Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: อืม...นะ ที่ พฤษภาคม 20, 2011, 23:08:21
-
คือมันตะหงิดใจตั้งนานแล้วล่ะ แต่ไม่มีเวลาตั้งกระทู้ถามครับ วันนี้คึกเลยขอซักกระทู้นะครับ ;D
คือปกติผมเป็นคนที่ชอบขับรถเบรคชลอๆตั้งแต่ไกลๆ (เลียเบรคนั่นแหละ)
เพราะไม่ชอบเบรคหัวทิ่ม และกลัวเวลาเบรคหนักๆแล้วคันหลังเหม่อๆ ท้ายรถผมจะยุบเอา
แต่ได้ยินมาหลายคนเลยบอกว่า เลียเบรคจนรถหยุดแล้วผ้าเบรคจะหมดไวกว่าการเบรคแบบกดหนักๆไม่กี่ครั้งจนรถหยุด
ในความคิดที่ผ่านมาของผม คิดแค่ว่ากดเบรคเบาๆ ผ้าเบรคมันไม่น่าจะสึกเร็วมากเท่าไหร่ หรือผมจะเข้าใจผิดมาตลอดครับ ???
อยากทราบว่า...จริงๆแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่ครับ :)
ถ้าการเลียเบรคมันทำให้ผ้าเบรคหมดไวกว่าจริงๆ มันจะหมดไวกว่ากันเยอะมั๊ย
แล้วมันคุ้มค่ามากพอที่จะเบรคหนักๆเพื่อประหยัดผ้าเบรคหรือเปล่าครับ
-
ผมก็ขับแบบนั้นเหมือนกันครับ
เพราะถ้าเบรคหัวทิ่มแล้วหละก็....คนนั่งข้างหลังจะ บ่านๆๆ และด่าตามมาๆๆ555
-
ผมว่าน่าจะกินผ้าเบรคน้อยกว่าแบบเบรคหัวทิ่มนะครับ เนื่องจากถ้าเบรคแบบหัวทิ่มเลยนั้น ผ้าเบรคจะได้รับแรงกดอย่างหนักเวลากดเบรคแรงๆ ทำให้สึกหรอได้ง่ายกว่าแบบค่อยๆ เลียเบรคจนรถหยุดนิ่งซึ่งจะได้รับแรงกดที่น้อยกว่า และการสึกหรอก็น้อยกว่า ยังไงก็ต้องรอผู้รู้มาตอบยืนยันอีกทีนึงครับ ^^
สุดท้าย....ผลที่จะได้รับกลับมาโดยตรงระหว่างค่อยๆ เบรคกับเบรคแบบหัวทิ่มคือ.....
.....คนที่นั่งมาด้วยจะบ่นตามแรงกดของเบรคตามคุณ karn5811 ได้ตอบไปครับ 555+
-
ถอนคันเร่งล่วงหน้าไปเลยครับ
-
ผมก็ว่าแตะเบรคเบาๆ น่าจะกินผ้าเบรคน้อยกว่า แต่ถ้าแตะเบรคค้างยาวๆก็คงทำให้เบรคร้อนจัดถึงไหม้ได้มั้งครับ
ส่วนตัว ผมชอบแตะแล้วปล่อย แล้วใกล้เข้าก็กดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย พอเกือบหยุดก็ผ่อนเท้าขึ้นนิดนึงให้หยุดนิ่มๆ ไม่หยุดกึ้กทีเดียว
ส่วนเบรคหนักๆแรง ผมว่ามันกินผ้าเบรค กินดอกยาง แถมกินน้ำมันด้วยเพราะการกดเบรคต้องใช้แรงปั๊มจากเครื่องยนต์นะครับ กดแรงเครื่องก็ออกแรงมาก
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย
-
ผมก็ว่าแตะเบรคเบาๆ น่าจะกินผ้าเบรคน้อยกว่า แต่ถ้าแตะเบรคค้างยาวๆก็คงทำให้เบรคร้อนจัดถึงไหม้ได้มั้งครับ
ส่วนตัว ผมชอบแตะแล้วปล่อย แล้วใกล้เข้าก็กดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย พอเกือบหยุดก็ผ่อนเท้าขึ้นนิดนึงให้หยุดนิ่มๆ ไม่หยุดกึ้กทีเดียว
ส่วนเบรคหนักๆแรง ผมว่ามันกินผ้าเบรค กินดอกยาง แถมกินน้ำมันด้วยเพราะการกดเบรคต้องใช้แรงปั๊มจากเครื่องยนต์นะครับ กดแรงเครื่องก็ออกแรงมาก
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย
ผมก็ใช้วิธีประมาณนี้แหละครับ แต่ที่จะทำก่อนก็คือถอนคันเร่งปล่อยรถไหลเพื่อทิ้งระยะห่างเพิ่มอีกหน่อย พอกระแสการจราจรเริ่มช้าลงถึงจะเริ่มแตะเบรก
-
ผมก็ว่าแตะเบรคเบาๆ น่าจะกินผ้าเบรคน้อยกว่า แต่ถ้าแตะเบรคค้างยาวๆก็คงทำให้เบรคร้อนจัดถึงไหม้ได้มั้งครับ
ส่วนตัว ผมชอบแตะแล้วปล่อย แล้วใกล้เข้าก็กดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย พอเกือบหยุดก็ผ่อนเท้าขึ้นนิดนึงให้หยุดนิ่มๆ ไม่หยุดกึ้กทีเดียว
ส่วนเบรคหนักๆแรง ผมว่ามันกินผ้าเบรค กินดอกยาง แถมกินน้ำมันด้วยเพราะการกดเบรคต้องใช้แรงปั๊มจากเครื่องยนต์นะครับ กดแรงเครื่องก็ออกแรงมาก
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย
ข้อนี้จริงเหรอครับที่ว่าเหยียบเบรคแล้วใช้แรงเครื่องยนต์ทำให้กินน้ำมัน
-
ผมก็ว่าแตะเบรคเบาๆ น่าจะกินผ้าเบรคน้อยกว่า แต่ถ้าแตะเบรคค้างยาวๆก็คงทำให้เบรคร้อนจัดถึงไหม้ได้มั้งครับ
ส่วนตัว ผมชอบแตะแล้วปล่อย แล้วใกล้เข้าก็กดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย พอเกือบหยุดก็ผ่อนเท้าขึ้นนิดนึงให้หยุดนิ่มๆ ไม่หยุดกึ้กทีเดียว
ส่วนเบรคหนักๆแรง ผมว่ามันกินผ้าเบรค กินดอกยาง แถมกินน้ำมันด้วยเพราะการกดเบรคต้องใช้แรงปั๊มจากเครื่องยนต์นะครับ กดแรงเครื่องก็ออกแรงมาก
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย
ข้อนี้จริงเหรอครับที่ว่าเหยียบเบรคแล้วใช้แรงเครื่องยนต์ทำให้กินน้ำมัน
ทุกครั้งที่เหยียบเบรค เราไม่ได้กดคันเร่ง ดังนั้นการกินน้ำมันคงไม่ไช่
เบรคอาศัยหม้อลมเบรค ช่วยผ่อนแรง หม้อลมเบรคทำงานโดยอาศัยลมดูด (Vacuum)ที่ต่อมาจากท่อร่วมไอดี
หรือในรถปิคอัพ ลมดูดมาจากปั้มดูดตัวเล็กๆที่ติดอยู่ท้ายไดชาร์จ ( Alternator )
ตามความคิดของผมครับเท่าที่ทราบหลักๆการทำงานเท่านี้
หลักการใช้เบรคของผม ถอนคันเร่งล่วงหน้า แล้วแตะเบาๆจนรถหยุด พยายามให้เกิดการกระตุกเวลาหยุดเบาที่สุด
จนคนนั่งแทบไม่รู้สึก ไม่เปลืองผ้าเบรคหลอกครับ ผมใช้รถ 55,000 กม ผ้าเบรคหน้า/หลังยังไม่เคยเปลี่ยนแค่ถอดออกมาขัดผิวหน้า
ที่มันกระด้างออกไปเท่านั้น (ไม่ขับรถจี้คันหน้าครับ)
-
ผมก็เบรคชลอเหมือนกันครับ แต่ EX สบายหน่อย พอยกเท้าจากคันเร่ง เครื่องจะชลอความเร็วให้ด้วย
แล้วก็ตามด้วยลดเกียร์ด้วย Paddle shift เลยใช้เบรคไม่มากครับ
ผ้าเบรคหลักร้อย หลักพันเองครับ ถูกกว่าเติมน้ำมันเต็มถังอีกครับ
แถมกว่าจะเปลี่ยนก็หลายปี บางทีเกือบแสนกิโลเมตร ฉะนั้นใช้ไปเถอะครับ ไม่เปลืองอะไรหรอกครับ
;D ;D ;D
-
ขับรถทิ้งระยะห่างตามสมควร
คาดการณ์ล่วงหน้า ถอนคันเร่ง แตะเบรคเบาๆ
ไม่เปลืองหรอกครับ
-
คุณเจ้าของกระทู้ทำถูกแล้วล่ะครับ
บ้านผมก็ขับเหมือนคุณ
เชื่อมั้ย รถที่บ้าน จานเบรคสวยทุกคัน ไม่เคยจานคดเลย
ดูตรงจานเบรค เป็นรอยสม่ำเสมอตลอด
ผ้าเบรค นานๆๆๆๆๆ จะเปลี่ยน
แคมรี่ที่บ้าน 8 ปีแล้ว ไม่เคยยุ่งกับเบรคเลยนอกจากเชคสภาพ
เปลี่ยนผ้าเบรคและน้ำมันเบรค แค่นั้นจริงๆ
เสียงดัง หรือปัญหาเกี่ยวกับเบรค ไม่เคยเจอเลยครับ
-
ปกติผมก็ขับแบบสะกิดคันเร่งอยู่แล้วครับ น้ำมันแพง จะเหยียบแต่ละทีคิดถึงตังที่ถูกเผาไปก็เสียดาย
ค่อยๆขับไปครับ เปลี่ยนเกียร์ที่ไม่เกิน 3000 รอบ เว้นระยะจากคันหน้าพอดีๆ คาดคะเนการจราจรล่วงหน้าว่าจะต้องเบรคหรือยัง
ผมขับเลียเบรคซะจนจานเบรคเงาวับ จนแทบจะใช้เป็นกระจกเงาได้แน่ะ :D
ที่มาถามเพราะคิดอยู่ว่า ถึงแม้จะคาดการณ์ดียังไงก็ไม่พ้นต้องกดเบรคอยู่ดี
พยายามประหยัดน้ำมันมาเยอะ ถ้าประหยัดเบรคได้อีกนิดก็คงดีกว่า (แหะๆ งกขั้นเทพ)
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผ้าเบรคผมใช้ของแต่งแล้วมันราคาสูงกว่าปกติพอควร
อะไรประหยัดได้ แม้ซักหน่อย ก็อยากประหยัดครับ ;D
-
ขอถามเพิ่มอีกนิดนึงครับ
การใช้เอนจิ้นเบรคช่วย เช่นขับมา 80 ที่เกียร์ 5 แตะเบรคจนเหลือซัก 50 แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 เพื่อใช้เอนจิ้นเบรคช่วย
แล้วค่อยๆลดเกียร์ลงเรื่อยๆ โดยยังคงกดเบรคอยู่ตลอด (แต่ใช้แรงกดน้อยกว่า)
กับการคาอยู่เกียร์ 4 อย่างนั้นแล้วกดเบรคอย่างเดียวจนรถเกือบหยุด จึงเข้าเกียร์ว่าง <-- ผมทำแบบนี้แหละ
แบบไหนจะดีกว่ากันครับ
ใช้เอนจิ้นเบรค มันจะทำให้กินน้ำมันกว่า (ในช่วงใช้เอนจิ้นเบรค) หรือเปล่าครับ หรือว่าทั้งสองกรณีกินน้ำมันเท่ากันครับ
-
ความคิดผมนะใช้เอนจิ้นเบรคน่าจะกินน้ำมันมากกว่า
เพราะถ้าเราคาเกียร์4 รอบก็ต่ำเรื่อยๆจนถึงเดินเบา
ส่วนถ้าเราขยับเกียร์ตามไปด้วยรอบมันก็ต้องขึ้นบ้าง แต่ผมไม่แน่ใจว่าจังหวะที่ยกคันเร่งแล้วน้ำมันจะฉีดอยู่หรือป่าว
เพราะถ้ามันฉีดก็แน่นอนแหละว่าน้ำมันถูกใช้ไป ก็กินกว่าเกียร์4มาเกียร์ว่างเลยแหง
ถึงยังไงนิสัยผมก็ชอบลดเกียร์ตามไปดึงรอบขึ้นมาตลอดครับ เพราะเหมือนว่ามีแรงบิดกองรอไว้แล้วเตะคันเร่งก็พร้อมพุ่ง
แต่ที่ว่ามาหมายถึงในมอไซค์นะครับ เพราะรถยนต์ที่บ้านไม่มีเกียร์ธรรมดาเลยT-T อิจฉาชาวmt
ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
-
ผมเคยได้ยินมาว่าการที่เลียเบรคมาแต่ไกลจะทำไห้ผ้าเบรคร้อนกว่าการเบรคแบบปรกติ จะส่งผลให้ผ้าเบครเสื่อมก่อนกำหนด
-
ผมเคยได้ยินมาว่าการที่เลียเบรคมาแต่ไกลจะทำไห้ผ้าเบรคร้อนกว่าการเบรคแบบปรกติ จะส่งผลให้ผ้าเบครเสื่อมก่อนกำหนด
อันนั้นคือ ตอนลงเขา ครับ
การเลียเบรค ทำให้เกิดความร้อนขึ้นครับ
การลงเขา ที่ห้ามเลียเบรค เพราะยังไงๆ รถก็ไม่มีทางหยุด
เบรคแน่นๆ แรงๆ ให้รถมันหยุดไปเลย จะทำให้เบรคไม่ร้อนเกินไป(กรณีลงเขานะ)
ในการขับแบบปกติ เลียเบรค(หรือค่อยๆเบรค) อาจจะเกิดความร้อนสูงกว่าเบรคแรงๆทีเดียว
แต่!!
ถึงผ้าเบรคจะร้อน แต่จานเบรคไม่คด ตัวถังไม่ช้ำ หน้าไม่ทิ่มเหมือนกับเบรคจึ๊กๆแน่นอนครับ
ยังไงก็ตาม อย่าไปคิดมากเลยครับ
ยังไงของก็มีอายุการใช้งาน
ขับยังไง ไม่ให้คนนั่งบ่น ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คงเป็นคำตอบที่ดีทีุ่สุด
-
ผมก็ว่าแตะเบรคเบาๆ น่าจะกินผ้าเบรคน้อยกว่า แต่ถ้าแตะเบรคค้างยาวๆก็คงทำให้เบรคร้อนจัดถึงไหม้ได้มั้งครับ
ส่วนตัว ผมชอบแตะแล้วปล่อย แล้วใกล้เข้าก็กดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย พอเกือบหยุดก็ผ่อนเท้าขึ้นนิดนึงให้หยุดนิ่มๆ ไม่หยุดกึ้กทีเดียว
ส่วนเบรคหนักๆแรง ผมว่ามันกินผ้าเบรค กินดอกยาง แถมกินน้ำมันด้วยเพราะการกดเบรคต้องใช้แรงปั๊มจากเครื่องยนต์นะครับ กดแรงเครื่องก็ออกแรงมาก
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย
ข้อนี้จริงเหรอครับที่ว่าเหยียบเบรคแล้วใช้แรงเครื่องยนต์ทำให้กินน้ำมัน
ทุกครั้งที่เหยียบเบรค เราไม่ได้กดคันเร่ง ดังนั้นการกินน้ำมันคงไม่ไช่
เบรคอาศัยหม้อลมเบรค ช่วยผ่อนแรง หม้อลมเบรคทำงานโดยอาศัยลมดูด (Vacuum)ที่ต่อมาจากท่อร่วมไอดี
หรือในรถปิคอัพ ลมดูดมาจากปั้มดูดตัวเล็กๆที่ติดอยู่ท้ายไดชาร์จ ( Alternator )
ตามความคิดของผมครับเท่าที่ทราบหลักๆการทำงานเท่านี้
หลักการใช้เบรคของผม ถอนคันเร่งล่วงหน้า แล้วแตะเบาๆจนรถหยุด พยายามให้เกิดการกระตุกเวลาหยุดเบาที่สุด
จนคนนั่งแทบไม่รู้สึก ไม่เปลืองผ้าเบรคหลอกครับ ผมใช้รถ 55,000 กม ผ้าเบรคหน้า/หลังยังไม่เคยเปลี่ยนแค่ถอดออกมาขัดผิวหน้า
ที่มันกระด้างออกไปเท่านั้น (ไม่ขับรถจี้คันหน้าครับ)
อันนี้ผมไม่เคยรู้จริงๆครับว่าหม้อลมเบรครถเก๋งทำงานยังไง :D
แต่ผมสังเกตว่า เวลาเครื่องรถเก๋งที่บ้านจอดเกียร์ว่างติดเครื่องไว้ ถ้าเหยียบเบรคย้ำๆ หรือเหยียบแรงๆค้างไว้ รอบเครื่องมันจะเร่งตามไปด้วยอ่ะครับ คล้ายๆการหมุนพวงมาลัยเพาเวอร์แล้วรอบเครื่องจะเร่งตาม ก็เลยเข้าใจไปว่ามันมีส่วนกินน้ำมันเพิ่ม ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยด้วยครับ
แต่รถบ้านผมเป็นเกียร์ออโต้ ถ้ากดเบรคแรงๆเร็วๆ เกียร์จะทดลงมาเกียร์ที่ต่ำกว่าเกียร์นึงอ่ะครับ เอนจิ้นเบรคเลยครับ :D
-
ปกติไม่มีความจำเป็ฯต้องไปลดเกียร์นะครับ แค่ชลอมาแต่ไกลๆก็พอครับ ผมแทบไม่ได้แตะเบรคเลย เห็นไฟแดงผมปล่อยไหลมาแต่ไกลโน่นเลย
ส่วนเรื่องเบรคนิดๆสึกมากกว่า ผมว่าใช่นะ ลองพลิกจักรยานหมุนล้อ แล้วเอาโฟมไปเบรคมันดูสิครับ ถ้าเบรคให้หยุดไปเลย โฟมก็สึกไม่มาก แต่ถ้าค่อยๆเบรค โฟมมันก็สึกกระจาย ปลิวละล่อง (แต่ก่อนผมชอบเล่น แหะๆ)