วก็กลับมาเลนซ้ายเหมือนเดิม อย่าแช่นาน
อย่าขับแบบแซงช้ายบ้าง ขวาบ้าง ถ้าเขาเห็นเขารออยู่ครับ
เมื่อก่อนผมเป็นทหาร ใช้ปิคอัพครับ ทะเลาะกับตำรวจบ่อยครับ เรื่องขับเร็วกว่ากฏหมายกำหนด
ผมถามว่าเท่าไร เขาบอกว่าชิดขวาถือว่าวิ่งเร็วแล้ว ตร.ไม่มีเครื่องตรวจครับ เขายืนมองไกล ๆ ว่าใครชิดขวายาว ๆ มาแต่ไกล
ยังไงก็โดนครับ
แต่อย่าไปทะเลาะรุนแรงนะครับ รุ่นพี่ผมโดนไปหลายกระทงครับ
โดนหมิ่นเจ้าพนักงาน ขัดขวางการจับกุม ขับรถผิดกฏจราจร จำไม่ได้อีก 2 ข้อหาครับ เชิญตัวไป สน. เสียเวลาไปเลย
ต้องให้นายทหาร ไปเอาตัวออกมา
ถ้าใครเดินทางไปอิสานบ่อย ๆ จะเจอครับ ทั้งกล้องถ่ายรูป ตร.ยืนโบกเรียก
ถ้าเดินทางบ่อย ๆ จะรู้ว่าตรงไหนเร็วได้ ตรงไหนเร็วไม่ได้ครับ
แต่ถ้านาน ๆ เดินทาง ระวัง ๆ เรื่องความเร็ว และอย่าอยู่ขวานาน ๆ ครับ
-
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ
คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ
โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ
โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ
ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง
ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ
สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด
ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100 ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว
ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา เป็นระเบียบมาก
ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้
เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที สรุป คือโดนปรับ $300
ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้ หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่ ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน
กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150 รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60 ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ
ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110
ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ
ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ
+10
อันนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ เท่าที่ตระเวนใช้ชีวิตในต่างประเทศมากว่า 10 ประเทศ ยกตัวอย่าง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ดูไบ โอมาน ประเทศเหล่านี้ล้วนมีกฎหมายที่เข้มงวด รวมถึงกฎจราจรด้วย ผมชอบมากๆเวลาต้องใช้รถใช้ถนในบ้านเขา รู้สึกว่ามันปลอดภัยทั้งจากอุบัติเหตุและความดันโลหตสูง การปาดซ้าย ปาดขวา จี้ตูด มีให้เจอน้อยมากๆ ทุกคนขับรถอย่างมีระเบียบ มีน้ำใจ แต่มาดูบ้านเราซิครับ แทบไม่มีใครเคารพกฎกันเลยใช่ไหม โดยเฉพาะการขับรถเร็ว ผมก็เคยโดนจับความเร็วมาสองครั้งเหมือนกัน แต่ก็เต็มใจจ่ายครับ ในเมื่อเราผิดจริง ถึงจะเกินไปแค่ 1 กม/ชม ก็ตาม
อันที่จริงผมว่าน่าจะมีความเข้มงวดด้านกฎจราจรให้มากกว่านี้อีกในบ้านเรา แบบที่ทำกันอย่างจริงจัง สม่ำเสมอแล้วคุณจะรู้ว่าหากทุกคนขับรถอย่างมีวินัย มันน่าขับขนาดไหน เริ่มที่ตัวเรากันก่อนแหละครับ
-
เห็นด้วยกับหลายความเห็นเลยครับ
กฎหมายมันมีไว้ เราจะมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายมันไม่ได้หรอก
กฎว่าอย่างไรก็ทำตามกฎเถอะครับ
เป็นคนถูกอยู่ดีๆ อย่าทำตัวเองให้เป็นคนผิดเลย
ความคิดส่วนตัว
หลายคนเวลามีกระทู้เรื่องขับรถเร็ว
ก็จะบอกประมาณว่า ่่ถนนมันว่างๆ เช้าๆไม่ค่อยมีรถ
จะมาให้ขับ 100-110 ผมขับไม่ได้หรอก ผมรีบ ต้องไปพบคนนู้น
คนนี้ บลา บลา บลา ่่
(ถ้ามันรีบขนาดนั้นไปตั้งแต่เมื่อวานดีมั้ย...)
ผมว่า เลิกซักทีความคิดอย่างงี้
อุบัติเหตุตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็มีให้เห็นออกบ่อย
เวลาสูญเสีย บางทีไม่ใช่แค่คุณ เพื่อนร่วมทาง บ้านเรือนประชาชน
ข้างถนน พอเกิดอุบัติเหตุ ก็ออกมา ขออภัยไม่ได้ตั้งใจ อยากให้เกิด
เป็นเหตุสุดวิสัย
ได้ขับรถทั้งที ก็มีน้ำใจกลับเพื่อนร่วมทางบ้างครับ
คิดซะว่าเป็นพ่อ แม่ พี่น้องเรา
นี่ก็ใกล้เปิดเทอม ยังไงก็ระวังกันด้วยนะครับ
-
ผมว่า ถ้าขับเกิน 120 km/h ก็ต้องมีสัญาณเตือนบนไมล์รถ เอาทั้งไฟกระพริบ และ เสียงเตือนไปเลย เหมือนบางประเทศที่บังคับใช้ ซึ่งเป็นการช่วยเตือนสติคนขับ ได้ระดับหนึ่ง
-
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ
-
เห็นด้วยกับหลายๆ คห. นะครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมว่าควรจะเริ่มจาก จนท.ตำรวจ ก่อนครับ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยทำมาให้ ปชช. หลายๆคนรวมถึงผมมีทรรศนะคติที่เปลี่ยนไป
อย่างเชียงราย ผมไปเรียนที่นูุ่น เจอตำรวจตั้งด่าน ต้นเดือน-กลางเดือน-ปลายเดือน แถมจับก็จับแต่มอเตอร์ไซค์ พรบ.มี ขับขี่มี สวมหมวก แต่ก็ยังเรียก พยายามจะยัดให้ได้สักอย่าง ผมละเซงมาก แล้วบรรทุก รถยนต์บางคันมันก็ทำผิดจราจร แต่ก็ไม่เรียก
มีครั้งหนึ่งกระบะ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่กระบะคันนั้นดันซวย ติดไฟแดงตรงหน้าตำรวจพอดี ก็เลยเดินเข้าไปหา จริงๆผมว่ามันต้องปรับนะ ต้องเรียกนะ แต่ตำรวจไม่เรียก แค่บอกว่าให้คาด เอ๊ะ! ทำไมทำแบบนี้อ่ะ :-X
หลังๆผมเลยนิสัยเสีย(อันนี้ยอมรับ) เจอด่านฝ่าแหลก ไม่จอด ไม่สน เพราะ เรียกแต่ จยย. ผิดไม่ผิดไม่รู้เรียกไว้ก่อน
ส่วนกรุงเทพฯ สองวันก่อน 28 เม.ษ. เจริญนคร สาธร บางรัก พร้อมใจกันมากตั้งด่านรับสิ้นเดือนก่อนโรงเรียนเปิดเทอม ดีนะวันนั้นผมขับรถไปไม่งั้นโดนเรียกแน่ๆ ถ้าขับ จยย. เพราะ ผมก็เห็นแต่เรียก จยย.
หรืออย่างตรงเส้นราชพฤกษ์ ที่จะไปจรัญฯ 13 จะมีทางตัดสี่แยก ตอนเช้าๆ ก็ขับมาตามปกติ แล้วทีนี้ตำรวจเห็นมอเตอร์ไซค์ ก็จะออกมาหยุด แต่มอเตอร์ไซค์ไม่หยุด ก็เฉี่ยวโดนตำรวจ ทีนี้ก็วอบอกข้างหน้าเลยครับ
เสร็จแล้วก็มาบอกว่าเราอย่างนู่น อย่างนี้ แต่ตัวเองมาขวางเองแบบไม่กลัวรถชน มันก็ไม่ใช่นะ :(
ส่วนตัวผมยอมรับว่าอคติ และ เกลียดตำรวจครับ ตำรวจดีๆก็เหมือนกับผี รู้ว่ามี แต่ไม่เจอและได้สัมผัส
-
เห็นด้วยกับคุณ gorilla มากๆเลยครับ คนไทยติดคำว่าหยวนมากไปจริงๆ
อีกเรื่องที่ผมไม่เข้าใจเมื่ออ่านหลายๆความเห็นคือ สำหรับคนไทยเนี่ย การขับช้ามันยากมากเลยเหรอครับ? ต้องขับกัน120-160 ตลอด
เมื่อวานผมขับกลับจากฝึกงานที่ระยอง มากทม. ผมก็ขับมา80เอง(น้ำมันจะหมด) ก็ไม่เห็นจะง่วง อะไรนะครับ ยกเว้นตอนอากาศร้อนก็อีกเรื่องนึง *-*
-
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ
ถนนเส้นนี้เขาตั้งด่านตรงนี้อยู่แล้วครับ
บ้านผมอยู่ นครนายก พ่อทำงาน กทม ขับไปกลับทุกวัน
เวลาขับเส้นนี้ ห้ามเกิน100 และอย่าอยู่เลนส์ขวา
ถ้าเขตนครนายก จะเป็น 4 เลนส์ ขับขวาได้แต่อย่าเกิน100
พอถึงเขตปทุม เป็น6 เลนส์ อยู่เลนส์กลางดีสุดและ
ใครจะไปเที่ยวนครนายกก็ระวังกันหน่อยครับ
ถ้าจาก กทมไปนครนายก ก็จะมีด่านตอนเลยวัดคลอง29(ที่มีพระใหญ่)
แต่!!! ขับถูกกฎดีที่สุด ครับ
-
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ
ถนนเส้นนี้เขาตั้งด่านตรงนี้อยู่แล้วครับ
บ้านผมอยู่ นครนายก พ่อทำงาน กทม ขับไปกลับทุกวัน
เวลาขับเส้นนี้ ห้ามเกิน100 และอย่าอยู่เลนส์ขวา
ถ้าเขตนครนายก จะเป็น 4 เลนส์ ขับขวาได้แต่อย่าเกิน100
พอถึงเขตปทุม เป็น6 เลนส์ อยู่เลนส์กลางดีสุดและ
ใครจะไปเที่ยวนครนายกก็ระวังกันหน่อยครับ
ถ้าจาก กทมไปนครนายก ก็จะมีด่านตอนเลยวัดคลอง29(ที่มีพระใหญ่)
แต่!!! ขับถูกกฎดีที่สุด ครับ
ผมอยู่เลนกลางนะ ขับเส้นนี้มาตั้งนานพึ่งเคยเจอด่านนี้เนี่ยแหละ สงสัยปกติดวงไม่สมพงษ์กับด่าน 555 ปกติกรุงเทพ-นครนายก เจอด่านอยู่หลัก 2 ที่ มีตรงแยกองครักษ์ของตร.ท้องที่ กับตรงด่านชั่งน้ำหนักก่อนถึงแยกบ้านนาของทางหลวง
ปล. คุณ pongrsu อยู่ตรงไหนของนครนายกอ่ะ ผมอยู่ตรงหินตั้งแถวๆเขื่อนมาทำรีสอร์ทอยู่ครับ
-
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ
ถนนเส้นนี้เขาตั้งด่านตรงนี้อยู่แล้วครับ
บ้านผมอยู่ นครนายก พ่อทำงาน กทม ขับไปกลับทุกวัน
เวลาขับเส้นนี้ ห้ามเกิน100 และอย่าอยู่เลนส์ขวา
ถ้าเขตนครนายก จะเป็น 4 เลนส์ ขับขวาได้แต่อย่าเกิน100
พอถึงเขตปทุม เป็น6 เลนส์ อยู่เลนส์กลางดีสุดและ
ใครจะไปเที่ยวนครนายกก็ระวังกันหน่อยครับ
ถ้าจาก กทมไปนครนายก ก็จะมีด่านตอนเลยวัดคลอง29(ที่มีพระใหญ่)
แต่!!! ขับถูกกฎดีที่สุด ครับ
ผมอยู่เลนกลางนะ ขับเส้นนี้มาตั้งนานพึ่งเคยเจอด่านนี้เนี่ยแหละ สงสัยปกติดวงไม่สมพงษ์กับด่าน 555 ปกติกรุงเทพ-นครนายก เจอด่านอยู่หลัก 2 ที่ มีตรงแยกองครักษ์ของตร.ท้องที่ กับตรงด่านชั่งน้ำหนักก่อนถึงแยกบ้านนาของทางหลวง
ปล. คุณ pongrsu อยู่ตรงไหนของนครนายกอ่ะ ผมอยู่ตรงหินตั้งแถวๆเขื่อนมาทำรีสอร์ทอยู่ครับ
ใช่ครับธรรมดามันจะมีด่านอยู่ที่คุณบอกเลย
ไอ้ตรงแยกองครักษ์ไม่ค่อยจับ
เมื่อก่อนเช้าๆจะมีทางหลวงอยู่ตรงอุโมงค์(ชาวบ้านเค้าเรียก ก่อนถึงโค้งใกล้ปั็มเอสโซ่) อยู่ตอนเช้าๆ เย็นๆจะมาจับรถสิบล้อ
พ่อผมเคยขับมา 100 นึงตอนประมาณ ทุ่มนึง คุณตำรวจเรียกรถบรรทุกเลนส์กลางเลย พ่อเบรกนี่เอบีเอสทำงานเลย
อันตรายมาก พ่อเปิดประตูด่าตรวจกันเลยทีเดียว
และอีกที่จะมีด่านอยู่ก่อนถึง คลอง15 ตรงที่ขายล้วยไม้ ขาเข้า กทม
ตัวผมเองทำงานกรุงเทพฯ แต่เป็นคนนครนายก เสาร์อาทิตย์ก็กลับบ้านครับ
บ้านอยู่แถวโตโยต้า นครนายกครับ
-
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ
คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ
โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ
โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ
ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง
ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ
สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด
ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100 ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว
ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา เป็นระเบียบมาก
ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้
เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที สรุป คือโดนปรับ $300
ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้ หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่ ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน
กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150 รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60 ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ
ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110
ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ
ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ
คุณ โดนแถวไหนหละครับ คลองต้นๆ หรือว่า กลางๆ หรือว่าปลายๆ เพราะว่า เส้นนี้กลายเป็นชุมชนเยอะมากแล้วนะครับ ถ้าขับซัก 60-80 อาจจะไม่โดนก็ได้
แต่แปลกดีกับคำถามของใครบางคนที่บอกว่า จำกัดความเร็ว งั้นก็ไม่ต้องผลิตรถที่ วิ่งได้ความเร็วสูงๆ เกิน 120 ออกมาขายซิ
ุ
ผมกลับคิดว่า ฝรั่งหรือว่าประเทศที่เค้า กำหนดความเร็วไม่เกิน 120 เค้่าก็ปฏิบัติได้ ไม่เหนมีปัญหาอะไร ทั้งที่ถนนเค้าก็ดี ขับรถก็ปฏิบัติตามกฏระเบียบดี ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดอุบัติเหตุ(สภาพถนน/การออกแบบโค้ง/วินัยคนขับรถ) ดีกว่าประเทศไทยเยอะ แต่ประเทศไทย ปัจจัยที่ทำใ้ห้เกิดอุบัติเหตุมันเยอะกว่า ก็ยังจะพยายามขับเร็วกันจัง
เห็นด้วยกับทั้งคู่เลยครับ
-
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ
คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ
โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ
โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ
ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง
ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ
สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด
ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100 ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว
ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา เป็นระเบียบมาก
ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้
เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที สรุป คือโดนปรับ $300
ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้ หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่ ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน
กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150 รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60 ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ
ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110
ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ
ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ
+1 ;D
-
ผมว่า ถ้าขับเกิน 120 km/h ก็ต้องมีสัญาณเตือนบนไมล์รถ เอาทั้งไฟกระพริบ และ เสียงเตือนไปเลย เหมือนบางประเทศที่บังคับใช้ ซึ่งเป็นการช่วยเตือนสติคนขับ ได้ระดับหนึ่ง
ผมไงครับ.. ติด Shift Light กำหนดรอบเครื่องไม่เกิน 3000 ถ้าัมันเกิน 3000 ไฟมันจะส่องหน้าแยงตามันที..
จริงๆผมเอาไว้เป็นตัวเตือนไม่ให้ขับเร็วเพื่อการประหยัดน้ำมันน่ะครับ..
-
ที่จริงลองหาเครื่อง ตรวจจับเรดาห์ ดูครับ แบบที่ US เค้าใช้กัน เวลาเราเจอมันจะกระพริบถี่ขึ้นเรื่อยๆ
-
สมัยก่อน ก็หงุดหงิดเวลาโดนดักจับความเร็ว แต่พอไปมาหลายๆประเทศ เลยเข้าใจ แต่ผมว่าที่สุดๆเลยคือเมืองจีน
ถ้าใครว่าบ้านเราแย่แล้ว บ้านเค้านี่สุดยอดของสุดยอดที่กวางเจา
คิดจะปาดก็ปาด เบรคก็เบรค ไหนจะต้องระวังอาม่า อากง เดินลอยชายตรงทางเลี้ยว รถเข็นขายผลไม้ จักรยานขี่จู๋จี๋
ปาดจาก เลนขวาสุด 6 เลนเข้าซ้าย ขับย้อนศรเรียกว่าอะไรที่คิดว่าเคลื่อนที่ได้ อยู่บนถนนหมด ตื่นเต้นตลอดเวลา แต่อุบัติเหตุมักไม่ค่อยมี
เพราะว่า ทุกคนขับกันไม่เร็วครับ กฎหมายเขาแรงถ้าชนคนขึ้นมาเค้าสามารถฟ้องร้องจนคนชน ล้มละลายหรือหมดตัวได้
แต่ที่ชอบมากๆคือบ้านเค้าบีบแตรกันตลอด หลายๆประเทศมาอาจรู้สึกว่า เมืองเถื่อนมาก ไม่พอใจบีบแตร
แต่บีบแตรเสร็จ ก้แยกย้าย กันไป จบในตอน ไม่มีเร่งเครื่องมามองหน้าคนขับว่า หล่อสวยไหม หรือไปตามปาดหน้า
ทุกคนต่างแยกไปทำงานครับ เพราะเวลาของเขาทำเงินได้ตลอด
แล้วรถก็เครื่องแรงๆทั้งนั้น Audi r8 Porches Cayenne Ferrari Acura คนจีนรวยๆใช้กันแต่รถยุโรปแรงๆทั้งนั้นครับ
เลยรูั้สึกบ้านเรานี่ขับสบายสุดแล้ว
p.s.คนจีนก็เป็นเหมือนบ้านเรานะครับ
เวลาไปรับใครที่สนามบิน ไม่ว่ารถจะแพงแค่ไหน ก็จะไปจอดออๆ กันข้างทาง ไม่ยอมเข้าไปจอดแบบเสียค่าจอดใน car park ของทางสนามบิน
-
ผมเห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ กฎหมายเป็นกฎหมาย เร็วเกินคือเร็วเกิน
อยากขับเร็วกว่าคนอื่น มันก็มีค่าใช้จ่ายของมัน
ผมเป็นคนนึงที่จ่ายค่าปรับตลอดครับ เพราะผมเป็นคนขับเร็วเอง
ผมจะถามตำรวจทุกครั้งว่าเอาใบสั่งมา ให้ผมไปจ่ายที่ไหนบอกมา
ผมว่าสังคมเรามองตำรวจในแง่แย่ๆ เราโยนความผิดไปที่เค้ารึเปล่าครับ
หรือว่าจริงๆแล้วเราทำให้เค้าเป็นเองรึเปล่าครับ
จะยัดเงิน จะอ้อนวอน ให้คนโน้นนี้วิ่งให้จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ... อะไรก็แล้วแแต่
ทำให้มีตำรวจเลวๆมาหายกินในเครื่องแบบแบบนี้
ผมเป็นคนนึงที่ขับรถเร็วบ้าง แต่พอต้องมาอยู่ต่างประเทศหลายปี
ขับรถทางไกลบ่อยๆ ถนนหลวงทั้งเส้นเร็วสุดเค้าไม่ให้เกิน 65ไมล์/ชม. เบื่อไหม? เบื่อครับ ใครๆก็อยากถึงเร็ว
แต่อยู่มาสักพักพบว่ามันดีครับ เรามั่นใจได้ว่าเราจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เพราะทุกคนขับรถเคารพกฎ
ขับแล้วสบายใจสุดๆ เวลาเจอรถตำรวจ จะรู้สึกดีที่เค้าคอยทำหน้าที่ ดูแลว่ารถใครมีปัญหาไหม
แล้วคอยจัดการพวกนิสัยการขับแย่ๆให้ออกไปจากถนน ซึ่งผมว่านั้นคือหน้าที่ของตำรวจ
ผมว่าถ้าเราทำตามกฎกัน อุบัติเหตุหนักๆจะลดหายไปเยอะ ตำรวจเลวๆก็จะลดตามไปด้วย
ผมว่าคนที่ได้ก็เราทุกๆคนนะครับ
-
คงหาค่าเทอมให้ลูกมั้งครับ ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว 55
-
วิ่งสายนั้นบ่อยเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่รถเยอะทำความเร็วไม่ค่อยได้ครับ นอกจากบางครั้งจะมุดๆ ก็พอจะเร็วได้ แต่ก็ไม่เคยโดนจับ
ขอแชร์ประสพการณ์ ที่เมกาตอนนั้นวิ่งสาย HW1 เลียบชายฝั่งทะเลแปซิฟิก ผมวิ่งเกิน speed limit เป็นพักๆ พอฟ้าเริ่มมืดมีรถมาจี้ท้่ายแล้วเปิดไฟสูง
ถ้าเป็นที่ไทยผมคงเร่งหนี แต่ที่เมกาเคยรู้มาว่าตำตรวจจะทำแบบนี้ ผมเลยเปิดไฟเลี้ยวให้เค้าแซงไป แล้วก็จริงๆพอแซงประกบเค้าก็เปิดไซเรนเลย
เกือบโดนค่าปรับ เพราะผมขับเกินกำหนดไปเยอะเหมือนกัน โชคดีที่เป็นตำตรวจทางหลวงเค้าเหมือนจะใจดีกว่าตำรวจท้องที่นิดนึง เลยแค่ตักเตือน
ไม่งั้นได้เสียตั้งหลายร้อยเหรียญ จากนั้นแฟนสั่งเด็ดขาดให้วิ่งช้าๆตามป้ายจำกัดความเร็วเลย อิอิ
-
เป็นธรรมดาครับ ตำรวจจราจรก็ต้องจับ ไม่งั้นไม่มีงานทำ ผมเองก็เคยโดนมาแล้ว แต่ไม่ใช่เขต สภ.ธัญบุรี ***** เท่าที่ผมทราบมาว่าการจับความเร็วนั้น ผู้ขับรถต้องระวังกันเอาเอง ท่านพี่เขานึกจะตั้งด่านตอนไหนก็แล้วแต่ อำเภอใจเขาน่ะ ไม่มีการบอกล่วงหน้า เซ็งๆ
วิ่งสายนั้นบ่อยเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่รถเยอะทำความเร็วไม่ค่อยได้ครับ นอกจากบางครั้งจะมุดๆ ก็พอจะเร็วได้ แต่ก็ไม่เคยโดนจับ
ขอแชร์ประสพการณ์ ที่เมกาตอนนั้นวิ่งสาย HW1 เลียบชายฝั่งทะเลแปซิฟิก ผมวิ่งเกิน speed limit เป็นพักๆ พอฟ้าเริ่มมืดมีรถมาจี้ท้่ายแล้วเปิดไฟสูง
ถ้าเป็นที่ไทยผมคงเร่งหนี แต่ที่เมกาเคยรู้มาว่าตำตรวจจะทำแบบนี้ ผมเลยเปิดไฟเลี้ยวให้เค้าแซงไป แล้วก็จริงๆพอแซงประกบเค้าก็เปิดไซเรนเลย
เกือบโดนค่าปรับ เพราะผมขับเกินกำหนดไปเยอะเหมือนกัน โชคดีที่เป็นตำตรวจทางหลวงเค้าเหมือนจะใจดีกว่าตำรวจท้องที่นิดนึง เลยแค่ตักเตือน
ไม่งั้นได้เสียตั้งหลายร้อยเหรียญ จากนั้นแฟนสั่งเด็ดขาดให้วิ่งช้าๆตามป้ายจำกัดความเร็วเลย อิอิ